ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปแปลไทยโดย Takumi Kun
ตรวจทาน Takumi Kun
**************************************************************************
” ท่านพี่เจียงเฉิน ผู้ใดคือปีศาจโลหิตอย่างนั้นหรือ? “
หยานเฉินหยู่เดินไปหาเจียงเฉินด้วยท่าทีเป็นกังวล เมื่อผู้นำนิกายบอกว่านี่เป็นการลงทัณฑ์ของเจียงเฉิน นั่นหมายความว่าภารกิจนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ปีศาจโลหิต…. เพียงแค่ชื่อของมันมันสามารถบอกได้ว่าไม่ใช่สิ่งที่สามารถที่จะรับมือได้โดยง่าย
เจียงเฉินส่ายหัว เขาไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด
ฟุ่บ!
ในตอนนั้นเอง มีคนร่อนลงมาเหนือเรือนที่พักของเจียงเฉิน เขาคือกั๋วฉานที่มาด้วยท่าทางตื่นตระหนก
” น้องเจียง เจ้าอย่าทำภารกิจนี้นะ! ข้าจะไปหาท่านผู้นำนิกายเพื่อขอให้เขายกเลิกการมอบหมายงาน! หากไม่ล่ะก็ ข้าก็จะไปกับเจ้าด้วย “
กั๋วฉานกล่าว จากคำพูดของเขา เจียงเฉินสามารถบอกได้ว่าเขาค่อนข้างกลัวปีศาจโลหิตอยู่พอสมควร
” พี่กั๋ว ปีศาจโลหิตมันคือสิ่งใดหรือ? เผ่าปีศาจมีตัวตนอยู่ที่แคว้นฉี? “
เจียงเฉินถาม มีปีศาจของจริงที่มีตัวตนอยู่ที่ทวีปศักดิ์สิทธิ์ ในชีวิตที่แล้วของเขาเจียงเฉินได้สู้กับราชันย์ปีศาจที่ทรงพลังมากมาย ดังนั้นเขารู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของเผ่าพันธุ์ปีศาจดี
” ไม่ ปีศาจโลหิตมันไม่ใช่ปีศาจจริงๆหรอก อย่างไรก็ตามพวกมันเหี้ยมโหดและโหดร้ายยิ่งกว่าปีศาจตัวจริงเสียอีก ปีศาจโลหิตนี้จริงๆแล้วก็เป็นมนุษย์ แต่พวกเขาทำการบ่มเพาะทักษะปีศาจโลหิตทำให้พวกมันโหดร้ายและเหี้ยมโหด พวกมันล้วนสูญเสียความเป็นมนุษย์ทั้งหมดไป และความคิดของมันรู้เพียงอย่างเดียวคือสังหารอย่างไร้ความปราณี นั่นเป็นเหตุที่เรียกพวกมันว่าปีศาจโลหิต”
กั๋วฉานกล่าว
” ดูเหมือนว่าพี่กั๋วจะรู้เรื่องปีศาจโลหิตนี่เป็นอย่างดี “
เจียงเฉินขมวดคิ้ว
” ในรอบสิบปีที่ผ่านมา ปีศาจโลหิตผู้เรียกตนเองว่าหมอผีจันทราโลหิตได้แสดงตัวมันเป็นครั้งแรกในแคว้นฉี ชายผู้นี้โหดเหี้ยมมาก และไม่เพียงแค่ดื่มเลือดของผู้บริสุทธิ์ มันยังก่อตั้งนิกายเรียกว่า นิกายจันทราโลหิตขึ้นมา มันสอนและสร้างปีศาจโลหิตตนใหม่ขึ้น ก่อให้เกิดความหวาดกลัวขึ้นทั่วแคว้นฉี ในตอนท้ายมันได้ถูกเหล่าผู้นำนิกายใหญ่ทั้งสี่ร่วมมือกันสังหาร และที่เหนือความคาดหมายคือ ปีศาจโลหิตรุ่นใหม่ที่เรียกตัวเองว่าราชันย์จันทราโลหิตได้ปรากฎตัวขึ้น! “
กั๋วฉานกล่าว
หลังจากที่ได้ฟังการอธืบายของกั๋วฉาน เจียงเฉินผงกหัวด้วยท่าทางเคร่งเครียด เขาพูดว่า ” พวกมันไม่เป็นประโยชน์อันใด การกระทำของพวกมันไม่ได้ประโยชน์แม้แต่น้อย มีแต่ภัยคุกคาม พวกมันไม่สมควรที่จะมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ ข้าจะรับภารกิจนี้ ข้าต้องการที่จะเห็นราชันย์ปีศาจโลหิตด้วยตาตนเอง “
” น้องชาย ศิลาเหลืองอยู่ภายในอาณาเขตนิกายทมิฬ นั่นเป็นเหตุว่าการสังหารปีศาจโลหิตไม่ใช่ความรับผิดชอบของเจ้าเพียงผู้เดียว ศิษย์ทั้งหมดในนิกายทมิฬต่างต้องรับผิดชอบร่วมกัน หากเจ้าไปผู้เดียว ข้าเกรงว่าเจ้าไม่อาจรับมือได้ด้วยตวเจ้าเอง นอกจากนี้จ้าวจันทราโลหิตส่งผลให้เกิดความไม่สงบครั้งใหญ่ขึ้น ข้าแน่ใจว่ามันจะต้องเป็นผู้ที่ทรงพลังเป็นแน่ และมันไม่ใช่ผู้ที่จะรับมือได้ง่ายๆ “
กั๋วฉานยังคงคัดค้านที่จะให้เจียงเฉินรับภารกิจนี้
” ไม่ว่าอย่างไรก็ตามข้าจะรับภารกิจนี้ไว้ นี่เป็นการทดสอบและโอกาสที่ท่านผู้นำนิกายมอบให้แก่ข้าด้วยตนเอง มีเวลาเพียงหนึ่งปีที่เหลืออยู่ก่อนที่จะต้องสู้กันระหว่างข้ากับหนานเป่ยเฉา และท่านได้บอกข้าก่อนหน้านี้ ท่านผู้นำนิกายได้หวังไว้กับข้า นั่นเป็นเหตุที่เขาไม่มอบภารกิจที่จะทำให้ข้าสามารถถูกสังหารได้ แต่ในเวลาเดียวกันเขาปรารถนาให้ข้าได้แข็งแกร่งขึ้นในระยะเวลาอันสั้น ภารกิจที่ในเรื่องที่ข้าจะสังหารปีศาจโลหิตนี่เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ฝึกฝนอย่างแท้จริง “
เจียงเฉินกล่าว เขาเข้าใจในสิ่งที่นักพรตทมิฬคิดอยู่ ด้วยศักยภาพและพรสวรรค์ของเจียงเฉิน ไม่มีทางที่นักพรตทมิฬจะผลักเขาตกนรกหมกไหม้ ภารกิจนี้เกือบเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้สำเร็จ แต่มันช่วยให้เจียงเฉินเติบโตอย่างแท้จริง เมื่อเจียงเฉินแข็งแกร่งขึ้นในระหว่างภารกิจ เขาสามารถที่จะบรรลุภารกิจนี้ได้
อย่างที่สอง นักพรตทมิฬใช้สิ่งนี้แทนการไถ่โทษของเจียงเฉิน นอกจากนั้นเจียงเฉินได้ก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อวาน และหากไม่ใช่เพราะท่านผู้นำนิกาย นิกายทมิฬจะกลายเป็นสถานที่ไร้ซึ่งกฎเกณฑ์
” มันก็ดีที่เจ้าเจ้าใจถึงเจตนาของท่านผู้นำนิกายเบื้องหลังภารกิจนี้ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นภารกิจที่อันตรายอย่างแท้จริง เจ้าแน่ใจรึว่าเจ้าต้องการที่จะไปคนเดียว เจ้าน้องชาย? “
กั๋วฉานแสดงท่าทียินดีต่อเจียงเฉิน เพราะเจียงเฉินสามารถมองได้ทะลุปรุโปร่งเหนือผู้อื่นเสมอ
” ใช่แล้ว ข้าได้ตัดสินใจว่าจะรับภารกิจนี้ “
เจียงเฉินผงกศีรษะ ในความจริง ภารกิจนี้มาได้จังหวะเหมาะพอดี เขาเพิ่งจะดูดซับยาเบญจธาตุไปและสิ่งที่สำคัญสำหรับเขาคือการทะลวงไปสู่แก่นแท้สวรรค์และมันไม่มีทางที่เขาจะทำได้ในนิกายทมิฬ เจียงเฉินเตรียมตัวที่จะไปทะลวงที่เขาหมื่นอสูร แต่ก่อนที่เขาจะไป นักพรตทมิฬได้มอบหมายภารกิจแก่เขา แม้ว่าปีศาจโลหิตทั้งโหดร้ายและโหดเหี้ยม ความเสี่ยงของที่นั่นจะต่ำกว่าความเสี่ยงที่เข้าไปส่วนลึกของเขาหมื่นอสูรเสียอีก
ครั้งหนึ่งเจียงเฉินเคยเป็นเซียนผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เขาจะมากลัวพวกปีศาจโลหิตได้อย่างไร?
” เข้าใจแล้ว เมื่อเจ้าได้ตัดสินใจแล้ว ข้าจะไม่ห้ามเจ้าอีก ด้วยความสามารถและทักษะของเจ้า ข้าเชื่อว่าปีศาจดูดเลือดทั่วๆไปคงไม่คณามือเจ้าเป็นแน่ เจ้าต้องระวังตัวให้มากกับจ้าวจันทราโลหิต เจ้านั่นฉลาดแกมโกงเหมือนหมอผีจันทราโลหิต และมันไม่ง่ายที่จะจัดการมัน “
กั๋วฉานเอามือวางบนไหล่ของเจียงเฉิน
” พี่กั๋ว ก่อนที่ข้าจะไปมีบางสิ่งที่ข้าต้องการความช่วยเหลือจากท่าน “
เจียงเฉินพูดออกมา
” บอกข้ามาเถอะ เจ้าน้องชาย ตราบที่พี่ชายผู้นี้สามารถทำได้ ข้าจะทำไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม “
ท่าทีของกั๋วฉานจริงจังขึ้นมา
” หวงต้าและข้าจะเริ่มออกเดินทางไปยังเมืองศิลาเหลืองคืนนี้ และหยู่น้อยจะอยู่ที่นี่ พี่กั๋วข้าขอให้ท่านช่วยดูแลนางให้ดี ข้าเกรงว่าเฟินคุนจะมาคุกคามนาง “
เมื่อเจียงเฉินตัดสินใจที่จะไป สิ่งเดียวที่เขากังวลมากที่สุดคือหยานเฉินหยู่ แม้ว่าชีพจรเก้าหยินของนางทรงพลังอย่างมาก พลังของศัตรูนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่า หากเฟินคุนต้องการหาเรื่องนาง หยานเฉินหยู่ไม่สามารถที่จะปกป้องตัวเองได้เป็นแน่
” ท่านพี่เจียงเฉิน ข้าขอไปกับท่านด้วย! “
หยานเฉินหยู่พูดออกมาทันที
” หยู่น้อย ตอนนี้ข้ายังไม่มีรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับภารกิจนี้ หากเจ้าตามพวกข้ามา ข้าอาจไม่สามารถมีสมาธิในการทำภารกิจได้ เจ้าอยู่ที่นี่และใช้เวลาในการบ่มเพาะของเจ้าเสีย เมื่อข้าสังหารเจ้าปีศาจโลหิตเสร็จเมื่อใด ข้าจะกลับมาทันที “
เจียงเฉินโอบหยานเฉินหยู่และพูดอย่างอ่อนโยน
” เข้าใจแล้ว แต่ท่านพี่เจียงเฉิน ท่านต้องสัญญานะว่าจะดูแลตัวเองให้ดีด้วย! “
หยานเฉินหยู่ผงกศีรษะ แม้ว่านางไม่อยากที่จะแยกจากเจียงเฉิน นางก็เข้าใจในการตัดสินใจของเขา ไม่เพียงแค่นางไม่สามารถที่จะช่วยเหลือพวกเขาได้มาก นางอาจจะเป็นตัวถ่วงอีก
” สบายใจได้เลยน้องชาย ไม่มีผู้ใดกล้าหาเรื่องภายในนิกายทมิฬหรอก หากเฟินคุนต้องการที่จะคุกคามหยู่น้อย ไม่เพียงแค่ข้ากระทั่งท่านผู้นำนิกายเองก็จะไม่ให้เรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้น “
กั๋วฉานรับปากเจียงเฉิน
” ประเสริฐ ถ้าเช่นนั้น พวกข้าขอตัวก่อน “
เจียงเฉินกางปีกโลหิตออกมาและบินขึ้นบนฟ้า และไม่นานนักเขาก็หายจากนิกายทมิฬ หวงต้าเองก็กระพือปีกแสงของมันบินตามไปเคียงข้างเจียงเฉิน เมื่อเหล่าศิษย์ได้เห็นเจียงเฉินผ่านไป พวกเขาแปลกใจในการตัดสินใจของเจียงเฉิน
” เจียงเฉินรับภารกิจนี้จริงๆงั้นรึ? และตอนนี้ได้ออกไปยังศิลาเหลือง? เขาไม่รู้งั้นรึเกี่ยวกับความเสี่ยงเบื้องหลังภารกิจนี้? “
” ภารกิจนี้ท่านผู้นำนิกายมอบให้เขาด้วยตัวเอง ไม่มีทางที่เขาจะปฎิเสธได้หรอก ข้าล่ะสงสัยว่าอาจเป็นเพราะเฟินคุนและปู่ของเขาได้ทำบางสิ่งเบื้องหลังฉากนี้ส่งผลให้เจียงเฉินต้องได้รับบทลงโทษ “
” ภารกิจนี้มันเป็นภารกิจฆ่าตัวตายชัดๆ ข้าสงสัยว่าเจียงเฉินจะสามารถรอดกลับมาได้รึเปล่า “
………………………………………………………………………..
ศิษย์จำนวนมากถอนหายใจ โดยเฉพาะเหล่าศิษย์นอกผู้ติดตามเจียงเฉิน พวกเขามีท่าทีเป็นกังวล
ในบริเวณส่วนลึกของภูเขาทมิฬ เฟินจงถังและเฟินคุนต่างอยู่ด้วยกันที่ห้องลับ พวกเขาทั้งคู่ดูมีความสุข
” ฮ่าฮ่า ข้าไม่เคยคาดว่าท่านผู้นำนิกายจะมอบหมายภารกิจเช่นนี้แก่เจียงเฉิน! มันจักต้องตายเป็นแน่ “
เฟินคุนหัวเราะออกมาเสียงดัง
” ฮึ่ม! ผู้นำนิกายไม่ได้คิดจะลงทัณฑ์ แต่มอบโอกาสให้เจียงเฉินฝึกฝนตัวเอง เขากำลังจะปั้นให้เจียงเฉินเป็นคุ๋แข่งที่ร้ายกาจที่สุดของหนานเป่ยเฉา “
เฟินจงถังแค่นเสียงเย็นชา
” ท่านปู่ ข้าได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับภารกิจนี้มาแล้ว ราชันย์จันทราโลหิตมีระดับบ่มเพาะอยู่ที่อาณาจักรแก่นแท้สวรรค์ขั้นสูงสุด เมื่อรวมกับความน่ากลัวของทักษะปีศาจโลหิต แม้แต่ข้ายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน! หากเจียงเฉินพบกับจ้าวจันทราโลหิต มีแต่จุดจบอย่างเดียวสำหรับเขานั่นคือความตาย “
เฟินคุนแสยะยิ้มขึ้น
” พวกเราไม่อาจที่จะดูถูกเจียงเฉินได้ เขาจักต้องกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ได้เป็นแน่ เมื่อพวกเราได้ทำงานให้กับหนานเป่ยเฉา พวกเราจะช่วยเขาสังหารเจียงเฉิน และนี่เป็นโอกาสอันดี “
แววตาดุร้ายปรากฎขึ้นที่ดวงตาเฟินจงถัง แม้กระทั่งระดับการบ่มเพาะอาณาจักรแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลางยังต้องทำงานภายใต้หนานเป่ยเฉา ไม่มีผู้ใดเชื่อเป็นแน่ หนานเป่ยเฉานั้นโดดเด่นอย่างไม่น่าเชื่อ
” ท่านปู่ ท่านหมายความว่าจะลอบสังหารเจียงเฉินงั้นรึ? “
เฟินคุนถาม
” ไม่ เจ้าจะต้องไม่ไปไหนทั้งสิ้นในตอนนี้ ผู้นำนิกายเป็นคนหลักแหลม และเจ้าออกไปเมื่อใด แม้แต่คนปัญญาอ่อนยังรู้ว่าเจ้าไปสังหารเจียงเฉิน “
เฟินจงถังพูด
” มันก็จริงอยู่ แต่ข้าคิดว่าไม่จำเป็นต้องกังวลมากมาย เจียงเฉินมักคิดว่าตัวเองสูงส่ง และมันไม่เคยเอาจริงกับคนอื่นๆ เวลานี้ที่มันถูกส่งให้ไปจัดการปีศาจโลหิต นี่มันเป็นภารกิจฆ่าตัวตายโดยแท้ “
เฟินคุนมีท่าทีปิติยินดี
” ส่งคนไปจับตามองที่เขตศิลาเหลือง หากปีศาจโลหิตไม่สามารถที่จะสังหารเจียงเฉินได้ ขอให้คนไปแจ้งไปยังนิกายกระบี่สวรรค์ถึงแหล่งกบดานของมัน “
เฟินจงถึงพูดพร้อมยิ้มแสยะบนใบหน้ามัน
” ใช่แล้ว เหลียงเซียวความตั้งใจที่จะสังหารเจียงเฉินแรงกล้ายิ่งกว่าพวกเราเสียอีก “
เฟินคุนพูดพร้อมหัวเราะดังลั่น
…………………………………………………………………….
เจียงเฉินและหวงต้าบินได้ไวมาก ช่วงเวลาเที่ยงคืนพวกเขาได้มาถึงเขตศิลาเหลือง
” ภารกิจสังหารปีศาจโลหิตเป็นหนทางการฝึกฝนที่ดีอย่างแท้จริง นี่เป็นโอกาสครั้งใหญ่เช่นกัน “
หวงต้ากล่าว
” ใช่แล้ว ข้าได้ทำการบ่มเพาะทักษะเฉพาะและมันช่วยให้ข้ามีโลหิตและปราณที่แข็งแกร่ง ทั้งสองอย่างเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในการต่อกรปีศาจทั้งหลาย แม้ว่าเจ้าจะสืบสายโลหิตของกิเลนบรรพกาล เหล่าปีศาจหวาดกลัวเจ้าเช่นกัน แม้ว่าปีศาจโลหิตจะเป็นมนุษย์ พวกมันไม่ต่างอันใดกับปีศาจ และจะมีแก่นแท้ปีศาจสร้างอยู่ในตัวพวกมัน ผลประโยชน์ที่ได้จากการดูดซับแก่นแท้ปีศาจดีเยี่ยมยิ่งกว่าดูดซับวิญญาณอสูร จากสัตว์อสูร หลังจากที่ข้าได้ดูดซับยาเบญจธาตุเพื่อเสริมสร้างรากฐานของข้า ข้าจะใช้โอกาสนี้ในการทะลวงเข้าสู่แก่นแท้สวรรค์ “
เจียงเฉินกล่าว
เขตศิลาเหลืองมีพื้นที่ระยะโดยรอบมากกว่าหมื่นไมล์ ตอนนี้ที่จุดศูนย์กลางของศิลาเหลือง ศิลาเหลืองนั้นมีพื้นที่ติดกับอีกสองเมืองในบริเวณนี้ อย่างไรก็ตาม เพราะว่าศิลาเหลืองไม่ได้ตั้งอยู่ที่ที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ ที่นี่ไม่มีตระกูลที่ทรงพลังอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ แน่นอนว่าตระกูลที่อ่อนแอที่สุดของแคว้นฉีย่อมแข็งแกร่งกว่าเมืองสีชาดมาก
ตอนนี้ที่ตรงหน้าพวกเขาเป็นเทือกเขารกร้าง แม้ว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาเที่ยงคืน พวกเขาสามารถที่จะเห็นหมอกจางๆปกคลุมภูเขา เจียงเฉินได้กลิ่นเลือดจากภายในเทือกเขา
” ที่นี่คือเทือกเขาปีศาจโลหิตสินะ “
เจียงเฉินตาส่องประกาย
” เจ้ารู้ได้อย่างไร? “
หวงต้ามองไปยังเจียงเฉินและถามออกมา
” มีบางสิ่งที่เรียกมันว่า ‘ญาณ’ หวงต้า ยังมีเรื่องอีกมากมายที่เจ้าต้องเรียนรู้ “
เจียงเฉินระเบิดหัวเราะออกมา
” เจ้าหนู ญาณของบิดาผู้นีี้ที่มีต่อสมบัติเป็นสิ่งที่เจ้าไม่มีทางมีได้ “
หวงต้าแค่นเสียงต่อคำพูดของเจียงเฉิน และทำให้เขาพูดไม่ออก หากผู้ใดจะมาเทียบความสามารถในการหาสมบัติ มันไม่มีผู้ใดในโลกที่จะเทียบเท่าหวงต้าได้
อ๊าาาาาาา…..
ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องอย่างน่ากลัวได้ออกมาจากภายในหุบเขาและได้เงียบลงท่ามกลางคืนมืด เสียงร้องนั่นส่งผลให้ผู้ที่ได้ยินต้องสั่นสะท้านถึงไขสันหลัง มันเหมือนกับว่าคนที่ร้องออกมาพบนบางสิ่งที่ทำให้เขาหวาดกลัวจนถึงขีดสุด
” เจ้าหนู เจ้าพูดถูก! ข้าสัมผัสได้ถึงพลังปีศาจที่รุนแรงด้านหน้านี้ “
ท่าทางของหวงต้าเคร่งเครียด
” ไปกันเถอะ “
เจียงเฉินกระพือปีกโลหิตของเขาและบินไปยังหุบเขาด้วยความเร็วสูงมาก ปีศาจโลหิตได้ปรากฎตัวอย่างน้อยสองวันก่อน แต่ว่าพวกมันได้กระจายตัวทั่วทุกที่ในเขตศิลาเหลือง นี่หมายความว่ามีปีศาจโลหิตอยู่จำนวนมาก
**************************************************************************
จบจ้า ไม่ค้างกันนะครับ อิอิอิ