“เจ้ามีชื่อว่า ชูเฟิง อย่างนั้นรึ…..ไม่เลว…ไม่เลว….เป็นชื่อที่ไม่เลว”
 
 
“ลุกขึ้น ชูเฟิง เจ้าไม่ต้องอ่อนน้อมมากเช่นนั้น ความสามารถของเจ้าช่างวิเศษยิ่งนัก เจ้าสามารถเข้าสู่ระดับ 7 ขั้นกำเนิดวิญญาณ จากระดับ 4 ขั้นห้วงวิญญาณได้ภายในปีเดียว และแผนที่ในตอนนั้นมันย่อมไม่สูญเปล่า”
 
 
“ตามข้ามา ข้ามีของขวัญบางอย่างมอบให้เจ้า มัเฝ้ารอเจ้ามาแสนนานแล้ว”
 
หลังจากผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้า จ้องมอง ‘ชูเฟิง’ ด้วยความพึงพอใจแล้ว เขาก็กวาดสายตามองไปรอบๆ และเดินลึกเข้าไปในโถงทางเดิน
 
‘ชูเฟิง’ ไม่ชักช้า เขารีบตามเข้าไปในทันที อย่างไรก็ตาม ภายในหัวใจของเขา รู้สึกเคารพผู้ก่อตั้งสำนักมักรฟ้าอย่างแท้จริง เพราะจากคำพูดของท่าน มันแสดงให้เห็นว่าพลังวิญญาณของเขาถูกกระตุ้นให้ตื่นขึ้นโดยท่าน
 

 
“ตาเฒ่านี่มีทักษะพิเศษบางอย่างแน่นอน พลังวิญญาณของเจ้ามันมีมาตั้งแต่กำเนิด แต่หากว่าเจ้าไม่ได้ตาเฒ่านี่ช่วยกระตุ้นพร้อมทั้งปลดผนึกมันล่ะก็ ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่สามารถค้นพบพลังอำนาจวิญญาณของเจ้าได้เร็วเช่นนี้ แล้วเจ้าก็ยังไม่สามารถพบกับข้าได้ สุดท้ายความแข็งแกร่งที่เกิดขึ้นกับเจ้า ในระยะเวลาอันสั้นนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น”
 
‘ต้านต้าน’ กล่าวอธิบาย
 

 
“หมายความว่าอำนาจพลังวิญญาณสามารถับได้จากผู้อื่นอย่างนั้นเหรอ ตราบใดที่ข้ามีอำนาจพลังวิญญาณ ข้างก็จะสามารถส่งต่อมันให้กับผู้อื่นได้เช่นนั้นรึ”
 
‘ชูเฟิง’ ค่อนข้างแปลกใจ เมื่อเขาได้ยิน ‘ต้านต้าน’ กล่าวอธิบาย มันจึงชัดเจนยิ่งขึ้นว่า สิ่งที่ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรรฟ้ากล่าวนั้น เป็นความจริง
 

 
“แน่นอนว่ามันสามารถทำได้ แต่มันก็มีข้อจำกัดอยู่ ผู้ที่จะสามารถรับอำนาจพลังวิญญาณได้นั้น จะต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่ง ในวันนั้น ผู้ที่ไล่ล่าเจ้าต่างก็ได้รับอำนากพลังวิญญาณนี้ แต่พวกเขาไม่สามารถทนรับได้ จึงทำให้คนพวกนั้นตาย”
 
 
“นอกจากนี้ผู้ที่จะสามารถมอบอำนากพลังวิญญาณได้นั้น จะต้องเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ จะมีทักษะที่สามารถถ่ายโอนพลังไปสู่บุคคลอื่น และผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณนั้น อย่างน้อยจะต้องอยู่ในระดับชุดคลุมสีฟ้า”
 
‘ต้านต้าน’ กล่าวอธิบาย
 

 
“อะไรนะ !! ผู้เชื่อต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลามสีฟ้า !! ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสีฟ้า !!”
 
‘ชูเฟิง’ ตะลึง
 

 
“แปลกตรงไหน จากที่ข้าเห็น ข้าว่าเขาน่าจะอยู่ไม่ไกล หรืออาจจะอยู่ในระดับชุดคลุมสีม่วงด้วยซ้ำ”
 
‘ต้านต้าน’ กล่าวอธิบาย
 

 
“เป็นเช่นนั้นเลยเหรอ !!”
 
‘ชูเฟิง’ สูดหายใจเข้า รับเอาอากาศที่เย็นเข้าปอด จากนั้นเขาก็มองไปที่ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้า ด้วยแววตาที่แสดงความเคารพมากยิ่งขึ้น
 
หลังจากที่ ‘ชูเฟิง’ คิดทบทวนเพียงเล็กน้อย เขาก็ไม่ตกตะลึงเช่นครั้งที่ผ่านมา ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าคือผู้ที่สามารถทำให้ทั้งเก้าอาณาจักรต้องสั่นสะเทือน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลก หากว่าเขาจะพลังของผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสีม่วง
 

 
“ชูเฟิง อสูรวิญญาณภายในตัวเจ้า ช่างเป็นสิ่งที่น่าประทับใจยิ่งนัก มันกินจุมากและยังสามารถดูดซับพลังงานจากแหล่งต่างๆ ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น”
 
ทันใดนั้น ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าก็กล่าวออกมา
 

 
“ท่านผู้ก่อตั้ง…..ท่าน…”
 
หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น ‘ชูเฟิง’ ก็รู้สึกประหลาดใจมาก เพราะเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า อสูรวิญญาณของเขา จะสามารถถูกตรวจพบได้โดย ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้า
 

 
“ ไม่ต้องเป็นกังวลไป ไม่แปลกหรอกที่อสูรวิญญาณจะช่วยเหลือผู้มีความสามารถเช่นเจ้า อีกอย่าง อสูรวิญญาณของเจ้าน่ะแข็งแกร่งมาก อาจจะกล่าวได้เลยว่าแข็งแกร่งที่สุด ข้าต้องยินดีกับเจ้าด้วย”
 
ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้ากล่าวออกมาพร้อมทั้งยิ้มบาง
 
เห็นผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้า ไม่ได้ถามซักไซ้อะไรต่อ ‘ชูเฟิง’ จึงรู้สึกผ่อนคลายลง จากนั้นเขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง
 

 
“ท่านผู้ก่อตั้ง กองกระดูเหล่านี้มาจากที่ใด และสิ่งใดเป็นเหตุให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดมาตายที่นี่”
 
 
“ชูเฟิง ข้าจะบอกเจ้าโดยไม่ปิดบังใดๆ ภายในอาณาจักรมังกรฟ้านี้มีสุสานจักรพรรดิอยู่ และนี่คือหนึ่งในทางข้าวของสุสาน ในปีนั้น เหล่าผู้เชี่ยวชาญพยายามเปิดทางเข้า และพวกเขาก็ตายลงที่นี่”
 
 
“คนที่ตายอยู่ด้านนอกนี้น่ะ เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น และระดับการบ่มเพาะพลังวิญญาณก็ไม้ได้สูงส่งมาก แต่ที่ด้านในของสุสานจักพรรดิ์ มีผู้เชี่ยวชาญระดับขั้นแดนสวรรค์วิญญาณที่ตายลง รวมๆ แล้วก็เปรียบได้กับภูเขาลูกย่อมๆ เลยเชียวล่ะ”
 
ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้ากล่าวอธิบาย
 

 
“สุสานจักรพรรดิ์ช่างน่ากลัวยิ่งนัก”
 
‘ชูเฟิง’ ตกใจ
 
อย่างไรก็ตาม ‘ต้านต้าน’ รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก นางจึงกล่าวว่า
 

 
“ชูเฟิง !! รีบถามท่านผู้เฒ่าถึงที่อยู่ของผู้เชี่ยวชาญขั้นแดนสวรรค์วิญญาณเร็วๆ”
 
แต่ก่อนที่ ‘ชูเฟิง’ จะได้อ้าปากถาม ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าก็กล่าวออกมาก่อนว่า
 

 
“บอกอสูรวิญญาณภายในร่างของเจ้า ให้เลิกคิดที่จะดูดซับแหล่งพลังงานจากซากเหล่านั้นได้เลย เพราะเจ้ายังไม่อาจเข้าไปได้ แม้แต่ข้าก็ไม่สามารถเข้าไปได้เช่นกัน”
 
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ‘ชูเฟิง’ จึงไม่ได้ถามออกมา เพราะเขาเห็นแล้วว่าผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าแข็งแกร่งเพียงใด เขาสามารถรู้ถึงตัวตนของอสูรวิญญาณของ ‘ชูเฟิง’ ได้ และยังสามารถคาดเดาความคิดของ ‘ต้านต้าน’ ได้อีกด้วย
 
ในระยะทางที่เหลือ ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าถามถึงการเดินทางของ ‘ชูเฟิง’ ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เขาไม่ได้ถามถึงสถานะของสำนักมังกรฟ้าแต่อย่างใด เหมือนกับว่าเขาไม่ได้ใส่ใจในสำนักที่เขาก่อตั้งขึ้นมากนัก
 
หลังจากเดินมาอย่างรวดเร็ว พวกเขาทั้งสองก็มาถึงแอ่งน้ำแห่งหนึ่ง มันเป็นแอ่งน้ำที่พิเศษมาก กว้างเพียงสองเมตร และมีกลุ่มควันจางๆ ลอยอยู่เหลือผิวน้ำ จึงไม่สามารถทราบถึงความลึกของแอ่งน้ำนี้ได้
 
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ‘ชูเฟิง’ สามารถรับรู้ได้ถึงพลังงานที่ไม่มีที่สิ้นสุดจากแอ่งน้ำนั่น เขาสัมผัสได้ถึงพลังขั้นกำเนิดวิญญาณ และพลังขั้นแก่นวิญญาณ จากแอ่งน้ำได้อย่างชัดเจน
 

 
“ท่านผู้ก่อตั้ง !! น้ำนี่…..!!”
 
‘ชูเฟิง’ รู้ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เขารู้ได้ทันทีว่า แอ่งน้ำนี้ต้องเป็นสมบัติอย่างแน่นอน และมันเป็นสมบัติที่สามารถช่วยให้การบ่มเพาะพลังวิญญาณเติบโตขึ้นได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น ‘ชูเฟิง’ ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการบ่มเพาะพลัง แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยพลังของแอ่งน้ำนี่ จะสามารถทำให้การบ่มเพาะพลังของเขาแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างรวดเร็วแน่นอน
 

 
“นี่คือของขวัญที่ข้าเตรียมไว้ให้เจ้า มันคือ สระแก่นวิญญาณ”
 
 
“สระแก่นวิญญาณ นั้น มีพลังวิญญาณขั้นกำเนิดวิญญาณ และขั้นแก่นวิญญาณ แม้พลังวิญญาณจะสูงส่งแต่ไหน แต่ด้วยลักษณะพิเศษของสระแก่นวิญญาณนี้ ก็ยังสามารถเพิ่มระดับการบ่มเพาะพลังวิญญาณได้อยู่มาก”
 
 
“การบ่มเพาะพลังในสระนี้ หากเจ้าเข้าใจถึงพลังวิญญาณได้อย่างถูกต้อง ข้าคิดว่าเพียงไม่กี่วันเจ้าก็จะสามารถก้าวเข้าสู่ระดับ 8 ขั้นกำเนิดวิญญาณได้”
 
ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้ากล่าวอธิบาย
 
*****ตู้ม !! ซ่าาา !!*****
 
‘ชูเฟิง’ กระโดดลงไปในสระอย่างรวดเร็ว
 
หลังจากที่ ‘ชูเฟิง’ กระโดดลงไปในสระแล้ว พลังวิญญาณภายในสระก็ก่อตัวขึ้นเป็นชั้นๆ รอบตัวของ ‘ชูเฟิง’ พลังงานนั้นเริ่มเพิ่มมากขึ้นๆ และถูกสกัดโดย ‘ชูเฟิง’
 

 
“ระดับความเข้าใจพลังวิญญาณของเขาช่างน่ากลัวจริงๆ…..ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องใช้เวลาหลายวันในการเลื่อนระดับซินะ ด้วยความสามารถของเขา เขาน่าจะเข้าสู่ระดับ 8 ได้ภายในไม่นาน”
 
ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้า มองไปที่ ‘ชูเฟิง’ พร้อมทั้งลูบเคราสีขาวราวกับหิมะของเขา และยิ้มออกมาด้วยความสุข
 
*****พรึ่บ*****
 
แต่ในขณะนั้น ภายในสระแก่นวิญญาณเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พลังออร่าของ ‘ชูเฟิง’ เติบโตขึ้นอย่างฉับไว และในชั่วอึดใจพลังวิญญาณของเขาก็ก้าวเข้าสู่ระดับ 8 ขั้นกำเนิดวิญญาณ
 

 
“นี่….!!”
 
ในเวลาเดียวกัน ใบหน้าของผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้า ก็เปลี่ยนเป็นปั้นยากด้วยความประหลาดใจ เขาตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น และไม่อาจเก็บความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้ได้
 
ผู้แปล โดยคุณ#
 
ที่มา: