ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปณ หอคัมภีร์ ‘เฟิงหลัว’ยืนอยู่หน้า’หลงยี่’และมองเขาด้วยสายตาดูถูก
“ชกหน้าสามครั้ง ตบอีกสิบทีแล้วคลานเข้ามา?”
แม้แต่คนรับใช้ยังเข้าไปในห้องคัมภีร์อย่างไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้ ‘หลงยี่’ที่เป็นถึงบุตรบุญธรรมของหัวหน้าตระกูลต้องหมอบคลานเข้าไปข้างใน นี่ช่างเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี ‘หลงยี่’ถูกรังแกเพราะอิทธิพลของ’เฟิงหลงซ่ง’ที่เป็นถึงผู้นำตระกูลนั้นมีไม่มากพอ
และเร็วๆนี้มีความเป็นไปได้ที่ตำแหน่งนี้อาจถูกแทนทีด้วยคนอื่น
“โอ้ คุณชายเฟิงหลัวช่างเป็นผู้ที่ใจกว้างยิ่งนัก ไม่อย่างนั้น ขยะอย่างมันคงถูกถีบออกตะตระกูลเฟิงไปแล้ว”
‘เฟิงหลัวหลิ่ว’ตามองไปยัง’หลงยี่’อย่างดูแคลน
“เป็นเช่นนั้นรึ?”
‘หลงยี่’หัวเราะ เขาไม่ได้ร้อนใจอะไร และเหลือบมองไปยังด้านข้างของทางเข้าหอคัมภีร์ ที่หอคัมภีร์ จะมีผู้คุ้มกันยืนอยู่ใกล้ๆทางเข้า ซึ่งวันนี้เป็นผู้อาวุโสจากสาขาหนึ่งของตระกูลเฟิง นามว่า‘เฟิงเทียนเซียง’
‘หลงยี่’มองไปยัง’เฟิงเทียนเซียง’ เขาดูเหมือนชายชรา หนวดเคราและเส้นผมของเขาล้วนเป็นสีขาว แต่ระดับวรยุทธ์ของเขานั้นไม่อาจดูแคลนได้ แน่นอนว่าสูงกว่า’เฟิงหลัว’จนไม่อาจเทียบได้ เมื่อ’เฟิงเทียนเซียง’พบว่า’หลงยี่’มองมา เขาลืมตาขึ้นเล็กน้อย กวาดมือไปด้านหน้าพร้อมพูดออกมาว่า
“คุณชายเฟิงหลัวก็บอกไปแล้วนี่ คนไร้ประโยชน์อย่างแกชกหน้าสามทีตบอีกสิบที คุกเข่าแล้วคลานเข้ามา ถึงจะเขาหอคัมภีร์ได้”
เมื่อเหล่าตระกูลเฟิงรุ่นเยาว์ได้ยินดังนั้น ก็พากันหัวเราะเสียงดังอย่างเยาะเย้ย
“หลงยี่นี่มันขยะจริงๆ มันไม่รู้หรืออย่างไรว่าผู้อาวุโสเทียนเซียงก็คือคนของตระกูลเฟิงของพวกเรา มันยังมีหน้ามาขอให้เขาช่วยอีก”
“ไร้สาระจริงๆ เจ้าขยะนี่น่าจะถูกถีบออกจะตระกูลเราไปซะตั้งนานแล้ว อยู่เสียข้าวสุกจริงๆ”
“ข้าได้ยินมาว่า เจ้าขยะนี่ถูกไล่ออกจากตระกูลชั้นสูงในเมืองจักรพรรดิ ตอนนี้จึงต้องมาเกาะตระกูลเรากิน”
‘หลงยี่’ได้ยินคำเยาะเย้ยเหล่านั้นชัดเจน แต่เขายิ้มอย่างไม่แยแส ดูเหมือนว่าตระกูลนี้จะรังเกียจเขาเสียจริง!
ทั้งตระกูลเฟิง มีเพียง’เฟิงหลงซ่ง’ผู้เดียวที่ใจกว้างกับเขา ก่อนนี้ตอนเขายังฝึกวรยุทธ์ไม่ได้ ต้องใช้เวลาทั้งหมดอยู่แต่ในที่พัก ต้องถูกผู้คนเหยียดหยามว่าขยะ ตอนนี้ เขาอยากจะเข้าไปในหอคัมภีร์เพื่อเลือกวิทยายุทธ์ เขายังต้องเจอกับการขัดขวางอีก
“ในเมื่อตระกูลเฟิงไม่ต้อนรับข้า ก็ไม่มีเหตุผลใดที่ข้าต้องทนต่อไปแล้ว!”
ตัวเขาเองมีเกียรติและศักดิ์ศรีเช่นกัน เขาไม่จำเป็นต้องทนกับการเหยียดหยามอันใดอีก ตอนนี้เขาสามารถฝึกวรยุทธ์ได้แล้ว การที่เขายังอยู่ในตระกูลเฟิงอาจสร้างปัญหาให้แก่’เฟิงหลงซ่ง’ในอนาคต
เขายังไม่แข็งแกร่งพอ เพราะฉะนั้น คงเป็นการดีที่สุดถ้าเขาออกจากตระกูลไปหาประสบการณ์ และเมื่อเขาแข็งแกร่งพอ ค่อยกลับมาช่วยพ่อบุญธรรมของเขา แต่ก่อนจะจากไป เขาคงต้องสอนบางอย่างให้แก่เจ้าตัวบัดซบเฟิงหลัวนี่ ให้มันจำไปชั่วชีวิต!
“เฟิงหลัว!”
‘หลงยี่’ก้าวมาข้างหน้าด้วยด้วยสายตาที่ไม่แยแสอย่างเปิดเผย เมื่อเขามองไปยัง’เฟิงหลัว’
“แกบอกว่าข้าคือขยะ แล้วถ้าวันหนึ่ง เจ้าขยะคนนี้เหนือกว่าแกแล้วเหยียบแกไว้ใต้เท้าคู่นี้ได้ จะเรียกแกว่าอะไรดี?”
เปรี้ยง!
ประโยคนี้เปรียบดั่งฟ้าผ่าลงมากลางใจผู้คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ เหตุใดเจ้าขยะถึงกล้าพูดแบบนี้ ขยะที่ไม่สามารถใช้วรยุทธ์ได้กล้าบอกว่าจะเหยียบ’เฟิงหลัว’ที่อยู่ในวู่เต้าลำดับที่ 3 ไว้ใต้ฝ่าเท้า!
ความแข็งแกร่งของผู้ที่อยู่ในวู่เต้าลำดับที่ 3 นั้น สูงถึง 4000 จิน แค่หมัดเดียวก็ทำให้’หลงยี่’กลายเป็นเนื้อบดได้แล้ว ในหอคัมภีร์ ทุกๆคนต่างมองไปยัง’หลงยี่’ พวกเขาคิดว่าเจ้าขยะนี่คงเสียสติไปแล้ว
มันกล้ายั่วคุณชาย’เฟิงหลัว’แบบนั้น ‘เฟิงหลัว’นั้นเป็นลูกหลานสายตรงของตระกูลเฟิง ซ้ำยังเป็นน้องชายของ’เฟิงหยุน’ ต่อให้เขาสังหาร’หลงยี่’ไป เขาย่อมไม่จำเป็นต้องรับโทษอันใด
ทุกคนคิดว่าเจ้าขยะนี่คงยากจะรอด บางที มันคงถูกเหยียดหยามเกินไปจนสติฟั่นเฟือน
“แกพูดว่าอะไรนะ”
ใบหน้าของ’เฟิงหลัว’เปลี่ยนเป็นเยียบเย็น ถ้าพูดถึงความระดับพลัง ‘เฟิงหลัว’ย่อมไม่ได้แข็งแกร่งมากมายในตระกูลเฟิง ‘เฟิงเหยา’นั้นอายุเท่ามันแต่นางบรรลุถึงวู่เต้าลำดับที่ 7 และกลายเป็นศิษย์นิกายหาญปิง แต่’เฟิงหลัว’ไม่สามารถก้าวข้ามคอขวดของวู่เต้าลำดับที่ 3 เพื่อขึ้นเป็นลำดับที่ 4 ได้
มันจึงไม่มีคุณสมบัติพอจะเข้าร่วมกับนิกายใดๆ ‘เฟิงหลัว’ถูกเลี้ยงดูเหมือนไข่ในหิน แต่ตอนนี้กลับถูกเจ้าขยะ’หลงยี่’บอกว่าจะเหนือกว่าและเหยียบเขาไว้ใต้ฝ่าเท้า นี่มากจะมากเกินไปแล้ว!
“ไอขยะ แกต้องตาย! ข้าจะหักขาแก แล้วทำให้แกรู้ว่าการที่มาพูดพล่อยๆแบบนั้นกับข้า แกจะต้องเจออกับอะไร”
‘เฟิงหลัว’เกรี้ยวกราด เขาพุ่งเข้ามาแล้วรวบรวมซวนฉีแห่งวู่เต้าลำดับที่ 3 ไว้ในมือ ระดับพลังนั้นอยู่ที่ 4000 จิน ถ้าเป็นเมื่อสามวันก่อน ‘หลงยี่’คงไม่อาจต่อกรได้ แต่วันนี้ เขาดูดซับยาเม็ด’หลิงซวน’เข้าไปแล้ว และบรรลุเป็นวู่เต้าลำดับที่ 2 ที่มีความแข็งแกร่งถึง 2000 จิน
แล้วยังสามารถปลดปล่อยตรามังกรฟ้าเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งได้อีก 1000 จิน ด้วยความแข็งแกร่งระดับ 3000 จิน รวมกับประสบการณ์การการต่อสู้ในชาติก่อน ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะเอาชนะ’เฟิงหลัว’ ‘เฟิงหลัว’ไม่สามารถข้ามผ่านคอขวดของวู่เต้าลำดับที่ 3 ได้
และมันไร้ซึ่งความเข้าใจในวรยุทธ์อย่างท่องแท้ ดังนั้น ความสามารถในการต่อสู้ของมันนั้นอ่อนด้อยยิ่ง
“ตาย!”
ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ‘เฟิงหลัว’รวบรวมพลังถึง 4000 จินไว้ในกำปั้น และปล่อยหมัดใส่หน้าอก’หลงยี่’ พร้อมปลดปล่อยกลิ่นอายดำมืดดั่งอสุระที่มาจากขุมนรก
“หมัดอสุระ นี่คือหนึ่งในวิทยายุทธ์ในหอคัมภีร์ เฟิงหลัวคนนี้สามารถสำเร็จวิชานี้ในระดับ เซียวเฉิงได้แล้ว!”
“เจ้าขยะนั่นตายแน่! มันใช้วรยุทธ์ไม่ได้ หลังจากนี้คงต้องเสียขาแล้วกลายเป็นคนพิการอย่างแท้จริง!”
“หมัดอสุระ ถ้าสำเร็จถึงระดับต้าเฉิงกลิ่นไอที่ปล่อยออกมาคงเป็นที่เกรงกลัวของผู้คน ช่างน่าเสียดายที่ฝึกมาหลายปีแล้ว เฟิงหลัวยังอยู่แค่ระดับเซียวเฉิง”
“เฟิงหลัวไม่จำเป็นต้องใช้หมัดอสุระเพื่อจัดการเจ้าขยะอย่างหลงยี่หรอก อันที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องใช้วรยุทธ์ใดๆเลยด้วยซ้ำไป”
เหล่าผู้ฝึกยุทธืรุ่นเยาว์พูดคุยกันอย่างสนุกปากเมื่อมองไปยังการต่อสู้ของทั้งสอง ไม่มีใครคิดเลยว่า’หลงยี่’จะสามารถรอดจากการจู่โจมนี้ไปได้
ความจริงแล้ว ‘หลงยี่’ไม่ต้องการจะหลบหลีก เขาสื่อสารในใจเพื่อปลดปล่อยตรามังกรฟ้า ในทันทีพลังลึกลับสูบฉีกไปทั่วร่าง ความแข็งแกร่งระดับ 3000 จิน! ถ้าไม่นับเรื่องความแข็งแกร่งแล้ว ‘หลงยี่’ย่อมเหนือกว่า’เฟิงหลัว’ด้วยทักษะการต่อสู้และประสบการณ์ของเขา
เมื่อเผชิญกับหมัดของ’เฟิงหลัว’ ‘หลงยี่’ตอบสนองอย่างฉับพลัน เขาเอียงตัวไปด้านข้างเพื่อหลบการโจมตี แล้วกวาดขาไปข้างหน้า
“อะไรกัน!”
ด้วยแรง 3000 จิน ขาของ’หลงยี่’เตะใส่เข่าของ’เฟิงหลัว’อย่างหนักหน่วง
ปั้ง!
‘เฟิงหลัว’ไม่สามารถทนรับความเจ็บปวดจากแรงปะทะได้จนต้องลงไปร้องโหยหวนอยู่บนพื้น ‘หลงยี่’ถอนฝ่าเท้ากลับมา และก้าวไปเหยียบหลังของ’เฟิงหลัว’ที่นอนครวญครางอยู่ เขาพูดด้วยรอยยิ้มจางๆบนใบหน้า
“แกนี่มันช่างอ่อนด้อยเสียจริง คิดว่าจะแข็งแกร่งกว่านี้เสียอีก”
ความเงียบแพร่กระจายไปทั่วหอคัมภีร์ เงียบจนได้ยินเสียงเข็มร่วงลงพื้น เพียงแค่ปะทะกันครั้งเดียว ‘หลงยี่’ก็เหยียบ’เฟิงหลัว’ไว้ใต้ฝ่าเท้าได้แล้ว!
ทุกๆคนในที่นี้กลายเป็นโง่งม พวกเขาแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง เหตุใดเจ้าขยะที่ไม่สามารถฝึกวรยุทธ์ได้ถึงสามารถทำให้’เฟิงหลัว’ลงไปนอนครวญครางบนพื้นได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!
“นี่..นี่มัน…ข้าต้องฝันไปแน่ๆ”
“นี่มันไม่ใช่ขยะแล้ว ลูกเตะก่อนหน้านี้ ความแข็งแกร่งระดับ 2000 จิน ไม่สิ 3000 จิน!”
“ปะ…เป็นไปไม่ได้ ข้าต้องตาฝาดไปแน่ๆ”
หลายต่อหลายคนรีบเอามือมานวดตาตัวเอง แต่เมื่อลืมตาขึ้น ภาพที่เห็นยังคงเหมือนเดิม พวกเขาล้วนกลายเป็นใบ้เมื่อยังคงมองเห็นเท้าของ’หลงยี่’เหยียบอยู่บนหลังของ’เฟิงหลัว’ ในใจของพวกเขา ก่อนหน้านี่ที่’หลงยี่’กล่าวว่า
“ถ้าวันหนึ่ง ขยะอย่างข้าเหนือกว่าแก แล้วเหยียบแกไว้ใต้ฝ่าเท้าได้ จะเรียกแกว่าอะไรดี?”
เรียกว่าอะไรดี? แน่นอน สวะที่แย่ยิ่งกว่าขยะ! บนพื้น ด้วยฝ่าเท้าของ’หลงยี่’ที่เหยียบอยู่บนหลัง ‘เฟิงหลัว’รู้สึกเหมือนฟ้าถล่มลงมา เขาพ่ายแพ้ให้กับขยะด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!
“เป็นไปไม่ได้! แกมันคือขยะชัดๆแล้วทำไม….”
‘เฟิงหลัว’ขบกรามแน่นแล้วมองหลงยี่ด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อ
“ใช่ ข้ามันก็แค่ขยะ แต่แกน่ะ เป็นสวะที่ไร้ประโยชน์ยิ่งกว่าขยะเสียอีก!”
‘หลงยี่’พูดเสียงเบา
“ข้าได้ยินว่าแกจะหักขาของข้านี่ งั้นข้าก็ควรจะหักขาของแกทิ้งเหมือนกันกันสินะ”
“หยุดเดียวนี้!”
‘เฟิงเทียนเซียง’ ที่ยืนอยู่ ณ ทางเข้าหอคัมภีร์ สุดท้ายก็เริ่มเคลื่อนไหว เขากล่าวด้วยใบหน้าที่ดุดัน
“ห้ามใช้ความรุนแรงบริเวณหอคัมภีร์ ใครก็ตามที่สู้กันที่นี่มีโทษถึงตาย”
‘หลงยี่’ยังยืนอยู่อย่างสงบนิ่ง แล้วเย้ยยัน
“ท่านตาบอดหรืออย่างไร?”
ตอนที่’เฟิงหลัว’บอกจะหักหาเขาแล้วจู่โจมเข้ามา ‘เฟิงเทียนเซียง’ผู้นี้ไม่ห้ามปรามแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้’หลงยี่’ต้องการเอาคืน มันกลับพูดถึงกฏระเบียบของหอคัมภีร์ นี่มันช่างน่าหัวเราะสิ้นดี!
ถึงแม้’เฟิงเทียนเซียง’จะเร็ว แต่ด้วยระยะห่างระหว่างเขากับ’หลงยี่’ มันยังช้าไป แม้จะเร็วแต่ยังช้ากว่าปฏิกิริยาของเขา ‘หลงยี่’ยกฝ่าเท้าขึ้นแล้วกระทืบลงไปสุดแรง
แกร็ก!
ทุกๆคนได้ยินเสียงหักของกระดูดชัดเจน ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปทันที
“ขยะอย่างแกถึงกับกล้าทำให้คุณชายพิการจริงๆ!”
ความเกรี้ยวกราดปรากฏขึ้นในตาของ’เฟิงเทียนเซียง’ เขาพุ่งมายัง’หลงยี่’
วันนี้ เขาได้รับหน้าที่คุ้มกันหอคัมภีร์ แต่’เฟิงหลัว’กลับถูกหักขาต่อหน้าต่อตาเขา นี่ย่อมเป็นการหักหน้าเขาอย่างชัดเจน และทำให้เขาต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เขารู้ดีว่า ‘เฟิงหลัว’คือน้องชายของ’เฟิงหยุน’
ผู้ที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเฟิงในอนาคต
“เจ้าขยะ ตั้งแต่ที่แกแกว่งเท้าหาความตาย แกก็คร่ำครวญอะไรไม่ได้อีกแล้ว แม้วันนี้แกจะใช้วรยุทธ์ได้แล้ว แต่ข้าจะทำให้แกรู้ว่า ขยะก็คือขยะอยู่วันยังค่ำ!”
‘เฟิงเทียนเซียง’โมโหอย่างแท้จริง เขาใช้หมัดอสุระที่อยู่ในระดับต้าเฉิงจริงๆ ถ้า’หลงยี่’โดนเข้าไป คงไม่ตายก็พิการ
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
ขณะที่’เฟิงเทียนเซียง’จะจู่โจมใส่หลงยี่ มีเสียทุ้มลึกดังก้องขึ้น ทันใดนั้น ร่างสูงมายืนอยู่หน้า’หลงยี่’
เขาคือหัวหน้าตระกูลเฟิง ‘เฟิงหลงซ่ง’นั้นเอง
ที่มา: