ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“ปู่?”
‘เย่เฟิง’ได้ยินน้ำเสียงเข้าก็ตกใจ เขาพยายามหันมองไปรอบทิศแต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของปู่เขา แต่ถึงอย่างไร เสียงนี้ของเป็นของปู่เขาแน่นอน ถึงแม้มันจะดังก้องและดูลึกลับก็ตามที่ แบบนี้ก็แสดงว่าคนที่ช่วยเขาไว้คือปู่ของเขางั้นหรือ?
ในความทรงจำของ’เย่เฟิง’คนก่อน เขาเคยเจอกับปู่บ่อยๆเมื่อตอนยังเด็กเท่านั้น ซึ่งตามความทรงจำแล้ว ปู่ของเขาไม่ได้ดูลึกลับแบบนี้และออกจากธรรมดาเสียด้วยซ้ำไป
หลายปีมาแล้วที่’เย่เฟิง’ไม่ได้พบกับปู่ของเขา แต่ปู่ยังคงส่งค่าเทอมและค่าใช้จ่ายในการกินอยู่มาให้ตลอด เพราะฉะนั้นแล้ว ภาพของปู่จึงไม่ต่างอะไรกับเงารางๆ จนกระทั่งตอนนี้ คนที่ช่วยเขาไว้จากสถานการณ์ลำบากกลับกลายเป็นปู่ของเขาไปเสียอย่างนั้น
“โอ้ แกยังจำไอแก่คนนี้ได้ด้วย”
เสียแหบแห้งลอยเข้ามาในหูของเขาอีกครั้ง
“วันนี้ฉันช่วยแกจัดการเรื่องยุ่งยากของผู้หญิงคนนั้น แต่ต่อจากนี้ถ้าเกิดอะไรขึ้นอีก ไอแก่คนนี้ช่วยแกไม่ได้อีกแล้วนะ”
‘เย่เฟิง’ได้ยินดังนั้นก็เข้าใจทันทีว่าปู่ของเขารู้เรื่องหญ้าใบทองทั้งสามต้นกับเรื่องผู้หญิงคนนั้นที่เขาช่วยไว้วันนี้ แล้วเขายังเป็นคนสะสางเรื่องยุ่งยากทั้งหมดอีก นี่ปู่ของเขามีอิทธิพลมากแค่ไหนกันนะ?
ปู่ทั้งส่งคำพูดมายังหูเขา ทั้งแอบขว้างลูกเกาลัดใส่เขาจนหัวคะมำอีก เมื่อพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ปู่ของเขาก็มีวรยุทธ์เช่นเดียวกับหญิงสาวที่เขาช่วยไว้วันนี้งั้นหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น ระดับวรยุทธ์ของปู่ยังสูงยิ่ง
ฟิ้ว!
มีกระแสลมจู่โจมใส่เขาอีกครั้ง แม้’เย่เฟิง’จะพยายามหลบให้พ้น แต่เขาก็ยังถูกลูกเกาลัดกระแทกใส่หลังหัวจนเซไปสองก้าวอยู่ดี ครั้งนี้ เขาพยายามหันมองอย่างรวดเร็ว แต่ก็เห็นเพียงคู่รักคู่หนึ่งที่มองมายังเขาด้วยสายตาประหลาดใจ
“ที่รักดูนั่น เมื่อกี้น้องคนนั้นโดนผีทุบหัวแหละ!”
หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงตกใจกับแฟนหนุ่มของเธอ ขณะมองมายัง’เย่เฟิง’
“แหม่ที่รัก คุณไม่ใช่พวกไร้การศึกษานะ ยังจะเชื่อเรื่องผีสางอีก ไปกันเถอะ ผมว่าเขาคงเป็นพวกคนป่วยทางจิตน่ะ”
นักศึกษาหนุ่มดึงมือแฟนสาวขณะมองมายัง’เย่เฟิง’ แล้วก็รีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว เมื่อได้ยินดังนั้น ‘เย่เฟิง’ก็ได้แต่ทำหน้าเหลอหลา
“เอาละเจ้าหนู ไอแก่คนนี้ค่อนข้างยุ่งและมีเรื่องที่ต้องจัดการอีกเยอะเสียด้วย”
น้ำเสียงแหบแห้งดังขึ้นอย่างลึกลับอีกครั้งในอีกทิศทางหนึ่ง
“จำไว้เรื่องหนึ่ง ไม่ว่าจะยังไงแกต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยเหยียนจิงให้ได้ พอถึงเวลานั้น ฉันจะแนะนำให้แกรู้จักกับคู่หมั้นของแก เธอคือหลานสาวของไอแก่ตระกูลหลิน น่ารักทีเดียวเชียวแหละ เพราะงั้นก็พยายามเข้าละ……….”
น้ำเสียงนั่นค่อยๆจางหายไป เหลือเพียงกระแสลมที่ไหลมากระทบร่างของเขาจากทั่วทิศทาง ซึ่งทำให้เขารู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก ‘เย่เฟิง’คิดว่าปู่ของเขาคงมีทักษะวรยุทธ์ระดับสูง จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาสามารถปรากฏตัวและหายไปอย่างลึกลับจากทั่วทิศทาง จนตัวเขายังไม่สามารถระบุตำแหน่งที่แน่ชัดได้
“สอบเข้ามหาวิทยาลัยเหยียนจิงให้ได้ แล้วจะแนะนำคู่หมั้นให้งั้นหรือ? เธอคนหลานสาวของไอแก่ตระกูลหลิน?”
‘เย่เฟิง’ทบทวนคำพูดปู่ของเขาแล้วรู้สึกเศร้าใจนิดหน่อย เขาเป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์แห่งโลกเทวะ แต่พอมาอยู่โลกใบนี้กลับต้องคอยทำตามคำสั่งคนอื่น ยิ่งไปกว่านั้น ใครคือหลานสาวของไอแก่ตระกูลหลินกัน? แม้’เย่เฟิง’จะรู้สึกอารมณ์ไม่ดี แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามสิ่งที่ปู่บอก
เพราะชัดเจนว่าปู่ของเขามีวรยุทธ์ที่แข็งแกร่งกว่าตัวเขาในปัจจุบันอย่างมาก
“ถึงจะหนีไปที่อื่น ก็เป็นไปได้สูงที่ปู่จะตามตัวเราเจอ ดูเหมือนว่าเราจะต้องรีบพัฒนาระดับวรยุทธ์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เพื่อจะได้มีความแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องตัวเอง ส่วนตอนนี้ ก็คงต้องทำตามสิ่งที่ปู่พูดไปก่อน”
‘เย่เฟิง’รู้สึกเศร้าใจนิดหน่อยที่เขาจะไม่สามารถฝึกวรยุทธ์ได้ตามแผนที่วางไว้ตอนแรก ยิ่งกว่านั้น ดูเหมือนตัวเขาบนโลกนี้จะมีคนคอยตามรังควานเยอะเหลือเกิน
“แล้ว สิ่งอันตรายในช่วงนี้ที่ปู่บอกมันคืออะไรกัน?”
‘เย่เฟิง’พึมพำกับตัวเอง ดูเหมือนว่าจากวันนี้ไป หากเขาต้องการรับประกันความปลอดภัยของตัวเอง เขาคงต้องบ่มเพาะวรยุท์ไปพร้อมๆกับการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยเหยียนจิงสินะ ตอนนี้ ยังเหลือเวลาอีกประมาณสามเดือนก่อนจะถึงวันสอบ หากพิจารณาจากเกรดของ’เย่เฟิง’คนก่อนแล้ว
การสอบให้ติดมหาวิทยาลัยเหยียนจิงคงเป็นแค่ความฝัน แต่ถ้าเป็นตัวเขาปัจจุบันที่มีทักษะพิเศษแล้ว การสอบให้ติดมหาลัยย่อมไม่ใช่เรื่องยาก
‘เย่เฟิง’ใช้เวลาทั้งคืนอยู่ที่ทะเลสาบเหวยหมิง ในช่วงครึ่งแรก เขาผ่อนคลายจิตใจ พร้อมกับนำหญ้าใบทองต้นหนึ่งมาดูดซับหลิงฉีจนถึงเที่ยงคืน ในที่สุดเขาก็สามารถพัฒนาระดับวรยุทธ์ขึ้นเป็นระดับ 5 เดือนแล้ว ความสำเร็จนี้ แน่นอนว่าเทียบไม่ได้กับตัวเขาในโลกเทวะเลยแม้แต่น้อย
แต่การบ่มเพาะวรยุทธ์จำเป็นต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เมื่อไหร่ที่เขาสามารถพัฒนาถึงระดับ 5 ปีได้ เขาจะสามารถฝึกทักษะเสริมความว่องไวที่แม้แต่ปู่ของเขาก็ไม่สามารถไล่ตามได้ง่ายๆ ถึงตอนนั้น เขาคงจะเป็นอิสระอย่างแท้จริง ในเวลาที่เหลือ ‘เย่เฟิง’ใช้ไปกับการเดินรอบๆทะเลสาบเหวยหมิงเงียบๆ
เขาเดินหาแมงมุม มด และตะขาบบางชนิด ซึ่งก่อนหน้านี้ เย่เฟิงได้ซื้อน้ำแร่มาขวดหนึ่งก่อนจะเทน้ำออกไปครึ่งขวดแล้วจึงจับพวกแมลงเล่านั้นใส่ลงไปในขวดพร้อมกับหญ้าใบทองเพื่อดองพวกมันเอาไว้
สำหรับวรยุทธ์ระดับ 5 เดือน เพียงพอให้เขาสามารถควบคุมเจินฉีในร่างได้อย่างราบรื่น ‘เย่เฟิง’เดินไปยังที่ลับสายตาคนแล้วจึงทำการกลั่นสิ่งที่อยู่ในขวดน้ำแร่จนได้ยาเม็ดออกมา
นี่คือยาพิษที่เขาจะนำไปใช้ควบคุมหัวหน้าแก๊งอสรพิษสวรรค์ นอกจากมันจะทำให้เขาได้รับความปลอดภัยแล้ว มันยังทำให้เขาสามารถใช้งานอิทธิพลของแก๊งได้ด้วย แต่’เย่เฟิง’ก็ตระหนักถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เขาไม่รู้ว่าแหล่งรวมตัวหลักของแก๊งอสรพิษสวรรค์อยู่ที่ไหน เรื่องนี้ทำให้เขานึกถึง’อู๋บี’
“หมอนั่นมีเครือข่ายกว้างขวาง เขาน่าจะรู้ว่าจะหาที่อยู่ของหัวหน้าแก๊งได้ที่ไหน ยิ่งไปกว่านั้น เราต้องไปบ้านของเขาเพื่อหาสิ่งของโบราณอีกด้วย ถ้าโชคดีเจอของโบราณที่มีหลิงฉีอยู่ภายใน เราก็จะสามารถเพิ่มระดับวรยุทธ์ขึ้นได้อีก”
‘เย่เฟิง’ใช้เวลาทั้งคืนไปกับการบ่มเพาะวรยุทธ์และกลั่นยาพิษที่ทะเลสาบเหวยหมิง พอถึงตอนเช้า เขาจึงไปหาโรงแรมเพื่อนอนพักเอาแรงเสียหน่อย
อีกด้านหนึ่งในเวลาก่อนรุ่งสาง ภายนอกหมู่บ้านชิงเฟิงมีอันธพาลสามคนนั่งรอ’เย่เฟิง’อยู่ทั้งคืน พวกเขาก็คืออันธพาลทั้งสามที่ไปหาเรื่อง’เย่เฟิง’ที่หน้าประตูโรงเรียนเมื่อวานนี้
“ซวยชิบ….. พวกเรามารอทั้งคืน ไอเด็กเวรนั่นก็ยังไม่มา”
อันธพาลร่างผอมสูงพูด ตอนนี้น้องชายของเขายังคงปวดระบมไม่หาย โชคดีที่เมื่อวาน เมื่อไปถึงโรงพยาบาล หมอบอกว่าอาการบาดเจ็บนี้ไม่ถึงขั้นร้ายแรง แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาไม่ได้มาเพื่อคุกคาม’เย่เฟิง’ ตอนนี้หัวหน้าแก๊งอสรพิษสวรรค์รู้สึกสนใจในฝีมือของ’เย่เฟิง’เป็นอย่างมาก
และสั่งให้อันธพาลทั้งสามไปส่งข้อความเชิญชวนให้’เย่เฟิง’เข้าร่วมกับแก๊งของพวกเขา
“เจ้าเด็กนี่โชคดีจริงๆ ลูกพี่เถี่ยสนใจมันทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่มันทำ”
อันธพาลอีกคนพูดขึ้น
“ถ้าแกมีฝีมือเหมือนมัน ลูกพี่เถี่ยก็คงสนใจแกเหมือนกันนั่นแหละ”
สุดท้าย อันธพาลทั้งสามก็ได้แต่นึกอิจฉา’เย่เฟิง’ ใครจะไปคิดว่าเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาจะมีฝีมือขนาดนี้? มันจึงไม่น่าแปลกใจที่ลูกพี่เถี่ยจะโดน’เย่เฟิง’ปาก้อนอิฐใส่หน้าจนหน้าแหกแบบนั้น
“ถ้าอย่างนั้น เรารายงานลูกพี่เถี่ยก่อนว่าเจ้าเด็กนั่นไม่กลับมาที่บ้าน แล้วค่อยไปหาที่งีบหลับซักพัก หลังจากนั้นค่อยไปดูที่โรงเรียนเหยียนของมันอีกที”
อันธพาลร่างสูงพูดก่อนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
‘เย่เฟิง’หลับยาวจนถึงตอนบ่าย พอตื่นมา เขานึกขึ้นได้ว่าเขาลืมเช็คมือถือไปเลยตั้งแต่หยิบมันมาจากห้องสอบสวน ‘เย่เฟิง’หยิบมือถือขึ้นมาเช็คดู เขาพบข้อความและสายที่ไม่ได้รับมากมายจาก’อู๋บี’
ยังมีข้อความเสียงร้องโวยวายที่ตะโกนด่าว่าเขาออกนอกลู่นอกทางบ้าง ไปเที่ยวแหล่งค้าประเวณีบ้าง แล้วยังบอกอีกว่าอนาคตของเขาจะมืดมน จากนี้ต่อไป ชีวิตของเขาจะพังทลายและเขาจะต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป
และยัง……….. ‘เย่เฟิง’ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ดูเหมือนว่าข่าวลือของเขาจะกระจายไปทั่วโรงเรียนมัธยมปลายเหยียนเสียแล้ว ส่วนใครเป็นคนกระจายข่าว เรื่องนี้คงไม่ต้องถาม
………..
แปลและปรับสำนวน : Solar Spark
ที่มา: