ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
แปลไทยโดย : Subaru-Kyun
ตรวจทาน : Subaru-Kyun
=====================================================
จิตวิญญาณสัตว์อสูรระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลาง ยังคงมีประโยชน์มากสำหรับเจียงเฉิน ด้วยทักษะร่างแปลงมังกรได้ดูดซับมันโดยทันที จิตวิญญาณสัตว์อสูรตนนี้ได้ช่วยเจียงเฉินสร้างตราประทับมังกร เพิ่มขึ้นอีก 2 ดวง
เมื่อเจียงเฉินได้บรรลุเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น เขามีตราประทับมังกรอยู่ 15 ดวง จากที่เขาได้คำนวณการที่จะบรรลุผ่านอาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางนั้นเขาต้องใช้ตราประทับมังกรมากขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งก็คือ 30 ดวงและถ้าเขาอยากบรรลุอาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายนั้น เขาจักต้องใช้ตราประทับมังกร อย่างน้อย 60 ดวง
เมื่อเจียงเฉิน ได้สะสมตราประทับมังกร ครบหนึ่งหมื่นดวง เขาจะสามารถแปลงร่างเป็นมังกรได้ อย่างไรก็ตาม เขาในตอนนี้ยังห่างไกลจากเป้าหมายยิ่งนัก นอกจากนั้น การจะสร้างตราประทับมังกรให้ได้ตราหนึ่ง ต้องใช้พลังงานจำนวนมาก เจียงเฉินได้เลือกเส้นทางนี้โดยที่รู้ว่าต้องการพลังงานจำนวนมาก มันจะกล่าวได้ว่าพลังงานที่เขาต้องการเป็นจำนวนมากนั้นเทียบได้กับพลังงานที่ได้จากปีศาจมากกว่าพันมารวมกันเสียอีก
เจียงเฉินได้ดูดซับพลังจากจิตวิญญาณของราชสีห์ทองคำในทันที ด้วยการช่วยเหลือของทักษะร่างแปลงมังกร ทำให้ใช้เวลาเพียงไม่แค่ไม่กี่นาทีก็สามารถดูดซับจนเสร็จสมบูรณ์ ตอนนี้ในทะเลลมปราณของเจียงเฉิน ได้มีตราประทับมังกรหมุนเวียนอยู่รอบๆแก่นแท้มนุษย์ของเขาทั้งหมด 17 ดวง ราวกับผู้พิทักษ์ที่ซื่อสัตย์
ทุกครั้งที่ตราประทับมังกรดวงใหม่ได้ปรากฏขึ้น ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มมากขึ้น
สามวันต่อจากนั้น ทั้งสามได้อยู่ใกล้กับใจกลางของภูเขา ในเส้นทางของพวกเจียงเฉินนั้นได้เจอสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งจำนวนหนึ่ง ในจุดๆหนึ่ง พวกเขายังเจอหมาป่าฝูงใหญ่ โชคดีที่ทั้งสามนั้นแข็งแกร่ง จึงได้ฆ่าสัตว์อสูรที่มาขวางทางพวกเขา
เมื่อพวกเขาออกจากใจกลางของภูเขาต้นกำเนิดแล้ว เจียงเฉินพบว่าตราประทับมังกรของเขาปรากฏเพิ่มขึ้นอีกสองดวง
ตราประทับมังกรทั้งสี่ดวงนี้ นับว่าเป็นรางวัลใหญ่จากการเดินทางครั้งนี้ แต่โชคไม่ดี ที่ไม่พบสัตว์อสูรสายเลือดหายาก ถ้าหากว่าพวกเขาพบ เจียงเฉินอาจได้รับความสามารถดั้งเดิมของสายเลือดนั้น
อีกคนหนึ่งที่ได้รับ รางวัลใหญ่ด้วย แน่นอนว่าเป็น หยานเฉินหยู่ นางไม่เพียงแต่ได้รับคริสตัลเยือกแข็งหมื่นปี หลังจากผ่านมาหลายวันในเขาต้นกำเนิด ความคิดและจิตใจของเธอได้เปลี่ยนไปโดยสมบูรณ์ นางเคยชินกับการฆ่า และเธอคุ้นเคยกับการใช้ทักษะในการต่อสู้มากขึ้น ประสบการณ์ของเธอได้เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย
มีเพียงหนึ่งเดียวซึ่งกำลังเบื่อหน่ายอยู่ตอนนี้ นั่นคือ หวงต้า หน้าของมันนั้นหมองคล่ำ เมื่อเห็นสหายทั้งสอง ได้อะไรมากมายจากการเดินทางนี้ แต่ตัวมันกับไม่ได้อะไรเลย ปล่อยให้มันเก็บความรู้สึกนี้ลงสู่กระเพราะของมัน
หวงต้าดมกลิ่นรอบๆด้วยความพยายามของมันทั้งหมด หวังว่าจะพบสมบัติหายาก นั่นจะช่วยเยียวยาความรู้สึกนี้ได้แต่ท้ายที่สุด มันก็พบแต่ความผิดหวัง
แม้ว่าเจ้าหวงต้าผู้น่าสงสาร จะมีความสามารถในการหาสมบัติ แต่ไม่มีสมบัติระดับสูงอยู่ในสถานที่แห่งนี้สมบัติระดับสูงเพียงชิ้นเดียวที่พวกเขาเจอนั้นได้ยกให้หยานเฉินหยู่
ทำไมชีวิตของหมาช่างขมขื่นอะไรเช่นนี้
หลังจากที่ออกเดินทางไปกว่าครึ่งเดือน พวกเขาได้มาใกล้ถึงชั้นในของแคว้นฉี พวกเขาต้องเดินอีกเพียงแค่หนึ่งพันไมล์ ก่อนที่จะออกจากเขาต้นกำเนิด ในบริเวณนี้ไม่มีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง นั่นเป็นเหตุว่าทำไมพวกเขาเดินทางได้อย่างรวดเร็ว
“อีกแค่พันไมล์ พวกเราก็จะถึงชั้นในของแคว้นฉีแล้ว หวงต้าบอกข้ามาเกี่ยวกับนิกายที่แข็งแกร่งในแคว้นฉี”
เจียงเฉินมองไปยังหวงต้า มันมาจากชั้นในของแคว้นฉี แน่นอนว่ามันย่อมคุ้นเคยกับนิกายขนาดใหญ่ที่นั่น
“เจ้าถามถูกคน(?)แล้ว !!! บิดาเจ้าได้อยู่ในแคว้นฉีเป็นเวลานาน ไม่มีอะไรที่ข้าไม่รู้ บนทวีปตะวันออก มีแคว้นทั้งหมด 28 แคว้น และแคว้นฉี มีขนาดเล็กที่สุด มีพื้นที่โดยรวมราวๆแค่ไม่กี่แสนไมล์เอง “
หวงต้าพูด
“อะไรนะ ? พื้นที่โดยรวมไม่กี่แสนไมล์เนี่ยนะ เล็กที่สุด !!!”
หยานเฉินหยู่ พูดด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ พื้นที่ไม่กี่แสนไมล์นั้น สำหรับนางนั้นอาจจะอธิบายได้ว่าเป็นขอบเขตที่ไม่สิ้นสุด แต่นี่มันเป็นเพียงแค่แคว้นที่เล็กที่สุดเช่นนั้นหรือ นั้นหมายความว่าทวีปตะวันออกนั้นต้องใหญ่โตมโหฬารเป็นแน่
และนี่แค่ทวีปตะวันออก แล้วทวีปศักดิ์สิทธิ์ล่ะ หยานเฉินหยู่ไม่สามารถจินตนาการออกมาได้เลย แน่นอนว่า นี้ไม่สามารถตำหนินางได้ นางเกิดที่เมืองสีชาด และไม่เคยออกมานอกตระกูลหยานมาก่อน นางจึงไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับทวีปศักดิ์สิทธิ์
รอยยิ้มได้ปรากฏบนใบหน้าของเจียงเฉินในทันใด ที่หวงต้าพูดมานั้นถูกต้อง แคว้นนั้นมีพื้นที่เพียงแค่ไม่กี่แสนไมล์ มันไม่มีความหมายเมื่อเทียบกับทวีปศักดิ์สิทธิ์ ไม่ต้องกล่าวถึงแคว้นฉี แม้แต่ทวีปตะวันออกนั้นก็เป็นเพียงพื้นที่เล็กๆเท่านั้น
มีเพียงเซียนที่แข็งแกร่งเท่านั้น ที่สามารถแหวกมิติด้วยมือเปล่า และเดินทางไปกว่าล้านไมล์ ภายในครั้งเดียว ไม่มีผู้ใดสามารถทำความเข้าใจได้เลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีเพียงเจียงเฉินเท่านั้นที่เคยได้ใช้ตอนที่เขาอยู่จุดสูงสุดในชาติที่แล้วของเขา
“ข้าได้ยินมาว่ามีสี่นิกายใหญ่ภายในแคว้นฉี นอกเหนือจากนิกายกระบี่สวรรค์ นิกายที่เหลืออีกสามนิกายมีอะไรบ้าง”
เจียงเฉินถาม
พวกเข้าใกล้จะถึงส่วนในของแคว้นฉี เขาต้องเข้าใจเกี่ยวกับนิกายภายในนั้นเสียก่อน สำหรับเขานั้นความรู้เรื่องนี้เป็นส่วนที่สำคัญ
“แม้ว่า แคว้นฉีสำหรับพวกเราแล้วมีขนาดใหญ่ และเป็นดินแดนที่มีความหลากหลาย นิกายน้อยใหญ่ อยู่ในดินแดนแห่งนี้ แต่อำนาจที่แท้จริงที่เทียบได้กับนิกายกระบี่สวรรค์ นั้นคือ นิกายทมิฬ , นิกายหุบเขาสุขสันต์ และ นิกายอัคคีผลาญฟ้า นิกายทั้งสี่นั้นต่างถ่วงดุลซึ่งกันและกัน เจ้าสามารถจินตนาการถึงความสัมพันธ์ของเขาได้ง่ายๆ เฉกเช่น น้ำกับไฟ มีการปะทะกันอยู่เสมอของศิษย์ในแต่ละสำนัก”
หวงต้าพูดอย่างขุ่นเคือง มันรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับนิกายในแคว้นฉี
“สถานที่ที่เต็มไปด้วยการต่อสู้งั้นรึ ช่างเป็นที่ที่น่าสนใจยิ่งนัก”
เจียงเฉินฉีกยิ้ม เขาเป็นเหมือนปีศาจในคราบมนุษย์ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้เกรงกลัวที่จะต่อสู้
“หวงต้า เจ้ารู้หรือไม่ว่าใครแข็งแกร่งที่สุดในสี่นิกายใหญ่นี้”
เจียงเฉินถามอีกครั้ง
“ถ้าเอานิกายกระบี่สวรรค์เป็นตัวอย่างละก็ อาณาจักรฉีไห่เป็นได้เพียงศิษย์อย่างไม่เป็นทางการ อาณาจักรแก่นแท่มนุษย์เป็นได้แค่ศิษย์ชั้นนอก และ อาณาจักรแก่นแท้สวรรค์ ได้เป็นศิษย์ชั้นใน ข้าได้ยินมาว่า มีศิษย์ชั้นในเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่อยู่อาณาจักรแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าความคิดของข้าถูกต้อง เป็นไปได้สูงว่า มียอดฝีมือจิตวิญญาณยุทธ ซ่อนตัวอยู่ภายในสำนักกระบี่สวรรค์ นี่เป็นเพียงความคิดของข้าเท่านั้น นักรับจิตวิญญาณมีเพียงน้อยนิดยิ่งกว่ากำมือ ไม่มีทางที่จะมาอยู่ในทวีปตะวันออกเป็นแน่”
หวงต้า พูด
“อาณาจักรจิตวิญญาณยุทธ”
รอยยิ้มพลันปรากฏบนใบหน้าของเจียงเฉิน ในเส้นทางของการบ่มเพาะพลังนั้น อาณาจักรฉีจิง อาณาจักรฉีไห่ อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ อาณาจักรแก่นแท้สวรรค์ อาณาจักรแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์นั้น อาณาจักรเหล่านั้นเป็นเพียงแค่รากฐานเท่านั้น หลังจากอาณาจักรแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์แล้ว มีเพียงยอดฝีมือที่มีร่างกายสำหรับต่อสู้โดยแท้จริงซึ่งหล่อหลอมรวมกับจิตวิญญาณของการต่อสู้ภายในทะเลลมปราณ เรียกระดับนี้ว่า อาณาจักรจิตวิญญาณยุทธ
ความแตกต่างระหว่างแก่นแท้สวรรค์กับยอดฝีมือจิตวิญญาณยุทธนั้น เป็นช่องว่างที่กว้างใหญ่ มันยากเกินไปที่จะก้าวข้ามช่องว่างนี้ ช่องว่างนี้เป็นเสมือนสิ่งกีดขวางโดยธรรมชาติ มันได้ขัดขวางวีรบุรุษมากมายและเหล่าชายหนุ่มที่ยอดเยี่ยม ยอดฝีมือระดับแก่นแท้สวรรค์ทั้งหลายไม่สามารถก้าวข้ามช่องว่างนั้นได้ทั้งชีวิต ไม่ต้องกล่าวถึงระดับที่เหนือกว่านั้น
แคว้นฉี เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยอัจฉริยะมากมาย แม้ว่านิกายกระบี่สวรรค์จะมี ยอดฝีมือแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นศิษย์ชั้นใน แต่มันยากที่จะกล่าวได้ว่า มียอดฝีมือจิตวิญญาณยุทธอยู่ที่นี่
“พวกเราได้ฆ่า ศิษย์ของนิกายกระบี่สวรรค์ ในอนาคตหากเราพบเจอศิษย์ของนิกายกระบี่สวรรค์ ทางที่ดีเราควรถอยออกห่างๆไว้”
หวงต้าพูดอย่างไม่มั่นใจ
เมื่อได้ยินดังนั้น มีเส้นสีดำหลายเส้นปรากฏบนหน้าผากของเจียงเฉิน เขาอยากที่จะกระโดดเข้าไปสับเจ้าหมานี่ไปทำอาหารกินเสีย ถ้าไม่ใช่เพราะมันละก็ เขาก็ไม่มีเหตุผลต้องขุ่นเคืองกับนิกายใหญ่
“โธ่เว้ย ! เจ้าหมาเดนตายนี่ หลังจากนี้พวกเราจะแยกย้ายกัน”
เจียงเฉินจำได้ทันทีว่าศิษย์จากนิกายกระบี่สวรรค์กำลังตามหาเจ้าหมานี่ ถ้าเจ้าหมานี่ยังตามเขาอยู่ มันจะเป็นเหมือนคำสาป เขาจินตนาการได้เลยว่า เขาต้องถูกนิกายกระบี่สวรรค์ไล่ล่าในภายหลังเป็นแน่
“บัดซบ !!! เจ้าสารเลว คิดจะเนรคุณข้าเรอะ”
หวงต้า เริ่มที่จะโชว์ถึงเขี้ยวอันแหลมคมของมัน
ทันใดนั้นเอง มีชายสี่คน ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา ชายทั้งสี่คนนี้มาจากอีกฟากหนึ่งของภูเขา พวกเขาได้เห็นเจียงเฉินเดินทางผ่านมา เมื่อเขาได้เห็น เจ้าหมาสีเหลือง สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป
“บัดซบ ทำไมโลกมันแคบ ทำไมกัน ทำไมพวกศัตรูถึงได้ มุ่งไปในเส้นทางเดียวกับข้า”
หวงต้าแทบจะอาเจียนเป็นเลือด เจียงเฉียนเอามือปิดบังใบหน้าของตนเอง เขารู้ว่าหากเริ่มต้นเช่นนี้ ชีวิตของเขาในแคว้นฉีต้องน่าอนาถเป็นแน่แท้
ชายทั้งสี่ตรงหน้านั้น สวมเสื้อคลุม มีรูปดาบสั้น สลักอยู่บนอก นี่คือสัญลักษณ์ของนิกายกระบี่สวรรค์พวกเขามองไปยังหวงต้า มันมองมาราวกับจะกลืนกินพวกเขา
“เจ้าหมาเดนตาย ดูสิ นี่มันเจ้าหมาบ้านั่นนี่นา”
“บัดซบ !! เจ้าหมานี่ยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไง แล้วไหน ศิษย์น้องเฉินซวงกับพรรคพวกละ”
“คุยมามากพอละ ฆ่ามันเลย !!”
เมื่อศิษย์นิกายกระบี่สวรรค์เห็นเจ้าหมาสีเหลืองนี้ พวกเขามองไปยังมันราวกับมันเป็นคน(?)ฆ่าครอบครัวของเขา พวกเขาโกรธแค้นและปลดปล่อยพลังหยวนออกมา สองในสี่คน ได้ชักอาวุธของพวกเขาออกมา จากพฤติกรรมของพวกเขา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ยอมปล่อยไปจนกว่าหวงต้าจะตาย
เจียงเฉินอยากร้องไห้ ขณะนี้เขาโกรธจนไม่อยากจะเชื่อ แต่ว่าเขาทราบถึงสิ่งที่หวงต้าได้ทำลงไป ถ้าเขาตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เขาต้องอยากเอาเจ้าหมานี่ไปทำอาหารทั้งเป็นแน่
คนทั้งสี่ที่อยู่ตรงหน้าเขา สองคนอยู่ในระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น คนหนึ่งอยู่อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางและอีกคนอายุยี่สิบปี อยู่อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลาย การจะไปถึงขั้นนี้ด้วยอายุของเขา ถือได้ว่าสูงที่สุดของศิษย์ชั้นนอกทั้งหมด
“เจ้าหนุ่มจากนิกายกระบี่สวรรค์เอ๋ย เจ้าจะไม่ยอมแพ้เรอะ เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าบิดาของเจ้า จะไม่กัดเจ้าจนตาย “
หวงต้า เริ่มมีควันออกจากจมูก และเริ่มข่มขู่พวกเขา
“ฮึ่ยยยย…. เจ้าหมาบ้า บาปของเจ้าไม่มีวันให้อภัย ก่อนที่แกจะตาย บอกพวกเรามา ศิษย์น้องเฉินซวงอยู่ที่ไหนกัน”
ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายนั่น ถามเสียงเย็น
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจียงเฉินเข้าใจถึงเหตุผลที่ชายทั้งสี่คนนี้มายังเขาต้นกำเนิด ไม่ใช่เพียงแค่ไล่ตามหวงต้าเท่านั้น พวกเขายังตามหาเฉินซวง กับอีกสองคน
เมื่อคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ สายตาของเจียงเฉินพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา จิตสังหารของเขาได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกาย เขาไม่ต้องการให้ชายทั้งสี่คนนี้ผ่านเขาต้นกำเนิด และเข้าไปยังเมืองสีชาดได้ ถ้าพวกเขาได้เข้าไปยังเมืองสีชาด ทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเมืองสีชาดจะถูกเปิดเผย
“เจ้าพวกเศษสวะสามตัวนั้น มันกล้าดียังไงมาล่าตามบิดาเจ้าละ ดังนั้นบิดาผู้นี้จึงกินพวกมันทั้งหมด”
หวงต้าพูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งๆ
“เจ้าว่าอะไรนะ ดูเหมือนมันจะจริงที่ศิษย์พี่เฉินซวง กับพรรคพวกได้ถูกฆ่าตายไปแล้ว ศิษย์พี่เหลียงตง ได้โปรดฆ่าเจ้าหมานั่น ล้างแค้นให้ศิษย์พี่เฉินซวงด้วย “
หนึ่งในพวกเขาได้กล่าวออกมาอย่างเคียดแค้น
ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายที่ชื่อ เหลียงตง เมื่อได้ยินที่ หวงต้าพูด ความต้องการที่จะสังหารมันได้ไหลทะลักออกมา นัยน์ตาของเขามองไปรอบๆมายังเจียงเฉิน และหยานเฉินหยู่ แต่ตาของเขาหยุดลงทันที เมื่อเห็นหยานเฉินหยู่
เมื่อเขาเห็นหยานเฉินอยู่ ตาของเหลียงตงเป็นประกาย มันเป็นเพราะว่าเขาได้เห็นสาวงามล่มเมืองปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา เขาได้มองไปยังสาวงามเหมือนกับว่านางไม่ได้มีตัวตนอยู่บนโลกนี้
“ถ้าเจ้ายังคงมองมาที่นางอีกละก็ ข้าสัญญาเลยว่าตลอดชีวิตของเจ้าจะไม่มีทางได้เห็นสิ่งใดได้อีก”
เจียงเฉินขมวดคิ้วและพูดอย่างเย็นยะเยือก จะไม่มีผู้ใดได้รับอนุญาตให้หยาบคายต่อหยานเฉินหยู่!
=====================================================
โปรดติดตามตอนต่อไป