I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 14 คำขอร้องจากซูเหมิงหาน

| Genius Sword Immortal | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

“เธออยากจะคุยกับผึ้งน้อยเนี่ยนะ!”

ตอนที่’อู๋บี’เห็น’ซูเหมิงหาน’อยากคุยกับ’เย่เฟิง’เขาตกใจจนลุกขึ้นยืน

“นายไม่กล้าออกไปกับฉันหรือไง?”

‘ซูเหมิงหาน’กล่าวอย่างขัดใจอีกรอบ จากนั้นจึงยื่นมือไปจับข้อมือ’เย่เฟิง’แล้วลากเขาออกไปจากห้องเรียนทันที

‘เย่เฟิง’ในตอนนี้มีวรยุทธ์ระดับ 5 เดือน อีกทั้งยังมีร่างกายที่แข็งแรง แต่เมื่อเขาเห็นว่า’ซูเหมิงหาน’พยายามลากเขาออกไปแบบไม่คิดชีวิต เขาจึงยอมตามไปเพราะคิดว่าเธอคงมีเรื่องสำคัญบางอย่างแน่นอน   รับฟังเธอสักครั้งก็คงไม่เสียหายอะไร

ทันทีที่สองหนุ่มสาวออกไปจากห้องเรียนทุกคนในห้องเริ่มจับกลุ่มคุยกันอีกครั้ง เกิดอะไรขึ้น?ทำไมสาวสวยอันดับหนึ่งของโรงเรียนถึงได้มีท่าทางเป็นฝ่ายรุกเข้าหา’เย่เฟิง’แบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นคนจับมือลากเขาออกไปเองด้วย   พวกเขาสองคนจะไปคุยอะไรกันนะ

วันธรรมดาทั่วไปเช่นนี้กลับมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นมากมายพร้อมกัน เรื่องแรกคือการที่’เย่เฟิง’เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการค้าประเวณีแล้วถูกจับ ซึ่งก็เป็นเรื่องประหลาดมากพอแล้ว ยังตามมาด้วยหางสุนัขที่จู่ๆก็งอกออกมาจากก้น’เทียนโย่วเหลียง’ แล้วหนักที่สุดคงเป็นเรื่องดาวโรงเรียนในฝันของทุกคน

‘ซูเหมิงหาน’เป็นฝ่ายรุกเข้าหา’เย่เฟิง’และลากเขาออกไปนอกห้องเพื่อคุยเรื่องอะไรบางอย่าง เสียงนินทาเปรียบดั่งเชื้อไฟที่ลามไปทั่วทุกที่ กลุ่มคนบางส่วนพยายามจะแอบลอบฟังสิ่งที่’ซูเหมิงหาน’คุยกับ’เย่เฟิง’แต่ก็ต้องล้มเหลวเมื่อเห็นว่าทั้งคู่เดินไปทางสนามกีฬา เพราะชัดเจนว่าพวกเขาแอบฟังในที่โล่งแบบนั้นไม่ได้

พวกเขาเหล่านี้ยังจำได้ดีถึงเหตุการณ์เมื่อวานตอนเช้าที่’เย่เฟิง’ซัดนักเลงสองคนจนกระเด็นไปที่หน้าประตูโรงเรียนได้ดี แน่นอนพวกเขาไม่อยากเจอเรื่องแบบนี้กับตัวเองเป็นแน่   ในที่สุด’ซูเมิงหาน’และ’เย่เฟิง’ก็เดินมาถึงสนามกีฬา

ยามบ่ายที่พระอาทิตย์สาดแสงแรงจ้า สนามกีฬาล้วนไร้ผู้คนจึงเป็นที่เหมาะสมที่สุดแล้วสำหรับการคุยกันส่วนตัว

“เอาละ มีเรื่องอะไรจะพูดกับฉันงั้นหรือ?”

‘เย่เฟิง’เดินไปพูดไป

“ฉัน…”

‘ซูเหมิงหาน’มองไปยัง’เย่เฟิง’ เด็กหนุ่มที่เป็นเพื่อนบ้านของเธอมานานแล้ว หากแต่เธอก็ไม่คุ้นเคยกับเขามากนัก นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอสังเกตว่าเขาเป็นคนที่หล่อเหลาไม่เบาเลยเช่นกัน   ‘ซูเหมิงหาน’ส่ายหัวเพื่อไล่ความคิดเหล่านั้นออกไป เธอลังเลเล็กน้อยพลางหลบหน้าไปทางด้านข้างเพื่อหลีกเลี่ยงการสบตากับ’เย่เฟิง’โดยตรงแล้วจึงพูดว่า

“ฉันพานายมาที่นี่เพื่อจะบอกว่าฉันพร้อมให้โอกาสนายได้จีบฉันนะ พ่อของฉันไม่ได้คัดค้านเรื่องของเราอีก นายจะว่าไงล่ะ?”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากเธอ ‘เย่เฟิง’ขยับยิ้มในทันที   เขามองสำรวจเธอที่เป็นดาวโรงเรียนอย่างถี่ถ้วน ใบหน้าเรียวรูปไข่ องค์ประกอบต่างๆที่ดูสวยงาม อีกทั้งเรือนร่างที่ดูน่าทะนุถนอม เพียงแค่มองปราดเดียวไม่ว่าใครก็ต้องยอมรับว่าเธอสวยและน่าดึงดูดอย่างหาที่เปรียบได้ยากจริงๆ

ถ้าหากเธอไปพูดเรื่องเดียวกันนี้กับเด็กหนุ่มคนอื่นในโรงเรียนมัธยมปลายเหยียน พวกเขาเหล่านั้นคงดีใจจนแทบช๊อกและรีบตอบรับข้อเสนอนี้แบบไม่ลังเล เพียงแต่คนที่เธอพูดไม่ใช่ผู้ชายพวกนั้นแต่เป็น’เย่เฟิง’

“โทษทีนะ แต่ว่าฉันไม่ได้สนใจเธอหรอก”

‘เย่เฟิง’หัวเราะเล็กน้อยก่อนหันหลังแล้วเตรียมจะเดินจากไป   เมื่อ’ซูเหมิงหาน’ได้ยินเขาตอบมาเช่นนั้น เธออดใจไม่ได้ที่จะมองอย่างแปลกใจเพียงชั่วครู่ จนกระทั่ง’เย่เฟิง’กำลังจะหันหลังเดินไปเธอจึงรีบเรียกเขาไว้อีกครั้ง

“นี่ เดี๋ยวสิ!”

‘ซูเหมิงหาน’จับแขน’เย่เฟิง’เพื่อรั้งให้เขาหยุด นี่มันเรื่องน่าตลกอะไรกันเนี่ย เธอตกลงกับพ่อของเธอเรื่อง’เย่เฟิง’ได้แล้วแท้ๆ แล้วเธอจะยอมพลาดโอกาสนี้ไปได้อย่างไร   ‘ซูเหมิงหาน’ขบคิดในใจ นี่ไม่ใช่กลายเป็นว่าเธอพยายามบอกให้’เย่เฟิง’จีบเธอไปแล้วเหรอ นี่เธอกล้าพูดเรื่องแบบนี้ออกไปได้อย่างไรกันเนี่ย!

“งั้นแค่ไปเที่ยวที่‘หลางฝาง’กับฉันก็พอ แบบนี้นายจะโอเคไหม?”

เธอบอกวัตถุประสงค์จริงๆของเธอออกมา   หลางฝางเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเหยียนจิงซึ่งไม่ห่างกันมากนัก หากเธอขอร้องให้เขาไปเที่ยวที่นั่นกับเธอไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร อย่างน้อยถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นคงรีบตอบตกลงแบบไม่ต้องคิดมากเลยทีเดียว

โชคไม่ดี ‘เย่เฟิง’ไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น เขาไม่ได้สนใจในตัวเธอเลยสักนิดดังนั้นทำไมเขาถึงต้องไปเที่ยวกับเธอด้วยล่ะ

“เธอชวนคนอื่นเถอะนะ”

‘เย่เฟิง’ส่ายหัวอีกครั้งพร้อมกับดึงมือของเธอออก จากนั้นจึงเดินจากไป เขาต้องรีบกลับไปคุยกับ’อู๋บี’เรื่องที่เขาอยากไปที่บ้านของ’อู๋บี’ซึ่งเป็นร้านขายวัตถุโบราณ   ‘ซูเหมิงหาน’เห็นเขาเดินจากไปแบบนั้นได้แต่โมโหแล้วขยี้เท้าบนพื้น   เธอไม่เข้าใจความคิดของ’เย่เฟิง’เลยจริงๆ!

‘ซูเหมิงหาน’ยังคงจำเหตุการณ์ประทับใจที่’เย่เฟิง’ช่วยเธอหนีพวกกลุ่มอสรพิษสวรรค์ที่ถนนนั้นได้ดี

แต่หากไม่นับเรื่องนั้นแล้ว’เย่เฟิง’คนนี้มันน่าหงุดหงิดจริงๆเชียว   อย่าว่าแต่เรื่องเข้าไปคุยกับ’เย่เฟิง’ก่อนเลย ถ้าไม่จำเป็นจริงๆเธอไม่อยากจะเข้าใกล้’เย่เฟิง’แม้แต่ก้าวเดียวด้วยซ้ำไป เพียงแต่เมื่อคืน เธอตกลงกับพ่อแล้วว่าตราบที่เธอรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับ’เย่เฟิง’เอาไว้

เขาจะยอมให้เธอไปที่หลางฝางเพื่อเยี่ยมคุณยายของเธอได้   ภรรยาคนใหม่ที่’ซูซินฉาง’แต่งงานด้วยเป็นคนของตระกูลเซี่ย เธอเป็นคนใจร้ายที่ชอบเหน็บแนมผู้อื่นและมีใจที่คับแคบ อีกทั้งเธอก็ไม่ได้ชอบ’ซูเหมิงหาน’เลยแม้แต่น้อย ตอนที่แต่งงานใหม่เธอได้ยื่นเงื่อนไขกับ’ซูซินฉาง’ไว้ว่าถ้าเขายังอยากให้’ซูเหมิงหาน’อยู่กับเขา ‘ซูเหมิงหาน’ต้องไม่กลับไปพบกับครอบครัวฝั่งมารดาอีก

‘ซูซินฉาง’ก็คิดเช่นเดียวกัน หากปล่อยให้ลูกสาวของเขากลับไปที่ครอบครัวฝั่งภรรยาเก่าของเขา ชีวิตของเธอคงจะตกต่ำกว่าชีวิตที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ เขาจึงสัญญากับภรรยาใหม่ของเขาว่าจะไม่อนุญาตให้ลูกสาวกลับไปที่ครอบครัวฝั่งมารดาที่หลางฝาง รวมทั้งพยายามกีดกันเธอออกจากครอบครัวฝั่งนั้นด้วย

นี่จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดเรื่องขัดแย้งระหว่าง’ซูเหมิงหาน’และพ่อของเธอนั่นเอง   มาคราวนี้’ซูซินฉาง’ยอมให้เธอกลับไปพบกับยายของเธอได้ แต่มีเงื่อนไขอยู่ว่า’เย่เฟิง’ต้องไปกับเธอด้วย ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วเธอจะยอมให้เรื่องมันจบลงง่ายๆแบบนี้ได้อย่างไรกัน

‘ซูเหมิงหาน’เดินกลับไปที่ห้องเรียนอย่างโมโห เธอจ้องไปที่’เย่เฟิง’และเดินกลับไปยังที่นั่งของเธอโดยไม่สนใจสายตาและเสียงกระซิบรอบข้างจากนักเรียนคนอื่นๆ ตอนนี้ เธอเริ่มคิดหาวิธีแก้ไขสถานการณ์

“ผึ้งน้อย ซูเหมิงหานคุยอะไรกับนายเหรอ ดูท่าทางแล้ว อย่างกับเธออยากจะกินนายเข้าไปทั้งตัวอย่างนั้นแหละ อย่าบอกจะว่าเธอหึงที่นายไปเที่ยวโสเภณีนะ”

‘อู๋บี’นั่งข้าง’เย่เฟิง’เริ่มพูดอีกครั้ง

“อย่าพูดไร้สาระแบบนั้นน่า เธอแค่อยากให้ฉันไปเที่ยวกับเธอที่หลางฝางเท่านั้นเอง แต่ฉันไม่ว่างพอจะทำแบบนั้นหรอก”

‘เย่เฟิง’ส่ายหัวพูดราวกับเขาไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น

“ไปเที่ยวกับเธอที่หลางฝางเนี่ยนะ?”

‘อู๋บี’รู้สึกแปลกๆกับเรื่องนี้ เขาเป็นคนนอกที่ไม่ได้รู้เบื้องหลังเกี่ยวกับครอบครัวเธอเลยแม้แต่น้อยจึงได้แต่ส่ายหัวและไม่พูดอะไร   เขาและ’เย่เฟิง’เป็นเพื่อนคู่หูกันตั้งแต่เด็ก ‘เย่เฟิง’ไม่มีทางโกหกเขาหรอก

เมื่อคาบสุดท้ายสิ้นสุดลง ‘เย่เฟิง’ตัดสินใจไปบ้านของ’อู๋บี’เพื่อหาสมบัติเก่าๆ เผื่อว่าจะมีอันไหนที่มีหลิงฉีอยู่ภายใน เขาต้องการนำมันมาพัฒนาระดับวรยุทธ์ของเขาให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้   เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหายุ่งยาก คู่หูทั้งสองคนวิ่งออกไปจากห้องเรียนทันทีที่คาบสุดท้ายจบลง

‘ซูเหมิงหาน’กำลังคุยกับเพื่อนของเธออยู่ในห้อง เมื่อเห็นดังนั้น เธอมองไปที่คู่หูทั้งสองอย่างโมโหพร้อมกับขยี้เท้าอย่างขัดใจอีกครั้งที่สองคนนั้นวิ่งออกไปจากโรงเรียนแล้ว

ต่อจากนี้ไป ข่าวลือเรื่องดาวโรงเรียน’ซูเหมิงหาน’มีความสัมพันธ์บางอย่างกับ’เย่เฟิง’ได้กระจายไปทั่วอย่างหยุดไม่อยู่   เรื่องข่าวลือนี้’ซูเหมิงหาน’ไม่ได้รังเกียจอะไรนัก เธอคิดว่าพ่อของเธอต้องรู้สึกดีใจแน่ๆถ้าข่าวลือนี้ไปถึงหูของเขา ไม่แน่ว่าเธออาจจะไม่ต้องพึ่ง’เย่เฟิง’ และสามารถไปเยี่ยมคุณยายที่หลางฝางได้ด้วยตัวเธอเอง

อีกอย่างข่าวลือพวกนี้ก็ไม่เป็นความจริงเสียหน่อยดังนั้นเธอจะสนใจไปทำไมล่ะ   ‘เย่เฟิง’และ’อู๋บี’วิ่งมาถึงทางออกโรงเรียน พวกเขาหยุดทันทีเมื่อเจอกับอันธพาลสามคนชุดเดิมอีกครั้ง

“ครั้งที่แล้วยังไม่หลาบจำอีกหรือไง?”

‘เย่เฟิง’มองไปยังนักเลงสามคนเดิมของกลุ่มอสรพิษสวรรค์และพูดออกมาอย่างข่มขู่   กลุ่มอสรพิษสวรรค์เป็นพวกที่กัดไม่ปล่อยจริงๆ แต่เขาจะใช้โอกาสครั้งนี้ให้เป็นประโยชน์เพราะเขาได้เตรียมยาพิษหญ้าใบทองไว้ในกระเป๋าของเขาแล้ว

แม้ในตอนแรก’เย่เฟิง’ตั้งใจว่าจะไปที่บ้านของ’อู๋บี’ก่อนจากนั้นจึงค่อยจัดการกับเรื่องของกลุ่มอสรพิษสวรรค์ หลายคนที่อยู่ในบริเวณนั้นสนใจกับการเผชิญหน้ากันอีกครั้งของกลุ่มอสรพิษสวรรค์สามคนกับ’เย่เฟิง’ พวกเขาคิดว่าไม่ช้าก็เร็วต้องมีเรื่องแบบนี้อยู่แล้วล่ะ

แต่ว่าเหตุการณ์ถัดไปกลับทำให้พวกเขาต้องตะลึง   พวกเขาเห็นนักเลงสามคนเดินไปหยุดอยู่หน้า’เย่เฟิง’จากนั้นตะโกนออกมาอย่างพร้อมเพรียง

“พี่ใหญ่เย่!”

…………………………………..

แปลโดย : Teepo_V . .

เย่เฟิง : โทษทีนะชั้นไม่สนใจชะนีอย่างเธอหรอก ชั้นสนใจแต่ผู้ชาย อิอิ

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments