ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปเมื่อกลอนประตูถูกพัง ‘เย่เฟิง’มีปฏิกิริยาทันที เขารีบมุ่งไปทางระเบียงเพื่อเตรียมจะกระโดดหนี แต่ถึงอย่างนั้นกลับมีคนที่มีปฏิกิริยารวดเร็วยิ่งกว่าเขา ‘เย่เฟิง’เห็นหญิงสาวลุกขึ้นมาจากโซฟา จากนั้นก็กระโดดเข้ามาเตะเขาอย่างไม่มีปี่ขลุ่ย ‘เย่เฟิง’ตื่นตัวเต็มที่ เขาควบแน่นเจินฉีไว้ที่ฝ่ามือเพื่อพร้อมรับลูกเตะของเธอ แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ ในช่วงเวลานั้นเอง หญิงสาวได้เบี่ยงขาเข้าเตะในอีกทิศทางหนึ่ง
จากช่วงล่างขึ้นเป็นช่วงบน ลูกเตะของเธอจึงฟาดเข้ากับหน้าอกของเขา
“ปัง”
‘เย่เฟิง’กระเด็นไปติดกับผนังพร้อมกับความรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยที่หน้าอก การบ่มเพาะระดับ 8 ปี นี่ไม่เบาเลยจริงๆ
“หึ อย่าบอกนะว่าคุณพึ่งเริ่มฝึกวรยุทธ์?”
มุมปากหญิงสาวโค้งขึ้นขณะที่ดวงตาคู่สวยส่งสายตาเยาะเย้ยมาที่เขา
“บ๊าย-บาย~”
ชัดเจนว่าหญิงสาวไม่อยากให้ตำรวจสร้างปัญหาให้เธอ ‘เย่เฟิง’เห็นเธอยิ้มบางๆมายังเขา จากนั้นหญิงสาวก็กระโดดออกทางระเบียงพร้อมกับหายตัวไป ‘เย่เฟิง’รู้สึกอยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก เคราะห์ดีที่ก่อนหน้านี้เขารีบควบแน่นเจินฉีไว้ที่หน้าอกไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้น ลูกเตะของเธอคงทำให้เขาบาดเจ็บหนักแน่ๆ
แต่ถึงอย่างนั้นตัวเขาพึ่งสามารถบ่มเพาะระดับวรยุทธ์ได้เพียงหนึ่งวัน เจินฉีของเขาไม่พอจะต้านทานลูกเตะของเธอที่มีระดับวรยุทธ์ถึง 8 ปีได้ ดังนั้นเมื่อโดนลูกเตะของเธอเข้า จึงทำให้เขาอยู่สึกชา และเคลื่อนไหวไม่ได้ชั่วคราว กลุ่มตำรวจเรียงแถวกันเข้ามาในห้อง ซึ่งนำโดยชายชายจมูกงุ้มที่มีตาเรียวเล็กและดูดุร้าย
“ใส่กุญแจมือเขา”
ชายจมูกงุ้มมองมายัง’เย่เฟิง’แล้วเดินไปที่ระเบียงพร้อมกับพยายามมองหาร่างของหญิงสาว แต่เธอกลับหายไปโดยไร้ร่องรอย เขาจึงเลิกสนใจอีก ถึงอย่างไร ในเมื่อเขาจับเด็กคนนี้ที่ชื่อว่า’เย่เฟิง’ได้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
ชายจมูกงุ้มหัวเราะ ขณะกำลังคิดขอบคุณลูกเตะของหญิงสาวที่เขาให้สามารถจับตัว’เย่เฟิง’ได้อย่างง่ายดาย
“เจ้าหนู มาโรงแรมม่านรูดทั้งที่อายุแค่นี้ ใจกล้าไม่เบาเลยนี่ ฉันที่เป็นตำรวจคงต้องขอเอาเรื่องหน่อยแล้ว”
ชายจมูกงุ้มพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งครึมพร้อมกับกวาดมือบอกตำรวจคนอื่น
“พาเจ้าหนุ่มนี่ไปโรงพัก”
ในความเห็นของเขา แม้การเอาเรื่องเจ้าหนุ่มนี่จะเป็นแค่เรื่องรอง แต่มันก็ทำให้เขาได้รับผลประโยชน์ และผลตอบแทนในอนาคต ในเวลานี้ ‘เย่เฟิง’ไม่สามารถขัดขืนอะไรได้จึงต้องยอมทำตามแต่โดยดี หากเขาไม่ถูกหญิงสาวคนนั้นเตะเข้า มีหรือที่เขาจะต้องกลัวตำรวจพวกนี้?
โชคไม่ดีที่ตอนนี้เขาคงต้องยอมทำตามตำรวจพวกนี้ไปก่อน ‘เย่เฟิง’จึงถูกจับกุมและนำตัวไปยังโรงพัก
ภายในห้องสอบสวนที่เล็กและแคบ พร้อมทั้งมีเพียงแสงไฟสลัวๆ ชายจมูกงุ้มเริ่มถามคำถาม’เย่เฟิง’ พร้อมกับมีตำรวจวัยกลางคนนายหนึ่งซึ่งมองมาด้วยสีหน้าเฉยเมย
“ชื่อ?”
ชายจมูกงุ้มถามขึ้น ‘เย่เฟิง’นั่งอยู่ตรงกับข้ามกับตำรวจทั้งสองนาย ขณะครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ในการหลบหนีไปจากที่แห่งนี้ แต่สุดท้ายเขาก็สรุปว่า คงเป็นไปได้ยาก เพราะแขนของเขาทั้งคู่ยังถูกล๊อคด้วยกุญแจมืออยู่ และด้วยระดับวรยุทธ์ของเขาในปัจจุบัน คงจะยากเกินไปในการใช้กำลังเพื่อหลบหนี
หากเขารับประทานหญ้าใบทองเข้าไปเพื่อเพิ่มระดับวรยุทธ์ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ถึงอย่างนั้น สถานการณ์ตอนนี้ยังอันตรายเกินไปอยู่ดี
“เย่เฟิง”
เขาตัดสินใจตามน้ำไปก่อนเพื่อดูว่าพวกตำรวจมีจุดประสงค์อะไร เพราะยังไงเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิด ดังนั้น’เย่เฟิง’จึงสงบนิ่งและไม่รู้สึกกังวลแม้แต่น้อย
“เพศ?”
ชายจมูกงุ้มยังคงถามต่อไป
“อายุ?”
“โรงเรียน?”
‘เย่เฟิง’ตอบคำตอบที่ตำรวจโยนมาอย่างเชื่อฟัง ในเวลานั้น ชายจมูกงุ้มรับโทรศัพท์ที่ดังขึ้น
“สวัสดีครับ ท่านประธานเทียนใช่ไหมครับ ผมกำลังสอบสวนเขาอยู่ แต่เขาตอบทุกคำถามอย่างเชื่อฟัง คุณคิดว่า………?”
ท่านประธานเทียน? เมื่อ’เย่เฟิง’ได้ยินดังนั้น ก็เกิดคำถามขึ้นในใจ ใครคือท่านประธานเทียน? ผู้คนที่เขารู้จักบนโลกใบนี้ มีเพียงคนเดียวที่ใช้แซ่เทียนคือ’เทียนโย่วเหลียง’ เป็นไปได้ไหมว่าท่านประธานเทียนคนนี้จะเป็นพ่อของ’เทียนโย่วเหลียง’?
ที่โรงเรียนมัธยมปลายเหยียน ‘เทียนโย่วเหลียง’ถือว่าเป็นคนมีฐานะ เพราะพ่อของเขาเป็นเจ้าของบริษัทขนาดใหญ่ และสินทรัพย์ต่างๆอีกเล็กน้อย ดังนั้นหากจะรู้จักกับตำรวจพวกนี้ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลก ‘เย่เฟิง’เป็นคนที่มีไหวพริบ และสามารถเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆเข้าด้วยกันได้อย่างรวดเร็ว
เขาจึงคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดน่าจะมีต้นเหตุมาจาก’เทียนโย่วเหลียง’
“หึ ถ้าพวกมันรวมหัวกันใส่ความฉัน ฉันไม่ยอมอยู่เฉยแน่”
‘เย่เฟิง’พูดในใจพร้อมกับคิดหาทางตอบโต้
“บอกมา ทำไมเธอถึงอยู่กับหญิงขายบริการได้?”
หลังจากได้รับโทรศัพท์ ชายจมูกงุ้มไม่ได้ถามคำถามไร้สาระอะไรอีก และเปลี่ยนคำถามเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี
“ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผู้หญิงขายบริการหรือการค้าประเวณี”
‘เย่เฟิง’ตอบ
“อย่ามาโกหก!”
ชายจมูกงุ้มทุบมือลงบนโต๊ะพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงรุนแรง
“พวกเรามีหลักฐานพร้อม เธอยังอายุน้อย เพราะฉะนั้นบางทีอาจทำเรื่องผิดพลาดไปบางก็ถือว่าเข้าใจได้ และนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต โทษของเธอคือถูกคุมขังเอาไว้สิบวันพร้อมกับค่าปรับอีกเล็กน้อยเท่านั้น”
เขาพยายามจะโน้มน้าว’เย่เฟิง’เพื่อให้ยอมสารภาพง่ายๆ แต่ความจริงแล้ว พวกเขาไม่สามารถจับตัวหญิงสาวคนนั้นได้ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่มีหลักฐานใดๆที่จะเอาผิดเย่เฟิงในเรื่องที่เกี่ยวกับการค้าประเวณี แต่ในโรงพักนี้ พวกเขาคือผู้มีอำนาจ จึงพูดแบบนั้นไป
“ผมยังยืนยันคำเดิมว่าผมไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฏหมาย”
‘เย่เฟิง’ยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหา หากเขาไม่ยอมรับเสียอย่าง พวกตำรวจก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้มันกระทบต่อชื่อเสียงของเขา
“ดูเหมือนว่าถ้าไม่ลงมือซะหน่อย เธอคงไม่ยอมรับผิดสินะ”
ชายจมูกงุ้มยิ้มเย็นและยืนขึ้น ‘เย่เฟิง’ตื่นตัวเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น พร้อมกับคิดในใจว่าเขาควรจะเริ่มตอนนี้เลยไหม? แต่ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของชายจมูกงุ้มก็ดังขึ้นอีกครั้ง เขารับโทรศัพท์พร้อมกับพูดขึ้น
“สวัสดีครับ ท่านหลิวหรือครับ?”
“เสี่ยวจาง เปิดประตูที”
เมื่อชายจมูกงุ้มได้ยินเสียงในโทรศัทพ์ เขามีท่าทางแสดงความเคารพขึ้นในทันใด พร้อมกับเดินไปเปิดประตูของห้องสวบสวน ขณะนี้มีชายลงพุงวัยกลางคนยืนอยู่ ซึ่งน่าจะเป็น’ท่านหลิว’ที่ชายจมูกงุ้มพูดขึ้นตอนคุยโทรศัพท์ ชายวัยกลางคนมองไปยังใบหน้าของ’เย่เฟิง’แล้วยิ้ม
เขาตบไหล่ของชายจมูกงุ้มก่อนจะพูดขึ้น
“เสี่ยวจาง คุณทำงานได้ดีมาก ตามแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ เด็กคนนี้เกี่ยวข้องกับคดีข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งเป็นอาชญากรรมร้ายแรงเมื่อเทียบกับการมีส่วนร่วมในการค้าประเวณี สอบสวนให้ดี งานของตำรวจคือการจัดการกับพวกคนชั่ว คุณรู้ดีใช่ไหม?”
เขาคนนี้มีชื่อว่า’หลิวจี้’ เป็นผู้กำกับการของสถานีตำรวจแห่งนี้ที่พึ่งได้รับโทรศัพท์สองสาย สายแรกมาจากเลขาของประธานบริษัทในเครือซูเฉิงกรุ๊ปซึ่งบอกเป็นนัยๆให้เขาจับตัวนักเรียนมัธยมปลายชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า’เย่เฟิง’เอาไว้ แม้เขาจะรู้สึกแปลกใจและไม่เข้าใจว่าทำไมซูเฉิงกรุ๊ปถึงต้องการให้เขาจับตัวเด็กคนนี้ไว้
แต่ต่อมา เขาก็ได้รับโทรศัพท์อีกสายจากหัวหน้าของเขาซึ่งทำให้เขาถึงกับเหงื่อแตก หัวหน้าของเขาได้ย้ำเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าต้องดำเนินคดีกับ’เย่เฟิง’ให้ได้โดยไม่ให้มีการประกันตัวใดๆ ซึ่งเป็นไปตามกฏหมายของผู้ก่ออาชญากรรมร้ายแรง
ฟังจากน้ำเสียงของหัวหน้าแล้ว เขาตระหนักได้ทันทีว่าเด็กคนนี้คงไปล่วงเกินผู้มีอิทธิพลบางคนเข้าแล้วอย่างแน่นอน อิทธิพลที่แม้แต่หัวหน้าของเขายังไม่กล้าที่จะปฏิเสธ ‘หลิวจี้’งงงวยเป็นอย่างมาก เพราะเด็กคนนี่เป็นแค่เด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาเท่านั้น หรือมันไปข่มขืนลูกสาวของคนเหล่านั้นเข้า?
แน่นอนว่า’ผู้กำกับหลิว’ตัดสินใจจะทำตามคำสั่งอย่างดีที่สุด แม้เขาจะยังคงสับสนและไม่กล้าถามเหตุผลกับหัวหน้าของเขาก็ตาม
“เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับผู้กำกับหลิว!”
ชายจมูกงุ้มดีใจขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินน้ำเสียงแสดงความพึงพอใจของ’ผู้กำกับหลิว’ เขาคิดว่าเด็กคนนี้ช่างมีเรื่องกับคนใหญ่คนโตมากมายจริงๆ สำหรับข้อหาข่มขืนกระทำชำเราแล้ว โทษของมันย่อมมากกว่าข้อหาก่อนหน้านี้ อย่างน้อยเจ้าเด็กนี่คงต้องติดคุกอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 ปี
‘ผู้กำกับหลิว’เดินไปยืนอยู่ข้างชายจมูกงุ้มพร้อมกับกระซิบบางอย่างที่หูของเขา จากนั้นจึงเดินไปยืนอยู่ด้านหนึ่งของห้องโดยไม่ได้ออกจากห้องไป ชัดเจนว่าสิ่งที่เขาบอกกับชายจมูกงุ้มนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง
เมื่อชายจมูกงุ้มได้ยินเสียงกระซิบ เขาพยักหน้าแล้วหันมาหาตำรวจวันกลางคนที่ยืนทำหน้าเฉยเมยอยู่พร้อมกับพูดขึ้น
“ค้นตัวอีกครั้ง”
พวกเขาทั้งคู่เดินมายัง’เย่เฟิง’
“ค้นตัวอีกครั้ง?”
‘เย่เฟิง’ขมวดคิ้ว เพราะเขาได้ยินคำว่า “หญ้าสามต้น” ขณะที่’ผู้กำกับหลิว’กระซิบผ่านหูของชายจมูกงุ้ม และเพียงไม่นาน เขาก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นทันที
ในตอนที่เขาถูกนำตัวมายังห้องสอบสวน พวกตำรวจได้ยึดโทรศัพท์มือถือของเขาไป ตอนนี้ ในตัวเขาเหลือเพียงเช็คมูลค่าสองแสน หญ้าใบทองสองต้น และแหวนดาบมังกรโบราณที่สวมอยู่ที่นิ้ว หากพวกมันถูกยึดไปอีกละก็ ไม่ดีแน่!
เขาต้องรีบทำอะไรสักอย่างแล้ว
……………………
แปลและปรับสำนวน : Solar Spark
ถ้ามีตรงไหนพิมพ์ผิดก็บอกกันได้นะครับ พอดีช่วงนี้รีบปั่นอย่างเร็วเลย
ส่วนเรื่องDME ตอนต่อไปเดี๋ยวลงให้พรุ่งนี้นะฮะ เพิ่มเติมคือวันนี้ลงตอนเดียวนะครับ เพราะตอนที่10ยังแปลไม่เสร็จ เข้าใจว่าทุกคนรู้สึกค้างแต่คือเรื่องนี้มันก็ค้างเกือบทุกตอนอะนะฮะ
ตอนหน้าก็ค้างอีก ยังไงระหว่างรอก็มาพูดคุยถกเถียงเดาเนื้อเรื่องกันได้เน้อเพราะเรื่องนี้เดาทางยากอยู่เหมือนกัน แต่ใครอ่านแล้วอย่าลงสปอยในคอมเม้นนะครับ
ที่มา: