I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 115 เขาหมื่นอสูร

| Dragon-Marked War God | 1417 | 2365 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทยโดย  : Takumi Kun


ตรวจทาน        : Subaru-Kyun

=======================================================

เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด น่าตกตะลึงเกินไปแล้ว


สิ่งที่เจียงเฉินตอบดั่งสายฟ้าฟาดลงมาใส่หัวของกั๋วฉาน    ก่อนหน้านี้เขาได้พยายามที่จะปรุงยาศิลาวิญญาณหวง แต่เขาไม่สามารถที่จะผสมหญ้าบาเล่ย์และผลศิลาหวงรวมเข้าด้วยกันได้ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้เตาเกิดการระเบิดขึ้น ในความคิดเขา นี่เกือบเป็นอุปสรรคที่ใหญ่หลวงที่สุด    เมื่อเจียงเฉินได้ยินคำถามของเขา ไม่เพียงเขาสามารถที่จะไขปัญหานี้ได้ เขาสามารถที่จะบอกชื่อยาที่ตัวเขากำลังปรุงได้อีกด้วย


ที่สำคัญที่สุด เมื่อเจียงเฉินตอบคำถามของกั๋วฉาน มันไม่แม้จะทำให้เขาได้ใช้เวลาคิดแม้เพียงเสี้ยววินาที เขาได้ตอบออกมาเหมือนกับว่าทฤษฎีและการแก้ปัญหานั้นได้ฝังรากลึกในความคิดของเขา


” สวรรค์! ใช้คริสตัลทรายชั้นหนึ่งในการช่วยผสานหญ้าบาเล่ย์และผลศิลาหวงเข้าด้วยกัน เหตุใดข้าถึงนึกไม่ถึงก่อนหน้านี้กัน? “


มันเป็นที่ชัดเจนสำหรับกั๋วฉานและเขารู้สึกราวกับได้รู้แจ้ง เขาเป็นเหมือนนักเรียนผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับคำถามและอาจารย์ได้บอกเขาถึงวิธีแก้ไขปัญหาให้แก่เขา


” ข้าจะสามารถปรุงยาสวรรค์เชี่ยวที่มีประสิทธิภาพสิบส่วนได้เช่นไร? “


กั๋วฉานถาม


” ยาสวรรค์เชี่ยวไม่ใช่ยาที่มีคุณภาพระดับสูงสุด แต่มันสามารถช่วยผู้ฝึกตนในการเพิ่มพูนสมาธิต่อสัมผัสเทวะของพวกเขา     แม้ว่ามันจะไม่ใช่ยาคุณภาพระดับสูงสุด เพราะมันปรุงออกมาได้ยากมาก    สัมผัสเทวะคือรากฐานของมนุษย์ มันไม่อาจที่จะได้รับความเสียหายได้เพราะฉะนั้น มีเพียงยาสวรรค์เชี่ยวที่มีคุณภาพสิบส่วนเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ หากต่ำกว่าสิบส่วน ล้วนไร้ค่า “


เจียงเฉินยิ้มแล้วกล่าวขึ้นต่อ ” ในการที่จะปรุงยาสวรรค์เชี่ยว    ผลโบราณเป็นวัตถุดิบหลัก ผลนี้ควรมีอายุแปดสิบปีจะดีที่สุด หากแก่กว่านี้ ส่วนนั้นจะใหญ่เกินไป   มันยากที่จะควบคุม หากอ่อนกว่านี้มันอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของยาสวรรค์เชี่ยว   ดังนั้นการที่จะปรุงยาสวรรค์เชี่ยวประสิทธิภาพสิบส่วน   นอกเหนือจากทักษะปรุงยา ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคืออายุของผลโบราณ “


ดวงตาของกั๋วฉานเบิกกว้างยิ่งขึ้น    มุมมองที่มีต่อเจียงเฉินเปลี่ยนไปโดยสมบูรณ์คำถามนี้เป็นปัญหาต่อเขาเป็นเวลานานแล้ว   แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับเขาเหมือนเขารอบรู้ในทุกเรื่อง เพียงแค่ไม่กี่คำเขาก็สามารถแก้ไขปัญหาของกั๋วฉานได้


” กลีบดอกไม้นรกสามารถที่จะปรุงยาอัคคีได้หรือไม่? “


กัวฉานถามอีกครั้ง


” แน่นอนว่าสามารถทำได้ ดอกไม้นรกเป็นดอกไม้มีพิษร้ายแรง และพิษของมันจำเป็นต้องนำมาผสมกับเกสรตัวเมียของดอกกระเรียนแดง ที่เป็นสมุนไพรมีพิษ ไม่เพียงแค่ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพยาอัคคี ยังยังเพิ่มความเข้มข้นให้ยาอีกด้วย “


เจียงเฉิน กล่าว


‘ บ้าเอ๊ย… ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าดอกไม้นรกและเกสรตัวเมียของดอกกระเรียนแดงสามารถใช้เช่นนี้ได้ด้วยหรือ! ‘


กั๋วฉานประหลาดใจอีกครั้ง  ตอนนี้เขาได้ลืมว่าเจียงเฉินเป็นศิษย์นอก   มุมมองของเขาที่มีต่อเจียงเฉินเต็มไปด้วยความชื่นชม


” เจียงเฉิน เจ้าจะแก้ปัญหาที่พลังวิญญาณกระสับกระส่ายได้อย่างไร? “


กั๋วฉานถามอีกครั้ง


” เหตุที่ว่าพลังวิญญาณของคนผู้หนึ่งกระสับกระส่ายนั่น เป็นเพราะว่า พวกเขาหุนหันพลันแล่นพยายามที่จะได้รับผลลัพธ์อย่างรวดเร็วจากการบ่มเพาะทักษะวิญญาณ ต้องตามด้วยการพัฒนาขึ้นทีละเล็กทีละน้อย “


เจียงเฉินตอบ


” ข้าขอถามเจ้าเรื่อง… “



……………………………………….


          กั๋วฉานถามคำถามต่ออีกมากมาย    คำถามทั้งหมดที่เขาถามไปล้วนเป็นคำถามที่สร้างปัญหาให้แก่เขามาหลายปี   เขาไม่สามารถหาคำตอบเหล่านี้ได้   คำถามเหล่านี้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้การเติบโตของนักเล่นปรุงยาของเขาชะลอลง


อย่างไรก็ตาม วันนี้เจียงเฉินได้ตอบทุกคำถามของเขา กั๋วฉานรู้สึกเหมือนเงาที่บดบังใจของเขาได้สลายหายไป และทักษะปรุงยาของเขาก็เพิ่มขึ้นในเวลาเดียวกัน


” ฮ่าฮ่า… ประเสริฐ สมบูรณ์แบบ! น้องเจียง เจ้าเป็นอัจฉริยะที่หาผู้ใดเทียบโดยแท้! เจ้าได้ช่วยข้าแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่ข้ามีปัญหาในหลายปีที่ผ่านมา! รับการคารวะจากข้ากั๋วฉานด้วย! “


กั๋วฉานหัวเราะเสียงดัง แล้วเขาก็โค้งคำนับอย่างลึกซึ้งต่อเจียงเฉิน


เจียงเฉินยิ้มและรับการคารวะจากเขา มันเป็นเกียรติของกั๋วฉานที่ได้รับการชี้แนะจากเจียงเฉิน นอกจากนี้เจียงเฉินรู้ว่ากั๋วฉานได้ทุ่มพลังทั้งหมดของเขาไปกับการปรุงยา   ความเพียรของเขาไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วๆไปสามารถที่จะเข้าใจได้ คำตอบที่เขาให้แก่กั๋วฉาน ไม่มีสักข้อที่สามารถตีค่าได้ด้วยเงิน การคารวะของกั๋วฉานแสดงออกถึงความขอบคุณของเขา


” อย่าได้ใส่ใจเลยท่านผู้อาวุโสกั๋ว ข้าแค่บังเอิญผ่านมาเอง “


เจียงเฉินยิ้ม


” ไม่ต้องเรียกข้าว่าผู้อาวุโสหรอก แค่พี่ก็พอ แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของข้าจะอยู่สูงกว่าเจ้า เมื่อเป็นเรื่องของศาสตร์การปรุงยา เจ้าคือศิษย์พี่ของข้า แต่อย่างไรข้าก็อาวุโสกว่าเจ้า งั้นเรียกข้าว่าพี่ก็แล้วกัน “


กั๋วฉานเอามือตบเข้าที่บ่าเจียงเฉินแรงพอควร


” พี่กั๋ว “


เจียงเฉินทำตามที่กั๋วฉานบอกเขา เขาสามารถที่จะบอกได้ว่ากั๋วฉานเป็นบุรุษโดยธรรมชาติ และเขาไม่เคยจำกัดตัวเองด้วยวิธีการเก่าแก่ เจียงเฉินชอบคนเช่นนี้นอกจากนี้การที่ได้กลายเป็นพี่น้องกับนักปรุงยาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในนิกายทมิฬจะไม่นำภัยมาสู่เจียงเฉิน


ในนิกายทมิฬ มีเพียงแค่เจียงเฉินที่สามารถเป็นพี่น้องกับกั๋วฉานได้


” น้องเจียง โชคดีที่เจ้าได้ผ่านมา… หากไม่ล่ะก็ข้าก็ไม่รู้ว่าปัญหาจะได้รับคำตอบเมื่อใด อย่างไรก็ตาม มันทำให้ข้างงจริงๆ  เจ้าแตกฉานถึงเพียงนี้ได้อย่างไร การปรุงยานั้นไม่เหมือนสิ่งอื่นใด พวกเราจำเป็นต้องสำรวจสิ่งต่างๆตลอดทางเพื่อเพิ่มพูนความรู้ หากตัดสินจากสิ่งที่เจ้ารู้ ข้าคิดว่าเจ้าจักต้องใช้เวลาอย่างน้อยนับร้อยปีถึงจะขึ้นระดับเจ้าได้ แต่เจ้าเพิ่งอายุสิบห้าสิบหกปี นี่มันเป็นไปไม่ได้ “


กั๋วฉานประหลาดใจอย่างแท้จริง เขาไม่สามารถที่จะจินตนาการได้ว่าเด็กหนุ่มอายุสิบหน้าถึงสิบหกปีมีความรู้เกี่ยวกับการปรุงยา  หากว่าเขาไม่ได้ประสบมาด้วยตนเอง เขาคงไม่เชื่อว่าคนเช่นนี้จะมีตัวตนจริงๆ


” ข้าบอกท่านแล้วไม่ใช่หรือ? ข้าเป็นอัจฉริยะ “


เจียงเฉินยักไหล่อีกครั้ง


” บ้าจริง    อัจฉริยะไม่สามารถที่จะตัดสินได้จากสามัญสำนึก น้องเจียง ข้าคาดเดาว่าเจ้าเองก็เป็นนักปรุงยาด้วยเช่นกัน  ด้วยความรอบรู้ของเจ้า หากเจ้ามุ่งเน้นความพยายามทั้งหมดกับการปรุงยา ข้าแน่ใจว่าเจ้าจะได้เป็นนักปรุงยาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรุ่นของเจ้า นามของเจ้าจะได้แพร่กระจายไปทั่วโลก “


กั๋วฉาน กล่าว


” พี่กั๋ว การปรุงยาเป็นเพียงงานอดิเรกของข้า ข้าไม่ได้มุ่งเน้นมากนัก เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นจากการต่อสู้แล้ว ข้าชอบอย่างหลังมากกว่า “

เจียงเฉินแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า กั๋วฉานไม่มีทางเข้าใจมุมมองของเขาเป็นแน่

” เฮ้อ… ช่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามด้วยความรู้และความสามารถของเจ้า ข้าแน่ใจว่าเจ้าจะเป็นสุดยอดผู้ฝึกตนได้แน่ ตราบเท่าที่เจ้าเชี่ยวชาญการปรุงยาด้วย “

ถอนหายใจอีกครั้ง กั๋วฉานได้กล่าวขึ้นอีก ” ข้าได้ยินมาว่าเจ้าจะต้องต่อสู้กับหนานเป่ยเฉาหนึ่งปีหลังจากนี้สินะ “

” ถูกต้องแล้ว “

เจียงเฉินผงกศีรษะ

” หนานเป่ยเฉาผู้นั้นเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากของแคว้นฉีผู้ที่ได้รับพรจากเทพธิดาโชคลาภด้วยตัวนางเอง ความสำเร็จในอนาคตของเขานั้นไร้ขีดจำกัด…..หนึ่งปีนี่มันน้อยเกินไปสำหรับเจ้า “

กั๋วฉานพูด ข่าวที่ว่าจะต่อสู้กันภายในหนึ่งปีระหว่างเจียงเฉินและหนานเป่ยเฉาได้แพร่สะพัดทั่วแคว้นฉี แน่นอนว่ากั๋วฉานเองก็ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน   มีคำถามหรือไม่ว่าเจียงเฉินจะสามารถที่จะสู้กับหนานเป่ยเฉาในหนึ่งปีได้หรือไม่   แค่เพียงความกล้าอย่างเดียว เขาก็เหนือยิ่งกว่าใครๆ


” ข้าได้มีวิธีของข้า พี่กั๋วอย่าได้กังวล “


เจียงเฉินยิ้ม


          ในวันนั้นเอง เจียงเฉินและกัวฉานได้พูดคุยกันมากมาย กั๋วฉานได้เลี้ยงไวน์เจียงเฉินเป็นไวน์ที่กลั่นด้วยสมุนไพรสิบแปดชนิด    ข่าวลือนั้นไปไกลจริงๆ คนแรกที่ได้ชิมคือนักพรตทมิฬ คนที่สองคือเจียงเฉิน 


เมื่อตกเย็น เจียงเฉินจึงขอตัวลา 


” น้องเจียง หากต้องการสิ่งใดในนิกายทมิฬมาหาข้า กั๋วฉาน! “


กั๋วฉานกล่าวพร้อมทุบอกตัวเอง


” แน่นอน ข้าจะต้องมาที่นี่เพราะไวน์ของท่านเท่านั้น “


เจียงเฉินพูดพร้อมพลางหัวเราะคิกคัก


เมื่อได้ยินเช่นนี้ ท่าทีของกั๋วฉานเปลี่ยนไป ” ข้าคิดว่าเจ้าไม่มาที่นี่อีกคงจะดีกว่า…. “


เมื่อเจียงเฉินเอ่ยถึงไวน์ กั๋วฉานรู้สึกปวดใจเล็กน้อย เขานำไวน์ที่ดีที่สุดของเขามาเลี้ยงเจียงเฉิน ต้องการที่จะแสดงถึงทักษะการบ่มไวน์ของเขา อย่างไรก็ตามเขาไม่คาดคิดว่าเจ้าบ้านี่จะดื่มไวน์แทนน้ำเปล่า มันช่างเสียของนัก


เจียงเฉินกางปีกและบินออกจากภูเขาของกั๋วฉาน กลับไปยังที่พักของเขา กลายเป็นสหายกับกั๋วฉานมันเป็นสิ่งที่ดีต่อเจียงเฉิน ในอนาคตเมื่อเขาต้องการยาอะไร เขาไม่จำเป็นต้องกังวลถึงวัตถุดิบสมุนไพรอีก ตั้งแต่ที่เขามีร่างกายที่แข็งแกร่ง ตลอดจนโลหิตและปราณที่รุนแรง   สิ่งที่เขาต้องมุ่งเน้นหลักคือระดับการบ่มเพาะและไม่ใช่การปรุงยา ทักษะร่างแปลงมังกรไม่จำเป็นต้องการยาใดๆ


ณ ที่พักเจียงเฉิน มีคนสี่ถึงห้าคนรออยู่ด้านนอก คนที่อยู่ด้านหน้าคือหวังหยุน และศิษย์นอกแก่นแท้มนุษย์คนอื่นๆเมื่อเขาเห็นเจียงเฉินดวงตาเขาส่องประกาย


” ศิษย์พี่เจียงกลับมาแล้ว! “


ใครบางคนพูดออกมา เมื่อเขาเห็นปีกโลหิตของเจียงเฉิน ช่วยไม่ได้ที่เขาจะแสดงถึงความอิจฉา


เจียงเฉินหุบปีกและร่อนลงข้างๆชายเหล่านี้


” หวังหยุน พวกเจ้ามาหาข้างั้นหรือ? “


เจียงเฉินถาม


” ข้าต้องการเชิญศิษย์พี่เจียงร่วมเดินทางไปกับพวกข้า พวกข้าจะไปยังเขาหมื่นอสูร! “


หวังหยุนกล่าว


” เขาหมื่นอสูร? “


เจียงเฉินขมวดคิ้ว เขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน


” ข้าคาดว่าศิษย์พี่เจียงคงไม่รู้จักสถานที่นี้เป็นแน่ เขาหมื่นอสูรเป็นเทือกเขา มันเป็นสนามฝึกซ้อมของเหล่าศิษย์นิกายทมิฬ ภายในเทือกเขานี้ สัตว์อสูรทุกประเภทสามารถพบได้   และมันมีทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมาก  สมบัติก็เช่นกัน พวกข้ากำลังจะเดินทางไปยังเขาหมื่นอสูร และหากศิษย์พี่จะสามารถไปกับพวกข้าด้วย มันจะเหมือนกับว่าพวกข้าได้รับพร “


หนึ่งในศิษย์กล่าวออกมา


” ใช่แล้ว ด้วยกำลังของพวกเรา พวกเราสามารถที่จะเข้าไปยังส่วนแรกได้เท่านั้น หากศิษย์พี่เจียงไปกับพวกเรา   บางทีอาจจะสามารถเดินทางในเขตที่สองได้! “


ศิษย์อีกคนหนึ่งพูด


” เป็นเช่นนั้นรึ “


ในที่สุดเจียงเฉินก็เข้าใจ จุดประสงค์ของพวกเขาคือการได้รับการปกป้องจากเจียงเฉิน    ด้วยกำลังของเจียงเฉิน   พวกเขาสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย หากพวกเขาได้เดินทางไปด้วยกัน


” หวังหยุนช่วยบอกรายละเอียดของเขาหมื่นอสูรแก่ข้า “


เจียงเฉินกล่าว  เขาแสดงความสนใจต่อเขาหมื่นอสูรอย่างมาก   มีเวลาเหลือเพียงแค่หนึ่งปีที่จะต่อสู้กับหนานเป่ยเฉา และวันเวลาก็ผ่านไปอย่างช้าๆทุกๆวัน    ดังนั้นเขาจึงคิดหาทางเพิ่มระดับการบ่มเพาะของเขา   หากอาศัยกับนิกายทมิฬเพียงอย่างเดียวมันยังห่างไกลจากความเพียงพอ    เขาได้ทำการบ่มเพาะทักษะร่างแปลงมังกรและเขาสามารถดูดซับความสามารถเฉพาะตัวของสัตว์อสูร แล้วการล่าสัตว์อสูรเป็นหนทางที่จะทำให้เลื่อนระดับได้โดยเร็วที่สุด   หากว่าเขาโชคดีคงจะได้พบกับสัตว์อสูรที่มีสายเลือดดั้งเดิม และ นำความสามารถของพวกมันมาเป็นของตน


” เขาหมื่นอสูรเป็นเทือกเขายุคบรรพกาล ระยะทางระหว่างที่นี่และเขาหมื่นอสูรอยู่ที่พันไมล์ เขาหมื่นอสูรแบ่งออกเป็นสามเขต และเขตแรกจะมีสัตว์ระดับฉีไห่หรือแก่นแท้มนุษย์เกือบทั้งหมด ในบางครั้งอาจมีสัตว์อสูรขั้นแก่นแท้สวรรค์อยู่ แต่มันพบเจอได้ยากที่จะปรากฎขึ้นที่เขตแรก   สำหรับเขตที่สองสัตว์อสูรส่วนมากจะอยู่ในระดับแก่นแท้สวรรค์ และมันเป็นสถานที่ที่อันตรายมากสำหรับพวกเรา   ในเวลานี้มีเพียงแค่ศิษย์แก่นแท้สวรรค์จากศิษย์ในที่กล้าเข้าไปฝึกฝนที่นั้น   แม้ว่าศิษย์พี่เจียงจะอยู่อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ แต่เมื่อท่านสามารถสังหารหลี่หวู่หลิงที่อยู่ระดับแก่นแท้สวรรค์ได้ ข้าแน่ใจว่าท่านสามารถไปบริเวณชายแดนของเขตที่สองได้อย่างปลอดภัย   สำหรับเขตที่สามข้าได้ยินว่ามีสัตว์อสูรขั้นแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ปกครองเขตนั้นอยู่ มันเป็นสถานที่น่าสะพรึงกลัวมาก และไม่ค่อยมีคนไปหรอก “


หวังหยุน กล่าว


**************************************************************************



จบจ้า


โปรดติดตามตอนต่อไป……………………………




ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments