I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที 103 ตราประทับมังกรสี่สิบดวง

| Dragon-Marked War God | 1482 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 

แปลไทยโดย   Takumi Kun


ตรวจทาน        Subaru-Kyun


************************************************************************


          ผลไม้โลกได้ถูกสร้างขึ้นมาจากการดูดซับแก่นแท้โลก มันเป็นสมบัติธรรมชาติที่หายาก ผลไม้ในมือของเจียงเฉินนั้นอยู่ราวๆพันปี    ดังนั้นแก่นแท้โลกที่อยู่ภายในไม่ได้มีมากมาย     อย่างไรก็ตาม ความบริสุทธิ์ของพลังงานนี้ไม่ใช่สิ่งที่สามารถดูถูกได้


          สมบัติธรรมชาตินี้เหมาะสมกับเจียงเฉินในปัจจุบัน ด้วยผลไม้โลกเขาสามารถที่จะทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางได้อย่างไม่ต้องสงสัย


เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ


          เจียงเฉินโคจรทักษะร่างแปลงมังกร พลังหยวนในทะเลปราณของเขาทำให้เกิดเสียงเปรี๊ยะๆขึ้น ตราประทับมังกรทั้งยี่สิบห้าดวงว่ายไปรอบๆทะเลปราณดั่งมังกรหมุนวน


ตูม!


          พลังงานที่ทรงพลังที่บรรจุอยู่ภายในผลไม้โลกได้ปะทุทันทีและเข้าไปยังแขนขาทั้งหมดและกระดูกภายในร่างกายของเจียงเฉิน


“พลังงานที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้! ฮ่าฮ่า ความรู้สึกเช่นนี้สุดยอด!”


           ใบหน้าของเจียงเฉินเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ทางที่เขาดูดซับผลไม้โลกหากว่ามีผู้มาพบเห็นเข้า คนผู้นั้นคงตกตะลึงจนพูดไม่ออกเป็นแน่ พลังงานที่บรรจุอยู่ภายในผลไม้โลกพันปีไม่สามารถดูดซับโดยยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ได้ทันที แม้หากเป็นราชันย์ปีศาจน้อยหรือหลี่หวู่ซวงได้รับผลไม้โลกมา ในการที่จะดูดซับมัน พวกเขาต้องทำทีละน้อยทีละน้อย ดูดกลืนครั้งเดียวแบบที่เจียงเฉินทำนั้นเป็นเรื่องบ้าชัดๆ


          เจียงเฉินทำเช่นนี้มีเหตุผลอยู่ คลื่นพลังอันรุนแรงที่อยู่ภายในผลไม้โลกสามารถถูกควบคุมได้ด้วยทักษะขั้นสุดยอดอย่างทักษะร่างแปลงมังกร


ฮู่มมมมมมม !

(เสียงคำราม)


          เมื่อโคจรทักษะร่างแปลงมังกรด้วยความเร็วสูงสุด ตราประทับมังกรทั้งหมดในร่างของเจียงเฉินเริ่มสั่นอย่างรุนแรง มีแม้กระทั่งเสียงคำรามของมังกรออกมาจากร่างของเจียงเฉิน เหนือหัวของเขา มีปราณรูปมังกรลอยอยู่รอบๆ ผมสีดำของเขาปลิวไสวโดยที่ไม่มีลมพัด เขาดูเหมือนกับสัตว์อสูรบรรพกาลที่ได้ตื่นขึ้นมา


          ภายใต้การควบคุมของทักษะร่างแปลงมังกร พลังงานที่อยู่ภายในผลไม้โลกได้เข้าไปยังทะเลปราณของเจียงเฉินและเริ่มสร้างตราประทับมังกรดวงใหม่


          ครั้งแรกเจียงเฉินได้ดูดซับสายเลือดกิเลนของหวงต้า แล้วก็สายเลือดของเหยี่ยวปีกโลหิต จากนั้นเขาก็ได้ทำสิ่งที่เขาคิดไว้อย่างราบรื่นในระหว่างการแข่งขันประจำแคว้นฉี ในตอนนี้ด้วยการช่วยเหลือของผลไม้โลก มันสามารถที่จะบอกได้ว่าเขาสะสมไว้มากพอพร้อมที่จะทะลวงสู่ขั้นถัดไป


          เพียงแค่ชั่วโมงเดียว ตราประทับมังกรทั้งห้าได้ปรากฎขึ้นที่ทะเลปราณของเจียงเฉิน รวมกับของเดิมอีกยี่สิบห้า รวมจำนวนตราประทับมังกรทั้งหมดสามสิบดวง เมื่อตราประทับมังกรรวมกันได้สามสิบดวงแล้ว พลังของเจียงเฉินกำลังกระสับกระส่าย


“ทะลวงขั้นต่อไปล่ะ”


          เจียงเฉินรูู้สึกตื่นเต้นทันที  เขาหยิบยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์จำนวนมากจากแหวนมิติของเขา จะดูดซับพวกมันทั้งอย่างนั้น เมื่อโคจรทักษะร่างแปลงมังกร ทุกๆการทะลวงขั้นหนึ่งต้องการพลังงานจำนวนมาก และนี่เป็นเหตุที่เจียงเฉินต้องการยาฟื้นพลังมากกว่าทุกๆคน


ฟู่ ฟู่


          อากาศที่ทรงพลังได้ออกจากร่างของเจียงเฉินอย่างรวดเร็ว หากไม่ใช่เพราะว่าเจียงเฉินจงใจควบคุมพวกนี้เอาไว้ ห้องก็จะถูกทำลาย ถึงแม้จะมีพลังจากเขาที่ทะลวงเข้าสู่ขั้นต่อไปที่รุนแรงอย่างมากก็ตาม พลังงานธรรมชาติภายในอากาศที่อยู่เหนือที่พักจะหมดไปในทันที


“ท่านพีเจียงเฉินได้ทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางแล้ว!”


ในที่พัก หยานเฉินหยู๋มีความสุขมาก


“ข้าสงสัยว่าทักษะบ้าประเภทไหนที่ไอ้หนูนี่บ่มเพาะอยู่…….ทุกๆครั้งที่เขาทะลวงเข้าสู่ขั้นต่อไปมันมีพลังอันมากมายมหาศาล นี่มันบ้าชัดๆ”


หวงต้าพึมพำกับตัวเอง


          ในเวลาเดียวกัน ผู้คนภายในหอการค้านิกายทมิฬก็สัมผัสพลังได้เช่นกัน สร้างความตกตะลึงแก่พวกเขา


“มันออกมาจากที่พักของเจียงเฉิน! ดูพลังนั่นสิ ดูเหมือนว่าเจียงเฉินจะกำลังทะลวงสู่ระดับใหม่!”


“ดังนั้นตอนนี้ยังมีอัจฉริยะที่โดดเด่นอีกคนในนิกายทมิฬ! จากนี้ต่อไปมันจะไม่ใช่หนานเป่ยเฉาอีกในแคว้นฉี!”


“ถ่ายทอดคำสั่งลงไป ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าใกล้ที่พักของพวกเขา! ห้ามรบกวนการบ่มเพาะของเจียงเฉินโดยเด็ดขาด!”


          นามของเจียงเฉินได้เป็นที่รู้จักของทุกคนในเมืองสุริยันโคจร ไม่มีผู้ใดในหอการค้านิกายทมิฬที่ไม่เคยได้ยินชื่อของเขา นอกจากนั้น เจียงเฉินเป็นอัจฉริยะในหมู่ศิษย์ทั้งหมดของนิกายทมิฬ ผู้ที่ทำงานอยู่ที่หอการค้าต่างชื่นชมเขาอย่างบริสุทธิ์ใจ


          หลังจากได้ดูดซับยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์ไปพันเม็ด เจียงเฉินได้จัดการสร้างเสถียรภาพในการบ่มเพาะของอาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางแล้ว ด้วยการบริโภคยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์เป็นจำนวนมากไม่ใช่สิ่งที่คนทั้วๆไปสามารถจ่ายไหว หากว่าเขาจะต้องทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลาย เขาจำเป็นต้องบริโภคมากยิ่งขึ้น เขาต้องการอย่างน้อยสามพันเม็ด


ครืนน ครืนน ……


          พลังหยวนภายในทะเลปราณของเขากำลังสั่นสะเทือน ตราประทับมังกรสีแดงโลหิตได้เคลื่อนไปรอบๆ และปราณที่ทรงพลังล้อมรอบเจียงเฉิน หลังจากที่มีตราประทับมังกรรวมกันได้สามสิบดวงแล้ว ขั้นตอนทั้งหมดยังคงไม่ถึงที่สุด เขาใช้พลังที่อยู่ในผลไม้โลกเพียงสามสิบเปอร์เซนต์เท่านั้น


          เจียงเฉินโคจรทักษะร่างแปลงมังกรด้วยความเร็วสูงสุด ตราประทับมังกรดวงใหม่กำลังถูกสร้างขึ้นในทะเลปราณของเขา  หนึ่งดวง สองดวง สามดวง และมันไม่หยุดจนถึงตอนเช้า รวมตราประทับมังกรที่สร้างขึ้นมาสมบูรณ์ทั้งหมดสิบดวง ตอนนี้พลังงานที่อยู่ในผลไม้โลกถูกดูดซับจนหมดแล้ว


          ตอนนี้ภายในทะเลปราณของเจียงเฉิน มีตราประทับมังกรสี่สิบดวงกำลังล้อมรอบแก่นแท้มนุษย์ของเขา พวกมันคล้ายกับมังกรที่ยังมีชีวิตอยู่  นี่มันช่างลึกลับเหลือเกิน


          ส่วนเรื่องระดับการบ่มเพาะของเจียงเฉิน ไม่เพียงแค่ทะลวงเข้าสู่แก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางและทำให้มันมีสเถียรภาพ มันยังมีแม้แต่สัญญาณที่เขาสามารถที่จะทะลวงเข้าสู่แก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายในเร็วๆนี้อีกด้วย


          ตราประทับมังกรสี่สิบดวง ให้พละกำลังถึง 400,000 จิน ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ที่มีพละกำลังขนาดนี้มันไม่น่าเชื่อเลย


“ตามที่ทักษะร่างแปลงมังกร หากข้าต้องการไปถึงอาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายข้าจะต้องสร้างตราประทับมังกรให้ได้อย่างน้อยหกสิบดวง ตอนนี้ข้าได้สร้างไปแล้วสี่สิบดวง การที่จะเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายอยู่อีกไม่ไกลแล้ว”


          การมองเห็นของเจียงเฉินคมชัดแม้กระพริบตา พละกำลังที่ตราประทับมังกรสี่สิบดวงให้แก่เขานั้นไม่อาจจินตนาการได้ เขาสามารถอธิบายได้เพียงแค่คำว่า ‘ทรงพลัง’


“ด้วยพละกำลังและความสามารถในปัจจุบันของข้า ข้าสามารถที่จะสังหารยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์เพียงแค่วินาทีเดียว หากข้าได้เผชิญหน้ากับหลี่หวู่ซวงอีกครั้ง ข้าสามารถสังหารเขาได้ด้วยการตบเพียงครั้งเดียว ข้าไม่จำเป็นต้องต่อสู้ยืดเยื้อ ตอนนี้แม้แต่ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า หากข้าสามารถใช้ขวามอัสนีได้ เช่นนั้นข้าก็จะสามารถสังหารยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้นได้อย่างง่ายดาย”


          ด้วยท่าทางที่น่าประทับใจ เจียงเฉินปลดปล่อยออร่าออกมาด้วยความมั่นใจจากทุกๆส่วนในร่างกายของเขา การต่อสู้กับยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขณะที่อยู่เพียงแค่แก่นแท้มนุษย์ขั้นกลาง นี่มันบ้าไปแล้ว ช่องว่างระหว่างอาณาจักแก่นแท้มนุษย์และแก่นแท้สวรรค์ไม่ใช่เล็กน้อย ผู้ที่สามารถไปถึงขั้นอาณาจักรแก่นแท้สวรรค์จะมีความสามารถในการควบคุมพลังหยวนภายในธรรมชาติได้


          อย่างไรก็ตาม เจียงเฉินนั้นไม่ปกติ เขาเป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง บ่มเพาะด้วยทักษะร่างแปลงมังกรด้วยกันกับประสบการณ์และวิธีการของเซียน เขาไม่สามารถตัดสินได้โดยสามัญสำนึก


          การที่ระดับการบ่มเพาะสูงขึ้นทำให้ทักษะการต่อสู้ต่างๆมีพลังมากยิ่งขึ้นเช่นกัน ด้วยระดับของเขาในตอนนี้ หากเขาโจมตีด้วยดัชนีสุริยะทั้งหก เขาสามารถใช้ได้ ดัชนีสุริยะสามนิ้ว และทักษะคลื่นเสียงของเหยี่ยวก็ทรงพลังขึ้นอย่างมาก


          เจียงเฉินยังไม่ออกจากห้อง เขาหยิบทักษะอัสนีบาตออกมาจากแหวนมิติของเขา เขาได้มีทักษะต่อสู้อยู่มากมาย แต่หากว่าเขาเรียนรู้ทักษะนี้ เขาจะสามารถครอบครองทักษะทรงพลังอื่นๆที่สามารถที่จะท่องเที่ยวทั่วแคว้นฉีได้โดยที่ปราศจากคู่ต่อสู้ในรุ่นราวคราวเดียวกับเขา


          เจียงเฉินพลิกดูหนังสือทักษะอัสนีบาต เขาเพียงแค่ต้องการอ่านมันและทำความเข้าใจถึงหัวใจของธาตุต่างๆทั้งหมดที่อยู่ภายในทักษะต่อสู้นี้ ด้วยประสบการณ์การบ่มเพาะของเซียน การอ่านและการเข้าใจทักษะต่อสู้ขั้นปฐพีไม่ได้ยากเลย นี่คือข้อได้เปรียบที่เขามีอยู่


          อย่างไรก็ตาม ข้อได้เปรียบนี้ก็ได้เปรียบแบบสุดๆ เมื่อคนอื่นๆเริ่มที่จะฝึกฝนทักษะต่อสู้ พวกเขาจะใช้เวลาอย่างน้อยสองสามเดือน หรือบางทีอาจเป็นปีก่อนที่พวกเขาจะเข้าใจถึงหัวใจของธาตุที่อยู่ภายใน แต่สำหรับเจียงเฉิน เขาเพียงแค่อ่านเพียงครั้งเดียวก่อนที่จะเข้าใจทุกๆอย่าง นอกจากนั้นเมื่อใช้ทักษะต่อสู้ผ่านทักษะร่างแปลงมังกร มันจะแข็งแกร่งกว่าทักษะทั่วๆไป ด้วยข้อได้เปรียบนี้เพียงพอที่จะทำให้โชคชะตาของอัจฉริยะผู้หนึ่งไร้คู่เปรียบในรุ่นของพวกเขา

          ถึงช่วงเที่ยง เจียงเฉินปัดเสื้อผ้าของเขาและออกจากห้อง เจียงเฉินมีความสุขอย่างมากหลังจากที่ทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลาง และใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใส

“ท่านพี่เจียงเฉิน ท่านพี่ได้เลื่อนระดับแล้ว?”

          เมื่อเห็นเจียงเฉินเดินมา หยานเฉินหยู่วิ่งไปหาเขาทันที

“ใช่แล้วล่ะ”

          เจียงเฉินหยอกหยานเฉินหยู่ด้วยการบีบจมูกนาง ทำให้นางหัวเราะคิกคัก

“ท่านพี่เจียงเฉิน พวกเราจะกลับไปยังนิกายทมิฬเลยไหมคะ?”

หยานเฉินหยู่ถาม

“ถูกต้อง พวกเราจะออกเดินทางตอนนี พวกเราได้เป็นศิษย์นิกายทมิฬแล้วตอนนี้ พวกเราต้องไปที่นั่น”

          เจียงเฉินพูด หลังจากนั้นเขาได้หันไปหาหวงต้าและถาม “หวงต้า เจ้าจะมากับพวกข้าไหม?”

“ไปสิ แน่นอนข้าจะไป”

หวงต้าพูด หางของมันกระดิกไปมาทันที

“ทำความเข้าใจกันก่อน นิกายทมิฬไม่ใช่นิกายกระบี่สวรรค์ ข้าติดหนี้พวกเขาอยู่ อย่าได้ก่อปัญหาใดๆเมื่อไปที่นั่นล่ะ หากเจ้าไม่สามารถทำได้ ข้าจะไม่พาเจ้าไปแม้ว่าเจ้าจะสังหารข้าก็ตาม”

          เจียงเฉินพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม เจ้าหมาใจทรามเป็นพันธุ์หายาก มันจะทำในสิ่งที่มันต้องการ และหากว่ามันทำกับนิกายทมิฬเช่นเดียวกับที่ทำกับนิกายกระบี่สวรรค์ มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่

“อย่าได้กังเวลเลย ข้ารู้ว่าต้องทำเช่นไร”   (แน่เรอะเอ็ง)


          หวงต้าผงกหัวด้วยท่าทีจริงจัง แม้ว่ามันจะดูเหมือนหมาที่แสนดีตอนนี้ เจียงเฉินยังคิดว่าไม่สามารถที่จะวางใจมันได้


          แต่อย่างน้อย ขณะที่เจียงเฉินอยู่ด้วยกันกับหวงต้า เจียงเฉินเชื่อว่าหวงต้าอาจไม่ได้โหดร้ายสักทีเดียว


          นอกจากนี้ผลประโยชน์ที่ได้รับจากเจ้าหมาตัวนี้ไร้ขีดจำกัด คริสตัลเยือกแข็งหมื่นปีและของล้ำค่าที่ยอดฝีมือแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ที่ทิ้งไว้นั้นได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของหวงต้า

“ตกลง พวกเราจะบินไปนิกายทมิฬกันตอนนี้ เจ้าใช้ปีกของเจ้าพาหยู่น้อยไปนะ”

เจียงเฉินพูด

“อะไร๊? ไม่มีทาง!”

          หวงต้าแสดงออกด้วยสีหน้าเศร้า “ครั้งที่แล้วเมื่อพวกเราหนีออกจากเมืองจันทราสีเงิน ข้าได้ใช้ปีกเกินขีดจำกัด ข้าไม่สามารถที่จะใช้มันได้อีกครั้งในช่วงเวลาหนึ่ง ในความคิดข้านะ เจ้าควรที่จะใช้ปีกโลหิตของเจ้าพาข้าและเสี่ยวหยู่ไปด้วย!”

“เป็นเช่นนั้นรึ?”

           เจียงเฉินดึงหูหวงต้าและพูดออกมาขณะขบฟัน “ไอ้หมาเวร อย่าได้เล่นลูกไม้ใดๆกับข้า บิดาเจ้า! ความสามารถเฉพาะตัวของเจ้าได้ฟื้นคืนเมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว! หากเจ้าต้องการตามพวกเรามา จงฟังในสิ่งที่ข้าพูด และแบกหยู่น้อยไปด้วย! หากไม่ ถ้างั้นอยู่ที่นี่เถอะ!”


          เจ้าหมานี่ฉลาดแกมโกงเสียจริง มันใช่เวลาครึ่งเดือนในการฟื้นฟูจากผลกระทบที่ใช้เกินขอบเขต พวกเขาใช้เวลากว่าครึ่งเดือนในการเดินทางจากเมืองจันทราสีเงินมายังเมืองสุริยันโคจร มันจะต้องฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์เมื่อสองสามวันก่อน หากไม่ล่ะก็มันคงไม่สามารถวิ่งได้รวดเร็วในตอนที่เหล่าศิษย์นิกายกระบี่สวรรค์ตามหามันในจตุรัสสุริยันโคจร

          ทั้งสามคนได้พุ่งขึ้นฟ้าจากหอการค้านิกายทมิฬและหายไปในท้องฟ้า ชายหนุ่มในชุดขาวและมีปีกบนหลังของเขา และหมาตัวใหญ่มีขนสีเหลืองทั้งตัวผู้แบกเด็กสาวในชุดสีม่วงบนหลังของมันขณะที่กำลังบ่นระบายความไม่พอใจออกมา


ตกเย็น!


          เจียงเฉินและหวงต้าได้บินเหนือภูเขาสักแห่ง ขณะที่เจียงเฉินบินอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นท่าทีของเขากลับเย็นชา


“มีบางสิ่งผิดปกติ”


          ทันทีหลังจากที่เสียงของเจียงเฉินออกมา พลังงานที่แข็งแกร่งทั้งสี่จุดได้ปรากฎขึ้นต่อหน้าพวกเขา เงาของทั้งสี่คนนั้นได้ห้อมล้อมเจียงเฉินและหวงต้าสี่มุม ชัดเจนว่าคนพวกนี้มารอที่นี่เป็นเวลานานแล้ว

************************************************************************

จบตอนจ้า   

 

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments