ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปหลังจากที่ชายหน้าบากเสร็จสิ้นการรายงานสิ่งต่างๆให้กับ’เย่เฟิง’ เขาก็รีบกลับไปจัดการตามที่’เย่เฟิง’ต้องการ ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นสมาชิกของแก๊งอสรพิษสวรรค์ ได้ขับรถไปส่ง’เย่เฟิง’และ’ซูเหมิงหาน’ที่บ้านของพวกเขา
ทั้งคู่ใช้เวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ที่หลางฝาง และพรุ่งนี้เช้า พวกเขาต้องตื่นไปโรงเรียน ผลการสอบจำลองครั้งที่สองที่กำลังจะออกมา เวลานี้’เย่’มองไปที่’ซูเหมิงหาน’ที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาคิดในใจว่าถ้าคะแนนสอบออกมาเมื่อไหร่ เขาคงถูกเธอหัวเราะเยาะเอาแน่
อย่างไรก็ตาม หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้น ‘เย่เฟิง’ไม่อยากจะพูดคุยกับสายน้อยคนนี้มากนัก เพราะดูเหมือนว่าเธอจะแสดงท่าทีรังเกียจเขาเหลือเกิน แม้แต่ตอนงานจัดแสดงสินค้าวันนั้น ‘ซูเหมิงหาน’ได้สร้างปัญหาแก่เขาโดยที่เธอไม่รู้ตัว การพูดชื่อ’เย่เฟิง’ตอนที่เขารับโทรศัพท์อย่างเสียงดัง ทำให้ดึงดูดความสนใจของ’หลงหวางเอ๋อ’จนเขาเกือบจะถูกตระกูลมังกรจับตัวไป
และต้องจบด้วยการสังหารผู้ฝึกยุทธ์ที่ช่ำชองอย่างดาบหมาป่าเพื่อหนีออกจากที่นั่น เรื่องเหล่านี้ต้องขอขอบคุณสาวน้อยคนนี้เลย ถ้าเขาถูก’หลงหวางเอ๋อ’จับตัวได้ละก็………
‘เย่เฟิง’ไม่อยากจะคิดต่อ
หากเป็นเช่นนั้นจริง เขาอาจถูกหญิงสาวฆ่าทิ้งเลยก็ได้
“ที่สำคัญ ห้ามให้คนตระกูลมังกรรู้เข้าเด็ดขาดว่าแกสามารถฝึกวรยุทธ์ได้!!”
ประโยคจาก’เย่เวิ่นเทียน’ยังคงดังก้องอยู่ในหูของเขา ถึงแม้’เย่เฟิง’จะไม่รู้ว่าอะไรคือเหตุผลของความแค้นระหว่างตระกูลมังกรกับตระกูลเย่ และเขาก็ไม่รู้เช่นกันว่าปู่ของเขาไปตกลงอะไรกับตระกูลมังกรนั่น แต่ชายหนุ่มมั่นใจได้อย่างหนึ่งว่าปู่ไม่ได้โกหกเขา ยิ่งกับเรื่องสำคัญแบบนี้ด้วย
ในใจของ’เย่เฟิง’ที่กำลังขบคิดเกี่ยวกับเรื่องวรยุทธ์อยู่นั้น ด้วยความบังเอิญ เขาได้หันไปมอง’ซูเหมิงหาน’ที่นั่งอยู่ข้างๆ เขารู้ว่าตอนนี้เธอกำลังจะได้กลับบ้าน แต่เธอกลับดูนิ่งสงบ และเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่าง ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าเด็กสาวกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
‘ซูเหมิงหาน’ที่จู่ๆก็ทำตัวออกห่าง’เย่เฟิง’นั้น ชายหนุ่มคิดว่าเธอคงเกลียดเขาแล้ว ในชีวิตก่อนเขาไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรักมาก่อนเลย และไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับมันเลยแม้แต่น้อย ชัดเจนว่าความรู้สึกของเขาค่อนข้างจะโง่เง่ากับเรื่องแบบนี้
เมื่อคิดว่าดาวโรงเรียนคนนี้กำลังเกลียดเขา นี่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เลิกคิดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะเวลานี้ เขาไม่ควรจะคิดถึงเรื่องสวยหรูแบบนี้เลย ระหว่างทางกลับบ้าน หนุ่มสาวทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันเลยแม้แต่น้อย
ในขณะที่ชายหนุ่มจากแก๊งอสรพิษสวรรค์กำลังขับรถเข้าไปจอดตรงริมถนนหน้าบ้านของ’ซูเหมิงหาน ‘
“นี่ ฉันจะคืนเงินสองแสนให้นายแน่นอน”
‘ซูเหมิงหาน’พูดและเดินลงจากรถไป เด็กสาวไม่ได้หันกลับมามอง’เย่เฟิง’อีก และมุ่งตรงเข้าบ้านของเธอไป ‘เย่เฟิง’ไม่ได้พูดอะไร และกำลังเดินลงจากรถเพื่อจะกลับเข้าบ้านของเขาเช่นกัน แต่ชายหนุ่มคนขับรถมาส่งก็เรียก’เย่เฟิง’ไว้ซะก่อน ‘เย่เฟิง’หันหน้ากลับมามองชายหนุ่มคนนั้น
เขาเป็นคนตัวสูง และมีดวงตาที่สวยงามเหมือนคนที่มีชีวิตชีวา อย่างไรก็ตาม เวลานี้ ต่อหน้าเย่เฟิงเขากลับแสงดท่าทางสุภาพเรียบร้อยเทน
“พี่ใหญเย่ครับ ผมมีเรื่องอยากจะพูดบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่าควรจะพูดออกมาตอนนี้ดีไหม”
“ถ้านายมีอะไรอยากจะพูดก็รีบพูดมาตรงๆ”
‘เย่เฟิง’พยักหน้า
“ผมคิดว่านายหญิงต้องกำลังหึงพี่ใหญ่อยู่แน่เลยครับ ไม่รู้ว่าพี่ใหญ่สังเกตเห็นหรือเปล่า?”
ชายหนุ่มคนนั้นสงบใจลง และพูดด้วยความสุภาพ ขณะมองดูร่างบางของ’ซูเหมิงหาน’ที่หายเข้าไปในประตูบ้าน
“ว่าไงนะ? เธอกำลังหึงฉันงั้นหรอ?”
‘เย่เฟิง’ไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้จากชายหนุ่มคนนี้ เขาจึงแปลกใจเล็กน้อย
“ทำไมนายถึงคิดแบบนั้นล่ะ?”
เมื่อชายหนุ่มคนนั้นเห็น’เย่เฟิง’สนใจหัวข้อที่เขาพูด จิตวิญญาณของเขาก็พุ่งปรี๊ด และรีบอธิบายว่า
“พี่ใหญ่เย่อาจไม่ได้สนใจมากนัก แต่จากการสำรวจนิสัยผู้หญิงของผมแล้ว เมื่อดูจากสายตาและพฤติกรรมของนายหญิง ผมมั่นใจ 100% ว่าเธอกำลังหึงคุณอยู่อย่างแน่นอน!! ที่เธอไม่พูดคุยกับพี่ใหญ่ ไม่ใช่เพราะว่าเธอกำลังโกรธ ผมว่าเธอน่าจะรู้ว่าพี่ใหญ่กำลังมีผู้หญิงคนอื่นอยู่แน่เลย”
“…….”
‘เย่เฟิง’กำลังคิดว่า เขามีผู้หญิงคนอื่นด้วยหรือ? ผ่านไปสักพัด ภาพของ’หลงหวางเอ๋อ’ที่ทางเข้าหน้าโรงพยาบาลก็แวบเข้ามาในหัวของเขา
“เฮ้ย อย่าบอกนะว่า…….”
‘เย่เฟิง’นึกทบทวนและเข้าใจเรื่องทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว ในระหว่างที่ไปหลางฝาง ‘ซูเหมิงหาน’ตกหลุมรักเขาแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย แต่หลังจากเหตุการณ์ของ’หลงหวางเอ๋อ’ทำให้เธอรู้สึกหึงเขา
“นายชื่อว่าอะไร?”
‘เย่เฟิง’ถามชื่อของชายหนุ่มคนนั้นเพื่อแสดงความสำคัญต่อเขา หากไม่มีชายหนุ่มคนนี้ ‘เย่เฟิง’คงเข้าใจว่าเด็กสาวเกลียดเขาไปแล้ว
“ทุกๆคนต่างเรียกผมว่าเปย ชื่อเต็มๆคือจ้าวอี้เปย ฮ่าๆๆ พี่ใหญ่เย่ หากมีเรื่องอะไร สามารถถามผมมาได้ทุกเมื่อ”
‘เปย’ทำการแนะนำตัวอย่างอบอุ่น และพูดว่า
“ยิ่งกว่านั้น หัวหน้าได้สั่งให้ผมมาเป็นคนขับรถให้พี่ใหญ่ครับ”
“เปยงั้นหรอ? เป็นชื่อที่ดี”
‘เย่เฟิง’ยิ้มและพูดต่อไปว่า
“เอาละ ฉันก็ไม่ได้อยากได้คนขับรถขับไปส่งฉันไปไหนมาไหนตลอดเวลาหรอกนะ ไว้ถ้าฉันต้องการเมื่อไหร่จะโทรไปเรียก”
‘เย่เฟิง’มองไปยังรถคันหรูเปยขับมาส่งเขา มันคือรถ BMW 7 Series สีบรอนซ์เงิน รถคันนี้รุ่นเดียวกับรถที่พ่อของ’ซูเหมิงหาน’ใช้อยู่ ถึงแม้มันจะเป็นรถที่พวกเศรษฐีส่วนใหญ่ชอบใช้กัน แต่ถ้าให้เขานั่งรถคันนี้ไปโรงเรียนทุกวัน ไม่นาน ตัวเขาต้องเป็นที่รู้จักไปทั้งโรงเรียนเป็นแน่
‘เย่เฟิง’ไม่ได้อยากจเป็นจุดรวมสายตาของคนในโรงเรียนขนาดนั้น
“พี่ใหญ่เย่ ถ้างั้นผมจะส่งข้อความที่มีเลขเบอร์มือถือของผมพิมพ์ลงไปด้วย เผื่อไว้ถ้าพี่ใหญ่มีอะไรหรือต้องการอะไร สามารถโทรเรียกผมได้ทันที”
‘จ้าวอี้เปย’ล้วงโทรศัพท์ออกมา และส่งข้อความไปหา’เย่เฟิง’ ดูเหมือนว่าก่อนที่ชายหน้าบากจะส่ง’เปย’มาเป็นคนขับรถให้’เย่เฟิง’ เขาได้ให้เบอร์มือถือ’เย่เฟิง’มาด้วย ซึ่งนั่นทำให้เขารู้ว่า’จ้าวอี้เปย’คนนี้เป็นคนที่ชายหน้าบากไว้ใจมากแค่ไหน
“ดีมาก นายกลับไปได้แล้ว เดี๋ยวฉันจะเข้าบ้าน”
‘เย่เฟิง’โบกมือขณะที่กำลังเซฟเบอร์มือถือของ’เปย’อยู่ ความจริงแล้ว’เย่เฟิง’ไม่ได้สนใจผู้หญิงสวยเท่าไหร่ ก่อนที่เขาจะมีความแข็งแกร่งมากพอจะคุ้มครองตัวเอง ชายหนุ่มไม่อยากคิดถึงเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่
แต่ถึงอย่างนั้น ดูเหมือนว่า’ซูเหมิงหาน’จะถูกวางไว้ตรงหน้าเขาเสียแล้ว ในโลกเทวะนั้น เขาพบเจอกับผู้หญิงที่งดงามเหมือน’ซูเหมิงหาน’มากมาย แต่เมื่อเทียบกับสาวสวยพวกนั้นแล้ว ‘เย่เฟิง’ได้พบด้านที่แท้จริงของเด็กสาวในระหว่างที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน นั่นทำให้’เย่เฟิง’มีความรู้สึกดีดีให้กับเธอ
ที่หลางฝาง เมื่อคิดถึงท่าทีที่เอาแต่ใจของเธอที่จะช่วยเหลือญาติให้ได้ ในสมัยนี้จะสามารถหาผู้หญิงแบบนี้ได้ที่ไหนอีก?
‘เย่เฟิง’รู้สึกเช่นนั้น จิตใจที่ใสซื่อของเธอทำให้เขารู้ว่าโลกใบนี้มันสกปรกโสมมเพียงใด ก่อนหน้านี้เขาเคยเจอสาวสวยมามากก็จริง แต่พวกเธอก็มีแต่เอาแต่ใจตัวเอง ยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง แต่กรณีของ’ซูเหมิงหาน’กลับต่างออกไป เธอเอาแต่ใจเพื่อคนอื่น
“ช่างเถอะ อย่าไปคิดให้มากเลยจะดีกว่า”
‘เย่เฟิง’คิดในใจ และกำลังจะเดินเข้าบ้านของเขา แต่ทันใดนั้น ชายหนุ่มก็บังเอิญเห็น’ซูเหมิงหาน’ที่ถูกใครบางคนขัดขวางไม่ให้เธอเข้าไปในบ้าน คนที่ยืนขวางทางเด็กสาวอยู่นั้นเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวสไตล์อะไรก็ไม่รู้ ถือกระเป๋าแฟนซี และยังแต่งหน้าหนาเป็นปูนซีเมนต์
แต่ดูเหมือนเธอคนนั้นจะอายุประมาณ 30 กว่าๆ ดูท่า น่าจะเป็นภรรยาสุดมั่งคั่งของพ่อ’ซูเหมิงหาน’ แล้วทำไมเธอต้องยืนอยู่ตรงนั้น และขวางทางเด็กสาวไม่ให้เข้าบ้านด้วย?
“ฉันได้ยินว่าเธอไปที่หลางฝางมา หึ ช่างดูซาบซ้ำเหลือเกินนะ”
ผู้หญิงสไตลิสต์คนนี้แค่นเสียงและพูดต่อไปว่า
“ทำไมเธอต้องไปหายายของเธอด้วยหะ? เมื่อก่อน ถ้ามันไม่เข้าขัดขวางงานแต่งงานของฉันกับพ่อเธอ ฉันก็คงมีความทรงจำที่สวยงามไปแล้ว หึ แต่ก็น่าสงสาร เธอคงไปเห็นแค่หลุมศพของมันน่ะสิ ใช่ไหม? “
เรียวแขนของเด็กสาวสั่นเทาด้วยความโกรธ
“คุณมันชั่วร้ายและไร้ยางอาย! หรือจะเป็นคุณกันที่ทำร้ายยายของฉัน?”
“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นเสียหน่อย แต่ในเมื่อเธอไปที่นั่นมาจริงๆ ฉันคงต้องขอถามซูซินฉางว่าจะทำไงกับเธอดี ไม่แน่ว่าเขาอาจจะหย่ากับฉัน หรือไม่ก็ตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับเธอ แต่เขาต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ถ้าเขาต้องการฉัน เขาก็ต้องไม่เก็บเธอไว้!! ในเมื่อเธอเติบโตขึ้นมาจากเงินตระกูลเซี่ยของฉัน แต่เธอก็ยังกล้าที่กลับไปหาพวกมัน!”
ความริษยาบังเกิดขึ้นในตาของผู้หญิงคนนั้นอย่างชัดเจน เธอพูดด้วยน้ำเสียงเสียดสี ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ‘เย่เฟิง’ดูมองพวกเธอจากที่ไกลๆ พร้อมกับคิดอยู่ในใจว่านี่คือแม่เลี้ยงของ’ซูเหมิงหาน’งั้นหรอ? ผู้หญิงคนนี้ช่างใจแคบยิ่งนัก
…………………….
แปลโดยทีมงาน GSIEins : สอบก็จะสอบมหาลัยก็จะสอบอีก แต่ดันมาแปลนิยายดูดูมันทำ(ด่าตัวเอง) แหมก็คนมันรักนิ อิอิ
Solar Spark : คิดจะพักคิดถึงการแปลนิยาย อิอิ
ที่มา: