ตอนที่แล้วตอนต่อไปหลังจากเข้าสู่หวู่เต้าขั้นที่เจ็ด ผู้เชี่ยวชาญในการกำหนดซวนชี่ เพียงแต่กุญแจคือซวนชี่ที่ต้องทำการเชื่อมต่อกับเส้นที่จำเป็นที่สุดของร่างกายทั้งหมดสู่ที่พลังชีวิตที่หมุนเวียน – เส้นชีพจรสวรรค์ด้วยการเปิดเส้นชีพจรสวรรค์
เส้นหนึ่งควรควบคุมทางเดินทั่วร่างกายเพื่อให้พลังชีวิตที่หมุนเวียนพวกมันสามารถเปิดและปิดได้อย่างอิสระ ด้วยเหตุนี้การควบคุมซวนชี่จะคล่องขึ้นมากกว่าเดิมถึงสิบเท่ายิ่งกว่านั้นเส้นชีพจรสวรรค์ยังมีปัจจัยทางชีวิตขึ้นมากมายในขอบเขตเคล็ดการต่อสู้ในอนาคต
ในความเป็นจริงมันอาจกล่าวได้ว่ามันมีไว้เพื่อผู้ฝึกยุทธ์สำหรับต่อสู้ ความสำคัญของเส้นชีพจรสวรรค์ไม่ได้ด้อยไปกว่าจุดตันเถียน!
“เส้นชีพจรสวรรค์ จงเปิด!”
ขณะที่’หลงยี่’ตะโกน ซวนชี่เริ่มปะทุไปทั่วร่างกายของชายหนุ่มและเริ่มวิ่งเข้าสู่เส้นชีพจรสวรรค์และการจู่โจมพวกมันครั้งแล้วครั้งเล่า เป้าหมายคือทำการเชื่อมต่อและก้าวข้ามสู่หวู่เต้าขั้นที่เจ็ดโดยตรงหลิงชี30%
ของโสมโบราณระดับสุดยอดได้ถูกดูดซับโดย’หลงยี่’อย่างหมดสิ้นทำให้หลงยี่รู้สึกถึงหวู่เต้าขั้นเจ็ดอยู่ในกำมือของเขาแล้ว.แม้นว่าเส้นชีพจรสวรรค์มิอาจพาดผ่านไปทั่วทั้งร่างกายของชายหนุ่ม ทั้งสองอย่างคืออุปสรรคที่สำคัญของชายหนุ่มเพื่อก้าวไปยังหวู่เต้าขั้นเจ็ด
“กระตุ้นตราเก้ามังกรซ่อน!”
ในเวลานั้น “ตราเก้ามังกรซ่อน”ได้เก็บสะสมหลิงชี่70% ของโสมโบราณระดับสุดยอด และเมื่อหลงยี่เริ่มทำการดูดซับ มันกลายเป็นเหมือนกระแสน้ำที่วุ่นวายสายแล้วสายเล่าอย่างมิหยุดหย่อนอีกทั้งยังเข้าจู่โจมเส้นชีพจรสวรรค์ตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ!จังหวะเต้นหัวใจของหลงยี่เริ่มรักษาจังหวะตลอดที่ซวนชี่ได้จู่โจมเส้นชีพจรสวรรค์อย่างรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่าในที่สุดเมื่อหลิงชี่30%
ของโสมโบราณระดับสุดยอดยังเหลือให้ดูดซับ ‘หลงยี่’สังเกตว่าการอุดตันในเส้นชีพจรสวรรค์สุดท้ายได้เปิดออกและเส้นชีพจรเหล่านี้เชื่อมต่อสมบูรณ์ภายใต้แรงปะทะของซวนชี่อย่างต่อเนื่องบุซ!
‘หลงยี่’รู้สึกราวกับมีแสงที่มหัศจรรย์ที่สาดส่องมายังศีรษะของชายหนุ่ม
ทำให้ชายหนุ่มสร้างทางเชื่อมที่คลุมเครือบางอย่างกับโลกทั้งใบ เส้นชีพจรสวรรค์เป็นช่องทางที่จำเป็นในหมู่จุดสุดยอดของพลังที่หมุนเวียน และด้วยการเชื่อมั่นในเส้นชีพจรสวรรค์เหล่านี้ เส้นหนึ่งสามารถรู้สึกถึงการมีอยู่ของปัจจุบันและกฏของโลกและ’หลงยี่’ได้มาถึงขั้นนี้แล้ว
“จิตเร้นลับเจิ้นเทียน ดูเหมือนว่ามันจะมีบางสิ่งที่นำไปสู่การก้าวข้ามขั้น หรือเพราะว่าเส้นชีพจรสวรรค์นั้นได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการพิสูจน์ของหลักและกฏแห่งโลก”
หลงยี่คิดได้เช่นนั้นจึงมิแปลกใจเลยที่ศิษย์หลักจะสามารถรับรู้และเข้าใจจิตเร้นลับไปจนถึงกฏแก่นกลาง เพราะระดับวู่เต้าที่เปิดเส้นชีพจรสวรรค์นั้นต่างเชื่อมโยงเข้าหากัน ทำให้ความเข้าใจได้ถึงหลักและกฏแห่งโลกก้าวข้ามไปอีกขั้นตอนนี้เส้นชีพจรสวรรค์ของหลงยี่เปิดออกแล้ว
และดูคล้ายว่าความเข้าใจในจิตเร้นลับเจิ้นเทียนของมันจะก้าวข้ามไปสู่ระดับอาคมเจิ้นเทียน
“อีกนิดเดียวเท่านั้น ข้าแค่ขาดโอกาสที่จะทำความเข้าใจในอาคมเจิ้นเทียนที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้พลังของจิตเร้นลับ”
ตาของ’หลงยี่’เปร่งประกายด้วยความตั้งใจ และกระโดดลงมาจากต้นไม้โบราณจากด้านบนสุดลงมาสู่พื้นล่างสุดหลังจากก้าวข้ามไปสู่วู่เต้าขั้นที่ 7 แล้ว พลังพื้นฐานของหลงยี่จาก 32000 จิน (วู่เต้าขั้นที่ 6) เพิ่มขึ้นเป็น 64000 จินมากกว่านั้น ด้วยพลังของร่างมารทรราชย์และตราเก้ามังกรซ่อนทำให้หมัดของหลงยี่มีพลังทำลายสูงถึง 100000จินแน่นอนว่าหลังจากที่ขึ้นสู่ระดับวู่เต้าขั้นที่ 7 หลงยี่นั้นยังไม่แข็งแกร่งมากเท่าที่ควร เมื่อหลังจากการตื่นขึ้นของความทรงจำของตราเก้ามังกรซ่อน หลงยี่รู้เพียงว่าพลังและการแปลงร่างที่แท้จริงครั้งต่อไปจะต้องถึงระดับวู่เต้าขั้นที่ 8
“นักรบวู่เต้าขั้นที่ 8 นั้นมีพลังมากถึง 120000 จิน ถึงแม้ข้าจะใช้ถุงมือที่ได้มาจากเฟิงเซียนเซียนจะช่วยเพิ่มพลังให้กับข้าได้ก็จริง แต่นักรบวู่เต้าขั้นที่8 นั้นมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ แม้กระนั้นจึงมิใช่เรื่องง่ายที่จะชนะเลย”
หลงยี่คิดกับตัวของมันเองว่าด้วยพลังของมันตอนนั้นมันน่าจะสามารถต่อสู้อย่างสูสีกับนักรบวู่เต้าขั้นที่ 8ได้ และเมื่อมองไปที่ประสบการณ์การต่อสู้นั้นยิ่งไม่ต้องถามเลยว่าพวกมันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลงยี่เลยแม้แต่น้อยแต่อย่างไรก็ตามหากมันสามารถเข้าถึงพลังของอาคมเจิ้นเทียนได้มากกว่านี้
ก็จะทำให้มันสามารถสู้กับวู่เต้าขั้นที่ 8 ได้อย่างสบายใจ
“ตอนนี้ข้าต้องหาหลิงหานให้เจอ และหลังจากนั้นค่อยมุ่งจิตไปเพื่อทำความเข้าใจพลังของการยุติโลกแห่งกฏเกณฑ์ในจิตเร้นลับ”
‘หลงยี่’คำนวณเวลาไว้และพบว่าเกือบจะสองชั่วโมงได้ผ่านไปหลังจากที่หลิงหานได้กระโดดลงมาและหยุดพวกคนที่ไล่ตามตนให้ เวลาได้ผ่านมานาน หลงยี่ยังคงมิอาจรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้หลิงหานจะเป็นเช่นไรหลงยี่ได้ใช้ก้าวกระพริบตาขั้นสูงวิ่งย้อนกลับไปจากทางที่ตนเองวิ่งหนีมาเพียงชั่วครู่ มันได้กลับมาสู่จุดที่โสมโบราณขั้นสุดยอดได้เติบโตขึ้น
‘หลงยี่’วิ่งตรงเข้าไปในป่า แต่ก็มิอาจได้ยินเสียงของการต่อสู้กันหลงยี่จึงค่อยๆค้นหาและพบศพปริษนาสามศพอยู่บนต้นไม้ และคาดว่าน่าจะเป็นศพของพรรคเฉียนซี
“ดูคล้ายว่าศิษย์พี่หลิงหานยังคงสบายดี แต่ดูเหมือนว่าเฟิงเหยาเองก็จะมิได้เป็นอันใดเช่นกัน”
‘หลงยี่’ขบคิดอยู่ภายในใจ ถึงกระนั้นหลงยี่มิอาจหาตัวพวกมัน แต่หลงยี่ก็มิได้สับสนอันใด เพราะหลงยี่รู้ว่าด้วยพลังของเฟิงเหยาในตอนนี้ มันมิใช่เรื่องง่ายเลยที่จะฆ่าหลิงหานชั่วครู่หลังจากที่หลงยี่คิดที่จะออกตามหาพวกมัน ทันใดนั้นพลันได้ยินเสียงการต่อสู้ขึ้น
“มีการสู้กัน?”
‘หลงยี่’รีบใช้ก้าวกระพริบตาหายเข้าไปในพุ่มไม้และเคลื่อนที่ไปยังทิศทางของเสียงที่มาจากการต่อสู้สิ่งที่หลงยี่เห็นนั้นมิใช่เฟิงเหยา หลิงหานหรือ ผู้ติดตามอื่นๆ แต่เป็นเพียงศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในวู้เต้าขั้นที่ 8ของพรรคเจิ้นเทียน ตันเจี้ยน และนักรบในระดับเดียวกันอีกสองคน
“ตันเจี้ยนและอีกสองนักรบวู่เต้าขั้นที่ 8 จากพรรคหาญปิงตาของหลงยี่เปร่งประกาย มันมิคาดคิดเลยว่าจะมาเจอพวกมันสามคนที่นี่ในนั้นมีคู่ผู้หนึ่งชายผู้หนึ่งหญิง ทั้งสองต่างมีพลังระดับวู่เต้าขั้นที่ 8 และกำลังใช้คลื่นผลักตันเจี้ยนให้ถอยไปทีละก้าวๆและคล้ายว่าตันเจี้ยนจะมีเหงื่อไหลออกมามากมายและกำลังถอยไปทีละก้าวด้วยสีหน้าที่ดูหวาดกลัว”
“โสมโบราณขั้นสุดยอด ถึงว่า พวกมันกำลังต่อสู้แย่งโสมโบราณขั้นสุดยอดกันอยู่”
‘หลงยี่’สัมผัสได้ถึงลมปราณที่ออกมาจากตัวของตันเจี้ยน และหลงยี่สามารถที่จะบอกความแตกต่างได้ และคล้ายว่าจะมีกลิ่นอายของโสมโบราณขั้นสุดยอดออกมาจากตัวของตันเจี้ยน
“ไม่แปลกใจทำไมพวกมันถึงล้อมตัวตั้นเจียนเอาไว้ ตันเจี้ยนได้ดูดซึมโสมโบราณขั้นสุดยอดเข้าไปแล้ว”
มีแต่ความเย็นเยือกในสายตาของหลงยี่เมื่อวันที่หลงยี่เข้าร่วมกับพรรคเจิ้นเทียน ตันเจี้ยนนั้นสร้างปัญหาให้กับมันมาตลอดแต่หลงยี่ก็สามารถเอาชีวิตรอดกลับมาได้ทุกครั้ง
ถ้ามิเช่นนั้นมันคงถูกทำให้พิการหรือไม่ก็ตายไปนานแล้วแต่ตอนนี้มันมีโอกาสที่จะแก้แค้นตันเจี้ยนแล้ว หลงยี่ย่อมมิอาจปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปได้อย่างเด็ดขาดเป้าหมายของหลงยี่คือการที่จะเก็บกวาดพวกมันทั้งตันเจี้ยนและคนจากพรรคหาญปิงทั้งคู่นั้นในทีเดียว
Tan Tan:จากนี้อีหลงจะไปดาวนาเม็กสินะ
EINS : จะโหดแล้วว้อย
Marionette : ขั้นแปดๆ ๆๆ ๆๆๆๆๆ
ที่มา: