ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปเห็นเหล่าศิษย์ชั้นนอกล้อมวงเข้ามาดูสิ่งที่เกิดขึ้น ปรากฏความภูมิใจขึ้นบนใบหน้า’ถานเยว่’ และนางยิ้มอย่างพึงพอใจ นางมอง’หลงยี่’อย่างดูถูกและพูดขึ้นว่า
“เจ้าขยะ ควรรู้ไว้ว่าการล่วงเกินสาวงามคนนี้จะพาแกไปยังจุดจบที่ไม่สวย รู้สึกเสียใจหรือยัง?”
ใบหน้าของ’หลงยี่’สงบอย่างยิ่ง เขายืนอย่างมั่นคงและจ้องมองไปยังถานเยว่พร้อมกับพูดว่า
“ข้าจำเป็นต้องเสียใจอัดใด? ถ้าข้าคือขยะ ทำไมเจ้าไม่ลองสู้กับข้าดูเล่า? จะได้เห็นขยะอย่างข้าทำให้เจ้าลงไปนอนกองบนพื้นนั้น”
หลังเขาพูดจบ ก็เกิดเสียงเอะอะขึ้นในฝูงชน และปรากฏสายตาอาฆาตขึ้นบนใบหน้าสวยของ’ถานเยว่’
“แกพูดว่าอะไรนะ?”
นางถึงกับตะลึงที่’หลงยี่’กล้าพูดออกมาแบบนั้น ‘ถานเยว่’ก็ก้าวเท้าออกมาหา’หลงยี่’ด้วยสายตาที่เหมือนกับเห็นเขาเป็นเหยื่อ ‘หานเจียน’ที่ยืนอยู่ด้านหลังของ’ถานเยว่’ไม่ได้ห้ามนาง เพราะเมื่อมองจากความแข็งแกร่งของนางแล้วการเอาชนะ’หลงยี่’ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ทันใดนั้น ‘หานเจียน’ก็นึกได้ถึงบางสิ่ง เขาหัวเราะพร้อมกับพูดกับ’ถานเยว่’ว่า
“ศิษย์น้องถานเยว่ ก่อนหน้านี้ ศิษยพี่ถานเจียนได้ส่งศาสตราวุธมาให้เจ้า ทำไมเจ้าไม่ลองเอามาทดสอบดูว่าน่าใช้หรือไม่?”
‘ถานเยว่’ขมวดคิ้วแล้วตอบกลับเสียงดัง
“เจ้าขยะนี่น่ะหรือจะคู่ควรกับศาสตราวุธของข้า”
เหล่าศิษย์นิกายโดยรอบอุทานขึ้นอย่างตื่นตกใจเมื่อพวกเขาได้ยิน ศาสตราวุธ นางถึงกับมีศาสตราวุธจริงๆ! สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ ถ้าการบ่มเพาะวรยุทธ์คือรากฐานของความแข็งแกร่ง วิทยายุทธ์และศาสตราวุธก็คือสองปัจจัยเสริมที่ช่วยดึงศักยภาพของความแข็งแกร่งมาใช้ให้สูงที่สุดในการต่อสู้
ไม่ว่าใครก็ตามที่มีวรยุทธ์และสามารถควบแน่นซวนฉีภายในร่างได้ คนๆก็สามารถฝึกวิทยายุทธ์ทั่วไปได้ แต่วิทยายุทธ์ขั้นสูงแล้ว จำเป็นต้องใช้ศาสตราวุธในการช่วยแสดงพลังที่แท้จริงออกมา และศาสตราวุธก็คือสิ่งที่ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์สามารถแสดงความแข็งแกร่งออกมาได้สูงกว่าระดับวรยุทธ์ของเดิมตนเอง
ศาสตราวุธอาจจะเป็นอาวุธ เกราะ หรืออุปกรณ์เสริมต่างๆก็ได้ ยิ่งศาสตราวุธมีระดับที่สูงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งของผู้ใช้ขึ้นเท่านั้น ในนิกายเจิ้นเทียน มีเพียงศิษย์ชั้นในเท่านั้นที่จะได้รับศาสตราวุธเป็นรางวัลจากการแข่งขันต่างๆ ดังนั้นผู้ที่มีศาสตราวุธในนิกายนี้จึงมีเพียงหยิบมือเดียว
จึงไม่มีใครคาดคิดว่า ศิษย์ชั้นนอกอย่าง’ถานเยว่’จะมีศาสตราวุธจริงๆ ถึงอย่างนั้น ‘หลงยี่’ก็ยังคงสงบนิ่งและไม่มีท่าทีตื่นตกใจอันใด แน่นอน เขารู้ว่าศาสตราวุธคืออะไร ก่อนหน้านี้ ‘เฟิงเหยา’ได้กลับมาจากนิกายหาญปิงเพื่อเอากระบี่ของ’เฟิงหลงซ่ง’ไปใช้ กระบี่นั้นคือศาสตราวุธจริงๆ
ซึ่งในตระกูลเฟิง มีศาสตราวุธอยู่ไม่เกินสิบชิ้น ชัดเจนว่าพวกมันเป็นสิ่งที่หายได้ยากยิ่ง
“แต่ทั้งหมดนั้น ศาสตราวุธยังคงเป็นสิ่งภายนอกที่ถูกควบคุมโดยผู้ใช้ การจะแสดงความแข็งแกร่งของศาสตราวุธออกมาได้มากแค่ไหน ยังคงขึ้นกับทักษะและประสบการณ์ของผู้ใช้อยู่ดี สำหรับถานเยว่แล้ว ต่อให้นางใช้ศาสตราวุธก็ย่อมไม่อาจเอาชนะเขาได้อยู่ดี”
‘หลงยี่’คิดในใจ และจ้องมองไปยังถานเยว่ที่กำลังสาวเท้าเข้ามา สายตาของเขารับรู้ว่า การก้าวเท้าของ’ถานเยว่’นั้นเป็นระเบียบและมีรูปแบบ ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่านางกำลังใช้ทักษะย่างก้าวบางอย่าง เหมือนกับ’หลงยี่’ ‘ถานเยว่’เพิ่งจะเข้าสู่นิกายเจิ้นเทียนได้เพียงวันเดียว คงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะสำเร็จวิทยายุทธ์ของนิกาย
ชัดเจนว่าวิทยายุทธ์ที่นางใช้ย่อมมาจะตระกูลถานในเมืองยี่กวน
จากที่ข้าเคยได้ยินมาจากตระกูลเฟิง สมาชิกตระกูลถานจะได้รับการสืบทอดวิทยายุทธ์หลักสามอย่าง
หนึ่งในนั้นคือทักษะ‘ย่างก้าวหมีจ่ง’ ซึ่งมันช่วยเพิ่มพูนความเร็วของผู้ใช้ให้สูงขึ้นอย่างมาก
‘หลงยี่’ค่อยระวังตัวไว้เสมอ ถึงแม้ทั้งคู่จะอยู่ในระดับวู่เต้าลำดับที่ 4 เหมือนกัน แต่นางได้ฝึกฝนทักษะวิทยายุทธ์จากตระกูลถานมาแล้ว ความแข็งแกร่งของนางจึงมิอาจดูแคล้นได้
“อึ่ม”
เมื่อเห็น’หลงยี่’ที่คอยระวังตัว ‘ถานเยว่’หัวเราะเสียงดังด้วยสายตาดูถูก เมื่อนางใช้ย่างก้าวหมีจ่ง ร่างบางของนางมายืนอยู่ต่อหน้า’หลงยี่’ในทันที
“ฝ่ามือซุ่ยคง!” (ฝ่ามือทะลายฟ้า)
‘ถานเยว่’คำรามก้อง และปล่อยฝ่ามือใส่ที่ไหล่ของ’หลงยี่’ ฤทธิ์ของฝ่ามือซุ่ยคง หนึ่งในสามวิทยายุทธ์หลักของตระกูลถานนั้น มิอาจหาที่เปรียบได้ ฝ่ามือของนางนั้นมีความแข็งแกร่งถึง 10,000 จิน มากกว่าความแข็งแกร่งของวู่เต้าลำดับที่ 4 ที่มีอยู่ 8000 จิน ชัดเจนว่าส่วนที่เกินมานั้นเป็นผลของวิทยายุทธ์ที่นางใช้
เมื่อต้องเผชิญกับฝ่ามือที่รวดเร็วของ’ถานเยว่’ ‘หลงยี่’ถึงแม้จะเตรียมตัวเป็นอย่าง แต่เขาไม่คิดเลยว่าความเร็วของนางจะรวดเร็วถึงเพียงนี้! โชคดีที่ประสบการณ์การต่อสู้ของ’หลงยี่’มีไม่น้อยเช่นกัน เขาตอบสนองอย่างฉับพลัน
“ซวนฉีในร่างข้า จงควบแน่น!”
ภายในตัวเขา ซวนฉีถูกรวบรวมไปไว้ที่ไหล่ในทันที และเตรียมพร้อมรับฝ่ามือของถานเยว่ที่กำลังพุ่งมาตรงหน้า ในขณะเดียวกัน เขาปลดปล่อยอำนาจแห่งจิตเร้นลับออกมา ขณะฝ่ามือของนางกำลังปะทะเข้ากับไหล่ของเขา ‘หลงยี่’ชิงความได้เปรียบปลดปล่อยจิตเร้นลับห่อหุ้มตัวนางไว้
ปั้ง!
ไหล่ของ’หลงยี่’ถูกปะทะเข้ากับฝ่ามือ แต่เขาเตรียมตัวรับการจู่โจมนี้ไว้แล้ว เขาบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งต่างจากกำปั้นที่เคยแตกหักขณะปะทะกับ’วู่ฉิง’ก่อนหน้านี้ เมื่อ’ถานเยว่’พบว่าฝ่ามือของนางไม่ได้ผล นางตัดสินใจถอนฝ่ามือ และใช้ย่างก้าวหมีจ่งถอนตัวออกมา
ขณะนี้นางไม่กล้าวู่วามต่อหน้า’หลงยี่’อีก แต่เมื่อนางใช้ย่างก้าวหมีจ่งถอนตัวออกมา ‘ถานเยว่’พบว่าร่างกายของนางถูกหน่วงไว้ด้วยบางสิ่ง มันเหมือนกับแรงกดดันที่หุบเขาเจิ้นเทียนที่ทำให้ความเร็วของนางลดลง นี่คือโอกาสทองที่’หลงยี่’รอคอยอยู่แล้ว!
เขาคำรามและปล่อยหมัดใส่เข้าที่แก้มของนางอย่างรวดเร็ว ด้วยความแข็งแกร่งถึง 8000 จิน แน่นอนว่าหมัดนี้เรียกเลือดจากใบหน้าละเอียดอ่อนของ’ถานเยว่’ได้
แตะ แตะ แตะ ‘ถานเยว่’รีบถอยกลับอย่างกระวนกระวาย เมื่อหยุดลง นางเงยหน้าขึ้นแล้วมอง’หลงยี่’ด้วยสายตาอาฆาต
“แกถึงกับกล้าทำร้ายข้าจริงๆ!”
“เจ้าเป็นคนเริ่มจู่โจมด้วยฝ่ามือก่อน แล้วเหตุใดข้าจะทำเพื่อป้องกันตัวไม่ได้?”
‘หลงยี่’พูดอย่างไม่แยแส
“ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าบอกว่าข้าคือขยะแต่กลับถอยหนี เหตุใดเจ้าไม่ให้นิยามสิ่งที่แย่ยิ่งกว่าขยะหน่อยเล่า?”
เมื่อคำพูดเหล่านั้นหลุดออกจากปาก’หลงยี่’ ทุกๆคนกำลังยืนดูถึงกับกลั่นหายใจ การต่อสู้ระหว่าง’หลงยี่’กับ’ถานเยว่’นั้นรวดเร็วราวกับสายฟ้า ศิษย์ชั้นนอกเหล่านั้นมิอาจตอบสนองกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทัน
ความจริงแล้ว พวกเขามิอาจมองเห็นการเคลื่อนที่ของทั้งคู่ พวกเขาเห็นเพียงแค่รอยเลือดบนใบหน้า’ถานเยว่’เมื่อนางถอนตัวออกมาเท่านั้น และชัดเจนว่า การปะทะกันครั้งนี้ ‘ถานเยว่’เป็นฝ่ายแพ้!
การเรียก’หลงยี่’ว่าขยะอย่างเปิดเผยต่อหน้าฝูงชน แต่ผลการต่อสู้กลับออกมาเป็นเช่นนี้ ทำให้’ถานเยว่’ดูน่าอับอายยิ่ง ทุกๆคนรับรู้ได้ถึงรังสีอาฆาตที่แพร่กระจายออกจากตัวนาง ขณะที่นางจ้องไปยัง’หลงยี่’ที่ยังคงยืนอยู่อย่างสงบนิ่ง
“ก่อนหน้านี้แกแค่โชคดี แต่ความโชคดีจะไม่มีอีกเป็นครั้งที่สอง!”
เมื่อนางพูดจบ กริชยาวประมาณเจ็ดนิ้วปรากฏขึ้นในมือนาง กริชสีเงินที่ส่องประกายเฉียบคมในมือถานเยว่สะท้อนถึงความอาฆาตที่นางแสดงออกมา ในที่สุด ‘ถานเยว่’ก็ใช้ศาสตราวุธแล้ว!
“ถ้าข้าจำไม่ผิด เจ้าบอกว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ศาสตราวุธเพื่อเอาจัดการกับขยะอย่างข้ามิใช่รึ?”
‘หลงยี่’เหน็บแนมนาง
“อย่าบอกว่าแกกลัว?”
‘ถานเยว่’เปล่งเสียงทางจมูกขณะกำกริชสีเงินไว้ในมือ นางพูดขึ้นอย่างหยิ่งผยอง
“ถ้าแกมีศาตราวุธก็รีบเอาออกมา แต่ข้าว่า กับขยะอย่างแกน่ะ ศาสตราวุธคงเป็นเพียงแค่สิ่งเพ้อฝัน”
‘ถานเยว่’ได้รับกริชนี้มาจากพี่ชายของนาง ‘ถานเจียน’ และนางก็ภูมิใจในสิ่งนี้อย่างมาก
“แกกล้าทำให้ข้าบาดเจ็บ วันนี้ ข้าจะสับจุดตัดเถียนของแกออกเป็นชิ้นๆ ให้แกรู้ว่าคนที่กล้าล่วงเกินข้าคนนี้ มันจะต้องได้รับผลอย่างไร!”
‘ถานเยว่’เริ่มก้าวเท้าไปมา และร่างของนางเคลื่อนไปรอบๆตัวหลงยี่อย่างรวดเร็ว ความเร็วของ’ถานเยว่’มีมากเสียจนมองเห็นเพียงเงาของนางและในบางครั้งก็มองไม่เห็นสิ่งใดเลย
“ข้าที่ไร้วิทยายุทธ์นี่ช่างเป็นฝ่ายเสียเปรียบจริงๆ…..”
‘หลงยี่’คิดในใจ ขณะสายตาที่เปรียบดังเหยี่ยวของเขาเพ่งมองร่องรอยการเคลื่อนไหวของ’ถานเยว่’ และพร้อมตอบสนองกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเสมอ
“ตาย!”
ประกายสีเงินฉายวาบขึ้น กริชอันแหลมคมพุ่งมายังเขาโดยห่างตัวเพียงหนึ่งฝ่ามือ
“จิตเร้นลับ!”
‘หลงยี่’ปลดปล่อยจิตเร้นลับออกมาทันใด ส่งผลให้ความเร็วของกริชช้าลงในทันที เขาใช้หมัดปัดไปยังขอบของกริชจนเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ด้วยความแข็งแกร่งถึง 8000 จินในหมัดของเขา มันสามารถเบี่ยงเบนทิศทางของกริชไปทางอื่น แต่กริชนี้มิใช่สิ่งของธรรมดา มันเป็นถึงศาสตราวุธที่มี‘หรูฉี’อยู่ภายใน กำปั้นของ’หลงยี่’จึงได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง
แต่เขาไม่จำเป็นต้องสนใจ การปัดคมกริช’ถานเยว่’ออกไปได้ ส่งผลให้นางสูญเสียการทรงตัว ‘หลงยี่’จึงชิงความได้เปรียบนี้ปล่อยหมัดใส่นางอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
ปั้ง!
‘ถานเยว่’ล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรง ‘หลงยี่’ก้าวมาเหยียบข้อมือของนางข้างที่ถือกริชไว้
“ข้าชนะแล้ว”
หลังจากเหยียบข้อมือ’ถานเยว่’ไว้ สายตาของ’หลงยี่’ปรากฏเจตนาสังหารขึ้น แต่เขารีบยับยั้งเอาไว้ เพราะขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาจัดการกับนาง
‘ถานเยว่’เกรี้ยวกราดขึ้นทันที จนดูเหมือนกับสายตาของนางสามารถพ่นไฟออกมาได้ แม้’ถานเยว่’จะใช้ทั้งศาสตราวุธและวิทยายุทธ์ชั้นสูงของตระกูลถาน นางก็ยังคงพ่ายแพ้ให้กับผู้ที่นางเรียกว่า “ขยะ”!
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เหล่าศิษย์ชั้นนอกที่มุงดูถึงอ่าปากค้างอย่างโง่งม นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
จริงๆชื่อตอนของตอนนี้คือ ถานเยว่ที่ถูกเหยียบย่ำ แต่เดี๋ยวชื่อตอนจะสปอยผู้อ่านเกินไปผมเลยตัดถานเยว่ออกนะครับ 😀
ที่มา: