I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 102 ดาบที่แตกหัก

| Dragon-Marked War God | 1517 | 2360 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 


แปลโดย    Subaru-Kyun


ตรวจทาน   Subaru-Kyun


=========================================================


          หวงต้าเตรียมที่จะเห็นอะไรสนุกๆจากเจียงเฉิน หากเขาทำพลาดพลังนั้นจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเขาเอง แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่เคยทำผิดพลาด เจียงเฉินสามารถทำลายมันลงได้อย่างง่ายดาย นี่ทำให้มันถึงกับมึนงงว่าเขาทำได้อย่างไร


” เจ้ามันเป็นสัตว์ประหลาดขนานแท้เลย  ให้ตายสิ! “


หวงต้าพูดด้วยท่าทีไม่พอใจ


” ท่านพี่เจียงเฉิน ดูนั่นสิ ! มีทางเดินอยู่ด้วย! “


          หยานเฉินหยู่ชี้ไปยังที่ที่เมื่อสักครู่มีกลไกป้องกันอยู่ แต่ประตูเก่าๆได้หายไปแล้ว ปรากฏทางเดินที่มืดมิดขึ้น


” ไปตรวจสอบดูกันเถอะ! “


          หวงต้าพุ่งออกไปข้างหน้า มันเข้าไปยังทางเดินคน(?)แรก


          เจียงเฉินและหยานเฉินหยู่เดินตามมันไป ทางเดินนี้ไม่ได้กว้างมากแต่ก็เพียงพอให้คนสองคนเดินผ่านไปได้พร้อมกัน


” ทางเดินนี้ดูเหมือนว่ามันจะลงไปข้างล่างนะ ดูเหมือนว่าสมบัติลับนั่นจะซ่อนอยู่ใต้พื้นดิน ไม่คิดว่าจนถึงตอนนี้มันยังไม่ถูกค้นพบ มันซ่อนได้แนบเนียนเสียจริง “


เจียงเฉิน พูด


” ฮ่าฮ่า… ข้าได้กลิ่นของสมบัติหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ “


          ตาทั้งสองข้างของหวงต้าส่องประกาย มันรีบกระโจนลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว


          ทางเดินนี้ไม่ได้มีความยาวมากนัก หลังจากพวกเขาเดินทางไปเพียงแค่สิบเมตรเท่านั้น พวกเขาก็ถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางนี้ มันไม่ได้มีพื้นที่ขนาดใหญ่มากมายอะไร เนื้อที่ของมันเพียงแค่ประมาณบ้านสามหลังเท่านั้น มันถูกรายล้อมไปด้วยกลิ่นอายที่เย็นยะเยือก กำแพงหินอันแข็งแกร่ง บนตัวกำแพงหินมีหินดวงจันทร์ขนาดเท่ากำปั้นเปล่งแสงสลัวๆท่ามกลางความมืด


          หินดวงจันทร์เป็นของหายาก แต่มันไม่ได้มีมูลค่ามากนักเป็นได้เพียงแค่ของตกแต่งเท่านั้น ดังนั้นเจียงเฉินและหวงต้าจึงไม่ได้สนใจมันเท่าไรนัก


” อ้ะ.. ท่านพี่เจียงเฉินนั่นมัน! มีโครงกระดูกอยู่ด้วย! “


          หยานเฉินหยู่ตะโกนออกมา เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจียงเฉินและหวงต้าหันไปมองตามนาง ก็พบโครงกระดูกนั่งอยู่บนพื้นกลางห้องลับ กระดูกนั้นผุกร่อนไปหมดแล้ว มีรูเล็กๆทั่วทั้งร่างกาย มันดูเหมือนแค่โดนกระแสลมก็สามารถทำให้มันกลายเป็นขี้เถ้าได้ ชายคนนี้ได้ตายมานานมากแล้ว


” นี่คงเป็นยอดฝีมือแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ “


เจียงเฉินกล่าวขึ้น


          มันไม่มีสิ่งอื่นในห้องลับนี้    ไม่มีสมบัติแม้แต่ชิ้นเดียว ด้านข้างโครงกระดูกมีเพียงกระเป๋าเก็บของสีเหลืองอ่อนตั้งอยู่    หวงต้าเข้าไปตรวจดูกระเป๋าเก็บของแต่ไม่พบสิ่งใดน่าสนใจ    แต่จมูกของมันกำลังดมกลิ่นเผื่อมันจะหาอะไรบางอย่างพบ


          เจียงเฉินไม่สนใจอะไรมาก เขาทำท่าคว้ากระเป๋าเก็บของจากไกลๆ   จากนั้นดูเหมือนว่ากระเป๋าเก็บนั้นจะถูกเรียกไปหาเขา มันพุ่งไปหาและหยุดอยู่บนมือของเขา


          เขาส่งพลังหยวนลงไปในกระเป๋า ทันใดที่เขาก็เห็นสิ่งที่อยู่ในกระเป๋า


          เขาพลิกฝ่ามือของเขาขึ้นมา ปรากฏเม็ดยาขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือบนฝ่ามือของเขา    เม็ดยาดูคล้ายกับยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์   แต่พลังงานของมันมากกว่ายาฟื้นพลังขั้นมนุษย์อยู่มาก


” ท่านพี่เจียงเฉิน นั่นมันเม็ดยาอะไรหรอ? ดูเหมือนยาฟื้นพลังมนุษย์มากเลย แต่ข้าแน่ใจว่ามันไม่ใช่ยาฟื้นพลังมนุษย์ “


หยานเฉินหยู่ กล่าวถาม


” นี่เป็นยาฟื้นพลังขั้นปฐพี แถมยังเป็นยาฟื้นพลังปฐพีที่มีประสิทธิภาพเต็มสิบส่วน  แถมในกระเป๋านี่ยังมีถึงสิบเม็ด! ฮ่าฮ่า….นี่มันโชคดีจริงๆ “


          จียงเฉินตกตะลึงเป็นอย่างมาก มูลค่าของยาฟื้นพลังขั้นปฐพีไม่สามารถเอามาเทียบกับยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์ได้ อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพเต็มสิบส่วน     โดยทั่วไปแล้วยาฟื้นพลังขั้นปฐพีหนึ่งเม็ดมีค่าเท่ากับยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์ถึงหนึ่งหมื่นเม็ด ความแตกต่างของยาฟื้นพลังนั้นมากมายมหาศาลเหลือเกิน


          โดยทั่วไปแล้ว ขั้นฉีไห่ แก่นแท้มนุษย์ แก่นแท้สวรรค์ ทั้งหมดนั้นใช้ยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์ มีเพียงผู้ที่ไปถึงแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นปลาย พลังงานจากยาฟื้นพลังมนุษย์นั้นไม่เพียงพอต่อพวกเขา    พวกเขาจำเป็นต้องใช้อะไรบางอย่างที่มีพลังงานมากกว่า เช่นยาฟื้นพลังขั้นปฐพี


          มีเพียงยอดฝีมือแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ กับ ยอดฝีมือจิตวิญญาณยุทธเท่านั้นที่มีเม็ดยาหายากอย่างยาฟื้นพลังขั้นปฐพี     แต่นี่มียาฟื้นพลังขั้นปฐพีถึงสิบเม็ด เท่ากับยาฟื้นพลังมนุษย์ถึงหนึ่งแสนเม็ด หากมีใครต้องการใช้ยาฟื้นมนุษย์หนึ่งแสนเม็ดเพื่อแลกกับยาฟื้นพลังปฐพีถึงสิบเม็ด    คงไม่มีใครต้องการแลก


          เจียงเฉินได้บ่มเพาะพลังด้วยทักษะร่างแปลงมังกร ซึ่งจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากมายมหาศาล ไม่ว่าพลังงานของเม็ดยาหนึ่งเม็ดจะมีมากมายขนาดไหน มันก็ไม่เพียงพอต่อเขา แต่เขามียาฟื้นพลังขั้นปฐพีถึงสิบเม็ด    รวมกับยาฟื้นพลังมนุษย์อีกสามหมื่นเม็ดที่หวงต้ามันไปโกงมาจากคนอื่น และเขายังมีเก็บอีกประมาณหนึ่งหมื่นเม็ด รวมแล้วเจียงเฉินมีประมาณหนึ่งแสนสีหมื่นเม็ด ปริมาณจำนวนมากขนาดนี้เพียงพอให้เขาทะลวงพลังจนถึงแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายได้


          หรือจะพูดอีกอย่าง ในเวลาอันสั้นนี้เจียงเฉินจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเม็ดยาอีกต่อไป นี้มันช่วยเขาได้มาก


          เจียงเฉินเก็บยาฟื้นพลังขั้นปฐพีทั้งสิบเม็ดเข้าไปในแหวนเก็บของ จากนั้นเขาก็หยิบขวานออกมาจากกระเป๋าสีเหลืองอ่อน ขวานมีความยาวถึงสามเมตรมันเรืองแสงสีทองอ่อน ขวานนี้แหลมคมมาก และมันยังหนักถึง 1000 ปอนด์ เจียงเฉินเหวี่ยงขวานอย่างสบายๆ เมื่อขวานถูกเหวี่ยงออก มันทำให้เกิดเสียงดังเสียดแทงขึ้นมากวางอากาศ


” ช่างเป็นขวานที่ทรงพลังอะไรขนาดนี้ “


หยานเฉินหยู่รู้สึกประหลาดใจ


” นี่คือยุทธภัณฑ์ระดับสูง ! พลังของยุทธภัณฑ์ระดับสูงนั้นมากเหนือจินตนาการ ถ้าหากข้าใช้ขวานเล่มนี้ ข้าสามารถสู้กับยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ได้อย่างแน่นอน “


          ดวงตาของเจียงเฉินเป็นประกาย ทั่วร่างของเขาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น


” มีตัวอักษรสลักอยู่บนขวานด้วย “


          หยานเฉินหยู่ชี้ไปที่ตัวอักษรที่สลักอยู่ เจียงเฉินหันด้ามจับไปอีกด้านเห็นตัวอักษร ‘ขวานอัสนี’ สลักอยู่ 


          แค่ชื่อเพียงอย่างเดียว ก็สามารถบ่งบอกถึงความไม่ธรรมดาของขวานเล่มนี้ เจียงเฉินพึงพอใจเป็นอย่างมาก ด้วยขวานอัสนีเล่มนี้ ในตอนนี้เขาก็มีเครื่องมือที่ทรงพลังชิ้นหนึ่งอยู่ในมือของเขาแล้ว


          ยอดฝีมือแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ทิ้งสมบัติไว้ให้เขามากมาย นอกจากขวานอัสนี กับยาฟื้นพลังขั้นปฐพี ยังมีหนังสือทักษะลับอีกสองเล่มอยู่ข้างในกระเป๋าเก็บของ    หนึ่งในนั้นคือทักษะคลื่นวายุโหมกระหน่ำ เป็นทักษะขั้นปฐพี แต่เจียงเฉินไม่แม้แต่จะมองโยนมันเข้าแหวนเก็บของ หลังจากที่เขาได้บ่มเพาะพลังด้วยทักษะร่างแปลงมังกร ในตอนนี้จึงไม่มีทักษะบ่มเพาะใดๆในโลกนี้จำเป็นกับเขาอีกต่อไป


          เจียงเฉินหยิบหนังสือทักษะอีกเล่มออกมา เมื่อเขากำลังจะโยนเก็บเข้าแหวนเก็บของ เขาก็ได้เห็นชื่อที่เขียนอยู่บนหนังสือ ตาของเขาก็ส่องประกายออกมา


” ทักษะอัสนีบาต “


          ถ้าเป็นทักษะทั่วไปเจียงเฉินไม่แม้แต่ชายตามองมัน ทักษะทั่วไปไหนจะเทียบได้กับหกดัชนีสุริยะ ซึ่งมาจากทักษะพลังเก้าสุริยัน แต่อย่างไรก็ตามทักษะอัสนีบาตนั้นต่างกัน ทักษะนี้สามารถใช้ควบคู่กับขวานอัสนีได้


          ขวานอัสนีเป็นยุทธภัณฑ์ระดับสูง เมื่อใช้กับทักษะที่เหมาะสมพลังของมันจะเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว


” ข้าสามารถใช้ทักษะนี้เพิ่มพลังให้ขวานอัสนีได้ “


          เจียงเฉินเก็บทักษะอัสนีบาตไว้ ตลอดการเดินทางมายังเมืองสุริยันโคจรได้รับสิ่งที่คุ้มค่ามากมาย ไม่เพียงแต่ได้เข้าร่วมนิกายทมิฬ อีกทั้งยังได้พบสมบัติมากมาย


” ก๊ะก่ะกะ…. “


          ในตอนนี้หวงต้าหัวเราะออกมาเสียงดัง จนเจียงเฉินและหยานเฉินหยู่ต้องหันไปมองที่มันเมื่อเห็นเจ้าหมานี่มันขุดเอาเศษเหล็กจากมุมของห้องลับ อุ้งเท้าของมันวางอยู่รอบเศษเหล็ก น้ำลายของมันไหลย้อยออกมา


” อย่าบอกนะว่าเจ้าลูกหมาเป็นบ้าไปแล้ว! เศษเหล็กนี้มีอะไรให้มันสนใจกันแน่? “


หยานเฉินอยู่ ถามด้วยท่าทีงุนงง


” เจ้าหมานั่นไม่ได้บ้าหรอก ดูเหมือนว่าเศษเหล็กนั่นคงเป็นสมบัติที่มันกำลังตามหาอยู่น่ะ “


          เจียงเฉินหรี่ตาของเขาลง เขามองไปยังเศษเหล็กในแขนของหวงต้า เศษเหล็กนี้มีความยาวประมาณสองเมตร ความกว้างประมาณฝ่ามือ เหล็กขึ้นสนิมไปหมดแล้ว สิ่งนี้ต่อให้โยนลงบนถนนที่มีคนพลุกพล่านก็ยังไม่มีใครเหลียวแล


          สิ่งนี้มันสำคัญขนาดนั้นเชียวรึ จากการมองของเจียงเฉินผู้ซึ่งเคยเป็นเซียนผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ยังไม่สามารถบอกได้ถึงความแตกต่างระหว่างสิ่งนี้กับเศษเหล็กทั่วไป อย่างไรก็ตามเขาก็บอกได้ว่าเศษเหล็กนี้เป็นส่วนหนึ่งของดาบที่แตกหัก เจียงเฉินสัมผัสถึงความผันผวนของพลังหรือจิตของดาบจากมันไม่ได้เลย    มันไม่มีอะไรพิเศษนอกจากชิ้นส่วนของดาบที่แตกหักไป


          ด้วยการประเมินของเจียงเฉิน หากว่ามันเป็นชิ้นส่วนของสุดยอดอาวุธขั้นเซียนอยู่ต่อหน้าเขา เขาสามารถรับรู้ได้    แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถรับรู้อย่างอื่นได้นอกจากเศษเหล็ก    มันสามารถอธิบายได้สองอย่าง อย่างแรกเศษเหล็กนี่เป็นเพียงชิ้นส่วนดาบทั้วไป และ อีกอย่างคือเศษเหล็กนี้มาจากอะไรบางอย่างที่เหนือยิ่งกว่าขั้นเซียน    เป็นอะไรบางอย่างที่แม้แต่เจียงเฉินยังไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร


          เจียงเฉินเชื่อในความสามารถของเจ้าหวงต้า เจ้าหมานี่มันคงไม่ตกหลุมรักเศษเหล็กเป็นแน่


” หวงต้า สิ่งนั้นมันคืออะไร? “


เจียงเฉินถาม


” เจ้าตาบอดรึไง! เศษเหล็กนี้คือชิ้นส่วนของดาบที่แตกหัก! เหนือสิ่งอื่นใดสิ่งนี้เป็นของข้า! ข้าขอเตือนอย่าพยายามที่จะขโมยไปจากนายท่านผู้นี้! “


          หวงต้ากอดดาบที่แตกหักไว้แน่น มันกลัวว่าเจียงเฉินจะแย่งไปจากมัน


          เมื่อหวงต้ามีปฏิกิริยาเช่นนี้ ทำให้เจียงเฉินรู้สึกว่าดาบที่แตกหักนี่ต้องมีบางอย่างที่ไม่ธรรมดาแน่


” ฮี่ฮี่ หวงต้า เจ้าให้ข้าดูหน่อยสิ    ข้าให้สัญญาข้าจะไม่แย่งมันไปจากเจ้า “


เจียงเฉินยิ้มให้หวงต้าอย่างเป็นมิตร


” ไปให้พ้น! อย่าพยายามใช้ลูกไม้กับข้า ข้าบิดาผู้นี้! หามันพบด้วยตัวข้าเอง! “


          หวงต้าเปิดปากที่กว้างของมันแล้วกลืนดาบที่แตกหักเข้าไป


” บัดซบ!! “


          เจียงเฉินกรอกตาของเขา ดูเหมือนว่าการจะเอาสมบัติออกจากปากของหวงต้า    นั้นยากเสียยิ่งกว่าปีนขึ้นไปบนสวรรค์เสียอีก    ดูเหมือนเขาจำต้องยอมแพ้ก่อนในตอนนี้แล้วคิดหาทางเอามาในอนาคต


” บัดซบน้องสาวเจ้าสิ! มาถึงตอนนี้เจ้าได้ผลประโยชน์มากมาย  เจ้าควรที่จะร้องให้และขอบคุณบิดาเจ้าซะเสียตอนนี้ “


          หวงต้ามองเจียงเฉิน อย่างไม่พอใจกับท่าทีของเจียงเฉิน


          หลังจากนั้นทั้งสามก็ได้ออกมาจากห้องลับ และเดินไปยังหอการค้านิกายทมิฬ


” หวงต้า ดาบที่แตกหักนั่นเป็นสมบัติประเภทไหนรึ? “


          ตลอดทางดูเหมือนเจียงเฉินจะยังไม่ยอมแพ้ บางสิ่งที่เขาสัมผัสไม่ได้ แน่นอนว่ามันทำให้เขาสนใจมันอย่างหาที่สุด


” ข้าไม่รู้ ข้ารู้แต่เพียงว่ามันเป็นสมบัติ “


หวงต้ากระดิกหางของมัน


” ให้ข้าดูหน่อยนะ ข้าสัญญาว่าข้าจะคืนมันให้แก่เจ้า “


” ไม่มีทาง! “


” บ้าเอ้ย! “


” แฮ่…! “


…………………………………………………………


          เมื่อพวกเขากลับมาถึงลานที่พัก เจียงเฉินก็ไม่สามารถทำตามความปรารถนาของเขาที่จะแย่งดาบที่แตกหักมาจากหวงต้าได้    ท้ายที่สุดเขาจึงทำได้เพียงยอมแพ้ เจ้าหมานี่มันไม่เพียงแค่ฉลาด แต่มันยังมีความคิดที่ชั่วร้าย มันเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง


” ท่านพี่เจียงเฉิน เมื่อไรเราจะได้ไปที่นิกายทมิฬอย่างนั้นหรือ? “


หยานเฉินหยู่ กล่าวถาม


” ในตอนนี้พี่จำต้องดูดซับผลไม้โลกก่อน    เราจะรอจนกว่าพี่จะทะลวงเข้าสู้แก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางก่อน พวกเราถึงเริ่มเดินทางไปยังนิกายทมิฬ  ถ้าทุกอย่างราบรื่นเราคงออกจากที่นี่ประมาณเที่ยงวันพรุ่งนี้ “


          เจียงเฉินพูด เขาเข้าใจกฎของโลกใบนี้ ไม่ว่าจะที่ไหน เมื่อไร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสามารถ ความแข็งแกร่งเท่านั้นคือสมบัติที่แท้จริง และเป็นสิ่งเดียวที่ผู้คนนับถือ เมื่อเจียงเฉินถึงแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลาง มูลค่าของเจียงเฉินจะเพิ่มมากขึ้น


          หลังจากกลับเข้าไปในห้อง เขาก็เริ่มปิดประตูบ่มเพาะพลังเพื่อดูดซับผลไม่โลก    หยานเฉินหยู่และหวงต้ายืนคุ้มกันอยู่ที่ลานที่พัก   ปกป้องเจียงเฉินจากการรบกวนใดๆ


          เจียงเฉินนั่งลงขาของเขาไขว้กัน จากนั้นก็นำผลไม้โลกออกมาจากแหวนเก็บของ    ผลไม้โลกขนาดเท่ากำปั้นมันเปล่งแสงสีเหลือง และมีพลังงานที่เข้มข้นไหลล้นออกมาจากมัน


=========================================================


จบแล้วจ้า ฝันดีนะ 🙂

 

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments