I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 49 การต่อสู้ของคนและหมา

| Dragon-Marked War God | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                


แปลไทยโดย  Takumi Kun

ตรวจทาน       Subaru-Kyun

=====================================================


ตูม!ตูม!


เสียงดังสนั่น เจียงเฉินและหมาสีเหลืองทั้งสองได้ชนกับผนังถ้ำ ทำให้ถ้ำสั่นสะเทือนทั้งหมด ฝุ่นปกคลุมไปทั่วและหินก็ตกลงมาจากด้านบน


เจียงเฉินและ
หมาสีเหลือง ต่างมองกันเองด้วยท่าทางตะลึงจนพูดไม่ออก โดยเฉพาะเจียงเฉิน เข้ารู้ตัวเองว่ามีพลังหมัดถึง 50,000 จิน หัวของเจ้าหมาตัวนี้แข็งมากทำให้แขนเขาชาเลย


หมาสีเหลือง เองก็จ้องเจียงเฉินเช่นกัน มันไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ามันจะมีพละกำลังมหาศาลเช่นนี้


“กลิ่นอายที่เจ้าหนุ่มนี่ปล่อยออกมามันเป็นออร่าของผู้อยู่จุดสูงสุด เจ้านี่เกิดมาเพื่อเป็นราชา แต่มันไม่ตรงกับอายุของเจ้านี่ นอกจากนั้นทักษะการต่อสู้ของเจ้านี่ก็ทรงพลังอย่างยิ่ง หากข้าได้กินมันล่ะก็ ประโยชน์ที่ข้าได้คงมหาศาล”


เจ้าหมาสีเหลืองคิดกับตัวเอง แม้มันจะตะลึงกับพละกำลังของเจียงเฉิน คุณภาพของปราณและโลหิตของเจ้าหนุ่มทำให้มันรู้สึกหิวมากขึ้น


“เจ้าหนุ่ม ที่นี่มันเล็กเกินไป พวกเราไม่ควรสู้ที่นี่ไปสู้กันด้านนอก”


เจ้าหมาสีเหลืองพูด


“ตกลง ออกไปต่อด้านนอก”


เจียงเฉินผงกหัว เขาก็คิดว่าเป็นความคิดที่ดี


ซู่ม!


สิ่งมีชีวิตที่มีมีผิวแข็งและหนาดั่งสัตว์โบราณทั้งสองได้พุ่งเข้าหากันในเวลาเดียวกัน พวกเขาใช้วิธีดั้งเดิมและโหดร้าย พวกเขาคิดในตอนเริ่มสู้ก็ได้ (พุ่งเข้าใส่ก่อนแล้วค่อยว่ากันล่ะมั้ง)


เคร้ง เคร้ง เคร้ง…..


การต่อสู้ระหว่างคนกับหมาเร่าร้อนยิ่งนัก ทั้งๆเพิ่งเริ่มไม่นาน ตัวหนึ่งต้องการกินคน ส่วนอีกคนหนึ่งต้องการฆ่าเพื่อดื่มเลือด ทุกๆครั้งที่พวกเขาโจมตีการปะทะได้เกิดเสียงเหล็กกระทบกันและเกิดประกายไฟขึ้น


“สลัด ผิวของไอ้หมาโง่นี่มันทำจากเหล็กหรือไร”


เจียงเฉินต่อว่าเสียงดัง ร่างกายของเขาแข็งแกร่งทนทานอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เขารู้สึกเหมือนกับว่าหมาตัวนี้ได้ทำลายความภาคภูมิใจของเขา เมื่อเขาซัดฝ่ามือใส่ร่างมัน เขาทำได้เพียงให้มันถอยหลัง แต่เขาไม่เคยสร้างบาดแผลให้แก่มันแม้แต่น้อย


“เจ้าสารเลวน้อยฝึกร่างกายมาแบบไหนกันแน่? เจ้าต้องบ่มเพาะทักษะที่ทรงพลังเป็นแน่! บอกข้ามาซะว่าทักษะนั่นคืออะไร และข้าจะมอบความตายให้แก่เจ้าอย่างรวดเร็ว”


เจ้าหมาสีเหลืองนี้ปฎิเสธที่จะยอมรับว่าด้อยกว่า แต่เมื่อมันสู้ไปมันก็รู้สึกกลัวมากขึ้น


“ไอ้หมาโง่ ข้าจะจัดให้เจ้าตายอย่างไว! ดัชนีสุริยะ”


เจียงเฉินตะโกนดังลั่น ปลดปล่อยทักษะดัชนีสุริยะออกมา ดัชนีสีทองขนาดยักษ์เหมือนหอกเหล็กขนาดยักษ์ มันสามารถทะลวงสวรรค์ได้ ดัชนีสีทองบินตรงไปยังหมาเหลืองอย่างรวดเร็ว


“ทักษะต่อสู้ระดับปฐพี? ไอ้หนุ่ม เจ้าไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆซะด้วย”


หมาสีเหลือง ตัวนี้มีความรู้มากมาย มันสามารถที่จะบอกทักษะดัชนีสุริยะได้ทันทีเมื่อเห็นครั้งแรก แต่มันไม่ได้กลัวการโจมตีนี้ หมาสีเหลือง ได้อ้าปากและปล่อยลำแสงสีทองออกจากปาก ลำแสงสีทองนั้นขยายตัวทันทีกลายเป็นลำแสงสีทองขนาดยักษ์ใหญ่พอๆกับดัชนีสุริยะนิ้วเดียว และลำแสงนั่นพุ่งตรงไปยังดัชนีสีทองนั่น


ตูม!


ดัชนีสุริยะและลำแสงยักษ์สีทองได้ชนปะทะกัน แสงสีทองสว่างจ้าทั่วหุบเขา แรงระเบิดที่รุนแรงและดังกึกก้องทำให้หุบเขาได้สั่นสะเทือน แม้แต่ทำให้สัตว์ปีศาจที่อ่อนแอบางตัวต้องหนีออกจากหุบเขาด้วยท่าทีหวาดกลัว


ปัง ปัง ปัง!


เสียงปะทะ เสียงระเบิดดังสนั่นทุกบริเวณในหุบเขา แสงสว่างเจิดจ้าแม้แต่ท้องฟ้ายังสว่างด้วย และมีหลุมลึกเกิดขึ้นทุกแห่งในหุบเขา การต่อสู้ระหว่างคนกับหมานั้นรุนแรงมาก เจียงเฉินได้ใช้ความสามารถทั้งหมด เขาใช้แม้กระทั่งวิญญาณทมิฬเชือดเฉือน แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถที่จะทำให้หมาเหลืองบาดเจ็บได้แม้แต่ขนเพียงเส้นเดียว เจียงเฉินใช้กระทั่งทักษะรากฐานวิญญาณขั้นสุดยอดและปลดปล่อยแรงกดดันวิญญาณออกมา แต่เจ้าหมาสีเหลืองทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น


“นี่มันบ้าไปแล้วชัดๆ”


เจียงเฉินต่อว่าเสียงดัง ดังพลังของเขาสามารถที่จะสังหารนักรบแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้นได้โดยไม่ต้องพยายามมาก แต่เขาไม่สามารถที่จะสังหารหมาตัวนี้ นี่ทำให้เขาโกรธขึ้นมาจริงๆ



“บัดซบ ไอ้มนุษย์เฮงซวย”


เจ้าหมาสีเหลืองหายหอบ มันทั้งผิดหวังทั้งกราดเกรี้ยว มันเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ในวันนี้ แค่มนุษย์สารเลวอยู่เพียงแค่ฉีไห่ขั้นกลางแต่ระดับการต่อสู้ทัดเทียมแก่นแท้มนุษย์ มีพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาด และประสาทสัมผัสเหนือมนุษย์


“ดูเหมือนว่าถ้าต้องการที่จะสังหารหมาตัวนี้จะต้องใช้เล่ห์”


เจียงเฉินหรี่ตาเล็กน้อย มีรอยยิ้มร้ายกาจอยู่บนหน้า ณ ตอนนี้มีหนทางเดียวคือใช้พิษในร่างกายถึงมีโอกาสที่จะสังหารหมาตัวนี้


ด้วยการคิดในใจ น้ำวนสีเขียวภายในทะเลลมปราณของเขาได้เคลื่อนไหว แก๊สพิษสีเขียวอยู่บนมือของเขา


กรรรร……


เจ้าหมาสีเหลืองร้องออกมาก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่เจียงเฉิน ดั่งลูกธนูถูกปล่อยออกมาจากคันศร


“โอกาสนี้แหละ!”


รอยยิ้มร้ายกาจปรากฎบนหน้าของเจียงเฉิน เมื่อ
หมาสีเหลือง เข้ามาใกล้เขา ทันใดนั้นเขาจะใช้พิษโจมตีไปที่หัวของมัน


“บัดซบ ไอ้มนุษย์สารเลว นี่มันอะไรกัน?”


หมาสีเหลือง หันลำตัวไปด้านข้าง และมันก็อ้วกออกมา


“บัดซบ ขมมากๆ พิษนี่มันอะไรกัน ขมสุดๆ อ่อก ….ข้าจะอ้วกแตกตาย”


เจ้าหมาสีเหลืองยังอ้วกออกมา สิ่งที่มันอาเจียนออกมาคือของเหลวสีเขียว มันไม่ลืมที่จะสบถสาปแช่งขณะที่กำลังอาเจียน แต่เจียงเฉินที่อยู่ตรงข้ามมันกำลังตื่นตระหนก


“บ้าจริง มันไม่ได้บาดเจ็บแม้แต่น้อย”


ในใจเจียงเฉินรู้สึกถึงลางสังหรณ์แห่งความพ่ายแพ้ นี่เป็นพิษจากงูหลามเขียวนรกที่ได้ถูกขนานนามว่าราชาแห่งพิษ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้โจมตีด้วยพิษ แต่หมามันไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ทำให้มันอาเจียนได้เพียงเท่านั้น…..ความรู้สึกพ่ายแพ้นี่มัน


“บ้าไปแล้ว ทำไมเจ้าหนุ่มนี่ถึงได้มีเล่ห์กลมากมายขนาดนี้ เขาสามารถที่จะใช้พิษร้ายแรงโจมตีข้าได้”


หลังจากที่เจ้าหมาสีเหลืองอาเจียนเสร็จ มันรู้สึกหดหู่อย่างมาก


“ไอ้หมาโง่ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าข้าไม่สามารถสังหารเจ้าได้”


เจียงเฉินขบฟันและพุ่งไปโจมตีต่อ การต่อสู้ที่รุนแรงระหว่างคนกับหมายังคงดำเนินต่อไป…


สิบนาทีต่อมา ทั้งคนทั้งหมาต่างจับจ้องกัน เจียงเฉินหายใจถี่ ส่วนเจ้าหมาสีเหลืองนั้นลิ้นห้อย ทั้งคู่ต่างเหนื่อยหอบ เรี่ยวแรงไม่เหลือ


“บัดซบ ไอ้มนุษย์สารเลว ข้าไม่อยากสู้กับเจ้าแล้ว ข้าเหนื่อย “


หลังจากพูดจบเจ้าหมาสีเหลืองก็นอนลงบนพื้น


“ข้าก็ไม่ต้องการสู้ต่อเช่นกัน……..”


เจียงเฉินเองก็นั่งลงบนพื้นเช่นกัน การต่อสู้กับเจ้าหมาสีเหลืองตัวนี้ทำให้เขาเหนื่อยแบบสุดๆ


“ไอ้หนุ่มแม้ข้าจะไม่ได้กินเจ้าวันนี้ แต่ก็เป็นการต่อสู้อย่างยอดเยี่ยม”


เจ้าหมาสีเหลืองพูด


“ใช่ ข้าก็เหมือนกัน”


เจียงเฉินปฎิเสธไม่ได้ว่าตั้งแต่ที่เขาได้เกิดใหม่มาเขาได้ต่อสู้มามากมายแต่ไม่มีครั้งไหนที่เขาได้สัมผัสการต่อสู้ที่ดีเหมือนวันนี้ การต่อสู้กับหมาเหลืองวันนี้เป็นประสบการ์ณที่เขาพึงพอใจยิ่งนัก


“ไอ้หนุ่ม ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีพรสวรรค์นะ ยังไงก็ตาม ข้าจะรับเจ้าเป็นศิษย์ข้าละกัน เจ้าคิดเห็นเช่นไร เร็วเข้าสิ รีบโขกหัวต่ออาจารย์ของเจ้า”


หมาเหลืองพูด


“อย่าโง่ไปหน่อยเลย ไปฉี่ซะและชะโงกดูตัวเองซะบ้าง”


เจียงเฉินปฎิเสธในทันที ไอ้หมาตัวนี้ช่างน่ารังเกียจโดยแท้ เมื่อก่อนหน้านี้ยังพยายามฆ่ากันอยู่ มาตอนนี้จะมารับเขาเป็นศิษย์? ช่างกล้าที่จะพูดดีนี่ นอกจากนี้หากเขามีอาจารย์เป็นหมาต่อไปจะสู้หน้าคนอื่นๆได้เช่นไร


“ห่าอะไรฟะเนี่ย มีปัญหากับรูปลักษณ์ข้างั้นรึ? ตัวข้านั้นยิ่งใหญ่และล่ำ ข้าออกจะทันสมัย …เจ้าไม่รู้หรอกว่ามีสัตว์ปีศาจมากมายร้องขอที่จะมีปฎิสัมพันธ์กับข้า เจ้าไม่รู้จักที่จะขอบคุณกับข้อเสนอของข้าไม่พอเจ้ายังกล้าที่จะดูแคลนข้าอีก”


หมาเหลืองโกรธในทันที


เจียงเฉินหัวเราะทันที หมาตัวนี้ไม่ได้แค่น่ารังเกียงอย่างเดียว ยังหลงตัวเองอีกด้วย


“แน่นอนว่าเจ้าสามารถเลือกที่จะเป็นสัตว์เลี้ยงมนุษย์ของข้า! หากใครกล้าที่จะมากลั่นแกล้งเจ้า ข้าจะกัดมันให้ตาย”


หมาเหลืองพูดออกมาด้วยความหลงตัวเองสุดๆ


“เงียบเลยไป!”


มีเส้นสีดำปรากฎขึ้นที่หน้าผากเจียงเฉิน


“เฮ้ย ไอ้หมาโง่ ถึงแม้พวกเราจะเริ่มต้นไม่ดีนัก แต่ข้าต้องการยืมสิ่งหนึ่งจากเจ้า”


เจียงเฉินพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง


“ดูจากการยิ้มของเจ้าแล้ว มันคงเป็นเรื่องแย่ๆ ไม่มีทาง!”


หมาเหลืองปฎิเสธเจียงเฉินอย่างไม่ใยดี


เจียงเฉินอึ้ง เขาพยายามห้ามตัวเองไม่ให้ต้องทเลาะกับมันอีก แน่นอนว่าเขารู้ดีหากพวกเขาสู้ต่อสามคืนผลออกมาก็เหมือนเดิม


“แล้วเจ้าจะยืมอะไรล่ะ?”


เจ้าหมาสีเหลืองถามซอกแซก


“เลือดของเจ้า ข้าต้องการที่จะยืมมันไม่มากหรอกสัก….หนึ่งถ้วยเต็ม”


เจียงเฉินตอบไปหัวเราะไปอย่างไร้เดียงสา


“บัดซบ ข้าจะมอบฉี่ของข้าแก่เจ้าหนึ่งถ้วยฟรีๆเลยเอา”


หมาสีเหลือง พูดแล้วมันยกขาขึ้น


รอยเส้นสีดำบนหน้าผากเจียงเฉินหนาขึ้น เขารู้ตัวดีว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะขออะไรจากหมาตัวนี้


เรื่องมันคงไม่มีวันจบหากยังโต้เถียงกับหมาตัวนี้ เขาลุกขึ้นแล้วปัดฝุ่นออกจากหลังเขา เขาได้ใช้เวลาที่อยู่บนภูเขาราวๆสองชั่วโมง ถึงเวลาที่ต้องกลับแล้ว


ลีชานหมิงได้มีเจียงเฉินเป็นเป้าหมาย หากเขาไม่พบเจียงเฉินคงไประบายความโกรธแค้นกับคนตระกูลหยานเป็นแน่ นอกจากนี้ความสัมพันธ์ทั้งสองตระกูล เมื่อพบกันคงสู้กันจนกว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายอีกฝ่ายรอด เจียงเฉินไม่ต้องการที่จะเห็นคนจากตระกูลหยานตกตายที่นี่


“เจ้าหนู นั่นเจ้าจะไปไหน”


เมื่อเห็นเจียงเฉินกำลังจะกลับ
หมาสีเหลือง ก็ถามทันที


“กลับไปยังไงล่ะ”


เจียงเฉินยืดร่างกายเขา และเดินจากไป 
หมาสีเหลือง ได้กระโดดลงจากหลังคาและตามเขาไป


“เจ้าหมาโง่ ตามมาทำไม อยากสู้อีกรอบรึ”


เจียงเฉินถาม คิ้วเขาชนกัน


“ข้าจะไปไหนก็เรื่องของข้า ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า”


เจ้าหมาสีเหลืองเย้ยหยันเจียงเฉิน


เจียงเฉินส่ายหัวและไม่สนใจหมานั่น เขาเดินไปยังทางออกหุบเขา และหมาเหลืองตัวใหญ่ได้ตามเขามาติดๆ หลังการต่อสู้กับหมาเป็นเวลานาน มันตัดสินใจที่จะตามเขาไปแต่เจียงเฉินก็ไม่ได้ปฎิเสธความคิดนี้ มันคือกิเลนมันเป็นการดีที่จะตามเขาไป และเจียงเฉินมีโอกาสมากมายที่จะเอาเลือดของมัน เมื่อคิดเช่นนี้เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา


“ไอ้หนู หัวเราะหาอะไร เจ้ากำลังคิดว่าจะเอาอะไรไปจากข้าสินะ! ข้าขอบอกอะไรไว้เลย อย่าแม้แต่จะคิด ข้าตามเจ้ามาเพราะเห็นว่าเจ้ามีศักยภาพ และสักวันเจ้าจะให้ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้า”


หมาสีเหลือง พูด


“งั้นเจ้าก็รอต่อไปเถอะ”


เจียงเฉินยักไหล่ของเขา คนและหมาได้ออกจากหุบเขาไปและเดินทางไปยังพื้นที่ที่ตระกูลหยานอยู่


“ไอ้หมาโง่ ทำไมเจ้าหนังหนาจัง”


“ไอ้หนู ข้าเตือนเจ้านะ อย่าได้เรียกข้าว่า ‘หมา’ ข้ามีชื่ออยู่ นามของข้าคือ หวงต้า(黃大)*”


เห…..ฟังดูเหมาะกับเจ้าดีนี่”


“เจ้าหนู เจ้ารู้สึกคันก้นอีกแล้วสินะ”


“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว หวงต้า ก็หวงต้า

…..แต่ก็ยังเป็นหมา”


“เงียบเลยไป!”



……………………………………………..


ในอีกด้านหนึ่ง ภายในป่าลึกมีการต่อสู้ที่รุนแรงได้เกิดขึ้น


คนทั้งสามจากตระกูลหยานได้ยืนกันคนละด้าน หน้าพวกเขาซีดและได้รับบาดเจ็บทั่วร่างพวกเขา เลือดไหลไม่หยุด คนทั้งห้าที่ยืนตรงข้ามพวกเขาเป็นคนของตระกูลลี พวกมันถือดาบยาวเปล่งประกาย และพวกมันต่างยิ้มเหี้ยม


“นี่เป็นการประเมินผลโดยนับจำนวนสัตว์ปีศาจที่สามารถสังหารได้ พวกเจ้ามาที่นี่และพยายามฆ่าพวกเรา เจ้าไม่ทำตามกฎ”


หนึ่งในคนของตระกูลหยานพูดออกมาด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยวยิ่งนัก


“ฮ่าฮ่า กฎงั้นเรอะ ไม่เป็นไรหรอกที่จะบอกพวกเจ้า พี่ชายหมิงได้ออกคำสั่งให้พวกข้าไปสังหารคนจากตระกูลหยานให้หมดในวันนี้ จะไม่มีผู้ใดรอดไปได้”


ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เป็นหัวหน้ากลุ่มย่อยหัวเราะดังลั่นและพูดออกมา ในสายตาของมันคนทั้งสามนี่ชะตาขาดแล้ว


************************************************************************


*หวงต้า(黃大) = เหลืองใหญ่


จบจ้า




 
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments