ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปแปลโดย Subaru-Kyun
ตรวจทาน Subaru-Kyun
=======================================================
ตลอดกระบวนการปรุงยาดำเนินไปอย่างราบรื่น เจียงเฉินยิ้มผ่อนคลายออกมาตลอดเวลา ไม่มีท่าทีสงสัยหรือกังวลใดๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขาแม้แต่น้อย เขาพบจุดสมดุลระหว่างสมุนไพรทั้งห้าชนิดในทันที
กั๋วฉานตกตะลึงจนถึงที่สุด เขาไม่เคยเห็นการปรุงยาที่เชี่ยวชาญขนาดนี้มาก่อน ปัญหาของธาตุทั้งห้าขัดแย้งในตัวมันเอง เป็นปัญหาที่นักปรุงยานับไม่ถ้วนไม่สามารถแก้มันได้ แต่ตอนนี้ปัญหาดังกล่าวถูกแก้โดยเจียงเฉินอย่างง่ายดายและผ่อนคลายอีกด้วย เขาไม่สนใจปัญหาการขัดแย้งกันและทำเพียงใช้ลักษณะการก่อให้เกิดรวมทั้งห้าเข้าด้วยกัน การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่วัตถุดิบเหล่านั้นจะได้ใช้ประสิทธิภาพเต็มที่ แต่การใช้ลักษณะการก่อให้เกิดเช่นนี้ทำให้ตัวยามีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
กั๋วฉานถึงกับสั่นสะท้าน เขายังคงจ้องมองเจียงเฉินโดยไม่ได้เคลื่อนไหวแม้แต่นิดเดียว เทียบกับเจียงเฉินแล้ว เขารู้สึกเหมือนกับเสียเวลาเปล่ามาทั้งชีวิตของเขา ยาสามารถปรุงขึ้นมาได้ง่ายดายเช่นนี้
หากไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการรบกวนเจียงเฉิน ป่านนี้กั๋วฉานคงยืนเชียร์และปรบมือด้วยเป็นแน่
ปุ้ง!
เมื่อได้ยินเสียง ‘ปุ้ง’ ออกมาจากทะเลเพลิง เจียงเฉินตะเบ็งเสียงออกมา จากนั้นเม็ดยาที่ปกคลุมไปด้วยสีสันทั้งห้า ได้พุ่งออกมาจากเปลวไฟ เจียงเฉินถอนพลังวิญญาณและเปลวไฟ จากนั้นเขาก็ยืนมือของเขาจับไปที่เม็ดยา
ยาเบญจธาตุ เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อย
กั๋วฉานจ้องมองไปยังเม็ดยาในมือของเจียงเฉินด้วยท่าทีไม่อยากจะเชื่อ ดวงตาของเขาได้ถูกดึงดูดโดยยาเบญจธาตุ เพียงแค่ครึ่งชั่วโมง เจียงเฉินก็สามารถปรุงยาเบญจธาตุได้สำเร็จ
” เม็ดยามีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ ราวกับคริสตัลใส ไม่มีสิ่งใดเจือปน ธาตุทั้งห้าได้รวมเข้าด้วยกัน มันคือ ยาเบญจธาตุ ประสิทธิภาพเต็มสิบส่วน! “
กั๋วฉานบ่นพืมพำกับตัวเอง หากเขาไม่ได้เห็นด้วยตาของตัวเอง ต่อให้มีคนมาบอกยังไงข้าก็คงไม่มีวันเชื่อเป็นแน่ ยาเบญจธาตุได้ทำให้นักปรุงยาจำนวนนับไม่ถ้วนปวดเศียรเวียนเกล้า แต่มันถูกเจียงเฉินปรุงขึ้นมาง่ายๆเช่นนี้
กั๋วฉานถามในใจตัวเอง หากเขาปรุงยาเบญจธาตุด้วยตนเอง แม้ว่าเขาจะปรุงมันสำเร็จอย่างมากเขาสามารถปรุงได้เพียงแปดถึงเก้าส่วนเท่านั้น เขาไม่เคยปรุงออกมาได้สิบส่วนแม้แต่ครั้งเดียว นอกจากนี้เขายังต้องใช้เวลากว่าครึ่งวันแต่เจียงเฉินใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง เขาสามารถปรุงยาเบญจธาตุประสิทธิภาพสิบส่วนออกมาได้
” พี่กั๋ว ท่านคิดเช่นไรเกี่ยวกับยาเบญจธาตุเม็ดนี้? “
เจียงเฉิน ถามออกมาด้วยรอยยิ้ม
” น้องพี่ จะ….เจ้า….. “
กั๋วฉานไม่สามารถพูดได้จบประโยคจากนั้นเขาก็เข้ามากอดเจียงเฉินและร้องไห้ออกมา น้ำตาของเขาได้ไหลรินลงทั่วทั้งไหล่ของเจียงเฉิน เขาไม่สามารถกักเก็บความเศร้าไว้ภายในอีกได้
” พี่ชาย ท่านจงใจพาข้ามาที่นี่เพื่อฉีกหน้าข้าใช่หรือไม่! “
กั๋วฉานรู้สึกกระอักกระอ่วน ภายในแคว้นฉีเขาไม่เคยเชื่อทักษะการปรุงยามาก่อน ไม่เคยแม้แต่จะฝัน แต่ตอนนี้เขาได้ประจักษ์ชัดแจ้ง โดยนักปรุงยาแก่นแท้มนุษย์คนนี้
” พี่ชาย ข้ามีทักษะที่ช่วยในการบ่มเพาะพลังวิญญาณ ข้าหวังว่าท่านจะสนใจ “
หลังจากพูดออกไปเช่นนั้นส่งทักษะรากวิญญาณยอดเยี่ยมไปให้กั๋วฉานผ่านสัมผัสเทวะของเขา
ทักษะรากวิญญาณยอดเยี่ยมเป็นรากฐานสำคัญที่สุดของเจียงเฉิน การสอนกั๋วฉานให้เรียนรู้ทักษะนี้เขาจะมีเหตุจูงใจเบื้องหลัง ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากั๋วฉานจะกลายมาเป็นเพื่อนแท้ของเขา เจียงเฉินต้องการที่จะสร้างกลุ่มของตัวเองในอนาคต นักปรุงยาถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นในทุกๆกลุ่ม เจียงเฉินไม่ต้องการเสียเวลาจำนวนมากและพลังงานในการปรุงยา ดังนั้นเขาต้องการเสาะหานักปรุงยาที่สามารถทำงานให้เขาได้ กั๋วฉานเป๋นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ
ทักษะรากวิญญาณยอดเยี่ยมได้แบ่งออกเป็นสองส่วน และเจียงเฉินให้ส่วนแรกกับกั๋วฉานไป เขาต้องการเห็นว่ากั๋วฉานเข้าใจมันได้หรือไม่ ทักษะรากวิญญาณยอดเยี่ยมเป็นทักษะขั้นสูงและซับซ้อนเป็นอย่างมาก มันไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะฝึกกันได้ง่ายๆ หากกั๋วฉานสามารถเชี่ยวชาญส่วนแรกได้เพียงลำพัง เขาก็สามารถปรุงยาระดับสวรรค์ได้ และจะกลายเป็นนักปรุงยาแห่งสวรรค์
ท่าทีของกั๋วฉานได้เปลี่ยนเป็นไม่อยากจะเชื่อในทันที ทักษะรากวิญญาณยอดเยี่ยมได้พวยพุ่งเข้ามาในสัมผัสเทวะของเขาราวกับน้ำที่ไหลเชี่ยว ตำราลึกลับนี้ได้นำพาเขาจมลึกเข้าไปในความคิด ด้วยทักษะนี้ได้ทำให้เขาสูญเสียตัวเองทั้งหมด
กั๋วฉานสั่นสะท้านและทำหน้ามุ่ย ชัดเจนว่าเขาไม่สามารถเข้าใจตำราที่ซับซ้อนนี้ได้โดยทันที
” พี่ชาย นี่คือทักษะบ่มเพาะพลังวิญญาณเรียกว่า ทักษะรากวิญญาณยอดเยี่ยม ข้าส่งให้ท่านก่อนในส่วนแรก และเมื่อท่านเชี่ยวชาญมัน ข้าจะสอนในส่วนที่สองแก่ท่าน หากท่านเชี่ยวชาญทักษะนี้ ท่านจะต้องการเป็นนักปรุงยาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกได้แน่นอน “
เจียงเฉิน พูดออกมา
ท้ายที่สุดแล้ว กั๋วฉานก็หยุดตัวเองจากการเรียนรู้ตำรานั่น เพียงแค่สองถึงสามนาทีเท่านั้น หน้าผากของเขาก็ถูกเติมเต็มไปด้วยเหงื่อ ในตอนนี้เขามองไปยังเจียงเฉินเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เคารพนับถือ ซาบซึ้งใจ ทุกอย่างผสมปนเปไปกันหมด เขาสับสนว่าจริงๆแล้วเจียงเฉินเป็นใครกันแน่ และทำไมเขาถึงได้มีทักษะบ่มเพาะพลังวิญญาณขั้นสูงและซับซ้อนถึงเพียงนี้
” น้องชาย ของขวัญนี้มันมากเกินไปสำหรับข้า “
หาได้ยากที่กั๋วฉานจะจริงจังขึ้นมา นักปรุงยาเช่นเขา ย่อมรู้ดีว่าทักษะบ่มเพาะพลังวิญญาณนั้นสำคัญขนาดไหนสำหรับนักปรุงยา ทักษะรากวิญญาณยอดเยี่ยมถือได้ว่าเป็นความใฝ่ฝันของนักปรุงยาทั่วโลก
การที่เจียงเฉินตัดสินใจส่งมอบทักษะนี้ให้เขา เจียงเฉินคำนึงว่ากั๋วฉานเป็นพี่ชายของเขา ทำให้กั๋วฉานรู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก
” ท่านหยุดซาบซึ้งก่อนเถอะ ข้าไม่ชอบมัน ในตอนนี้ข้ามียาเบญจธาตุแล้ว ถึงเวลาที่ข้าต้องกลับไปเริ่มบ่มเพาะพลังเสียที ไว้เจอกันใหม่พี่กั๋ว “
เจียงเฉินประสานมือของเขาต่อหน้ากั๋วฉาน จากนั้นทั้งเขากับหยานเฉินหยู่และเจ้าหวงต้า ก็จากไปจากยอดเขา
กั๋วฉานมองไปยังหลังของเจียงเฉิน ความสับสนอยู่ในแววตาของเขา เขาคิดกับตัวเองว่า ” น้องข้า เจ้าเป็นคนเช่นไรกันแน่? “
………………………………………………………….
ในวันเดียวกัน ช่วงบ่าย เจียงเฉินได้เรียกให้ศิษย์นอกจำนวนหนึ่งสร้างบ้านใหม่ให้เขาภายในเรือนที่พัก หลังจากนั้นเขาก็เริ่มเก็บตัวบ่มเพาะพลังตอนกลางคืน
ยาเบญจธาตุ ยาขั้นปฐพีระดับต่ำ มันสามารถให้ประโยชน์ได่อย่างจำกัดในระดับของเขาตอนนี้ ด้วยการช่วยเหลือของทักษะร่างแปลงมังกร เขาสามารถดูดซับพลังงานทั้งหมดได้ หากยานั้นระดับสูงเกินไป เขาก็ไม่สามารถดูดซับมันได้สมบูรณ์ มันช่างเสียเปล่าอะไรเช่นนี้
ความจริง ด้วยศักยภาพของเจียงเฉินในตอนนี้ เขาสามารถทะลวงเข้าสู่แก่นแท้สวรรค์โดยไม่จำเป็นต้องกังวลใดๆ มันง่ายยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับตอนเขาทะลวงผ่านขั้นอื่นเสียอีก คนธรรมดาทั่วไปต้องการทะลวงผ่านจากแก่นแท้มนุษย์เข้าสู่แก่นแท้สวรรค์มันเป็นช่องว่างที่มากมายมหาศาล พวกเขาจำเป็นต้องควบคุมพลังธรรมชาติให้ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจียงเฉินบ่มเพาะพลังด้วยประสบการณ์ของเซียน เขาทำเพียงแค่ต้องรวบรวมพลังงานเท่านั้น ไม่มีคอขวดตลอดเส้นทางของเขา เมื่อเขาเก็บสะสมพลังงานได้เพียงพอและมีตราประทับมังกรถึงเกณฑ์ที่กำหนดในตำราทักษะร่างแปลงมังกร เขาก็สามารถทะลวงผ่านได้ทันที เป็นสิ่งเฉพาะตัวที่ไม่มีใครเหมือน
แต่ เพื่อความแข็งแกร่งของรากฐานและศักยภาพของเขา เจียงเฉินตัดสินใจที่จะดูดซับยาเบญจธาตุเป็นอันดับแรก ก่อนที่เขาจะทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้สวรรค์ ด้วยสิ่งนี้เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับรากฐานของเขาจะไม่เสถียรอีกต่อไป
ยาเบญจธาตุเป็นเม็ดยาที่ดีที่สุดที่สามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของรากฐาน เม็ดยาเต็มไปด้วยพลังงานของธาตุแตกต่างกันห้าอย่าง สามารถดูดซับโดยตรงจากอวัยวะภายในทั้งห้าและสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง
เจียงเฉินนำเม็ดยาออกมาแล้วกลืนมันลงไปทั้งอย่างนั้น พร้อมทั้งโคจรทักษะร่างแปลงมังกร พลังงานจากเม็ดยาเบญจธาตุได้แตกกระจายเข้าส่วนทุกส่วนของร่างกาย จิตวิญญาณ และอวัยวะภายในทั้งหมด
ฟู่วววว…….!
ความรู้สึกของมันได้ทำให้ร่างกายของเจียงเฉินเริ่มสั่นเทา ราวกับฝนได้เริ่มตกลงมาหลังจากเกิดภัยแล้งมาเป็นระยะเวลายาวนาน ช่างเป็นความรู้สึกที่วิเศษอะไรเช่นนี้
เจียงเฉินได้ดูดดื่มไปกับช่วงเวลาที่สุดวิเศษในตอนที่เขากำลังดูดซับยาเบญจธาตุ กระบวนการดูดซับของมันเริ่มช้าลง เจียงเฉินไม่ได้เร่งรีบดูดซับมัน หลังจากผ่านไปกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงเขาก็ดูดซับมันได้โดยสมบูรณ์
เมื่อเจียงเฉินได้ตื่นขึ้นมาจากการบ่มเพาะพลังของเขา ได้มีเงามังกรสีแดงโลหิตเคลื่อนที่ไปรอบร่างกายของเขา เมื่อทักษะร่างแปลงมังกรนั้นแข็งแกร่งขึ้น ปราณและเลือดของเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นในเวลาเดียวกัน
หลังจากดูดซับเม็ดยาเบญจธาตุสำเร็จ ไม่เพียงแต่รากฐานของเขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้น แต่มันยังช่วยเจียงเฉินสร้างตราประทับมังกรเพิ่มขึ้นอีกห้าดวง หลังจากนั้น พลังงานมหาศาลภายในเม็ดยา เม็ดยาขั้นปฐพีระดับต่ำเทียบได้กับดวงจิตวิญญาณอสูรแก่นแท้สวรรค์ฺขั้นกลางเลยทีเดียว
ในตอนนี้ ภายในทะเลลมปราณของเจียงเฉินได้มีตราประทับมังกรทั้งหมดแปดสิบห้าดวง อีกเพียงนิดเดียวก็จะครบหนึ่งร้อยดวง เมื่อเขาได้ก่อตราประทับครบหนึ่งร้อยดวง เขาก็จะสามารถทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้สวรรค์ได้ ในตอนนั้นความแข็งแกร่งของเขาคงมากกว่าหนึ่งล้านจิน มันแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ
” ฟังซะนี่คือคำสั่ง…. เจียงเฉิน “
ในตอนที่เจียงเฉินบ่มเพาะพลังเสร็จสิ้น และเดินออกจากห้องของเขา น้ำเสียงที่นุ่มลึกได้ดังขึ้นมาจากบนฟ้า เสียงนั่นดังมากจนศิษย์ทุกคนในนิกายทมิฬได้ยิน
” ฟังซะนี่คือคำสั่ง…..เสียงนี่มัน เสียงของท่านผู้นำนิกาย “
” เขาจะกำหนดภารกิจให้กับเจียงเฉิน? “
” เงียบ! แล้วฟังว่ามันเกี่ยวกับอะไร! “
ศิษย์หลายคนต่างตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นในนิกายทมิฬ ตามปกติแล้วภารกิจต่างของศิษย์จะถูกกำหนดเป็นความลับ ไม่เคยเปิดเผยออกมาเช่นนี้
” ฟังให้ดี เจียงเฉิน เมื่อวานเจ้าได้ก่อเรื่องขึ้นมากมายในเขตนอก เจ้าได้ล่วงเกินศิษย์พี่ เจ้าไม่แสดงความเคารพผู้อาวุโส ข้าผู้นำนิกายขอประกาศบทลงโทษของเจ้า ก่อนหน้านี้ได้มีปีศาจโลหิตอยู่บริเวณศิลาเหลือง มันได้สังหารผู้บริสุทธิ์ ข้าขอสั่งให้เจ้าไปสังหารปีศาจโลหิตเพียงลำพัง เจ้าต้องออกไปในทันทีห้ามชักช้าโดยเด็ดขาด “
เสียงของนีกพรตทมิฬดังและชัดเจน เสียงดังออกมาจากข้างบนท้องฟ้าของหุบเขาทมิฬราวกำเสียงสายฟ้าคำราม มันแสดงถึงพลังที่ยิ่งใหญ่ของยอดฝีมือแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด ทำให้ผู้คนเคารพนับถือ
หลังจากพูดจบ เสียงของนักพรตทมิฬก็ได้หายไป แต่นิกายทมิฬนั้นเริ่มเดือดพล่าน
” อะไรนะ? สังหารปีศาจโลหิต? นี่ไม่เท่ากับส่งเจียงเฉินไปตายหรอกหรือ? ท่านผู้นำพูดไม่ได้พูดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานได้จบลงแล้วหรอกหรือ? ทำไมเขาถึงได้ต้องการลงโทษเจียงเฉินในตอนนี้? “
” บัดซบ ไม่ใช่เมื่อไม่กี่ทศวรรษมันได้ถูกกำจัดสิ้นซากไปแล้วมิใช่หรือ? ยังจำเหตุการณ์เรื่องคนทรงจันทราโลหิตได้หรือไม่? มันได้สังหารคนบริสุทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วนและสร้างหายนะแก่แคว้นฉีไว้มากมาย และท้ายที่สุดผู้นำนิกายทั้งสี่ได้ร่วมมือโจมตีในที่สุดก็สังหารมันได้สำเร็จ ข้าไม่ตาดติดว่ายังจะมีปีศาจโลหิตหลงเหลืออยู่หลังจากผ่านมาหลายปีแล้ว “
” มันเป็นเรื่องจริง ที่ปีศาจโลหิตอยู่ในเขตศิลาเหลือง บางคนบอกกับข้าว่า มันเรียกตัวเองราชันย์จันทราโลหิต มันแข็งแกร่งมาก! นอกจากนี้ปีศาจโลหิตยังมีชีวิตอยู่จากการดื่มเลือดของผู้คน มันโหดเหี้ยมอำมหิต ให้เจียงเฉินไปสังหารปีศาจโลหิตเพียงลำพัง ไม่ต่างจากขอให้เขาฆ่าตัวตาย หรือที่จริงแล้วผู้นำนิกายต้องการผลักเจียงเฉินลงสู่ขุมนรก “
” บางทีอาจเป็นเพราะเฟินจงถังและหลานชายของมันเฟินคุนไม่ต้องการไว้ชีวิตเจียงเฉิน พวกมันจึงได้กดดันผู้นำนิกายให้ภารกิจฆ่าตัวตายแก่เจียงเฉิน? “
………………..
ทุกคนตกตะลึงเป็นอย่างมาก เหตุการณ์ที่ปีศาจโลหิตได้สังหารไปกว่าพันชีวิต เมื่อไม่กี่ทศวรรษก่อนได้ทำให้ทุกคนรับรู้ถึงสิ่งที่เจียงเฉินต้องไปเผชิญ อย่างไรก็ตามการที่ส่งเขาไปเพียงลำพังเพื่อสังหารมัน ไม่แตกต่างจากภารกิจฆ่าตัวตายแต่อย่างใด
=======================================================
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป เจียงเฉินสามารถสังหารปีศาจโลหิตได้หรือไม่ ผลเป็นเช่นไรติดตามต่อในตอนต่อไป นาจา XD