ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
แปลโดย Subaru-Kyun
ตรวจทาน Subaru-Kyun
=========================================================
หวงต้าเตรียมที่จะเห็นอะไรสนุกๆจากเจียงเฉิน หากเขาทำพลาดพลังนั้นจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเขาเอง แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่เคยทำผิดพลาด เจียงเฉินสามารถทำลายมันลงได้อย่างง่ายดาย นี่ทำให้มันถึงกับมึนงงว่าเขาทำได้อย่างไร
” เจ้ามันเป็นสัตว์ประหลาดขนานแท้เลย ให้ตายสิ! “
หวงต้าพูดด้วยท่าทีไม่พอใจ
” ท่านพี่เจียงเฉิน ดูนั่นสิ ! มีทางเดินอยู่ด้วย! “
หยานเฉินหยู่ชี้ไปยังที่ที่เมื่อสักครู่มีกลไกป้องกันอยู่ แต่ประตูเก่าๆได้หายไปแล้ว ปรากฏทางเดินที่มืดมิดขึ้น
” ไปตรวจสอบดูกันเถอะ! “
หวงต้าพุ่งออกไปข้างหน้า มันเข้าไปยังทางเดินคน(?)แรก
เจียงเฉินและหยานเฉินหยู่เดินตามมันไป ทางเดินนี้ไม่ได้กว้างมากแต่ก็เพียงพอให้คนสองคนเดินผ่านไปได้พร้อมกัน
” ทางเดินนี้ดูเหมือนว่ามันจะลงไปข้างล่างนะ ดูเหมือนว่าสมบัติลับนั่นจะซ่อนอยู่ใต้พื้นดิน ไม่คิดว่าจนถึงตอนนี้มันยังไม่ถูกค้นพบ มันซ่อนได้แนบเนียนเสียจริง “
เจียงเฉิน พูด
” ฮ่าฮ่า… ข้าได้กลิ่นของสมบัติหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ “
ตาทั้งสองข้างของหวงต้าส่องประกาย มันรีบกระโจนลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว
ทางเดินนี้ไม่ได้มีความยาวมากนัก หลังจากพวกเขาเดินทางไปเพียงแค่สิบเมตรเท่านั้น พวกเขาก็ถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางนี้ มันไม่ได้มีพื้นที่ขนาดใหญ่มากมายอะไร เนื้อที่ของมันเพียงแค่ประมาณบ้านสามหลังเท่านั้น มันถูกรายล้อมไปด้วยกลิ่นอายที่เย็นยะเยือก กำแพงหินอันแข็งแกร่ง บนตัวกำแพงหินมีหินดวงจันทร์ขนาดเท่ากำปั้นเปล่งแสงสลัวๆท่ามกลางความมืด
หินดวงจันทร์เป็นของหายาก แต่มันไม่ได้มีมูลค่ามากนักเป็นได้เพียงแค่ของตกแต่งเท่านั้น ดังนั้นเจียงเฉินและหวงต้าจึงไม่ได้สนใจมันเท่าไรนัก
” อ้ะ.. ท่านพี่เจียงเฉินนั่นมัน! มีโครงกระดูกอยู่ด้วย! “
หยานเฉินหยู่ตะโกนออกมา เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจียงเฉินและหวงต้าหันไปมองตามนาง ก็พบโครงกระดูกนั่งอยู่บนพื้นกลางห้องลับ กระดูกนั้นผุกร่อนไปหมดแล้ว มีรูเล็กๆทั่วทั้งร่างกาย มันดูเหมือนแค่โดนกระแสลมก็สามารถทำให้มันกลายเป็นขี้เถ้าได้ ชายคนนี้ได้ตายมานานมากแล้ว
” นี่คงเป็นยอดฝีมือแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ “
เจียงเฉินกล่าวขึ้น
มันไม่มีสิ่งอื่นในห้องลับนี้ ไม่มีสมบัติแม้แต่ชิ้นเดียว ด้านข้างโครงกระดูกมีเพียงกระเป๋าเก็บของสีเหลืองอ่อนตั้งอยู่ หวงต้าเข้าไปตรวจดูกระเป๋าเก็บของแต่ไม่พบสิ่งใดน่าสนใจ แต่จมูกของมันกำลังดมกลิ่นเผื่อมันจะหาอะไรบางอย่างพบ
เจียงเฉินไม่สนใจอะไรมาก เขาทำท่าคว้ากระเป๋าเก็บของจากไกลๆ จากนั้นดูเหมือนว่ากระเป๋าเก็บนั้นจะถูกเรียกไปหาเขา มันพุ่งไปหาและหยุดอยู่บนมือของเขา
เขาส่งพลังหยวนลงไปในกระเป๋า ทันใดที่เขาก็เห็นสิ่งที่อยู่ในกระเป๋า
เขาพลิกฝ่ามือของเขาขึ้นมา ปรากฏเม็ดยาขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือบนฝ่ามือของเขา เม็ดยาดูคล้ายกับยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์ แต่พลังงานของมันมากกว่ายาฟื้นพลังขั้นมนุษย์อยู่มาก
” ท่านพี่เจียงเฉิน นั่นมันเม็ดยาอะไรหรอ? ดูเหมือนยาฟื้นพลังมนุษย์มากเลย แต่ข้าแน่ใจว่ามันไม่ใช่ยาฟื้นพลังมนุษย์ “
หยานเฉินหยู่ กล่าวถาม
” นี่เป็นยาฟื้นพลังขั้นปฐพี แถมยังเป็นยาฟื้นพลังปฐพีที่มีประสิทธิภาพเต็มสิบส่วน แถมในกระเป๋านี่ยังมีถึงสิบเม็ด! ฮ่าฮ่า….นี่มันโชคดีจริงๆ “
เ จียงเฉินตกตะลึงเป็นอย่างมาก มูลค่าของยาฟื้นพลังขั้นปฐพีไม่สามารถเอามาเทียบกับยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์ได้ อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพเต็มสิบส่วน โดยทั่วไปแล้วยาฟื้นพลังขั้นปฐพีหนึ่งเม็ดมีค่าเท่ากับยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์ถึงหนึ่งหมื่นเม็ด ความแตกต่างของยาฟื้นพลังนั้นมากมายมหาศาลเหลือเกิน
โดยทั่วไปแล้ว ขั้นฉีไห่ แก่นแท้มนุษย์ แก่นแท้สวรรค์ ทั้งหมดนั้นใช้ยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์ มีเพียงผู้ที่ไปถึงแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นปลาย พลังงานจากยาฟื้นพลังมนุษย์นั้นไม่เพียงพอต่อพวกเขา พวกเขาจำเป็นต้องใช้อะไรบางอย่างที่มีพลังงานมากกว่า เช่นยาฟื้นพลังขั้นปฐพี
มีเพียงยอดฝีมือแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ กับ ยอดฝีมือจิตวิญญาณยุทธเท่านั้นที่มีเม็ดยาหายากอย่างยาฟื้นพลังขั้นปฐพี แต่นี่มียาฟื้นพลังขั้นปฐพีถึงสิบเม็ด เท่ากับยาฟื้นพลังมนุษย์ถึงหนึ่งแสนเม็ด หากมีใครต้องการใช้ยาฟื้นมนุษย์หนึ่งแสนเม็ดเพื่อแลกกับยาฟื้นพลังปฐพีถึงสิบเม็ด คงไม่มีใครต้องการแลก
เจียงเฉินได้บ่มเพาะพลังด้วยทักษะร่างแปลงมังกร ซึ่งจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากมายมหาศาล ไม่ว่าพลังงานของเม็ดยาหนึ่งเม็ดจะมีมากมายขนาดไหน มันก็ไม่เพียงพอต่อเขา แต่เขามียาฟื้นพลังขั้นปฐพีถึงสิบเม็ด รวมกับยาฟื้นพลังมนุษย์อีกสามหมื่นเม็ดที่หวงต้ามันไปโกงมาจากคนอื่น และเขายังมีเก็บอีกประมาณหนึ่งหมื่นเม็ด รวมแล้วเจียงเฉินมีประมาณหนึ่งแสนสีหมื่นเม็ด ปริมาณจำนวนมากขนาดนี้เพียงพอให้เขาทะลวงพลังจนถึงแก่นแท้สวรรค์ขั้นปลายได้
หรือจะพูดอีกอย่าง ในเวลาอันสั้นนี้เจียงเฉินจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเม็ดยาอีกต่อไป นี้มันช่วยเขาได้มาก
เจียงเฉินเก็บยาฟื้นพลังขั้นปฐพีทั้งสิบเม็ดเข้าไปในแหวนเก็บของ จากนั้นเขาก็หยิบขวานออกมาจากกระเป๋าสีเหลืองอ่อน ขวานมีความยาวถึงสามเมตรมันเรืองแสงสีทองอ่อน ขวานนี้แหลมคมมาก และมันยังหนักถึง 1000 ปอนด์ เจียงเฉินเหวี่ยงขวานอย่างสบายๆ เมื่อขวานถูกเหวี่ยงออก มันทำให้เกิดเสียงดังเสียดแทงขึ้นมากวางอากาศ
” ช่างเป็นขวานที่ทรงพลังอะไรขนาดนี้ “
หยานเฉินหยู่รู้สึกประหลาดใจ
” นี่คือยุทธภัณฑ์ระดับสูง ! พลังของยุทธภัณฑ์ระดับสูงนั้นมากเหนือจินตนาการ ถ้าหากข้าใช้ขวานเล่มนี้ ข้าสามารถสู้กับยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ได้อย่างแน่นอน “
ดวงตาของเจียงเฉินเป็นประกาย ทั่วร่างของเขาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น
” มีตัวอักษรสลักอยู่บนขวานด้วย “
หยานเฉินหยู่ชี้ไปที่ตัวอักษรที่สลักอยู่ เจียงเฉินหันด้ามจับไปอีกด้านเห็นตัวอักษร ‘ขวานอัสนี’ สลักอยู่
แค่ชื่อเพียงอย่างเดียว ก็สามารถบ่งบอกถึงความไม่ธรรมดาของขวานเล่มนี้ เจียงเฉินพึงพอใจเป็นอย่างมาก ด้วยขวานอัสนีเล่มนี้ ในตอนนี้เขาก็มีเครื่องมือที่ทรงพลังชิ้นหนึ่งอยู่ในมือของเขาแล้ว
ยอดฝีมือแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ทิ้งสมบัติไว้ให้เขามากมาย นอกจากขวานอัสนี กับยาฟื้นพลังขั้นปฐพี ยังมีหนังสือทักษะลับอีกสองเล่มอยู่ข้างในกระเป๋าเก็บของ หนึ่งในนั้นคือทักษะคลื่นวายุโหมกระหน่ำ เป็นทักษะขั้นปฐพี แต่เจียงเฉินไม่แม้แต่จะมองโยนมันเข้าแหวนเก็บของ หลังจากที่เขาได้บ่มเพาะพลังด้วยทักษะร่างแปลงมังกร ในตอนนี้จึงไม่มีทักษะบ่มเพาะใดๆในโลกนี้จำเป็นกับเขาอีกต่อไป
เจียงเฉินหยิบหนังสือทักษะอีกเล่มออกมา เมื่อเขากำลังจะโยนเก็บเข้าแหวนเก็บของ เขาก็ได้เห็นชื่อที่เขียนอยู่บนหนังสือ ตาของเขาก็ส่องประกายออกมา
” ทักษะอัสนีบาต “
ถ้าเป็นทักษะทั่วไปเจียงเฉินไม่แม้แต่ชายตามองมัน ทักษะทั่วไปไหนจะเทียบได้กับหกดัชนีสุริยะ ซึ่งมาจากทักษะพลังเก้าสุริยัน แต่อย่างไรก็ตามทักษะอัสนีบาตนั้นต่างกัน ทักษะนี้สามารถใช้ควบคู่กับขวานอัสนีได้
ขวานอัสนีเป็นยุทธภัณฑ์ระดับสูง เมื่อใช้กับทักษะที่เหมาะสมพลังของมันจะเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว
” ข้าสามารถใช้ทักษะนี้เพิ่มพลังให้ขวานอัสนีได้ “
เจียงเฉินเก็บทักษะอัสนีบาตไว้ ตลอดการเดินทางมายังเมืองสุริยันโคจรได้รับสิ่งที่คุ้มค่ามากมาย ไม่เพียงแต่ได้เข้าร่วมนิกายทมิฬ อีกทั้งยังได้พบสมบัติมากมาย
” ก๊ะก่ะกะ…. “
ในตอนนี้หวงต้าหัวเราะออกมาเสียงดัง จนเจียงเฉินและหยานเฉินหยู่ต้องหันไปมองที่มันเมื่อเห็นเจ้าหมานี่มันขุดเอาเศษเหล็กจากมุมของห้องลับ อุ้งเท้าของมันวางอยู่รอบเศษเหล็ก น้ำลายของมันไหลย้อยออกมา
” อย่าบอกนะว่าเจ้าลูกหมาเป็นบ้าไปแล้ว! เศษเหล็กนี้มีอะไรให้มันสนใจกันแน่? “
หยานเฉินอยู่ ถามด้วยท่าทีงุนงง
” เจ้าหมานั่นไม่ได้บ้าหรอก ดูเหมือนว่าเศษเหล็กนั่นคงเป็นสมบัติที่มันกำลังตามหาอยู่น่ะ “
เจียงเฉินหรี่ตาของเขาลง เขามองไปยังเศษเหล็กในแขนของหวงต้า เศษเหล็กนี้มีความยาวประมาณสองเมตร ความกว้างประมาณฝ่ามือ เหล็กขึ้นสนิมไปหมดแล้ว สิ่งนี้ต่อให้โยนลงบนถนนที่มีคนพลุกพล่านก็ยังไม่มีใครเหลียวแล
สิ่งนี้มันสำคัญขนาดนั้นเชียวรึ จากการมองของเจียงเฉินผู้ซึ่งเคยเป็นเซียนผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ยังไม่สามารถบอกได้ถึงความแตกต่างระหว่างสิ่งนี้กับเศษเหล็กทั่วไป อย่างไรก็ตามเขาก็บอกได้ว่าเศษเหล็กนี้เป็นส่วนหนึ่งของดาบที่แตกหัก เจียงเฉินสัมผัสถึงความผันผวนของพลังหรือจิตของดาบจากมันไม่ได้เลย มันไม่มีอะไรพิเศษนอกจากชิ้นส่วนของดาบที่แตกหักไป
ด้วยการประเมินของเจียงเฉิน หากว่ามันเป็นชิ้นส่วนของสุดยอดอาวุธขั้นเซียนอยู่ต่อหน้าเขา เขาสามารถรับรู้ได้ แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถรับรู้อย่างอื่นได้นอกจากเศษเหล็ก มันสามารถอธิบายได้สองอย่าง อย่างแรกเศษเหล็กนี่เป็นเพียงชิ้นส่วนดาบทั้วไป และ อีกอย่างคือเศษเหล็กนี้มาจากอะไรบางอย่างที่เหนือยิ่งกว่าขั้นเซียน เป็นอะไรบางอย่างที่แม้แต่เจียงเฉินยังไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร
เจียงเฉินเชื่อในความสามารถของเจ้าหวงต้า เจ้าหมานี่มันคงไม่ตกหลุมรักเศษเหล็กเป็นแน่
” หวงต้า สิ่งนั้นมันคืออะไร? “
เจียงเฉินถาม
” เจ้าตาบอดรึไง! เศษเหล็กนี้คือชิ้นส่วนของดาบที่แตกหัก! เหนือสิ่งอื่นใดสิ่งนี้เป็นของข้า! ข้าขอเตือนอย่าพยายามที่จะขโมยไปจากนายท่านผู้นี้! “
หวงต้ากอดดาบที่แตกหักไว้แน่น มันกลัวว่าเจียงเฉินจะแย่งไปจากมัน
เมื่อหวงต้ามีปฏิกิริยาเช่นนี้ ทำให้เจียงเฉินรู้สึกว่าดาบที่แตกหักนี่ต้องมีบางอย่างที่ไม่ธรรมดาแน่
” ฮี่ฮี่ หวงต้า เจ้าให้ข้าดูหน่อยสิ ข้าให้สัญญาข้าจะไม่แย่งมันไปจากเจ้า “
เจียงเฉินยิ้มให้หวงต้าอย่างเป็นมิตร
” ไปให้พ้น! อย่าพยายามใช้ลูกไม้กับข้า ข้าบิดาผู้นี้! หามันพบด้วยตัวข้าเอง! “
หวงต้าเปิดปากที่กว้างของมันแล้วกลืนดาบที่แตกหักเข้าไป
” บัดซบ!! “
เจียงเฉินกรอกตาของเขา ดูเหมือนว่าการจะเอาสมบัติออกจากปากของหวงต้า นั้นยากเสียยิ่งกว่าปีนขึ้นไปบนสวรรค์เสียอีก ดูเหมือนเขาจำต้องยอมแพ้ก่อนในตอนนี้แล้วคิดหาทางเอามาในอนาคต
” บัดซบน้องสาวเจ้าสิ! มาถึงตอนนี้เจ้าได้ผลประโยชน์มากมาย เจ้าควรที่จะร้องให้และขอบคุณบิดาเจ้าซะเสียตอนนี้ “
หวงต้ามองเจียงเฉิน อย่างไม่พอใจกับท่าทีของเจียงเฉิน
หลังจากนั้นทั้งสามก็ได้ออกมาจากห้องลับ และเดินไปยังหอการค้านิกายทมิฬ
” หวงต้า ดาบที่แตกหักนั่นเป็นสมบัติประเภทไหนรึ? “
ตลอดทางดูเหมือนเจียงเฉินจะยังไม่ยอมแพ้ บางสิ่งที่เขาสัมผัสไม่ได้ แน่นอนว่ามันทำให้เขาสนใจมันอย่างหาที่สุด
” ข้าไม่รู้ ข้ารู้แต่เพียงว่ามันเป็นสมบัติ “
หวงต้ากระดิกหางของมัน
” ให้ข้าดูหน่อยนะ ข้าสัญญาว่าข้าจะคืนมันให้แก่เจ้า “
” ไม่มีทาง! “
” บ้าเอ้ย! “
” แฮ่…! “
…………………………………………………………
เมื่อพวกเขากลับมาถึงลานที่พัก เจียงเฉินก็ไม่สามารถทำตามความปรารถนาของเขาที่จะแย่งดาบที่แตกหักมาจากหวงต้าได้ ท้ายที่สุดเขาจึงทำได้เพียงยอมแพ้ เจ้าหมานี่มันไม่เพียงแค่ฉลาด แต่มันยังมีความคิดที่ชั่วร้าย มันเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง
” ท่านพี่เจียงเฉิน เมื่อไรเราจะได้ไปที่นิกายทมิฬอย่างนั้นหรือ? “
หยานเฉินหยู่ กล่าวถาม
” ในตอนนี้พี่จำต้องดูดซับผลไม้โลกก่อน เราจะรอจนกว่าพี่จะทะลวงเข้าสู้แก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางก่อน พวกเราถึงเริ่มเดินทางไปยังนิกายทมิฬ ถ้าทุกอย่างราบรื่นเราคงออกจากที่นี่ประมาณเที่ยงวันพรุ่งนี้ “
เจียงเฉินพูด เขาเข้าใจกฎของโลกใบนี้ ไม่ว่าจะที่ไหน เมื่อไร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสามารถ ความแข็งแกร่งเท่านั้นคือสมบัติที่แท้จริง และเป็นสิ่งเดียวที่ผู้คนนับถือ เมื่อเจียงเฉินถึงแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลาง มูลค่าของเจียงเฉินจะเพิ่มมากขึ้น
หลังจากกลับเข้าไปในห้อง เขาก็เริ่มปิดประตูบ่มเพาะพลังเพื่อดูดซับผลไม่โลก หยานเฉินหยู่และหวงต้ายืนคุ้มกันอยู่ที่ลานที่พัก ปกป้องเจียงเฉินจากการรบกวนใดๆ
เจียงเฉินนั่งลงขาของเขาไขว้กัน จากนั้นก็นำผลไม้โลกออกมาจากแหวนเก็บของ ผลไม้โลกขนาดเท่ากำปั้นมันเปล่งแสงสีเหลือง และมีพลังงานที่เข้มข้นไหลล้นออกมาจากมัน
=========================================================
จบแล้วจ้า ฝันดีนะ 🙂