ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 36.2 กลายเป็นพิการ (Part 2)
หลิงหานมิได้ตำหนิหลงยี่เนื่องว่า มันรู้สึกถึงความเกลียดชังระหว่างหลงยี่กับเฟิงเชียนเชียน แต่มันไม่คิดว่าเฟิงเชียนเชียนเป็นฝ่ายเริ่มก่อนในทีแรก
“ศิษย์น้อง เจ้าจงดูดซับโสมโบราณ ในขณะที่ข้าจะรักษาตัวอยู่ด้านหนึ่ง พร้อมทั้งระวังคอยดูบริเวณโดยรอบ”
หลิงหานกล่าวออกมาเบาๆและซ่อนเฟิงเชียนเชียนให้ปลอดภัยอยู่ภายในพุ่มไม้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกผู้อื่นพบเจอ
“ขอรับ”
หลงยี่พยักหน้ามันนั่งลงกับพื้นแล้วทำสมาธิก่อนจะหันไปมองอาวุธที่หล่นอยู่ไม่ไกลจากมัน “จริงสิแล้ว ศิษย์พี่ นี่คืออาวุธของลิ่วหมิงซวน มันเป็นอาวุธที่ดีและนับแต่ท่านมอบโสมโบราณระดับกลางให้ข้า โปรดใช้มันคุ้มกันข้าจากด้านข้างด้วย”
หลิงหานได้ยินคำพูดนี้และตาของมันก็เปล่งประกายขึ้นในทันที
“ได้ ข้ายินดีที่จะใช้มัน”
มันก้าวมาสองก้าวก็มาถึงตรงที่อาวุธตกอยู่และหยิบกุญแจเหล็กดำขึ้นมา มันเป็นอาวุธระดับต่ำแต่ถ้าใช้อย่างเหมาะสม มันก็จะแสดงผลที่น่าอัศจรรย์ได้ในการต่อสู้
ท่ามกลางความมืดยามราตรี ความเงียบแผ่ซ่านไปทั่วทุกที่ในอุทยานโสมป่าโบราณ
แม้นว่ามีศิษย์มากกว่าห้าสิบคนที่ร่วมการแข่งขันครั้งนี้ แต่อุทยานโสมป่าโบราณมีเนื้อที่กว้างใหญ่ ซึ่งมีความเป็นไปได้เพียงเล็กน้อยสำหรับพวกมันที่จะได้พบเจอกัน
และในช่วงเย็น ผู้คนส่วนใหญ่ได้เลือกที่จะพักผ่อนมากกว่าที่จะเคลื่อนที่ไหว
หลงยี่นั่งขัดสมาธิและใช้เวลาทั้งคืนในการดูดซับหลิงชี่ของโสมโบราณระดับกลางเข้าสู่ร่างกายได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้พลังพื้นฐานของมันเพิ่มขึ้นเป็น 40,000 จิน ซึ่งเป็นขีดจำกัดของหวู่เต้าขั้นที่หก
ต่อไป ถ้าหลงยี่ไม่ได้ผ่านเข้าสู่หวู่เต้าขั้นที่เจ็ด เป็นไปไม่ได้ที่พลังพื้นฐานของมันจะเพิ่มขึ้นได้อีก
เมื่อถึงยามเช้า แสงแดดส่องทะลุผ่านร่มไม้และมากระทบลงบนตัวของหลงยี่ มันลืมตาขึ้น มีประกายสุกสะกราวในแววตาของชายหนุ่ม
“หลังจากดูดซับหลิงชี่ของโสมโบราณระดับกลาง กำลังพื้นฐานของข้าคือ 40,000 จินและผลของวิชาร่างมารทรราชย์ ทำให้พลังของข้าจะมีมากกว่า 50,000 จิน นอกจากนั้นพลังที่ได้รับจากเก้ามังกรซ่อนอีก 10,000 จิน เมื่อรวมพลังทั้งหมดของข้า รวมแล้วมากกว่า 60,000 จิน และขณะที่ข้าใช้ร่วมกับศาสตราวุธถุงมือวิญญาณสาบสูญ ผู้เชี่ยวชาญหวู่เต้าขั้นที่เจ็ดย่อมมิอาจเป็นคู่มือของข้า”
ตอนนี้หลงยี่เข้าใจชัดในพลังปัจจุบันของตน แต่มันยังมิได้ต้องการที่จะทดสอบขั้นนั้นในทันที
“ข้าต้องการจะทะลวงผ่านหวู่เต้าขั้นที่เจ็ดและเพื่อการนั้นข้าต้องได้โสมโบราณระดับสุดยอด แต่มันถูกบอกว่าจะปรากฏขึ้นเพียงครั้งเดียวในทุกสองหรือสามปี ในการแข่งขันที่ดุเดือดเช่นนี้ แม้ว่าข้าจะหามันพบแต่ มันก็มิง่ายที่จะได้มันมา….”
หลงยี่คิดขณะที่มองดูรอบๆ และเห็นหลิงหานกำลังพยายามที่จะใช้อาวุธชิ้นใหม่นั้น กุญแจเหล็กดำ
หลังจากที่ทำการฝึกตลอดทั้งคืน ตอนนี้หลิงหานสามารถใช้กุญแจเหล็กดำได้อย่างชำนาญและขาของมันที่บาดเจ็บโดยการจู่โจมของหลิงหมิงซวนเกือบที่จะหายเป็นปกติแล้ว
“ศิษย์น้อง เจ้าตื่นแล้ว”
หลิงหานมองเห็นหลงยี่ที่เพิ่งจะลืมตามันกล่าวออกมาพร้อมกับหัวเราะ มันสาวเท้าก้าวยาวๆ มันมาถึงด้านข้างของชายหนุ่ม “ข้าจัดการเจ้าขยะหลิวหมิงซวนไปแล้ว วันนี้เราออกไปหาโสมกันอีก เราจะได้มีโสมโบราณมากขึ้น”
หลงยี่ได้ยินก็ต้องจ้องไปที่มันอย่างฉงน มันไม่เคยคิดว่าหลิงหานจะเป็นคนแน่วแน่ขนาดนี้
แต่เดิมหลงยี่คิดว่าจะกำจัดหลิงหมิงซวนตั้งแต่เมื่อวาน แต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บของเลือดในร่างของเขา ชายหนุ่มได้ตัดสินใจซึมซับโสมโบราณระดับกลางและพัฒนาร่างกายของมันก่อน
ตอนนี้ หลิงหานกำจัดหลิวหมิงซวนไปแล้ว ดังนั้นมือของมันมิจำเป็นต้องสกปรก
เห็นได้ชัดว่าหลิงหานเป็นคนอบอุ่นและมีความคิด เพราะมันได้แสดงความเห็นอกเห็นใจผู้หญิงและถ้าไม่กำจัดหลิวหมิงซวน แน่นอนที่ว่าจะเกิดความยุ่งยากขึ้นในอนาคต
“ข้าจะไม่ใช้กุญแจเหล็กดำนี้โดยไม่จำเป็นอย่างเด็ดขาด เพราะมันอาจทำให้ผู้อื่นพบเห็นมันได้”
หลิงหานพูดและเก็บกุญแจเหล็กดำไว้ในอกเสื้อของมัน
พวกมันได้ตรวจสอบไปรอบๆและยืนยันว่าพวกมันไม่ได้ทิ้งร่องรอยใดๆไว้เบื้องหลังและการทำเช่นนั้นทำให้พวกมันรู้สึกโล่งใจ แต่มีสิ่งหนึ่งที่สร้างความแปลกใจให้พวกมันคือ เมื่อเฟิงเชียนเชียนได้สติ เธอไม่ได้สนใจพวกมันและจากไปอย่างเงียบๆในคืนที่ผ่านมา
มันดูราวกับนางได้ตระหนักว่าหลังจากเข้ามาในอุทยานโสมป่าโบราณ สิ่งสำคัญส่วนมากคือการค้นหาโสมโบราณมากกว่าการโจมตีหลงยี่อีกครั้งเพื่อฆ่าให้ตาย
พูดตรงๆ นางมิอาจเป็นคู่มือของหลงยี่และแม้กระทั่งอาวุธของนาง ถุงมือวิญญาณสาบสูญได้ถูกยึดไปโดยหลงยี่
(ใช้ทำความสะอาดก็ได้)(ไม่ใช่ภารโรงนะ)
หลังจากเก็บกวาดพื้นที่ หลงยี่และหลิงหานจากไปด้วยกันพื้นที่ของอุทยานโสมป่าโบราณกว้างขวางมากและการหาโสมโบราณโดยเฉพาะอย่างยิ่งโสมโบราณระดับสุดยอดมิใช่เรื่องง่าย
หลิงหานเดินอยู่เคียงข้างหลงยี่พูดว่า “ศิษย์น้อง ข้าไม่รู้เรื่องระหว่างเจ้ากับศิษย์หญิงของนิกายหานปิง และหลิงหมิงซวนได้พูดว่าองค์ชายหวังเทียนจู้แห่งวังหลวงชื่นชอบนาง เจ้าควรระวังไว้!”
ศิษย์พี่ ท่านมิต้องกังวล ข้ากับเฟิงเหยาไม่มีความสัมพันธ์อะไรกัน นางเพียงแค่ส่งคนมาฆ่าข้า”
หลงยี่ยิ้มเล็กน้อยและไม่พูดอันใดต่อ
เกี่ยวกับเฟิงเหยา ไม่ช้าก็เร็ว มันต้องคิดบัญชีกับเธอ!
แต่หลงยี่มิรู้เลยว่าวันนั้นกำลังจะมาถึงในไม่ช้า
พวกเขาเดินข้ามเนินเขาขนาดเล็ก ตามลำธารไปตลอดทางจนถึงปลายลำธารเห็นบึงน้ำขนาดใหญ่ที่มีคนมากมายกำลังเผชิญหน้ากันอยู่คนละฝั่ง
ในจำนวนนั้น มีเฟิงเหยาที่แขวนกระบี่ทองแดงอยู่ที่เอวสวมชุดสีเขียวอ่อนที่ปลิวไสวในสายลมทำให้ร่างของนางดูคล้ายกับนางเซียนคนหนึ่ง
และเหตุผลของการเผชิญหน้าในหมู่คนเหล่านั้นคือการปรากฏของโสมโบราณระดับสุดยอดบนชายฝั่งของบึงโสมโบราณ!
………………..
แปลโดย: Nitat,Tan Tan
Marionette : เมียจ๋ามาแล้ว เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงนะครับ หัวร้อนทั้งเรื่องแน่นวล 5555555 ขอโทษที่หายไปนานครับ