ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปเสียงนั้นสามารถเป่าทุกอย่างให้กระจาย จากนั่นก็มีคนโผล่ขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้าของ ‘ชูเฟิง’ และ ‘ซูรู่’ อย่างกับวิญญาณเขามีเสื้อคลุมสีขาวปกคลุมขึ้นไปเหนือไหล่ขึ้นไปจนถึงใบหน้า ปกคอ เขาใช่ใครนอกซะจาก ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณที่สำนักมังกรฟ้ายอมจ่ายราคามหาศาลเพื่อการดึงตัวมา และยังได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ # 2 ของสำนักมังกรฟ้า ‘จู่เก่อ หลิวหยุน’
” นี่ท่าน . . . . . .จู่เก่อ หลิวหยุน เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมท่าน จูเก่อ หลิวหยุน ถึงได้ปกป้อง ชูเฟิง ล่ะ ? พวกเขาทั้งสองมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่ ? “
คนที่เคยได้ยินลักษณะเสื้อหน้าผมของเขามาก่อน มั่นใจว่าเขาคือ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ไม่ผิดตัว เมื่อเขาปรากฏตัวออกมา ทุกคนถึงกับตกใจพวกเขาทุกคนต่างรู้ว่าภายในสำนักมังกรฟ้า คนที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ผู้นำสำนักมังกรฟ้า หรือ หกปราการ หรือแม้แต่ ‘จงหลี่ ยี่หู’
แต่เป็น ชายชราที่ยืนอยู่ด้านหน้าของ ‘ชูเฟิง’ ท่าน ‘จูเก่อ หลิวหยุน’แต่เมื่อเทียบกับความสับสนของผู้คน ‘ซูรู่’แสนจะดีใจ เมื่อนางเห็น ‘จู่เก่อ หลิวหยุน’ นางคิดว่าเขาคงยอมรับ’ชูเฟิง’ ในฐานะลูกศิษย์แล้ว
นางรู้ดีเพราะว่า นางเห็นตอนที่ ‘จู่เก่อ’ ฆ่า ‘เล้ง วู่ซุย’ ที่คอยรับใช้เขามาหลายปี มากับตา และตอนนี้ก็ไม่มีใครสามารถแตะต้อง ‘ชูเฟิง’ ได้อีกต่อไป’ซูรู่’ในตอนนั้นแอบเหวี่ยงสายตาไปมอง’ชูเฟิง’
นางพบว่า ‘ชูเฟิง’ นั้นแสนจะเยือกเย็น เหมือนไม่แยแส แม้ว่าใบหน้าของเขาจะปรากฏความสุขอยู่เล็กน้อย แต่ก็เหมือนกับว่าเขาไม่อยากแสดงออกมากเกินไปเพราะทุกอย่างนั้นอยู่ในการคำนวณของเขาหมดแล้ว
เมื่อเห็นแบบนั้น ‘ซูรู่’ เก็บริมฝีปากที่ยิ้มออกมา กลับไปภายในใจและกล่าวเบาๆ
” คนๆนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงกล้าทำเรื่องบ้าๆต่างๆนาๆ เขารู้อยู่แล้วว่า จูเก่อ หลิวหยุน ต้องมาช่วยเขา “
” จูเก่อ หลิวหยุน ข้าเพียงต้องการจัดการกับความแค้นส่วนตัวกับเขา ทำไมท่านต้องทำให้ข้าลำบากด้วย “
‘จงหลี่ ยี่หู’ ขมวดคิ้วแน่น พร้อมกับลดเสียงพูดของเขา เห็นได้ชัดว่าเขากำลังกลัว ‘จูเก่อ หลิวหยุน’
” ความแค้นส่วนตัวงั้นหรอ ความแค้นอะไรล่ะ ? “
‘จูเก่อ หลิวหยุุน’ ถามอย่างไม่สนใจ
” เด็กคนนี้ฆ่าลูกศิษย์ของข้า ซึ่งข้าเป็นอาจารย์ของเขา ข้าจะแก้แค้นให้กับศิษย์ นั่นแหละคือความแค้น “
‘จงหลี่ ยี่หู’ ตอบ
” หรอ . . . . . . จริงๆแล้วนั่นก็นับว่าเป็นความแค้นนะ แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นั่นก็หมายความว่า ข้าต้องยื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องนี้ !!! “
‘จู่เก่อ หลิวหยุน’ ยิ้ม
” ท่านหมายความว่าไง ? “
เมื่อเขาพูดออกมาแบบนั้น ไม่ใช่แค่ ‘จงหลี่ ยี่หู’ ที่มึนงง แทบจะทุกคนที่ได้ยิน ในหัวของพวกเขาก็เต็มไปด้วยหมอกควัน พวกเขาไม่เข้าใจในคำพูดเหล่านั้น แต่หากคาดเดาพวกเขาคงคิดว่า ‘ชูเฟิง’ อาจจะมีความสัมพันธ์อะไรบางอย่างกับ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’
” เจ้าต้องการฆ่า ชูเฟิง เพื่อแก้แค้นให้กับลูกศิษย์ของเจ้า เพราะว่าเป็นอาจารย์ของเขา นั่นก็นับว่าสมเหตุสมผล “
” แต่ว่า ชูเฟิง นั่นเป็นลูกศิษย์ของข้า และข้าคืออาจารย์ของเขา หากข้าจะปกป้องลูกศิษย์ นับว่าสมเหตุสมผลมั้ยล่ะ ? “
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ อ้าแขนออกและกล่าวอย่าง เปิดเผยคำพูดที่ฟังดูเหมือนธรรมดา แต่คำๆนั่นเหมือนดั่งฟ้าฝ่าลงมาท่ามกลางความสงบของทะเลสาบ จนทำให้ผู้คนเกิดความวุ่นวาย
” อะไรนะ ชูเฟิง เป็นลูกศิษย์ ของ จูเก่อ หลิวหยุน งั้นหรอ มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง ? “
” ไม่จริงใช่ไหม ข้าได้ยินผิดไปหรือเปล่า ขนาด เล้ง วู่ซุย คอยรับใช้ จู่เก่อ หลิวหยุน เป็นเวลาหลายปี แต่ จู่เก่อ ยังไม่คิดจะรับเขาเป็นศิษย์เลยด้วยซ้ำ แต่ ตอนนี้ ชูเฟิง กับกลายเป็นศิษย์ของเขา อะไรดลใจเขากันแน่ ? “
” คงเป็นเพราะชูเฟิงมีพรสวรรค์ที่น่าขัดเกลา หรือหมายความว่า ชูเฟิงมีอำนาจพลังวิญญาณเหมือนกับ จูเก่อ หลิวหยุน ดังนั้นเขาจึงอยากสั่งสอนชูเฟิง ให้กลายเป็น ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ “
ผู้คนรอบๆต่างระเบิดความคิดเห็นกันออกมาเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะทุกอย่างมันกระทันหัน โดยที่ไม่มีใครเตรียมใจกับเหตุการณ์เช่นนี้ หัวใจดวงน้อยๆของพวกเขาไม่อาจรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานั้นได้ไหว
” จูเก่อ หลิวหยุน ท่านกำลังเล่นตลกอะไรกันแน่ ท่านกำลังจะบอกว่าเด็กคนนี้เป็นลูกศิษย์ของท่านงั้นหรอ “
‘จงหลี่ ยี่หู’ เต็มไปด้วยความตกใจเขียนอยู่บนใบหน้าและเขาเหมือนจะปฏิเสธว่ามันเป็นเรื่องจริงจู่ๆเขาก็พูดขึ้นมา มันจึงฟังดูแปลกๆ แต่หาก ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ พูดเรื่องจริงมันคงแปลกยิ่งกว่า หากเขายอมรับว่า’ชูเฟิง’คือลูกศิษย์ของ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’
เขาก็คงไม่อาจหลีกเลี่ยงการปะทะได้ เขายังคิดว่า ‘จู่เก่อ หลิวหยุน’ ชาตินี้คงไม่ยอมรับลูกศิษย์คนไหนๆ แต่ทำไมอยู่ๆถึงอยากมีลูกศิษย์ขึ้นมา อีกทั้งคนๆนั้นยังคือ ‘ชูเฟิง’ ?
” อะไร หรือที่ข้าพูดมามันยังไม่ชัดหรอ “
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ยิ้มและพูดขึ้นว่า
” ไม่เป็นไร ข้าจะพูดมันอีกครั้ง “
” ทุกคนฟังให้ดีๆ ชูเฟิงเป็นลูกศิษย์คนเดียวของข้าเท่านั้น หากใครกล้าแตะต้องเขาแม้แต่ปลายนิ้ว ก็จะถือว่า คนผู้นั้น เป็นศัตรูกับ จูเก่อ หลิวหยุน ผู้นี้ ไม่ว่ามันจะเป็นใคร ข้าจะฆ่ามันไม่ให้เหลือ !!! “
เสียงของ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ดังสะท้านไปทั่ว เขาใช้พลังแปล่งคำพูดออกมา เสียงของเขาดังกังวาลสะท้อนไปทั่วทั้งมหาสมุทรหากเปรียบเทียบให้ชัดๆก็เหมือนกับระฆังบนลานประลองชี้เป็นชี้ตาย ที่ทำให่้คนทั่วทั้งสำนักต่างได้ยิน
เมื่อสิ้นคำพูดเหล่านั้น ทุกคนต่างพูดไม่ออก ตอนนี้ คำตอบเต็มอยู่ในหัวพวกเขาอย่างชัดเจน ในที่สุดพวกเขาก็รู้ว่าทำไม ‘ชูเฟิง’ ถึงได้กล้าท้าทาย ‘กง ลู่หยุน’ ทำไมถึงกล้าทำลายพลังวิญญาณของคนในสำนัก และทำไมถึงกล้าสังหาร ‘อู๋ จิ่ว’ นั้นเป็นเพราะ อาจารย์ของเขา คือ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’
” จงหลี่ ยี่หู เจ้ายังคิดจะฆ่าลูกศิษย์ข้าอยู่อีกมั้ย ? “
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ พูดอย่างเมินเฉย
” เอิ่มมมม. . . . “
‘จงหลี่ ยี่หู’ หน้ากลายเป็นสีม่วง บิดเบียว น่าเกลียดไม่เป็นรูปร่าง เขาไม่อาจทนต่อความกดดันได้ เขาจึงเตรียมตัวที่จะเดินลงจากลานประลอง ในความเป็นจริงนั่นเป็นเพราะเขาไม่อาจสู้กับ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ เพื่อแก่แค้นให้กับ ‘อู๋ จิ่ว’ ได้
” ช้าก่อน!!! “
แต่ก่อนที่ ‘จงหลี่ ยี่หู’ จะไป รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณ ได้ปิดเส้นทางลงลานประลองไว้ และบังคับดันเขาให้กลับเข้ามาด้านใน
” จูเก่อ หลิวหยุน ท่านต้องการอะไรอีก ??? “
‘จงหลี่ ยี่หู’ รีบตอบสนองด้วยความตกใจ เขาไม่คิดเลยว่าขนาดเขาหันหลังจากไป ตาแก่นี้ยังไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ
” เจ้ายังไม่ตอบคำถามข้า หรือว่าเจ้าไม่ได้ยิน “
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ไม่พอใจอย่างมากเมื่อฟังจากน้ำเสียงที่เยือกเย็น ของเขา
” ท่านต้องการให้ข้าทำยังไง ? “
‘จงหลี่ ยี่หู’ ตอนนี้รู้สึกใจเสีย ภายในสำนักมังกรฟ้า อาจบอกได้ว่า เขาไม่กลัวสวรรค์หรือพิภพ แต่คนเดียวที่เขากลัว ก็คือ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสามารถหรือระดับพลังวิญญาณ เขาต่างด้อยกว่า
” ถ้าเจ้ายังไม่เข้าใจ ข้าจะเตือนเจ้าไว้ เลิกคิดที่จะทำร้าย ชูเฟิงซะ ถ้าชูเฟิงเป็นอะไรไป คนแรกที่ข้าจะไปหา ก็คือเจ้า เมื่อถึงตอนนั้นก็ไม่มีใครสามารถปกป้องเจ้าได้ “
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ พูดเสียงดังโดยไม่สนว่า ‘จงหลี่’ จะรู้สึกยังไงทุกคนได้แต่สูดหายใจเข้าลึกๆ ในบรรยากาศอันหนาวเหน็บ ภายในสำนักมังกรฟ้า คงไม่มีใครคิดว่า ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ จะพูดกับ ‘จงหลี่ ยี่หู’ เช่นนั้น
” ตกลง ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่ยุ่งกับ ชูเฟิง อีกต่อไป “
สิ่งที่คาดไม่ถึง เมื่อเขาเผชิญหน้ากับ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ แม้แต่ ‘จงหลี่ ยี่หู’ ยังยอมให้เขาข่ม เมื่อเขาต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากต่อหน้าผู้คนทำไมคนที่ยิ่งผยอง อย่าง ‘จงหลี่ ยี่หู’ ถึงได้ยอม ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ขนาดนั้น สำหรับคนที่ไม่รู้ก็อาจคิดแบบนั้น แต่สำหรับคนที่เคยเห็น ความโหดเหี้ยมของ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’
ด้วยวิธีอันหน้าสยดสยอง จะมีใครกล้าเผชิญหน้ากับเขา แม้แต่จะเถียงกลับไปยังไม่มีแม้แต่ครึ่งคำ
” โอ้ว . . . . . . ได้แบบนั้นก็ดี!!! “
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ยิ้มขณะที่แสดงความภาคภูมิ จากนั้นก็หัวเราะออกมา รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณที่ก่อตัวรอบๆลานประลองก็ค่อยๆกลับเข้ามา
‘จงหลี่ ยี่หู’ ที่ไม่มีหน้าหรือศักดิ์ศรีเหลืออยู่ เขาจึงไม่อาจอยู่ตรงนั้นได้อีกต่อไป เขารีบโดดไปข้างหน้า และวิ่งไปให้ห่างจากลานประลองอย่างรวดเร็ว ภายในพริบตาเขาก็หายตัวไปจากสายตาผู้คนหลัง
จากนั่น ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ กวาดสายตามองผู้คนรอบๆลานประลอง ในที่สุด สายตาของเขาก็ไปหยุดอยู่ที่ หัวหน้าฝ่ายลงทัณฑ์ ‘หลิว เฉิงเจิน’
ตอนนั้น หน้าของ ‘หลิว เฉิงเจิน’ เปลี่ยนไปแทบจะไม่เป็นคน แม้แต่ร่างกายก็ไม่อาจหยุดสั่นได้ หัวใจของเต้นรัวเหมือนจะทะลัก เหงื่อจำนวนมากเริ่มไหลลงจากหนาผากของเขา
เขาไม่นึกมาก่อนว่า ‘ชูเฟิง’ จะเป็นลูกศิษย์ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ คนนั้น คนที่ทั่วทั้งสำนักต่างหวาดกลัวเขาตอนนั้นหวาดกลัวสุดขีด ร่างกายสั่นไม่หยุด แต่เมื่อ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ พูดขึ้นมาเท่านั้น เขาก็รู้ทันทีว่าหายนะกำลังมาเยือน
” เจ้าใช่ไม๊ที่คิดจะลงโทษลูกศิษย์ของข้า ? “
มรึงเอ้ย หลิว เฉิงเจิน อยู่ดีไม่ว่าดี หาเหาใส่หัว
คำถามข้อต่อไป หลิว เฉิงเจิน จะมีสภาพเป็นเช่นไร ???
ที่มา: