I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 15 ลูกพี่เถี่ยชื่นชมคุณ

| Genius Sword Immortal | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

สิ่งที่อันธพาลทั้งสามจากแก๊งอสรพิษสวรรค์แสดงออกมาสร้างความตื่นตะลึงกับผู้คนโดยรอบในทันที

พี่ใหญ่เย่?  หรือว่าการที่โดนเขาเล่นงานไปครั้งที่แล้วเปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นพวกเชื่องๆแบบนี้ไปแล้วงั้นหรือ

ยามหน้าประตูโรงเรียนถึงกับตะลึงในสิ่งเห็น ไม่ใช่มีคนบอกไว้ว่าพวกอันธพาลจากแก๊งอสรพิษสวรรค์เป็นพวกหัวรุนแรงและชอบกดขี่คนอื่นหรอกหรือ ปกติไม่เคยมีใครกล้าไปยุ่งกับพวกเขาเลยด้วยซ้ำไป แต่เมื่อโดนเด็กนักเรียนคนนั้นสั่งสอน มันถึงกับทำให้พวกเขาเรียกเด็กคนนั้นว่าพี่ใหญ่เย่เลยงั้นรึ?

‘เย่เฟิง’แสดงออกถึงความประหลาดใจเช่นเดียวกันเมื่อเขาได้ยิน

“พวกแกตั้งใจจะเล่นแง่กับฉันใช่มั้ย?”

“พี่ใหญ่เย่ พี่เถี่ยหัวหน้าของเราชอบฝีมือของพี่มาก เขาอยากชวนพี่ใหญ่เย่มาเข้ากลุ่มอสรพิษสวรรค์ของเราด้วย”

หนึ่งในอันธพาลทั้งสามมีชายร่างผอมสูงที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำกลุ่ม แม้มันจะเรียกเขาว่า‘พี่ใหญ่เย่’แต่แววตาของมันปราศจากความเคารพโดยสิ้นเชิง หัวหน้ากลุ่มนักเลงยังคงแสดงท่าทีที่หยิ่งยโส

“อย่างที่รู้กันว่ากลุ่มอสรพิษสวรรค์เรานั้นแข็งแกร่งแค่ไหนในเขตนี้ หวังว่าพี่เย่จะให้ความสนใจในการร่วมมือกับเรา”

ลูกน้องอีกสองคนที่ยืนข้างหลังลูกพี่มันมองมาทาง’เย่เฟิง’ด้วยความอิจฉาริษยา การที่พวกมันเรียก’เย่เฟิง’ว่า’พี่ใหญ่เย่’ไม่ได้เกิดจากความต้องการจริงๆ แต่เพราะถูกสั่งโดยหัวหน้าของพวกมันอีกที และหากไม่ทำตาม ชะตากรรมของพวกมันคงต้องประสบกับเรื่องเลวร้ายแน่ๆ

โชคดีที่แม้คราวที่แล้วพวกมันจะพลาดในการนำตัว’เย่เฟิง’ไปให้ตามคำสั่ง ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ไม่ได้รับโทษแต่อย่างใดแล้ว’พี่เถี่ย’ยังออกค่าใช้จ่ายในการรักษาให้แก่พวกมันด้วย

“นี่ผึ้งน้อย…”

‘อู๋บี’ที่ตกใจอยู่ดึงแขนเสื้อ’เย่เฟิง’

“ดูแล้วมันคุ้มจะลองนะ”

ในความคิดของ’อู๋บี’แล้ว การถูกเชิญเข้ากลุ่มอสรพิษสวรรค์นั้นดูจะมากเกินไปด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่พวกนี้พึ่งเคยถูก’เย่เฟิง’เล่นงานไปคราวที่แล้วเลย พวกมันยังอุตส่าห์กลับมาชวน’เย่เฟิง’เข้ากลุ่มอีกด้วย ไม่ว่าใครเจอเรื่องแบบนี้ก็ต้องตื่นเต้นกันทั้งนั้นแหละ

แต่เขาไม่รู้หรอกว่าก่อนหน้านี้’เย่เฟิง’ได้ซัดน้องชายของ’พี่เถี่ย’ด้วยก้อนอิฐจนหน้าแหกมาแล้ว ไม่งั้น’อู๋บี’คงได้ตะลึงกว่านี้แน่ๆ   ในขณะที่กลุ่มคนที่ไม่เกี่ยวข้องบริเวณนั้นคิดว่า’เย่เฟิง’จะตอบตกลงและไปกับกลุ่มอสรพิษสวรรค์ แต่พวกเขากลับเจอกับเรื่องที่น่าทึ่งกว่านั้นขึ้นไปอีก

‘เย่เฟิง’ยกเท้าขึ้นมาแล้วเตะเข้าไปที่ระหว่างขาของชายผอมสูงคนนั้นแล้วกระซิบ

“มาเชิญฉันเข้าแก๊งแล้วยังทำท่าทางหยิ่งยโสแบบนั้นอีก พวกแกควรจะแสดงความจริงใจออกมาไม่ใช่หรือยังไง?”

มันเป็นลูกเตะที่รุนแรงอย่างมาก ชายผอมสูงผู้นั้นไม่มีโอกาสแม้แต่จะกรีดร้อง เขาสลบไปทันทีเพราะทนความเจ็บปวดอันแสนสาหัสนี้ไม่ไหว   ตอนนี้’เย่เฟิง’มีวรยุทธ์ถึงระดับ 5 เดือนแล้ว เมื่อเทียบกับเมื่อวาน มันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ‘เย่เฟิง’ตั้งใจไว้อยู่แล้วว่าจะควบคุมกลุ่มอสรพิษสวรรค์ทั้งกลุ่ม

ดังนั้นเขาจะยอมไปเป็นลูกน้องของ’พี่เถี่ย’นั่นได้อย่างไร? ใครๆก็รู้ว่า’พี่เถี่ย’อะไรนั่นเป็นเพียงหัวหน้ากลุ่มเล็กๆเท่านั้น ที่’เย่เฟิง’หมายตาไว้คือบอสใหญ่แห่งกลุ่มอสรพิษสวรรค์ต่างหาก

การโต้ตอบของ’เย่เฟิง’ได้แต่ทำให้ทุกคนต้องอ้าปากค้าง พวกเขามองไปที่’เย่เฟิง’อย่างพิศวง นี่มันจำเป็นต้องรุนแรงขนาดนั้นเลยหรือ สามคนนี้มาชวน’เย่เฟิง’เข้ากลุ่ม แต่เขากลับเตะหนึ่งในสามคนนี้ลงไปกองกับพื้น ช่างน่าเวทนาชายผอมสูงคนยิ่งนัก เขาไม่ใช่แค่ถูกเตะที่หว่างขาเพียงครั้งเดียวแต่เป็นสองครั้ง

หากบอกว่านี่เป็นการลงโทษที่รุนแรงที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมาก็คงไม่ถือว่ามากเกินไป

“เฮ้ย นี่แกกล้าดียังไง!”

นักเลงอีกสองคนจ้องเขม็งไปที่’เย่เฟิง’ เจ้าเย่เฟิงคนนี้แยกไม่ออกเสียแล้วว่าอะไรควรอะไรไม่ควร มันไม่กลัวอิทธิพลของกลุ่มอสรพิษสวรรค์เลยหรือยังไง

“ถ้าพวกแกอยากชวนฉันเข้ากลุ่มจริงๆ ก็ไปบอกให้หัวหน้าของพวกแกพี่เถี่ยอะไรนั่น ให้มาเชิญฉันด้วยตัวเอง”

‘เย่เฟิง’กล่าวอย่างสบายๆจากนั้นจึงเตะนักเลงอีกสองคนจนทรุดไปกับพื้นร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เขาเดินจากไปพร้อมกับ’อู๋บี’   ทุกคนที่หน้าประตูโรงเรียนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแบบชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นตอนที่สามคนนั้นโดน’เย่เฟิง’เล่นงานลงไปกองกับพื้น

หรือตอนที่เขาเดินจากไปอย่างไม่แยแส มันเกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ๆ’เย่เฟิง’ถึงกลายเป็นคนที่เหนือชั้นแบบนี้ไปได้ เด็กที่เคยมัวแต่ทุ่มเวลาให้กับเกมส์ออนไลน์คนนั้นหายไปไหนแล้ว ไม่นานนักหลังจาก’เย่เฟิง’เดินจากไป’ซูเหมิงหาน’รีบวิ่งตามพวกเขาออกมาแต่น่าเสียดายพวกเขาเดินห่างออกไปไกลเสียแล้ว

เธอกระทืบเท้าอย่างขัดใจขณะเหลือบไปเห็นนักเลงสามคนที่ยังคงร้องโหยหวนอยู่บนพื้นจึงคิดว่าต้อมีเรื่องอะไรบางอย่างพึ่งเกิดก่อนหน้านี้แน่ๆ เธอรู้สึกตกใจจริงๆเมื่อคิดว่า’เย่เฟิง’ยิ่งนานยิ่งกลายเป็นคนบ้าบิ่นมากขึ้นทุกวัน ไม่ช้าก็เร็วคงต้องเกิดเรื่องกับเขาอีกแน่ๆ

‘ซูเหมิงหาน’จัดเป็นเด็กสาวที่ฉลาดคนหนึ่ง เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมพ่อของเธอถึงเปลี่ยนทัศนคติเรื่อง’เย่เฟิง’ได้ เธอสรุปว่าครอบครัวของ’เย่เฟิง’ต้องเป็นครอบครัวที่มีอิทธิพลไม่เบาเลยทีเดียว นี่คงเป็นเหตุผลที่เขาถูกปล่อยตัวออกมาทันทีแม้จะโดนจับข้อหาใช้บริการโสเภณี

อย่างไรก็ตามกลุ่มอสรพิษสวรรค์นั้นเป็นแก๊งมาเฟียใต้ดินและจัดว่าเป็นหนึ่งในสามแก๊งที่ใหญ่ที่สุดแห่งเมืองเหยียนจิง หากใครสักคนมีเรื่องกับกลุ่มนี้แล้ว ต่อให้ครอบครัวของเขาจะมีอำนาจปานใดก็ไม่อาจปกป้องเขาจากการถูกไล่ยิงจนตายตกไม่ได้หรอกนะ

“ผึ้งน้อย….พี่อู๋คนนี้คิดว่ามันจะไม่ดีกว่าเหรอถ้านายกลับไปลองขอโทษพวกนั้นดูน่ะ”

‘อู๋บี’ที่เดินตาม’เย่เฟิง’มาเริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย ยิ่ง’เย่เฟิง’ดูสบายใจมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้นไปอีก

“ไม่มีปัญหาอะไรหรอกเชื่อสิ”

‘เย่เฟิง’ส่ายหัว

“ฉันจะไปคิดบัญชีเรื่องนี้กับกลุ่มอสรพิษสวรรค์ในไม่ช้านี้เอง แต่ว่าตอนนี้การไปบ้านของนายเป็นเรื่องที่สำคัญกว่านะ”

‘อู๋บี่’แทบจะลงไปดิ้นตายอยู่ตรงนั้นหลังจากได้ยินคำตอบแบบไร้ซึ่งความกังวลจาก’เย่เฟิง’   นี่’เย่เฟิง’ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายขนาดนี้เขายังมีแก่ใจคิดถึงเรื่องร้านขายวัตถุโบราณของพ่อเขาอีกเหรอ ถึงแม้ว่าร้านขายวัตถุโบราณของเขาจะมีของคุณภาพสูงแค่ไหน แต่หลังจากมีเรื่องกับกลุ่มอสรพิษสวรรค์ขนาดนั้น

‘เย่เฟิง’ยังดูมีความสุขกับการไปเที่ยวบ้านของเขาได้ยังไงกัน   ถึงแม้ว่า’เย่เฟิง’บอกว่าจะจัดการคิดบัญชีกับกลุ่มอสรพิษสวรรค์ในสักวัน แต่นั่นไม่ได้ทำให้’อู๋บี’สบายใจเลยแม้แต่น้อย จะว่าไปแล้วมีโอกาสเป็นไปได้ด้วยซ้ำที่แก๊งนี่อาจจะเข้าร่วมกับตระกูลอันดับหนึ่งแห่งเมือง เหยียนจิง อย่างตระกูลหลินในการช่วยจัดการเรื่องต่างๆ

แล้วภายใต้สถานการณ์เช่นนี้’เย่เฟิง’จะมีอะไรไปต่อกรกับแก๊งอสรพิษสวรรค์ได้ล่ะ   ไม่ว่าใครก็รู้ว่าตระกูลหลินเป็นตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในเมืองเหยียนจิง ‘เย่เฟิง’อาจมีครอบครัวที่พอมีอำนาจอยู่บ้างแต่หากเทียบกับตระกูลหลิน แล้วนับว่าไร้ซึ่งหนทางเลยจริงๆ

“อย่าไปคิดง่ายๆแบบนั้นสิเพื่อน นายไม่คิดเหรอว่าแก๊งอสรพิษสวรรค์อาจจะร่วมมือกับตระกูลหลินก็ได้นะ”

‘อู๋บี’ส่ายหัวพลางกล่าว

“ตระกูลหลินงั้นเหรอ?”

‘เย่เฟิง’รู้สึกแปลกเกี่ยวกับเรื่องนี้   มันทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ทะเลสายเหวยหมิง ปู่เขาบอกว่าจะแนะนำ

“หลานสาวของเจ้าเฒ่าจากตระกูลหลินให้”

หรือว่านี่จะเป็นตระกูลเดียวกันกับที่ปู่ของเขาบอกกันนะ   ตอนนั้นเอง’เย่เฟิง’คิดได้ว่าในเมืองจีนนี้มีตระกูลหลินอยู่มากมายนัก มันไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่อะไร

“ใช่แล้ว ตระกูลหลินเป็นตระกูลแรกแห่งเมืองเหยียนจิง แถมยังมีอำนาจมากเลยนะ ไม่ว่าจะทั้งด้านการทหาร ธุรกิจหรือรัฐบาล ตระกูลนี้ก็ครอบคลุมอิทธิพลไปทั้งหมด”

‘อู๋บี’อธิบายแล้วดูเหมือนว่าเขาจะตกไปอยู่ในห้วงภวังค์ขณะหนึ่ง

“รู้รึเปล่า ครั้งนึงฉันเคยเจอผู้หญิงที่สวยมากๆจากตระกูลหลินนะ อา…ให้ตายเถอะ เธอทั้งสวยทั้งมีเสน่ห์ เรือนร่างนั้น ใบหน้านั้น…”

“เอาล่ะ เรามาถึงร้านนายจนได้นะ”

‘เย่เฟิง’ตบไหล่’อู๋บี’เบาๆขัดห้วงความคิดของเขา   ‘เย่เฟิง’ไม่ได้สนใจเรื่องสาวงามแห่งตระกูลหลินมากนัก เพราะเขารู้ถึงความจริงเรื่องหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ไม่ว่าจะโลกเทวะหรือโลกใบนี้ก็ตาม การมีพลังและความแข็งแกร่งย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากไร้ซึ่งพลังแล้ว เขาจะมีปัญญายืนอย่างสง่าต่อหน้าสาวงามเหล่านั้นได้อย่างไรกันละ

ตอนนั้นเองป้ายชื่อร้าน”วัตถุโบราณอู๋ชี”ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา ร้านขายวัตถุโบราณนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลนักจากโรงเรียนมัธยมปลายเหยียน

“กลับมาแล้วครับพ่อ”

‘เย่เฟิง’ดันขัดจังหวะที่เขากำลังเคลิ้มถึงสาวสวยในฝันเสียแบบนั้นเสียได้ ทำเอาความสุนทรีเขาเสียหมด ‘อู๋’จึงวิ่งตะโกนเข้าไปในร้านที่เขาและพ่อของเขาอยู่ด้วยกัน

“นายรอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปหาอะไรมาให้นายดูเอง เออใช่แล้ว นายอยากจะดูของจากที่ไหนล่ะ ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่นหรือว่าจะเกาหลีใต้ดี”

‘อู๋บี’วิ่งเข้าไปข้างในพลางหันกลับมาถาม

“ฉันกำลังหาของบางอย่างน่ะ เดี๋ยวฉันจะคุยกับพ่อนายเอง”

‘เย่เฟิง’ส่ายหัว เขารู้ดีว่าพ่อของ’อู๋บี’เป็นนักธุรกิจที่ขูดรีดได้เก่งคนหนึ่งเลยทีเดียว ความจริงเขาก็เตรียมใจพร้อมมาโดนอยู่แล้วล่ะ

“เจ้าหนุ่ม กำลังมองหาซื้ออะไรงั้นหรือ?”

เมื่อ’อู๋บี’ได้ยินพ่อของเขาคุยกับ’เย่เฟิง’จึงหยุดแล้วหันกลับมามองอย่างประหลาดใจ   เขาจำได้ว่า’เย่เฟิง’ไม่เคยมีความสนใจในวัตถุโบราณสักนิด ในหัวเจ้านั่นมีแต่เรื่องเกมส์เท่านั้นแหละ แต่สองวันที่ผ่านมานี้บางอย่างแปลกๆเกิดขึ้นกับ’เย่เฟิง’ ‘อู๋บี’ไม่ได้ยินเขาพูดถึงเรื่องเกมส์เลยสักนิด

ยิ่งไปกว่านั้น ราคาของวัตถุโบราณพวกนี้ก็แพงมากเสียด้วยโดยเฉพาะที่ร้านของครอบครัวเขาที่ขายแต่ของแท้เป็นส่วนใหญ่!

แล้วเพื่อนของเขาจะไปมีปัญญาซื้อได้ยังไงกันล่ะเนี่ย?

แปลโดย : Teepo_V

ผมไม่ชัวร์ว่าพรุ่งนี้จะได้ลงรึเปล่านะครับ พอดีวันจันทร์มีสอบ ยังไงถ้าไม่ได้ลงเดี๋ยวค่อยมีชดเชยให้นะฮะ 🙂

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments