ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปเมื่อรถหยุดลงที่หน้าภัตตาคารจิงเฉิง ทั้ง’เย่เฟิง’และ’ซูเหมิงหาน’ก็ลงมาจากรถ อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งคู่ไม่ได้มีความสัมพัทธ์แบบใกล้ชิดอะไรมากนัก ‘ซูเหมิงหาน’คิดว่า’เย่เฟิง’กับเธอยังเป็นแค่นักเรียนมัธยมปลายกันอยู่ ดังนั้นพวกเขาควรจะรอจนถึงมหาลัยเสียก่อน…
ในขณะเดียวกัน ‘จ้าวอี้เปย’กำลังมองหาที่จอดรถ ชายหนุ่มปฏิเสธคำชวนของ’ซูเหมิงหาน’ที่บอกให้ไปกินข้าวด้วยกันกับพวกเธอ ในฐานะที่ถูกไว้วางใจโดยชายหน้าบาก ‘เจ้าอี้เปย’รู้ดีว่าสถานการณ์แบบไหนที่เขาควรตอบตกลงหรือควรปฏิเสธ ทั้ง’เย่เฟิง’และ’ซูเหมิงหาน’ได้เดินเข้าไปในร้านอาหารด้วยกันและตรงไปยังห้องที่ถูกจองไว้โดย’ซูซินฉาง’
ขณะเดียวกันฝั่งตรงข้ามของร้านอาหารมีงานที่ถูกจัดโดยตระกูลหลินที่โรงแรมจิงหัวอยู่ แต่’เย่เฟิง’ก็ไม่ได้สนใจอะไรมันเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม’เย่เฟิง’ไม่รู้เลยว่าขณะนี้ที่หน้าโรงแรมจิงหัวมีกลุ่มคนกำลังออกมาต้อนรับเจ้าภาพสำคัญของงานเลี้ยงค่ำคืนนี้
ผู้อาวุโสวัย70ปีแห่งตระกูลหลิน ‘หลินหงชวน’ที่พึ่งมาถึงยังทางเข้าของโรงแรม ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสคนนี้จะอยู่ในวัยชราแต่ตัวเขายังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ไม่มีผมขาวแม้แต่เส้นเดียวให้เห็น อีกทั้งมีร่างกายที่ดูบึกบึน
ชายแก่ทักทายฝูงชนหลังจากลงมาจากรถของเขา ทันใดนั้นสายตาพลันมองไปยังฝั่งตรงข้ามของถนน เขาเห็น’เย่เฟิง’และ’ซูเหมิงหาน’ที่ลงมาจากรถและเดินเข้าไปยังร้านอาหารด้วยกัน ชายแก่ได้แต่เพ่งตามองพลางครุ่นคิด นั่นไม่ใช่หลานชายของตาแก่เย่หรอกหรือ
นี่เขามาอยู่ที่นี่กับผู้หญิงคนอื่นได้อย่างไรกัน? ชายชรากวาดตามองไปรอบๆได้ยินเสียงของคนกลุ่มใหญ่รอบตัวกำลังอวยพรเขา ดูท่าทางแล้วการจะเข้าไปกล่าวทักทาย’เย่เฟิง’ในตอนนี้คงยังไม่สามารถทำได้ ชายชราเก็บเรื่องนี้ไว้ก่อนตัดสินใจว่าหากเขามีเวลาเหลือเพียงสักครู่เขาจะตรงไปยังร้านอาหารฝั่งตรงข้ามเพื่อพูดคุยกับ’เย่เฟิง’
ถึงแม่ว่าทั้งชายแก่และ’เย่เฟิง’จะยังไม่ได้พบเจอกันอย่างเป็นทางการ แต่การที่บังเอิญมาเจอวันนี้ก็ถือว่าเป็นฤกษ์งามยามดีแล้ว ครั้งนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบเจ็ดสิบปีของชายชรา หลานชายของเขา’หลินซิวเหวิน’รู้ดีว่าปู่ของเขามีความหลงไหลในวัตถุโบราณ จึงได้ใช้อิทธิพลของเขาในทุกทางเพื่อที่จะจัดหาวัตถุโบราณชั้นยอดมาเป็นของขวัญวันเกิดให้แก่ปู่
ท้ายที่สุดวันนี้เขาได้มอบมันแก่ปู่ซึ่งทำให้ชายชรามีความยินดีอย่างมาก เจ้าหลานที่ไม่ได้เรื่องได้ราวคนนี้ในที่สุดก็รู้จักทำอะไรให้มันถูกต้องเสียที หากจะบอกว่าผู้อาวุโสแห่งตระกูลหลินคนนี้เป็นผู้ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศก็ไม่ได้ถือว่าเป็นการกล่าวเกินเลยแต่อย่างใด
ในวันคล้ายวันเกิดครบรอบเจ็ดสิบปีเหล่าเจ้าหน้าที่จากองกรณ์ต่างๆที่ทรงอิทธิพลต่างตอบรับคำเชิญมาร่วมงานเพื่อแสดงความยินดีแก่ชายชรา หรืออีกแง่มุมหนึ่งกล่าวได้ว่าพวกเขาเหล่านั้นต้องการมาคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์อันดีต่อตระกูลหลิน
กล่าวได้ว่านอกจากมาแสดงความยินดีแล้วพวกเขามาเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันทั้งนั้น ค่ำคืนนี้สนธิสัญญาหลายฉบับถูกกำหนดให้มีการเซ็นกันอย่างลับๆในงานเลี้ยง การทำข้อตกลงทางธุรกิจเหล่านี้ถือเป็นการกำหนดทิศทางแห่งเศรษฐกิจทั้งหมดเลยทีเดียว กลุ่มผู้คนรอบๆผู้อาวุโสตระกูลหลินต่างเดินเข้าไปยังโรงแรมจิงหัวพร้อมกับเขาท่ามกลางเสียงปรบมือต้อนรับอย่างอบอุ่น ……
ณ อีกฝากหนึ่ง ภายใต้การนำทางของบริกรสาวสวย ‘เย่เฟิง’และ’ซูเหมิงหาน’มาถึงยังชั้นหกของภัตตาคารจิงเฉินอย่างรวดเร็ว ทางเดินและห้องโถงส่องแวววาวจากแสงของทองและหยกเขียว สถานที่แห่งนี้ดูราวกับเป็นสถานที่ชั้นสูง มีการตกแต่งภายในอย่างงดงาม ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบได้กับโรงแรมจิงหัวที่อยู่อีกฝากฝั่งของถนน
“ทั้งสองท่านเชิญด้านในเลยค่ะ”
บริกรสาวสวยคนนั้นเดินไปที่ประตูและเปิดมันออกให้พวกเขาเข้าไป ‘เย่เฟิง’พยักหน้าและเดินเข้าไปก่อนตามด้วย’ซูเหมิงหาน’ตามลำดับ มันเป็นห้องที่ใหญ่มากสามารถจุคนได้สิบคนอย่างสบายๆ แต่ในความเป็นจริงตอนนี้มีเพียง’ซูซินฉาง’เพียงคนเดียวเท่านั้นที่นั่งรอคอยพวกเขา
บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารราคาแพงและมีขวดไวน์แดงสองขวดที่ดูล้ำค่า
“เหมิงหาน เฟิงน้อย มาเถอะ เข้ามานั่งนี่สิ”
ทันทีที่’ซูซินฉาง’เห็นทั้งสองคนก้าวเข้ามาในห้อง ชายวัยกลางคนยิ้มขึ้นมาและกล่าวต้อนรับทักทายทันที ‘ซูซินฉาง’โลดแล่นอยู่ในวงการธุรกิจหลายปี ความสามารถในการเข้าสังคมของเขาสามารถรับมือได้กับสถานการณ์ทุกรูปแบบ เขาทำความเข้าใจกับมันเหล่านั้นและประเมินว่าจะต้องลงมือกับมันอย่างไร
ไวน์แดงนี้ถูกเตรียมไว้ให้แก่’เย่เฟิง’ ในประเทศนี้ถ้าหากมีแอลกอฮอล์ตั้งอยู่บนโต๊ะอาหารนั่นหมายถึงการดื่มกินและสนทนาเรื่องราวต่างๆจะต้องเป็นไปอย่างราบรื่น มันเป็นความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยนไป
ตั้งแต่เข้าประตูมา’เย่เฟิง’มองไปรอบๆและสังเกตุเห็น’ซูซินฉาง’ที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งหัวโต๊ะในห้องส่วนตัว จานอาหารถูกวางไว้ทั้งฝั่งซ้ายและขวาของเขา จากภาพที่เห็น’ซูซินฉาง’คงรู้อยู่แล้วว่าชายหนุ่มต้องมากับ’ซูเหมิงหาน’อย่างแน่นอน
และยังต้องการให้’เย่เฟิง’และ’ซูเหมิงหาน’นั่งข้างๆของเขาเพื่อให้เกิดความใกล้ชิดกันมากขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม’ซูเหมิงหาน’ไม่ได้ต้องการนั่งข้างๆ’ซูซินฉาง’ แน่นอนว่า’เย่เฟิง’ก็เช่นกัน
‘เย่เฟิง’เดินตรงไปนั่งยังฝั่งตรงข้ามของ’ซูซินฉาง’ทันที เขาไม่ได้มองไปยัง’ซูซินฉาง’แม้แต่น้อย ‘ซูเหมิงหาน’ที่เห็น’เย่เฟิง’ไม่เดินไปตามแผนของพ่อของเธอ หญิงสาวจึงเลือกที่จะไปนั่งข้างๆ’เย่เฟิง’เช่นเดียวกัน บริกรสาวสวยเห็นดังนั้นเธอรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมาแล้วจึงกล่าวอย่างสุภาพ
“แขกทั้งสอง นี่เป็นการรับประทานอาหารกันกับครอบครัวทำไมไม่นั่งให้ใกล้ชิดกันกว่านี้ล่ะ ”
บริกรสาวคนนั้นตระหนักได้ถึงสถานภาพที่ไม่ธรรมดาของ’ซูซินฉาง’ เพราะว่าเขาผู้ที่เป็นเจ้าของบัตรทองของร้านอาหารแห่งนี้ เธอจึงเลือกที่จะอำนวยความสะดวกด้วยการเชื้อเชิญลูกสาวของเขาและแฟนหนุ่มของเธอให้เข้าไปนั่งใกล้ๆกว่านี้
ในความคิดของบริกรสาว ชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้ดูท่าทางจะรู้มารยาทของโลกนี้เลย เขามาร้านอาหารนี้ด้วยชุดกีฬาที่ดูสวมสบาย และยังไม่ได้สนใจถึงตำแหน่งของสิ่งของต่างๆบนโต๊ะอาหาร ยิ่งไปกว่านั้นเขาเลือกที่จะนั่งตรงข้ามกับพ่อตาในอนาคตของเขาอีกด้วย!
การที่เขาแสดงออกแบบนี้ก็ไม่ต่างจากขอทานที่กำลังหวังว่าจะได้กับเจ้าหญิงเลย “ไม่ล่ะขอบใจ แต่เราจะนั่งตรงนี้” เย่เฟิงขัดขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจกับคำเชิญของบริกรสาว เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้นั่งใกล้’ซูซินฉาง’ ชายหนุ่มมาที่นี่เพื่อดูว่าอีกฝ่ายต้องการพูดอะไรเท่านั้น
“ไม่เป็นไร เอาที่เขาสบายใจเถอะ”
‘ซูซินฉาง’รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย แต่เขายังคงรักษารอยยิ้มไว้บนน้อยพลางผงกหัวให้แก่บริกรสาว ทั้งหมดนี้ทำให้บริกรสาวรู้สึกมึนงงเล็กน้อย คุณซูถึงกับยอมให้เจ้าหนุ่มคนนี้? แน่นอนว่าเธอได้แต่ยอมรับที่’ซูซินฉาง’สั่ง จากนั้นเธอจึงเริ่มจัดจานอาหารต่างๆไว้ตรงหน้าของ’เย่เฟิง’และ’ซูเหมิงหาน’
“รบกวนช่วยเปิดไวน์ด้วย หลังจากนั้นเราขอความเป็นส่วนตัวหน่อยนะ”
‘ซูซินฉาง’บอกต่อบริกรสาว
“ได้เลยค่ะ ดิฉันจะยืนรออยู่หน้าห้องหากคุณซูมีอะไรเชิญเรียกได้ทุกเมื่อค่ะ”
บริกรสาวเปิดขวดไวน์แล้วจึงโค้งคำนับเดินออกไป อย่างไรก็ตามก่อนเธอก้าวออกไปบริกรสาวเหลือบไปมอง’ซูเหมิงหาน’ด้วยความอิจฉา ไม่จำเป็นกล่าวอะไรมากมายถึง’ซูเหมิง’ หญิงสาวดูสวยบริสุทธ์และสง่าอย่างไม่แพ้ใคร อีกทั้งเธอยังเป็นลูกสาวของประธานของบริษัทซูเฉิงที่มีเบื้องหลังครอบครัวที่ไม่ธรรมดา
ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่หลายคนจะต้องอิจฉาเธอไม่ว่าจะเป็นจากหน้าตาหรือเงินทองก็ตามที หากแต่ความจริงจะมีใครรู้ว่า’ซูเหมิงหาน’ไม่ได้ชอบสถานะนี้เลย เธอไม่เคยรู้สึกดีเลยด้วยซ้ำไป
หลังจากบริกรสาวก้าวออกไปจาากห้องเธอหันไปมองยัง’เย่เฟิง’และปิดประตูลง หญิงสาวคิดกับตัวเองว่าชายหนุ่มคนนั้นไม่รู้ว่าต้องมีโชคดีมากแค่ไหนถึงได้เป็นที่ต้องตาต้องใจของลูกสาวประธานบริษัทซูเฉิง
จากนี้ไม่ว่าเขาจะก้าวเดินไปทางไหนก็ต้องเหนือว่าคนธรรมดาไปหลายขั้นอย่างแน่นอน เมื่อนั้น’เย่เฟิง’ที่กำลังนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวแน่นอนว่าไม่ได้แม้แต่เสียเวลาคาดเดาอะไรก็ตามที่บริกรสาวกำลังคิดอยู่ ‘ซูซินฉาง’หยิบชวดไวน์ขึ้นมารินใส่ยังแก้วของ’เย่เฟิง’และ’ซูเหมิงหาน’ตามลำดับ
เขายิ้มที่มุมปากแล้วกล่าวว่า
“เหมิงหาน เฟิงน้อย สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้หวังว่าพวกลูกๆคงไม่โกรธเคืองกันนะ พ่อก็แค่แสร้งทำตัวไปแบบนั้นต่อหน้าแม่เลี้ยงเท่านั้นเอง ไม่มีทางที่พ่อจะทิ้งลูกได้ลงคอหรอก ยิ่งกว่านั้นเหมิงหานลูกพ่อยังสวยมาก…”
“อย่างนั้นเหรอครับ? งั้นคุณรู้รึเปล่าล่ะว่าเธอเสียใจมากแค่ไหนกับเรื่องที่เกิดตอนบ่ายที่ผ่านมาน่ะ?”
‘เย่เฟิง’พูดขณะที่มองไปยังแก้วไวน์อย่างเฉยชา สีที่เข้มข้นของไวน์แสดงถึงความล้ำค่าของมันว่าต้องอยู่ในระดับชั้นเลิศ แสดงถึงความหรูหราในรูปแบบตะวันตก
“เหมิงหาน พ่อคงต้องขอโทษนะ มา รับไวน์แก้วนี้ไปสิ ถึงพ่อจะเป็นพ่อของลูกแต่พ่อก็ยังต้องขอโทษลูกอีกครั้งจริงๆ”
‘ซูซินฉาง’ยิ้มอย่างอ่อนโยน เขายื่นไวน์ทั้งสองแก้วให้แก่’เย่เฟิง’และหญิงสาว ‘ซูเหมิงหาน’มองแก้วไวน์แดงและหันหน้ากลับมามอง’เย่เฟิง’ด้วยความลังเล
“เธอไม่จำเป็นต้องดื่มหรอก นี่คือเหตุผลว่าทำไมฉันมาที่นี่กับเธอวันนี้ไงล่ะ”
‘เย่เฟิง’ยิ้มแล้วจึงจับมือ’ซูเหมิงหาน’ออกจากแก้วไวน์ เขายกแก้วขึ้นมายกเข้าปากอึกใหญ่เพียงอึกเดียว ไวน์อันแสนแพงนี้ไหลตามลำคอของเขาไป ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว สำหรับเขานี่เป็นครั้งแรกที่ได้ลองเครื่องดื่มแบบนี้ มันไม่ง่ายนักสำหรับเขาที่จะดื่มมัน
เมื่อเห็นสีหน้าของ’เย่เฟิง’
‘ซูซินฉาง’ยิ้มกริ่มในใจ หลังจากชายหนุ่มได้ดื่มไวน์เข้าไปอึกใหญ่ขนาดนี้แล้วก็ได้เวลาที่จะเข้าเรื่องที่เขาต้องการเสียที แอลกอฮอล์ที่เขาจัดเตรียมนี้จะทำให้การสนทนาเป็นไปตามที่เขาต้องการได้อย่างแน่นอน
……………………….
แปลโดยทีมงาน GSI
ที่มา: