ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปอันธพาลทั้งสามเป็นเพียงพวกลิ่วล้อของแก๊งอสรพิษสวรรค์ พวกมันถูกส่งมาโดย‘พี่เถี่ย’เพื่อจับตัวเย่เฟิงที่ปาก้อนอิฐใส่หน้าสมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มของพวกมันที่ย่านบาร์
ความจริงแล้ว พวกมันไม่ได้มีฝีมืออะไรมากนัก อย่างน้อยก็เทียบไม่ได้กับกลุ่มชายขี้เมาที่ล้อม’ซูเหมิงหาน’ไว้เมื่อคืน อันธพาลทั้งสองวิ่งเข้ามาหา’เย่เฟิง’พร้อมเขวียงหมัดออกมา เขาหลบหลีกอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งควบแน่นเจินฉีไว้ที่กำปั้นทั้งสอง
เมื่อได้จังหวะ ‘เย่เฟิง’ก็จัดการปล่อยหมัดเข้าใส่พวกมันทั้งคู่ หมัดปากั้ว!
หมัดซ้ายของเขาต่อยเข้าไปยังท้องของอันธพาลคนหนึ่ง และในเวลาเดียวกัน หมัดขวาของเขาก็ต่อยเข้าไปยังอกของอันธพาลอีกคนหนึ่ง ด้วยเสียดัง “ปัง!”
ที่ดังขึ้นสองครั้ง เหล่านักเรียนที่ยืนมุ่งดูเห็นอันธพาลทั้งสองกระอักเลือดออกมาและร่างของพวกมันลอยเคว้งไปบนอากาศ พร้อมตกลงพื้นอย่างรุนแรง เลือดของพวกมันสาดไปบนพื้นพร้อมทั้งเกิดฝุ่นควันปกคลุมไปทั่วบริเวณ
‘เย่เฟิง’ส่งพวกมันลอยเคว้งโดยใช้เพียงแค่หมัดเดียว!
เมื่อผู้คนที่อยู่ใกล้ประตูโรงเรียนล้วนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาถึงกับตกตะลึง
‘ซูเหมิงหาน’เบิกตาที่กลมโตขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ เธอไม่คิดเลยว่าพวกอันธพาลจะถูกต่อยจนลอยเคว้งโดยนักเรียนชายคนหนึ่งที่ดูธรรมดาสามัญแบบนี้ นี่ทำให้เธอรู้สึกช๊อคอย่างยิ่ง!
เมื่อคืน ‘เย่เฟิง’ที่เข้ามาช่วยเธอโดยการขว้างก้อนอิฐใส่ชายขี้เมาแล้วจูงมือเธอหนี นี่ถือเป็นการกระทำที่ปกติสำหรับคนทั่วไป แต่การกระทำของ’เย่เฟิง’ตอนนี้ ทำให้เขาดูต่างไปจากเมื่อก่อนอย่างมาก เมื่อ’เทียนโย่วเหลียง’ที่ยืนอยู่ข้าง’ซูเหมิงหาน’เห็น’เย่เฟิง’จัดการกับคนของแก๊งอสรพิษสวรรค์โดยไม่มีแม้แต่เหงื่อสักหยด เขาถึงกับอ้าปากค้างแบบคนโง่งม
เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลย นี่ใช่คนอ่อนแอ่ที่ใช้เวลาทั้งวันในร้านเกมออนไลน์จริงหรือ? ต้องมีความแข็งแรงมากมายแค่ไหนกันถึงจะส่งชายร่างโตไปลอยเคว้งบนอากาศแบบนั้นได้?
ในเวลานี้ ‘เย่เฟิง’เห็นนักเรียนสี่คนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายวีดีโอ ใบหน้าของพวกเขาล้วนแสดงถึงความประหลาดใจอย่างไม่ปกปิด เพราะขนาดผู้ชายที่โตเต็มวัยแล้วยังไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้
ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารล้วนติดต่อส่งผ่านทางอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถหยุดข่าวนี้ไม่ให้กระจายออกไปได้ และเพียงไม่นาน นักเรียนทุกคนในโรงเรียนมัธยมปลายเหยียนก็ล้วนรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น
ที่ประตูโรงเรียน รปภ.คนดังกล่าวยังคงอยู่ในอาการช๊อค เขาเตรียมจะโทรแจ้งรถพยาบาลอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิด เขาไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่าเด็กนักเรียนธรรมดาสามารถจัดการอันธพาลจากแก๊งอสรพิษสวรรค์ได้ด้วยตัวคนเดียวแบบนี้
“เฮ้อ ชีวิตของเจ้าหนุ่มนั้นคงจบสิ้นแล้ว เล่นไปท้าทายแก๊งอสรพิษแบบนั้น……”
ถึงแม้รปภ.ของโรงเรียนไม่คิดว่าสุดท้ายผลจะออกมาแบบนี้ แต่เขาก็ส่ายหัวให้’เย่เฟิง’อย่างสงสาร เด็กหนุ่มคนนั้นเลือดร้อนและหุนหันพลันแล่นเกินไป จึงลงมือแบบไม่ยั้งคิดแบบนั้น เขากังวลกับความปลอดภัยของ’เย่เฟิง’ แต่หากผู้คนในบริเวณนี้รู้ว่า’เย่เฟิง’กำลังคิดอะไรอยู่ พวกเขาคงตกใจจนฉี่ราด
“พวกแก๊งอสรพิษสวรรค์นี่ชอบสร้างปัญหาให้เราจริงๆ เห็นที่ต้องหาทางจัดการถอดรากถอดโคนพวกมันให้สิ้น……”
‘เย่เฟิง’คิด เขาเหลือบตามอง’ซูเหมิงหาน’และ’เทียนโย่วเหลียง’ขณะเดินเข้าประตูโรงเรียนไป ตั้งแต่ยังเด็ก อาจารย์คนสวยสอนเขาเสมอว่า ถ้าวันใดมีใครก็ตามแสดงการคุกคามต่อเขา เขาต้องจัดการพวกมันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และห้ามปล่อยพวกมันไปเด็ดขาด! นี่คือกฏพื้นฐานของการเอาตัวรอดในโลกเทวะ
“ชิ ภูมิใจอะไรของเขานะ?”
เมื่อเห็น’เย่เฟิง’เหลือบมองเธอด้วยหางตาแล้วหันตัวจากไป ‘ซูเหมิงหาน’ก็อดที่จะบ่นไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็รู้สึกแย่ในใจนิดหน่อย อย่างไรก็ตาม ทั้งเธอและเขาก็เรียนอยู่ห้องเดียวกัน ดังนั้น ‘ซูเหมิงหาน’จึงได้แต่เดิมตามเขาไป โดยตลอดทาง เธอรู้สึกไม่ดีกับท่าทางของ’เย่เฟิง’ที่แสดงออกมา
แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็รู้สึกโล่งใจที่เขาไม่เป็นอะไร ทั้งหมดนั้นเพราะเขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของเธอ และตัวเธอเองยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโลกใต้ดิน ดังนั้น เธอคงรู้สึกผิดเอามากๆหากเขาเป็นอะไรไป
เมื่อ’เย่เฟิง’เดินเขาไปในห้องเรียนที่อยู่ในชั้นสามของอาคาร เสียงจอแจของเหล่านักเรียนในห้องเงียบกริบลงทันที พวกเขาล้วนมองเย่เฟิงเหมือนมองตัวประหลาด ชัดเจนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกคนในห้องล้วนรับรู้หมดแล้ว
“ให้ตายเถอะเพื่อน บอกฉันที ทำไมวันนี้นายฮอทจัง?”
เมื่อมีน้ำเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ‘เย่เฟิง’จึงได้หันไปที่มาของเสียงนั้นและพบกับเพื่อนสนิทของเขา ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า‘อู๋บี’ ด้วยลักษณะนิสัยที่พิเศษรวมทั้งสีผมของเขาครึ่งนึงเป็นสีขาว ทำให้ง่ายต่อการจดจำ
(note: ‘อู๋’นี่คือนามสกุลหรือชื่อตระกูลนะครับ จริงๆในภาษาอังกฤษเขาเขียนว่า ‘Ou’ และถ้าออกเสียงตามพินอินของจีนจะได้คำว่า‘โอว’ แต่ผมขอใช้คำว่าอู๋ละกันนะฮะ มันอ่านง่ายดี)
หลายปีก่อน มณฑลหัว อนุญาติให้ใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษเป็นชื่อได้ และตอนนั้น ปู่ของ’อู๋บี’คิดว่าการใช้ชื่อตามตัวอักษรดูมีเสน่ห์ จึงตั้งชื่อลูกชายของเขาว่า‘อู๋เอ’ ซึ่ง’อู๋เอ’ก็ตั้งชื่อลูกชายของเขาต่ออีกว่า’อู๋บี’
“ไม่มีอะไรหรอก อ่อ ฉันมีเรื่องให้นายช่วยหน่อยน่ะ”
‘เย่เฟิง’ยิ้มขณะมองข้ามสายตาประหลาดใจและอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนร่วมห้อง เขาเดินตรงไปยัง’อู๋บี’
ในโลกเทวะ ‘เย่เฟิง’เคยเห็นสมบัติสวรรค์มากมายที่สามารถดูดซับหลิงฉีได้ และเมื่อใครก็ตามได้ดูดซับพวกมัน พวกเขาจะมีระดับวรยุทธ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ครอบครัวของ’อู๋บี’ทำธุรกิจเกี่ยวกับวัตถุโบราณ นี่ช่างเป็นโชคดีของ’เย่เฟิง’จริงๆ
“สบายใจได้สหาย พี่อู๋ของนายพร้อมจะแก้ปัญหาทุกอย่างที่นายต้องการ”
‘อู๋บี’ยิ้มขณะเอามือมาแตะที่ไหล่ของ’เย่เฟิง’พร้อมกับพูดขึ้น
“อ่อ ฉันว่าจะถามนายพอดี ฉันได้ยินว่ามีพวกแก๊งอันธพาลมาหาเรื่องนักเรียนโรงเรียนเรา อ่า ให้ตายเถอะ ดีจริงๆที่ฉันไม่ใช่พวกที่ชอบใช้กำลัง…..”
“เอาละ เย็นนี้นายพาฉันไปที่บ้านทีนะ”
‘เย่เฟิง’ตัดบทและบอกความต้องการไปทันที ถึงแม้ว่าความจริงแล้ว เขาอยากจะไปตอนนี้เลย แต่มันคงจะดูไม่มีเหตุผลเกินไป ทั้งหมดนั้น พวกเขายังเป็นแค่นักเรียน และไม่ควรโดดเรียนไปที่อื่น
“ฮะ! ไปบ้านฉันหรอ?”
‘อู๋บี’ลุกขึ้นยืน
“อ่า ฉันมีของที่อยากไปดูหน่อยน่ะ”
‘เย่เฟิง’พูดขณะนั่งลงในโต๊ะแถวหลังของห้อง
“ฮ่าๆ เอาสิเอาสิ”
ตาที่เหมือนลูกบอลของ’อู๋บี’กวาดมองไปทั่วห้อง พร้อมกับปรากฏใบหน้าห่อเหี่ยว
“เฮ้อ สาวสวยในห้องเรายังไม่มา นี่ทำให้ฉันรู้ไม่กระชุ่มกระชวยเลยแฮะ……..”
‘เย่เฟิง’ไม่พูดอะไร เขาเงยหน้าขึ้นและในเวลาเดียวกัน เขาเห็น’ซูเหมิงหาน’ในชุดสีขาวเดินเข้ามาในห้อง ความสวยของเธอดึงดูดความสนใจของนักเรียนชายในห้องรวมทั้ง’อู๋บี’ทันที
“ว้า ซูเหมิงหานนี่น่ารักชะมัดเลยแฮะ นอกจากจะเป็นดาวโรงเรียนแล้ว พ่อของเธอยังเป็นถึงประธานบริษัทในเครือซูเฉิงกรุ๊ปอีก นี่ไม่ใช่นางในฝันหรือยังไง? ถ้าชั้นได้เธอมาครอบครองละก็……”
‘อู๋บี’เริ่มฝันกลางวัน ทันใดนั้น ‘ซูเหมิงหาน’หันมาจ้องอย่างเอาเรื่อง ด้วยสายตาที่แหลมคมของเธอ ทำให้’อู๋บี’หนาวไปถึงกระดูกสันหลัง แต่ไม่นานเขาก็พบว่าเธอไม่ได้มองมาที่เขา แต่มองไปยัง’เย่เฟิง’
‘อู๋บี’ก็รีบถามขึ้นทันที
“เฮ้เพื่อน บอกฉันมาตามตรง มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างนายกับซูเหมิงหานใช่ไหม?”
‘อู๋บี’รู้ว่าบ้านของ’เย่เฟิง’และ’ซูเหมิงหาน’อยู่ติดกัน
“ไม่มี”
‘เย่เฟิง’ปฏิเสธทันที
“ไอเพื่อนเลว นายอย่ามาหลอกฉันให้ยากเลย!”
‘อู๋บี’จ้องเย่เฟิงเขม็ง
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเราจริงๆ เชื่อฉันสิ แต่ช่างเรื่องนี้ก่อน นายรู้จักแก๊งอสรพิษสวรรค์ไหม?”
‘เย่เฟิง’ไม่อยากเล่าเรื่องไร้สาระ เขาจึงพูดเปลี่ยนเรื่อง
“แก๊งอสรพิษสวรรค์?”
เป็นไปตามที่’เย่เฟิง’คาด ‘อู๋บี’มีสีหน้าตื่นตระหนกพร้อมทั้งสายตาที่วอกแวก เขาจ้องมายัง’เย่เฟิง’พร้อมถามขึ้น
“ฉันเคยได้ยินมาบ้าง นายถามทำไม?”
“ฉันไปมีเรื่องกับพวกมันมา…..”
‘เย่เฟิง’เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาตามตรง
“ฮะ! เพื่อน นายอยากฆ่าตัวตายหรือไง?”
เมื่อ’อู๋บี’ได้ยินว่าอันธพาลทั้งสามเป็นคนของแก๊งอสรพิษสวรรค์ เขาจ้องมายัง’เย่เฟิง’ด้วยสายตาที่หวาดผวา แก๊งอสรพิษสวรรค์! มันคือหนึ่งในสามแก๊งที่มีอิทธิพลที่สุดในเมืองเหยียนจิงนี่นา
‘เย่เฟิง’ถึงกับกล้าไปมีเรื่องกับพวกมัน?
**************
ตอนนี้น่าจะไม่ค้างกันเท่าไหร่นะครับ55
จะสปอยนิดหน่อยว่าโลกปัจจุบันของเรื่องนี้จะคล้ายกับเรื่อง The Breaker คือไม่ใช่พระเอกคนเดียวที่ใช้วรยุทธ์ได้ แล้วก็จะมีพวกมาเฟียโลกใต้ดินเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่จะต่างกับเรื่อง The Breaker ตรงที่เรื่องนี้พระเอกเทพแล้วก็เด็ดขาดกว่า ยังไงก็รอติดตามกันนะครับ 😀
ปล.รับสมัครคนช่วยแปลนะครับทั้งเรื่องนี้แล้วก็เรื่อง DME ไม่ว่าจะpart time full time มาแปลเป็นช่วงๆได้หมด ขอแค่มีความรับผิดชอบไม่หายไปเฉยๆก็พอ ใครสนใจหลังไมค์มาทางข้อความลับได้เลยครับ
ที่มา: