I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 97 – เคลื่อนทัพมาถึง

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ขอเปลี่ยนจากคำว่าโรงเรียน เป็น สำนัก นะคับ ส่วนคำว่า พันธมิตร ก็เปลี่ยนเป็น นิกาย

” ป้ายทอง – ม่วง!!! จริงๆหรอ ของสำคัญเช่นนั้นตาเฒ่าหลินได้มาจากเจ้าเมืองได้ยังไง ? “

ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปเพราะความสำคัญของ ป้ายทอง – ม่วง ซึ่งมันไม่ด้อยไปกว่า เครื่องหมาย มังกรฟ้า ที่ ‘ชูเฟิง’ นำกลับมาสุดท้ายไม่ว่าสำนักมังกรฟ้าจะแข็งแกร่งขนาดไหน ก็เป็นเพียงแค่สำนักเท่านั้น

หากจะเคลื่อนไหวอะไรก็ย่อมให้หลายฝ่ายตัดสิน ไม่สามารถตัดสินได้ด้วยอำนาจคนๆเดียว เหมือนกับ เจ้าเมืองนครทอง – ม่วง ในเรื่องของกำลังองค์รักษ์ทหาร และความแข็งแกร่ง ไม่ได้ด้อยไปกว่าสำนักมังกรฟ้า เจ้าเมืองที่นั้นมักพูดเสมอว่า

” มังกรมิอาจสู้กับงูบนพื้นดิน “

ซึ่งก็หมายความว่าต่อให้ศัตรูแข็งแกร่งแค่ไหนหากมาสู้ในที่ของตน เขาก็ย่อมได้เปรียบ

อีกทั้งได้รับการสนับสนุนอย่างลับๆ จึงทำให้กองกำลังของเจ้าเมืองเทียบได้กับสำนักอันดับ 1 ใน เขต มังกรฟ้า สำนัก หลิง-หยุน

ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลัง คือ ขุมกองกำลังขนาดใหญ่ นั้นคือ ราชวงค์ เจียง ประมุขของ 9 เขต ราชวงค์เจียง ที่เคยวางตัวเป็นกลาง และปล่อยให้ทั้ง 9 เขต ดูแลกันเอง แต่แท้จริงแล้วเขาคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ราชวงค์เจียงนั้นแหละที่เป็นคนแต่งตั้งเจ้าเมืองมาปกครองเขตทั้ง 9

ทุกอย่างใน 9 เขต เสมือนตกอยู่ในกำมือของ ราชวงค์ เจียงสำนักพอมีอำนาจอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่อาจรับมือกับ ราชวงค์เจียง ที่คอยอยู่เบื้องหลังได้

หากให้สำนักไปโจมตีอีกสำนักก็พอจะเป็นไปได้ แต่การที่จะให้บุกไปโจมตีเมืองใดๆพวกเขาไม่อาจทำเช่นนั้นได้นั้นคือเหตุผลที่หลายตะกูลเกรงกลัวอำนาจของ นคร ทอง – ม่วง มากกว่าสำนักมังกรฟ้า การจะจัดการผู้ที่ถือป้ายบัญชาจึงมิอาจทำได้

” ทำไมพวกแกถึงไม่คุกเข่าไม่เห็นป้ายทอง – ม่วง หรือไง ? “

สีหน้าของ’ผู้จัดการหลิน’ดูน่าเกรงขาม เขาชี้นิ้วไปที่ผู้คนแล้วตะโกนเสียงดังเมื่อได้ยินคำพูดของเขาดังออกมาอีกครั้ง มันทำให้ผู้คนกลัวกันเป็นอย่างมากจู่ๆพวกเขาก็นั่งคุกเข่าลง นั้นคือตะกูล จ้าว และ ตะกูล หลี่ ที่รู้สึกเหมือนกับมีพระโพธิสัตว์มาโปรด

จู่ๆพวกเขาก็เอาหัวโขกลงกับพื้นเห็นเช่นนั้นมันทำให้ ‘ชูเฟิง’ ขมวดคิ้วลง พร้อมกับจ้องมองทุกอย่างด้วยความอาฆาต เขาพูดกับตัวเองในใจ พวกเขาคือหญ้าที่อ่อนไหวลมพัดมาทางไหนก็ปลิวไปทางนั้น คนเบื้องหน้าเขาก็เป็นเช่นนั้น

” แล้วทำไมพวกเจ้าถึงไม่คุกเข่า หรือว่าเจ้าไม่เห็นป้ายนี้อยู่ในสายตา เจ้ากล้าหยาบคายใส่เจ้าเมืองเช่นนั้นหรอ ? “

เห็นว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ยอมคุกเข่า ‘ผู้จัดการหลิน’ โมโหพร้อมกับตะโกนเสียงดัง

” อย่าให้ข้าเห็นว่าใครคุกเข่าให้เขา!!! “

ได้ยินเช่นนั้น ‘ชูเฟิง’ ตะโกนออกไปด้วยความโกรธหลังจากที่ได้ยินคำพูดของ ‘ชูเฟิง’ พวกคนที่คิดจะแปรพรรคก็ต้องหยุดชะงัก ตอนนี้พวกเขาเข้าสู่สภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แม้ว่า นครทอง – ม่วง จะร้ายกาจ

แต่ตอนนี้เขามีพวกเขามีประมุขคนใหม่แล้ว อีกทั้งความโหดร้ายก็ไม่แพ้ใครต่อหน้าพลังอำนาจของ ‘ชูเฟิง’ พวกเขารู้ว่าหาก ‘ชูเฟิง’ โกรธแล้วจะเป็นเช่นไร ด้วยนิสัยของเขา คงไม่ปล่อยให้มีใครรอด

” ชูเฟิง เจ้ามันมีสมองหรือไม่ ที่กล้าเอาตัวเองไปตีตัวเสมอกับเจ้าเมือง ทอง – ม่วง ไม่เพียงแต่เจ้าไม่ยอมคุกเข่า ให้กับป้ายบัญชา แต่เจ้ายังกล้าข่มขู่ผู้อื่น ต่อหน้าเจ้าเมือง หรือว่าเจ้า คิดจะต่อต้าน ราชวงค์เจียง ? “

‘ผู้จัดการหลิน’ โกรธมาก เขาชี้ไปที่ ‘ชูเฟิง’ พร้อมกับตะโกน เจตนาของเขาบ่งบอกชัดเจนว่ากำลังคุกคาม

” ข้าไม่เพียงแต่จะต่อต้าน ข้ายังคิดจะฆ่าเจ้าอีกด้วยตอนนี้!!! “

ไม่ใช่แค่ ‘ชูเฟิง’ จะไม่กลัว เขายังตะโกนใส่อีกด้วย

” ลูกเฟิง ใจเย็นๆ ในมือเขาคือป้ายทอง – ม่วง หากเจ้าทำร้ายเขาหรือคนอื่นๆ นครทอง – ม่วง คงไม่ปล่อยเราไว้แน่ “

เห็นว่า ‘ชูเฟิง’ ปล่อยจิตสังหารที่รุนแรง ‘ชูหยวน’ ตกใจอย่างมาก เขารีบดึงแขนของ ‘ชูเฟิง’ เพราะกลัวว่าเขาจะเข้าไปทำร้าย ‘ผู้จัดการหลิน’

” ฮ่า ฮ่า ฮ่า ชูหยวน เจ้าก็รู้ตัวหนิ “

เห็นว่า’ชูหยวน’เกรงกลัว ‘ผู้จัดการหลิน’หัวเราะอย่างสะใจและกล่าว”

“ข้าไม่ปิดบังพวกเจ้าก็ได้ ตอนนี้เจ้าเมือง ทอง – ม่วง รู้ข่าวที่พวกเจ้าค้นพบเหมืองแร่ เหล็กดำบนภูเขาแห่งนี้แล้ว และเจ้าเมืองก็นำกองกำลังทหารเดินทางมาที่นี่ ข้าคิดว่าเขาคงมาถึงในอีกไม่ช้า “

” ดังนั้นจากนี้ไปพื้นที่บนภูเขาแห่งนี้ จะมีการตั้งกฏโดย เจ้าเมือง ทอง – ม่วง ส่วนข้านั้นก็จะได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการ “

” ตะกูลชูที่เป็นผู้ค้นพบเหมืองแร่เหล็กดำ ดังนั้น พวกเจ้าจะต้องเป็นคนขุดหา และสกัดออกมา ยังไงก็ตาม แร่เหล็กดำที่สกัดได้นั้นจะต้องส่งให้กับ นคร ทอง – ม่วง ทั้งหมด หากมีการยักยอกเก็บไว้หรือแอบนำไปขาย พวกเจ้าจะถูกตัดหัวโดยไม่มีการละเว้น”

‘ผู้จัดการหลิน’ อธิบายทุกอย่าง ว่าหากกองทัพของนคร ทอง – ม่วง มาถึง นั้นหมายความว่า ‘ชูเฟิง’และคนอื่นๆจะไม่สามารถทำอะไรได้ หากลงมือหรือทำการใดๆตะกูลชูคงจะพบกับความตายสำหรับการเดินทางมาครั้งนี้ของนครทอง – ม่วง ก็เพื่อแย่งชิง แร่เหล็กดำมาเป็นของตัวเอง

ข่าวเรื่องแร่เหล็กดำ คงเป็นฝีมือ’ผู้จัดการหลิน’ เขาจึงได้รับป้ายบัญชามาจาก เจ้าเมืองไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันต้องเป็นไอแก่นี้แน่ๆที่บอกข่าว ให้กับนครทอง – ม่วง ด้วยความลับที่เขานำไปบอกเขาคงได้รับรางวัลเป็นป้ายทอง – ม่วง และเสนอตำแหน่งผู้ตรวจการให้เขา ทั้งหมดนี้พิสูจน์ได้จากคำพูดของเขา

” ไอ้แก่!!! “

แม้ว่าใบหน้าของ ‘ชูเฟิง’ ยังคงสงบนิ่ง แต่หมัดของเขาถูกกำไว้แน่น เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ไอแก่นี้จะเป็นคนทรยศ ทุกคนบนภูเขามันก็สมควรทำให้ ‘ชูเฟิง’ เกิดกับเรื่องที่เขาทำ แต่ในตอนนี้เขาไม่สามารถทำร้าย ‘ผู้จัดการหลิน’ ได้จึงต้องอดทนไปก่อนรอจนกว่ากองทัพของนครทอง – ม่วง จะมาถึงแล้วค่อยตัดสินใจเหมือนกับที่ ‘ผู้จัดการหลิน’ กล่าว

บัดนี้หลายสิบลี้บริเวณนอกภูเขาชูพิง มีกลุ่มคนขี่ม้าใส่ชุดเกราะ ถืออาวุธ กำลังมุ่งหน้าเข้ามากองทัพขนาดใหญ่มีเหล่าทหารจำนวน 1000 คน ซึ่งไม่ควรประมาท คนที่เกินอยู่ที่พื้นอยู่ในระดับ 5 ห้วงวิญญาณ ส่วนคนขี่ม้าอยู่ในอาณาจักรกำเนิดวิญญาณ แต่มีหนึ่งคนที่ดูแตกต่างจากคนอื่นๆ

เขาคือคนที่เดินนำกองทัพ ดูค่อนข้างมีอายุ ตัวใหญ่ เขาไม่ได้สวมชุดเกราะแต่กลับสวมชุดคลุม สีม่วง ปักลายมังกรและหงษ์ด้วยด้ายสีทองไม่เพียงแค่ชุดที่ดูอลังการ แม้แต่ใบหน้าของเขายังดูมีสง่าราศี ออร่าพิเศษถูกปล่อยออกมาจากร่างของเขา

ขณะที่คนอื่นๆดูแตกต่างจากเขา แต่สิ่งที่สำคัญก็คือความแข็งแกร่งของเขา ซึ่งสัมผัสได้ว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรกำเนิดวิญญาณระดับ 9 อีกเพียงก้าวเดียว เขาก็สามารถเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้วิญญาณได้ เขาคือ เจ้าเมืองของนครทอง – ม่วง ‘ เฉิน ฮุ้ย ‘

เมื่อเร็วๆนี้ ทรัพยากรของนครทอง – ม่วง เริ่มลดลงและ ‘เฉิน ฮุ้ย’ ก็เริ่มเก็บภาษี  เมื่อเขาได้ยินข่าวว่ามีการค้นพบเหมืองแร่เหล็กดำบนภูเขาชูพิง มันทำให้เขามีความสุขอย่างมาก

ภายใต้ความสุขของเขาจึงมอบรางวัลให้กับ ‘ผู้จัดการหลิน’ ไม่เพียงแต่จะให้ป้ายทอง – ม่วง แต่ยังมอบตำแหน่งผู้ตรวจการให้อีกปัจจุบัน ‘เฉิน ฮุ้ย’ กำลังฮัมเพลงเบาๆ พร้อมกับสนทนากับองครักษ์ของเขา

แต่จู่ๆ ก็มีคนปรากฏด้านหน้าของพวกเขาและขวางทางเอาไว้

โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . .

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments