ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” ขะ ข ะ ข ะ . . . . . . ข้า “
เมื่อ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ เริ่มสอบสวน ‘หลิว เฉิงเจิน’ ขากรรไกรปากสั่นสะท้านลิ้มแข็งขยับไม่ได้ เขาไม่สามารถพูดคำให้เป็นประโยคได้เลย
* ปั้งงง *
ทันใดนั้น ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ที่ยืนอยู่บนลานประลองชี้เป็นชี้ตาย สะบัดมือออกไป ใส่หน้าของ ‘หลิว เฉิงเจิน’ที่อยู่ห่างออกไปถึงร้อยก้่าว
เขากระเด็นล่วงกับพื้น เลือดกลบปากไหลออกจมูก ใบหน้าบวมเป่ง พร้อมกับมีลอยแดงๆห้อเลือดเป็นรูป ฝ่ามือ
” ท่านจูเก่อ โปรดเมตตา ท่านจูเก่อ โปรดเมตตา ข้าน้อยมีตาหามีแววไม่ ข้าน้อยไม่ทราบมาก่อนว่า ชูเฟิง เป็นลูกศิษย์ของท่าน หากข้าทราบ แม้แต่จะจ้องข้าก็มิกล้า “
หลังจากที่ถูกตบผ่านอากาศ ‘หลิว เฉิงเจิน’ ก็รีบคุกเข่าบนพื้นโดยที่ไม่แคร์สายตาที่สมน้ำหน้าของผู้คน เขาคุกเข่าพร้อมกับกุมมือคารวะ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ที่ยืนอยู่บนลานประลองฯไม่รู้จบ
เมื่อพวกเขามองดูฉากนั่นไม่มีใครคิดว่า ‘หลิว เฉินเจิน’ จะรอดไปได้ง่ายๆ พวกเขาคิดว่ามันก็สมเหตุสมผลที่’หลิว เฉิงเจิน’ จะทำถึงขนาดนั้น เมื่อเผชิญหน้ากับ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ใครบ้างจะกล้าแย้งในสิ่งที่เขาพูด ที่เขาทำ แม้แต่ ‘จงหลี่ ยี่หู’ ยังไม่กล้าต่อต้านหรือคัดค้านใดๆยิ่งไม่ต้องพูดถึงอาวุโสธรรมดาอย่างเขา
” มีใครยังคิดจะเอาผิดชูเฟิง อีกหรือเปล่า หากมีบอกมาได้เลย ? “
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ กวาดสายตาที่คมกริบมองไปรอบๆ สายตาที่จ้องผ่านอากาศจนทำให้บรรยากาศเยือกเย็น ปรากฏความกลัวขึ้นครอบงำ
ตอนนั่น มีใครบ้างจะกล้าพูด ไม่ว่าจะอยากเอาเรื่องหรือว่าจะไม่พอใจการกระทำของเขา ทุกคนบอกได้เลยว่า หุบปากไว้เป็นดีที่สุด พวกเขาต่างพากันถอยหลังออกไปหนึ่งก้าว โดยที่ไม่มีใครปริปากออกมาพูดใดๆสักคำ หากพวกเขาคนใดกล้าแสดงความคิดเห็นออกมา คงไม่อาจหนีพ้นน้ำมือ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ เป็นแน่
เห็นเช่นนั่น ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ พยักหน้าพึงพอใจ แล้วเดินมาข้างๆ’ซูรู่’พร้อมกับกล่าว
” ซูรู่ ท่านคอยปกป้องและเป็นห่วงเป็นใยลูกศิษย์ของข้ามาตลอด ข้าขอตอบแทนท่านด้วยสิ่งนี้ “
แสงริบหรี่บนเอวของ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ค่อยๆปรากฏออกมาเป็นสีเขียวเข้มอยู่ในฝ่ามือของเขา โอสถเม็ดนั่นสวยงามแวววาว สดใส แสงสว่างโคจรอยู่รอบๆมันเป็นดั่งเงา มันเป็นสมบัติไม่ผิดแน่แต่ที่สำคัญก็คือจำนวนพลังวิญญาณอันมหาศาลที่อัดแน่นอยู่ในนั้น แม้แต่อากาศยังขยับเหมือนกำลังสั่น พลังของโอสถเม็ดนั่นคือพลังของอาณาจักรแก่นแท้
” โอสถแก่นแท้ !!! “
ทุกคนตกใจอย่างมาก แม้แต่อาวุโสเฒ่าทั้งหลาย พวกเขาต่างแสดงออกถึงความอิจฉา เพราะมันคือโอสถแก่นแท้ ที่เป็นยาคุณภาพสูงและราคาที่สูงหริบ มันอาจกล่าวเป็นว่าเป็นของล้ำค่าและหาได้ยาก เป็นสมบัติที่หากันไม่ได้ง่ายๆ คงต้องพึ่งพาโชคหรืออาศัยดวงสุดๆ มันมีประโยชน์ต่อผู้ในอยู่ในอาณาจักรแก่นแท้วิญญาณสุดคณานับ
” ขอบคุณท่านจูเก่อ หลิวหยุน !!! ” .
แม้แต่’ซูรู่’ยังตาสว่างเมื่อเห็นโอสถแก่นแท้ บนใบหน้าที่งดงามของนางเปี่ยมไปด้วยประกายแห่งความสุข นางค่อยๆยื่นมือไปรับโอสถแก่นแท้
โอสถแก่นแท้แพงอย่างมาก โดยเฉพาะคุณภาพที่สูงของมัน แม้’ซูรู่’จะมีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่นางก็ไม่อาจหาพวกมันได้ อย่างที่นางปรารถนา ในความเป็นจริงแม้แต่คนที่อยู่อาณาจักรแก่นแท้ ก็ยังไม่อาจซื้อแม้แต่ โอสถแก่นแท้คุณภาพต่ำได้ แต่นี้นางกับได้โอสถคุณภาพสูงมาอย่างง่ายดาย
” ผู้เฒ่าหลี่ ข้าก็ต้องขอบคุณท่านเช่นกัน “
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ เอาโอสถแก่นแท้คุณภาพสูงมอบให้กับผู้เฒ่า’หลี่’
ผู้เฒ่า’หลี่’ยิ้มเบาๆ จนปรากฏให้เห็นริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า แก้มของเขาปริออกมาดั่งซาลาเปา ที่แสดงให้เห็นร่องรอยแห่งความสุข
การกระทำของ ‘จู่เก่อ หลิวหยุน’ ทำให้สาวกมากมายและอาวุโสเกิดความริษยา โอสถแก่นแท้ระดับสูง เป็นดั่งสมบัติล่ำค่ำสำหรับพวกเขา แต่ ‘จู่เก่อ หลิวหยุน’ กับมอบให้พวกเขาอย่างง่ายดาย
ยังไงก็ตาม คนที่ริษยาพวกเขามากที่สุด คือ ‘ชูเฟิง’ เขาท่องในใจ โอสถแก่นแท้ โอสถแก่นแท้ มันคือโอสถแก่นแท้ระดับสูง พลังเพียงเม็ดเดียวของพวกมันแม้แต่ลูกแก้วแก่นแท้ก็ไม่อาจเทียบได้ หากเขากลืนมันเข้าไป พลังวิญญาณของเขาจะพุ่งขึ้นสูงขนาดไหน ?
ดูเหมือนว่าเขาจะใส่ใจรายละเอียดของ ‘ชูเฟิง’
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ มองไปที่ ‘ชูเฟิง’ เหมือนกับกำลังจะบอกทุกคนว่าใครที่ปฏิบัติต่อ ‘ชูเฟิง’ เป็นอย่างดี คอยช่วยเหลือ ก็จะมีรางวัลตอบแทน ส่วนใครที่คิดร้าย เขาก็ต้องมีสภาพเดียวกับ ‘หลิว เฉิงเจิน’
ตอนนี้เหล่าศิษย์และอาวุโสหลักของสำนักมังกรฟ้าคิดว่า ศึกของ ‘กง ลู่หยุน’ กับ ‘ชูเฟิง’ แม้ว่าพวกเขาไม่คิดว่า ‘ชูเฟิง’ จะชนะ แต่ ‘กง ลู่หยุน’ ก็คงทำอะไรเขาได้ยาก เพราะ ‘ชูเฟิง’ มีอาจารย์ที่ไม่ธรรมดาคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
” เจ้าหนุ่ม ไปกับข้า “
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ คว้าไหล่ของ ‘ชูเฟิง’ และทะยานไปบนอากาศภายในพริบตาพวกเขาทั้งคู่ก็หายไปดั่งปีศาจ แน่นอน ว่าคนปกติไม่อาจเข้าใจวิธีการของ ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณหลังจาก ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ หายไป ผู้คนที่อยู่ในความเงียบเป็นเวลานานก็ระเบิดความกดดันออกไปราวกับหม้อระเบิด ทุกเรื่องราวของพวกเขาเป็นหัวข้อสนทนา ดั่ง การต้มน้ำที่เดือดดาล
” นี่มันค่อนข้างน่าเหลือเชื่อ!!! ไม่เพียงแต่ ชูเฟิง จะเป็นอัจฉริยะ เขายังมี จูเก่อ หลิวหยุน เป็นอาจารย์ ในวันข้างหน้า ใครจะกล้าแตะต้องเขา “
แน่นอนว่านั้นคือเรื่องใหญ่ ที่’ชูเฟิง’เป็นอัจฉริยะ สามารถสังหาร ‘อู๋ จิ่ว’ที่อยู่ในอาณาจักรกำเนิดวิญญาณระดับ 5 ได้ ทั้งๆที่ตัวเขามีแค่พลังวิญญาณอยู่ในระดับ 1 กำเนิดวิญญาณ
หลังจากฆ่า ‘อู๋ จิ่ว’ นามของเขาก็จะขึ้นเป็น อันดับ 9 ของกระดานจัดอันดับสำนักมังกรฟ้าแต่ ‘ชูเฟิง’ นั้นมีอายุเพียง 15 ปี กับมีรายชื่อติดกระดานจัดอันดับมังกรฟ้า เขาคือคนที่อายุน้อยที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย และทุกคนบนนั้นล้วนแล้วแต่เป็นอัจฉริยะ
‘ชูเฟิง’คือน้องเล็กที่มีความสามารถมากที่สุด เพราะแม้แต่’กง ลู่หยุน’ ก็ไม่อาจเอาชนะคู่ต่อสู้ที่อยู่เหนือกว่าตัวเองได้ถึง 4 ระดับ ได้ไม่เพียงแต่’ชูเฟิง’จะมากความสามารถ จนได้ชื่อว่า อัจฉริยะ เขายังมีปราการที่แข็งกล้าอยู่เบื้องหลังของเขา
คนๆนั้นแม้แต่ผู้นำของสำนักมังกรฟ้า ยังไม่กล้าล่วงเกิน ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’จากวันนั้นมา ทุกคนในสำนักมังกรฟ้า ต้องเปลี่ยนท่าทีปฏิบัติ ต่อ’ชูเฟิง’ ทังหมด
‘ชูเฟิง’ แข็งแกร่งและมากความสามารถ ในเวลาสั้นไม่ถึงสองเดือน เขาสามารถทะลวงเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณ จากระดับ 7 ห้วงวิญญาณ แล้วจะเป็นยังไงหากเขามีเวลาอีก 10 เดือน ก่อนถึงศึกด้วยการพัฒนาที่รวดเร็วของเขา บางทีเขาอาจจะรับการโจมตี 3 กระบวนท่า ของ ‘กง ลู่หยุน’ ก็ได้
หากการประลองตามสัญญามาถึง ตราบใดที่ ‘ชูเฟิง’ สามารถรับการโจมตีของ ‘กง ลู่หยุน’ ได้เขาก็จะชนะ และถึงตอนนั่น ‘กง ลู่หยุน’ จะต้องฆ่าตัวตาย ตามคำพูดเมื่อก่อน
ผู้คนต่างรู้สึกว่า ‘ชูเฟิง’ คงรนหาที่ตายเมื่อเข้าไปท้าทาย ‘กง ลู่หยุน’ โอกาสที่จะเอาชนะของเขา เป็น ศูนย์ แต่หลังจากวันนี้ไป พวกเขามองไม่ออกเลยว่า ใครจะคือผู้ชนะ และใครจะคือผู้แพ้
ทุกคนในพื้นที่หลัก เริ่มสนทนาเรื่องของ ‘ชูเฟิง’ ขณะที่ถูกนำตัวกลับตำหนักโบราณ ของ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’
” อาจารย์ ขอบคุณที่ช่วยข้าไว้ !!! “
‘ชูเฟิง’ คารวะขอบคุณ’จูเก่อ หลิวหยุน’
” อย่าพึ่งเรียกข้าว่าอาจารย์ หนังสือที่ข้าให้ไปเจ้าเข้าใจมันเท่าไหร่แล้ว “
เข้าใจมากกว่าคุณแล้วกัน เสียงของ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ฟังดูเยือกเย็น โดยไร้ความอ่อนโยน หาก ‘ชูเฟิง’ ทำให้เขาผิดหวัง ไม่ต้องสังสัยว่าเขาคงจะฆ่า ‘ชูเฟิง’
แต่ ‘ชูเฟิง’ ขณะนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ โดยไม่กลัวท่าทีของ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ทันใดนั่นก็มีกลุ่มก๊าซอำนาจพลังวิญญาณรายล้อมรอบๆ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’
หลังจากที่เตรียมการ ‘ชูเฟิง’ ยิ้มและกล่าว
” ท่านมองข้าสิ แล้วท่านจะเข้าใจ ว่าทำไมข้าถึงเรียกท่านว่า อาจารย์ ?”
หลิว เฉิงเจิน รอดซะงั้น ต้องขอบคุณใครดี คนแต่งนิยายหรือเปล่า
นึกว่าจะถูกหั่นแล้วเอาเนื้อให้ สุนัข กินซะอีก ช่างเถอะ!!! ถือว่าปล่อยมันเอาบุญ – -“
ที่มา: