ตอนที่แล้วตอนต่อไปแปลไทยโดย Takumi Kun / Subaru-Kyun
ตรวจทานโดย Takumi Kun / Subaru-Kyun
**************************************************************************
” เจียงเฉิน เจ้ากล่าววาจาไร้สาระอันใดอยู่? ข้าพยายามที่จะสังหารเจ้าเมื่อใดกัน? “
เจียงเหว่ยกราดเกรี้ยวทันที ถึงอย่างนั้น ท่าทางของเขามันผิดธรรมชาติ แม้เขาจะกล่าวเสียงดังแต่เขาก็ไม่สามารถที่จะปิดบังความผิดของเขาไปได้
เมื่อเทียบกับเจียงเฉินผู้เป็นเฒ่าเจ้าเล่ห์ เจียงเหว่ยเป็นได้เพียงแค่เด็กฝึกหัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทัศนคติ หรือ กลยุทธ์ ความต่างระหว่างพวกเขานั้นมีมากมายนัก หากว่าเจียงเหว่ยไม่ตั้งคำถามเจียงเฉิน เขาก็คงไม่นำตัวเองมาตกสู่หลุมพรางของเจียงเฉิน
” จริงงั้นหรือ? หากว่าเจ้าไม่พยายามที่จะสังหารข้า แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าถูกสังหารแล้วที่เขาหมื่นอสูร? “
เจียงเฉินแสยะยิ้มขึ้น ตอนนี้เขาได้ยืนยันแล้วว่าเจียงเหว่ยเป็นคนที่พยายามสังหารเขาในวันนั้น ในที่สุดเขาก็ล่อชายคนนี้ออกมาโดยใช้ไช่ตงและกั๋วเหล่ย ต่อไปเขาจะสังหารชายคนนี้และหากเป็นไปได้เขาก็จะพบว่าใครอยู่เบื้องหลังชายผู้นี้
เจียงเฉินเกลียดความรู้สึกที่มีบางคนพยายามที่จะแทงหลังเขาทุกเวลา ดังนั้นเจียงเฉินจึงทำทุกวิถีทางที่จะสังหารผู้ที่พยายามที่จะสังหารเขา
เจียงเหว่ยไม่รู้ว่าจะตอบคำถามของเจียงเฉินอย่างไรดี ในที่สุดเขาก็นึกได้ว่าตกอยู่ในกหลุมพรางของเจียงเฉินด้วยคำถามของเขาเอง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ยอมรับความจริงที่เขาเป็นผู้พยายามสังหารศิษย์นิกายเดียวกัน หากเขาทำเขาจะถูกเล่นงานจากทุกๆฝ่าย และเขาจะได้รับโทษทัณฑ์ร้ายแรงของนิกาย
” ฮึ่ม! เจียงเฉิน เลิกโป้ปดเสียที! เจ้ายังมีชีวิตอยู่ตรงหน้าข้า แล้วเจ้าสามารถบอกว่าข้าเป็นผู้พยายามสังหารเจ้าได้อย่างไร? หากข้าต้องการสังหารเจ้าจริงๆล่ะก็ เจ้าจะยังรอดจนถึงตอนนี้รึ? วันนี้เจ้าได้ทำการต่อต้านผู้ที่อยู่เหนือกว่าเจ้า ข่มเหงศิษย์ร่วมนิกาย และเจ้ายังไม่ให้ความเคารพต่อศิษย์ใน ข้าเป็นตัวแทนศิษย์ในจะลงทัณฑ์สถานหนักแก่เจ้าเอง! “
เจียงเหว่ยปลดปล่อยพลังของเขาออกมา กลิ่นอายและจิตสังหารของเขาแผ่พุ่งออกมา
ศิษย์นอกบริเวณสนามฝึกซ้อมต่างตกอยู่ในความวุ่นวาย ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในวันนี้ ผู้อาวุโสนิกายทั้งสี่ถูกแขวน และตอนนี้กระทั่งยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลางกำลังเตรียมลงมือและพยายามโค่นเจียงเฉินลง ตอนนี้ไม่มีผู้ใดสามารถคาดเดาการตอบสนองของเจียงเฉินได้
“ฮ่าฮ่า… ลงทัณฑ์ข้างั้นรึ? เจ้าไม่คู่ควรที่จะทำเช่นนั้น! เจ้าเชื่องั้นหรือว่าข้าจะไม่แขวนเจ้าด้วย? “
เจียงเฉินหัวเราะเสียงดัง ตอนนี้เขาไม่ได้เกรงกลัวเจียงเหว่ย เขาแตกต่างจากเมื่อตอนที่ถูกล่าในคืนนั้น ในทางกลับกัน ตอนนั้นเขายังอยู่เพียง อาณาจักรแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางและเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจียงเหว่ย แต่ว่าตอนนี้เขามีตราประทับมังกรถึงแปดสิบดวง เจียงเฉินไม่เพียงแค่มีความสามารถเพียงพอที่จะสู้กับเจียงเหว่ย เขาอาจจะเอาชนะได้อีกด้วย
” จับข้าแขวนอย่างนั้นรึ? เจ้าคงจะบ้าและรนหาที่ตาย! เจียงเฉิน ในเมื่อเจ้าแหกกฎและโอหังเช่นนี้ เจ้ามีความกล้าที่จะประลองเป็นตายกับข้าหรือไม่? “
เจียงเหว่ยตะโกนออกมาดังกึกก้อง นี่เป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงที่เขามายังที่นี่ตราบเท่าที่เจียงเฉินตกลงการประลองเป็นตาย เจียงเหว่ยก็จะมีโอกาสที่จะสังหารเขาต่อหน้าทุกๆคน
” อะไรนะ? พวกเขากำลังจะประลองเป็นตายงั้นรึ? นี่มันไม่มีการปรานีเลย! “
” มันหาได้ยากที่ความขัดแย้งระหว่างศิษย์จะถูกแก้ไขปัญหาด้วยการประลองเป็นตาย เมื่อพวกเขาเข้าสู่เวที ชีวิตอยู่ในมือของพวกเขาเอง เหตุใดที่เจียงเหว่ยมีความเกลียดชังอย่างมากต่อเจียงเฉินจนต้องคลี่คลายปัญหาด้วยการประลองชี้เป็นชี้ตายเช่นนี้? “
” เจียงเหว่ยเป็นยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลางและเขาเป็นอัจฉริยะศิษย์ใน! เขาแข็งแกร่งกว่ายอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้นอย่างมาก….แม้ว่าเจียงเฉินจะสามารถเอาชนะยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นต้นอย่างง่ายดาย ข้าไม่คิดว่าเขาสามารถเอาชนะยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลางได้ “
……………………………………………………………….
หลายๆคนตกตะลึงในการตัดสินใจของเจียงเหว่ยตอนที่เขาเรียกร้องให้มีการประลองชี้เป็นชี้ตาย ทุกๆคนมองไปยังเจียงเฉิน สิ่งที่เขาตอบจะสร้างความแปลกใจเพียงใด พวกเขาต่างรู้ความน่ากลัวของการประลองชี้เป็นชี้ตายและไม่มีใครสามารถบังคับให้เข้าร่วมการประลองเป็นตายได้ แม้ว่าเจียงเหว่ยต้องการที่จะสังหารเจียงเฉิน หากว่าเจียงเฉินไม่ตอบรับคำของเขา เขาก็ทำอะไรไม่ได้
” ประเสริฐ ข้าจะสู้จนเหลือผู้ยืนอยู่เพียงคนเดียว “
แต่ทุกๆคนนั้นแปลกใจนัก เจียงเฉินตกลงโดยไม่ต้องคิดแม้เสียววินาที ตอนนั้นเองเขาได้กระโดดไปยังเวทีที่สูงที่สุดภายในสนามฝึกซ้อม มันเป็นเวทีไว้สำหรับการประลองเป็นตาย
” ดี… เจียงเฉิน เจ้ามันไร้วินัยและเจ้าได้ล่วงเกินผู้ที่อยู่เหนือกว่า! วันนี้ข้าจะสังหารเจ้าที่ลานประลองเป็นตาย และช่วยนิกายทมิฬขจัดพวกสารเลวเช่นเจ้า “
เจียงเหว่ยพูดออกมาด้วยเสียงดัง แล้วเขาบินไปสู่เวทีการประลอง ด้วยรอยยิ้มแสยะบนหน้าของเขา เขาได้ยืนตรงข้ามเจียงเฉิน
” ฮึ่ม! แม้ว่าคนผู้นี้จะเป็นอัจฉริยะ ถึงกระนั้นมันนั้นโง่โดยแท้! มันกล้าดีตอบรับการประลองเป็นตาย มันช่างรนหาที่ตายโดยแท้! ตราบที่ข้าสามารถที่จะสังหารมันได้บนเวที ข้าสามารถที่จะช่วยศิษย์พี่เฟินแก้ปัญหาได้ทั้งหมด “
เจียงเหว่ยคิดกับตนเอง เขาไม่เคยจะเอาจริงกับเจียงเฉิน เขาได้ไล่ล่าเจียงเฉินเมื่อสองวันที่แล้วและเขารู้ว่าเจียงเฉินเป็นคนที่คล่องแคล่วมาก แต่พละกำลังของมันไม่สัมพันธ์กับความเร็ว เพียงแค่ผ่านไปสองวัน ไม่ว่าจะบ่มเพาะหนักเพียงใด ไม่มีทางที่มันจะป้องกันตัวมันเองได้
ดังนั้นในความคิดของเจียงเหว่ย เจียงเฉินเป็นเพียงก้อนเนื้อเท่านั้น
ยืนเผชิญหน้ากัน ใบหน้าของเจียงเฉินมีรอยยิ้มแสยะ เขาได้ส่งข้อความหาเจียงเหว่ยผ่านสัมผัสเทวะ “เ จียงเหว่ยบอกข้ามาผู้ใดต้องการที่จะสังหารข้า ตอนนั้นข้าจะให้เจ้าได้ตายโดยไม่ทรมาน “
“ฮ่าฮ่า… น่าขัน นี่เป็นเรื่องน่าขันที่สุดเท่าที่ข้าเคยได้ฟังมา! เจียงเฉิน ข้าจักสังหารเจ้าเพียงกระบวนท่าเดียว และเมื่อเจ้ากำลังจะตายข้าจะบอกความจริงให้เจ้าและให้เจ้าได้ตายอย่างสงบ “
เจียงเหว่ยตอบด้วยสัมผัสเทวะของเขา แล้วเขาหัวเราะเสียงดัง สิ่งที่เจียงเฉินพูดทำให้เขาขำออกมา
” ถ้าเป็นเช่นนั้น ลงมือด้วยทักษะที่ดีที่สุดของเจ้าซะ “
ด้วยท่าทีไม่แยแส เจียงเฉินยืนอยู่บนลานประลองโดยสองมือไขว้หลัง ดวงตาของเขาดั่งองค์ราชันย์ผู้อยู่บนจุดสูงสุดและมองลงมายังทุกๆคน เขาเปล่งกลิ่นอายสีทองรอบๆตัวเขา
” พวกเขากำลังจะสู้กันแล้ว เจียงเฉินตอบรับการประลองเป็นตายกับเจียงเหว่ยจริงๆรึนี่….เขานี่มันไม่กังวลเลย “
” เฮ้อ… เจียงเหว่ยเป็นยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลาง เขาเกือบอยู่จุดสูงสุดในหมู่ศิษย์ในและแม้ว่าเจียงเฉินจะองอาจก็ตาม ข้าไม่คิดว่าเขาสามารถเอาชนะเจียงเหว่ยได้ “
” งั้นมาลองดูกัน เจียงเฉินทั้งโหดร้ายทั้งโหดเหี้ยมวิธีการของเขาก็ยังเหี้ยมโหด และเขาเป็นคนสุขุม เมื่อเขาตอบรับการประลองเป็นตาย ข้าแน่ใจว่าเขาย่อมมีวิธีในการรับมือ “
………………………………………………………………….
ทุกคนต่างกระซิบกระซาบแล้วมองไปยังสนามประลอง เหล่าศิษย์ที่ติดตามเจียงเฉินต่างเป็นกังวล
การต่อสู้นี้ได้ดึงดูดความสนใจจากทุกคน ศิษย์จำนวนมากรวมตัวกันรอบสนาม พวกเขาอยากเป็นพยานในการแข่งขันนี้ ศิษย์นอกกับศิษย์ในได้ประลองเป็นตายกัน นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของนิกายทมิฬที่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ถึงแม้ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร คนที่ยืนอยู่เป็นคนสุดท้าย เจียงเฉินได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
” เจียงเฉิน เตรียมตัวตายได้! “
เจียงเหว่ยตะโกนออกมาเสียงดัง มันโบกมือของมันสร้างลำแสงออกมา ลำแสงได้พุ่งไปหาเจียงเฉินราวกับน้ำตกที่ไหลเชี่ยว นี่เป็นทักษะที่ทรงพลังอย่างมาก แม้ว่ามันจะไม่ได้ดูงดงาม แต่พลังของมันทำลายล้างรุนแรงมาก
อีกฟากหนึ่งดวงตาเจียงเฉินส่องประกายขึ้น เขาไม่ได้สนใจอะไรมาก เมื่อเขาเผชิญหน้ากับเจียงเหว่ย เขาก็เริ่มโจมตีด้วยหกดัชนีสุริยะโดยทันที
ตู้มมมม……….
หกดัชนีสุริยะกับลำแสงของเจียงเหว่ยได้ปะทะกัน ส่งผลให้พื้นดินสั่นสะเทือน จากการปะทะกันรอบแรกทำให้ทั้งคู่ถอยหลังออกไป เสมอกัน
” อะไรกัน?! “
เจียงเหว่ยตกตะลึง เขามองยังเจียงเฉินด้วยท่าทียำเกรง เจียงเฉินทำให้เขาตกตะลึงจริงๆ เมื่อสองวันที่แล้ว เขายังไล่ล่ามัน มันยังไม่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ แค่เพียงสองวันชายคนนี้กลับเติบโตขึ้นถึงขนาดนี้ได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ
” เสมอกัน! สวรรค์ เขายังคงเป็นมนุษย์อยู่อีกรึ? เขาเป็นเพียงยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์จริงๆรึเนี่ย “
” ช่างน่าสะพรึงกลัวเสียจริง เจียงเฉินสามารถเผชิญหน้ากับเจียงเหว่ยโดยไม่พ่ายแพ้! หากไม่ได้มาเห็นกับตา คงไม่มีใครเชื่อเป็นแน่ “
” ฮะฮ่า ศิษย์พี่เจียงผู้ยิ่งใหญ่ ฆ่ามานนน ฆ่ามานนน! “
เหล่าฝูงชนต่างเดือดพล่าน ความคาดหวังที่เห็นเจียงเฉินพ่ายแพ้นั้นหมดสิ้นไป มีเพียงการต่อสู้อย่างยุติธรรมบนสนามประลอง
ที่ขอบระหว่างเขตในกับเขตนอก มีชายคนหนึ่งยืนดูการต่อสู้นี้อยู่ ชายคนนั้นคือ เฟินคุน เมื่อเขาได้เห็นการต่อสู้ของเจียงเฉินกับเจียงเหว่ย ใบหน้าของเขาพลันมืดทะมึน
” ชายคนนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว มันสามารถสู้กับแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลางได้ขณะที่มันเป็นเพียงแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายเท่านั้น แม้แต่พี่ใหญ่หนานเป่ยยังไม่สามารถทำเช่นนี้ได้………..ข้าจะปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้! “
เมื่อเฟินคุนคิดดังนั้น ความชั่วร้ายได้ปรากฏขึ้นข้างในดวงตาของเขา
ตู้ม……ตู้ม……ตู้ม……
บนสนามประลอง เจียงเหว่ยได้ปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา รวมถึงทักษะที่แข็งแกร่งที่สุด และเจียงเฉินได้ตอบโต้ด้วยดัชนีหกสุริยะของเขา และคลื่นเสียงกรีดร้องของเหยี่ยว การต่อสู้เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีผู้ใดแพ้พ่ายต่อกัน
แม้ว่าจะเป็นเพียงการต่อสู้ เหล่าคนที่ได้เห็นการต่อสู้นี้ต่างรู้สึกหวาดกลัว พวกเขาตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของเจียงเฉิน กั๋วเหล่ยและคนอื่นๆที่ถูกมัดอยู่นั้นต่างรู้สึกเสียใจ ว่าทำไมพวกเขาถึงได้ไปล่วงเกินสัตว์ประหลาดเช่นนี้?
เจียงเหว่ยเกรี้ยวกราดยิ่งขึ้น เมื่อผ่านไปสักพักหนึ่ง ใบหน้าของเขาได้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดง ด้วยสถานะและการบ่มเพาะพลังของเขา น่าผิดหวังที่เขาใช้เวลาตั้งนานแต่ไม่สามารถจัดการศิษย์นอกเพียงคนเดียวได้
ด้านตรงข้าม ใบหน้าเจียงเฉินดำทะมึน หลังจากปะทะกันหลายรอบ เขารู้ว่าหากยังสู้ต่อไปเช่นนี้ เขาไม่มีทางจัดการเจียงเหว่ยได้แน่
” เลิกเล่นกันแค่นี้ดีกว่า “
เจียงเฉินสบถออกมา เขาวิ่งไปข้างหน้าและตะโกนว่า ” หมาป่ามายาเก้าร่าง! “
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ……….
หลังจากที่เจียงเฉินตะโกนออกมา ร่างของเจียงเฉินทั้งเก้าร่างได้ปรากฏขึ้นบนสนามล้อมรอบเจียงเหว่ย ทันทีที่เกิดความเปลี่ยนแปลงราวกับพายุได้พัดเข้าสู่ฝูงชน ทุกคนตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
แม้แต่เฟินคุนที่ดูอยู่ไกลๆก็ยังตกตะลึง นี่มันเกิดอะไรขึ้น แต่ด้วยประสบการณ์ของเขา เขาไม่อาจแยกแยะร่างจริงของเจียงเฉินจากทั้งเก้าร่างได้
” โอ้สวรรค์ มีเจียงเฉินเก้าคน นี่มันทักษะเคลื่อนที่แบบใดกันแน่ ช่างหายากเหลือเกิน “
” ช่างน่ากลัวเหลือเกิน นี่มันยิ่งกว่าทุกสิ่งที่ข้ารู้เสียอีก! ข้าไม่สามารถอธิบายทักษะนี่ด้วยคำพูดใดๆได้ “
ทุกคนต่างตกตะลึง แต่คนที่หวาดกลัวที่สุดคือเจียงเหว่ย เขาถือยุทธภัณฑ์ของเขา แต่เจียงเฉินทั้งเก้าตรงหน้าเขา แต่เขาไม่รู้จะโจมตีใส่ร่างใดดี
” เจียงเหว่ย เตรียมตัวตายซะ! “
เจียงเฉินทั้งเก้าตะโกนออกมาในเวลาเดียวกัน
” เจ้านี่ล่ะ ! “
เจียงเหว่ยเล็งเป้าไปที่ร่างหนึ่งของเจียงเฉิน จากนั้นเขาก็กวัดแกว่งดาบออกไปข้างหน้าเขา
วู่บ….!
ร่างเจียงเฉินที่ถูกฟันลงไปได้แตกกระจายหายไป นั่นเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น เมื่อเขาโจมตีพลาด เจียงเหว่ยพลันรู้สึกอันตรายจากข้างหลังของเขา เขาหันตัวกลับในทันที เขาพบว่าร่างจริงของเจียงเฉินได้เข้าใกล้เขามาก
เจียงเฉินได้รอจังหวะนี้อยู่แล้ว เขาได้กรีดร้องออกมาด้วยทักษะคลื่นเสียงของเหยี่ยวออกมาดังสนั่น ด้วยระยะเพียงเท่านี้อีกทั้งเขายังไม่ได้ป้องกันตัว
เจียงเหว่ยได้รับทุกสิ่งเข้าไป คลื่นเสียงชั้นแล้วชั้นเล่าได้ทะลวงเข้าไปยังสมองของเจียงเหว่ย และได้ทะลวงเข้าไปทั่วร่างเขา
=======================================================เรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป เจียงเหว่ยจะรอดหรือไม่ เจียงเฉินจะทำอย่างไรต่อไปกันนะ ติดตามกันใหม่เน้อ วันนี้โชคดีราตรีสวัสดิ์ คร่อก…..