ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปเวลานี้ที่ดวงจันทร์และดวงดาวต่างส่องแสงระยิบระยับแข่งกันบนท้องฟ้า ที่ตีนภูเขาเต็มไปด้วยผู้ฝึกยุทธ์มากมายไม่ว่าจากตระกูลมังกรหรือผู้อาวุโสจากหมัดเทพทวารา
เวลาต่อมาตามด้วยคู่ชายหญิงวิปริตจากวังดาบสวรรค์และหวงเหล่า ทั้งหมดล้วนกระวยวายและตื่นเต้นกันแทบแย่ ใบหน้าแต่ละคนเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
ผู้หญิงใบหน้ากลมใส่ชุดกระโปรงยาวสีดำมีคราบเลือดเปรอะเปื้อนไปทั่วที่ปรากฎตัวมาก่อนหน้านี้พูดอย่างโศกเศร้า ใบหน้าฉายความเสียใจอย่างชัดเจน
“ผู้ชายที่ใส่หน้ากากถือดาบสีแดงโผล่ขึ้นมาจากไหนก็ไม่รู้! แล้วเค้าก็ฆ่าสังหารหลี่จวิ้นหลงและจูไป๋เหนี่ยวอย่างโหดเหี้ยม แล้วที่ยิ่งไปกว่านั้นหญ้าสื่อจิตก็ถูกชิงไปด้วย!”
“ใส่หน้ากากงั้นหรือ?”
แทบจะเวลาเดียวกันบางคนเริ่มจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเย็นได้ ชายหนุ่มที่จับตัวหลงหวางเอ๋อแล้ววิ่งผ่านตีนภูเขาไปผ่านสายตาทุกผู้คน ตอนนั้นเองสายตาทุกคนหันไปมองชายคนหนึ่งแห่งตระกูลมังกร
ชายที่ใส่เสื้อคลุมยาวสีขาว’หลงโม่หรัน’นั่นเอง พลังชี่ของเขาสั่นไหวทันทีด้วยความโกรธ ความจริงแล้ววันนี้เขาต้องการซื้อหญ้าสื่อจิตเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้แก่’หลงหวางเอ๋อ’ แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าคนที่ชิงมันไปกว่าจะเป็นคนใส่หน้ากากคนเดียวกับที่จับ’หลงหวางเอ๋อ’ไป ทำให้’หลงโม่หรัน’รู้สึกถึงความไร้ความสามารถของตนเองราวกับตะกร้าไม้ไผ่ที่นำมาใส่น้ำ!
ไม่ใช่แค่นั้น ตอนที่เขาติดตามชายสวมหน้ากากที่จับตัว’หลงหวางเอ๋อ’ไป หลงโม่หลันไปถึงบริเวณปากหน้าผาแล้ว แต่สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงอานาเขตที่เต็มไปด้วยหมอกและสายลมจนมองไม่เห็นก้นบึ้งของหุบเหว
เจ้านั่น ไม่ใช่ว่ามันกระโดดลงไปข้างล่างพร้อมกับ’หลงหวางเอ๋อ’หรอกนะ? ยิ่งคิดถึงอันตรายที่อาจจะเกิดกับลูกสาวขึ้นมายิ่งทำให้เขาโมโหจนทนแทบไม่ได้ แต่น่าเสียดายที่สถานการณ์ในตอนนี้ไม่มีทางออกเลย
“ตอนนี้ลูกศิษย์ของฉันทั้งสองคน หลัวลี่และหลัวเล่ยก็ยังไม่กลับมาเช่นกัน หลงโม่หรัน เจ้าหนุ่มรูปหล่อของตระกูลนายก็ยังไม่มาที่นี่ใช่หรือไม่?”
ผู้อาวุโสของหมัดเทพทวาราถามอย่างเคร่งขรึม ก่อนหน้านี้เขายังมีโอกาสถากถาง’หลงโม่หลัน’ได้ แต่ขณะนี้เขาไม่มีอารมณ์เช่นนั้นเสียแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่มาที่นี่อย่างเสียเปล่า แต่กระทั่งหญ้าสื่อจิตก็ถูกขโมยไปด้วย มากกว่านั้นยังไม่มีร่องรอยของสองคนนั้นเลย เพื่อลองคำนวณดูแล้ว’หลงโม่หลัน’ไม่เพียงแค่เสียหายทางการเงินอย่างมหาศาล
แต่เด็กในตระกูลสองคนก็หายไปด้วย ตอนนี้เขาแทบอยากจะสั่งให้คนพลิกภูเขาขึ้นมาเพื่อหาตัวลูกสาวของเขาและชายสวมหน้ากากคนนั้น แน่นอนว่าเทียบกับสถานการณ์ของตระกูลมังกรแล้ว ฝั่งหมัดเทพทวารายังดีกว่ามากโข ไม่ใช่แค่’หลงเสี่ยน’ที่อาจเกิดสถานการณ์เลวร้ายอะไรขึ้นก็ได้
แต่ยังมีคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดของตระกูลมังกรรุ่นเยาว์’หลงหวางเอ๋อ’ถูกจับไปเป็นตัวประกันอีกด้วย ยิ่งกว่านั้นหญิงสาวก็ยังโดนวางยาบางอย่างเช่นกัน เวลาผ่านไปเรื่อยๆแต่ยังไม่มีข่าวความคืบหน้าของพวกเขาเลย สถานการณ์ความเป็นไปที่ได้ที่จะเกิดขึ้นเริ่มค่อนข้างชัดเจน
ตามปกติของโลกยุทธภพแล้ว เมื่อใครคนหนึ่งหายไปและตามตัวไม่ได้ก็มีเพียงอย่างเดียว นั่นคือเขาได้ตายไปแล้ว สีหน้าของ’หลงโม่หรัน’ซีดลง ถ้าชายสวมหน้ากากปรากฎขึ้นมาอีกครั้งตรงหน้าเขา เขาจะใช้ดาบที่ดีที่สุดเล่มนี้ฆ่าและตัดหัวมันซะในดาบเดียว เหมือนเมื่อยี่สิบปีก่อนที่เขาฆ่าผู้นำตระกูลเย่ด้วยการตัดหัว!
“รายงานกลับไปที่บ้านใหญ่ว่าเรายังไม่เจอตัวคุณหนู!”
ทันใดนั้นผู้นำตระกูลมังกรร้อนรนจนเหงื่อตกและสั่งต่อ
“หาตัวพวกเขาต่อไป!”
‘หลงโม่หลัน’โบกมือสั่งการ ชุดยาวสีขาวของเขาโบกไปมาท่ามกลางแสงจันทร์ อย่างไรก็ตามตัวเขากลับเต็มไปด้วยอารมณ์ขุ่นหมอง วันนี้ จนกว่าเขาจะพบร่องรอยอะไรสักอย่างของลูกสาวเขา เขาจะไม่มีวันกลับไปอย่างเด็ดขาด
“รับทราบ”
ขณะอีกฝั่งหนึ่งบริเวณด้านสลัวของตีนภูเขา ชายหญิงคู่วิปริตขากวังดาบสวรรค์มองหน้ากันและยิ้มอย่างชั่วร้าย พวกเขามาที่นี่ช้าไปเล็กน้อย ‘หลงหวางเอ๋อ’ที่ถูกวางยาคนนั้นกลับถูกจับตัวไปอย่างไม่คาดฝัน แต่คนของตระกูลมังกรก็ทำอะไรไมได้เช่นกัน ลองคิดดูว่าสาวที่น่ารักคนนั้นถูกจับไปโดยชายสวมหน้ากาก อะไรจะเกิดขึ้น…
แน่นอนว่าชายจากวังดาบสวรรค์ไม่ได้สนใจว่าเขาจะต้องเป็นคนแรกที่ได้ตัวหลงหวางเอ๋อ ตราบใดที่เขาได้หาความสนุกกับหญิงสาวบ้าง การมาที่นี่ก็ไม่เสียเปล่าแล้ว พวกเขาไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแค่มองไปยังหวงเหล่าที่อยู่ใกล้ๆ
จากนั้นจึงก้าวกระโดดออกจากที่แห่งนี้ไป ชายหญิงวิปริคคู่นี้ปฏิญาณไว้แล้วว่าจนกว่าจะได้พบหลงหวางเอ๋อจะไม่พักอย่างเด็กขาด พวกเขาไม่ได้พูดอะไรถึงหญ้าสื่อจิตเลยในคราวนี้
อย่างไรก็ตามหญ้าใบทองจากครั้งก่อนยังเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการมัน! ‘หวงเหล่า’ชำเลืองมองสองคนนั้นและหัวเราะเล็กน้อย จากนั้นเขาจึงเคลื่อนตัวจากไป คนที่เขาต้องการหาไม่ใช่’หลงหวางเอ๋อ’แต่เป็นชายสวมหน้ากากคนนั้นต่างหาก
‘หวงเหล่า’แค่ต้องการหาร่องรอยของชายผู้นั้น
“ถ้าคาดเดาไม่ผิด ชายคนนี้ไม่เพียงแค่ฆ่าดาบหมาป่าแต่ยังฆ่าศิษย์สองคนจากหมัดเทพทวาราอีกด้วย ยิ่งกว่านั้นเขาไม่ได้จบแค่นี้ เขายังกำจัดหลี่จวิ้นหลงแห่งกองกำลังเทวะลี้ลับไปและจับตัวหลงหวางเอ๋อไว้เป็นตัวประกัน ความบ้าบิ่นและปัญญาของเขาไม่ธรรมดาเลย! น่าเสียดายที่ฉันไม่มีโอกาสได้รับเขาเป็นลูกศิษย์…”
เงาของตีนภูเขาพลันเบาบางลง ใต้แสงจันทร์ที่ส่องสกาว ใบหน้าที่ซีดเผือดราวกับคนตายของตู้เจวียนปรากฎขึ้น ในเมื่อ’หลี่จวิ้นหลง’ตายไปแล้ว เธอควรจะกลับไปที่สำนักของเธอ ‘กองกำลังเทวะลี้ลับ’ เพื่ออธิบายถึงการตายของเขาดีหรือไม่?
เขาเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของกองกำลังเทวะเล้นลับที่ได้ฝึกเคล็ดวิชาลับในรุ่นเยาว์! จนถึงตอนนี้สมองของเธอก็ยังคงลบภาพหัวของหลี่จวิ้นจงที่หลุดลอยจากคอไม่ได้เสียที รวมไปถึงเสียงหัวเราะเยาะของชายสวมหน้ากากคนนั้น สิ่งเหล่านี้ตามหลอกหลอนเธอไม่มีสิ้นสุด…
………………………
ขณะที่ด้านนอกเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เครียดและขมุกขมัว สิ่งที่งดงามอย่างน่าทึ่งกำลังเกิดขึ้นด้านในสุสาน ภายในสุสาน หลงหวางเอ๋อที่ได้เตะเข้าใส่’เย่เฟิง’ แล้วชิงแผ่นที่ไป อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุนี้เอง ผลของยาในร่างของเธอได้ปะทุขึ้นอีกครั้งส่งผลให้หญิงสาวไม่อาจต่อต้านมันได้อีก
ด้วยการนำทางของแผนที่ ทำให้เธอวิ่งมาถึงยังทะเลสาปใต้ดิน แต่สุดท้าย สติของ’หลงหวางเอ๋อ’ก็ค่อยๆเลือนลางลงเรื่อยๆ กลับกัน ความปรารถในใจของหญิงสาวกลับมากขึ้นส่งผลให้ร่างของเธอร้อนรุ่มดั่งเปลวเพลิง ระหว่างนั้น เมื่อ’หลงหวางเอ๋อ’เห็น’เย่เฟิง’ปรากฏตัวขึ้น
มีหรือที่เธอจะต้านทานความต้องการในใจได้? ทันใดนั้นเอง หญิงสาวได้โถมร่างของเธอเข้าหา’เย่เฟิง’ทันที
“เห้ย!”
‘เย่เฟิง’ถูกผลักให้ล้มลงกับพื้นอย่างโง่งมโดย’หลงหวางเอ๋อ’ ซึ่งเขาไม่อาจขัดขืนอะไรได้ หญิงสาวมีระดับวรยุทธ์ถึง 10 ปี แม้’เย่เฟิง’จะสามารถเพิ่มระดับวรยุทธ์ให้สูงขึ้นในช่วงสั้นๆได้โดยการดูดซับหญ้าวิญญาณประดับฟ้า ระดับวรยุทธ์ของ’เย่เฟิง’ก็ยังมีเพียง 4 ปี
และต่อให้เขาแข็งแกร่งกว่าคนในโลกใบนี้สองเท่า ก็ถือว่าเขามีระดับอยู่ที่ 8 ปีเท่านั้น เมื่อเทียบกับ’หลงหวางเอ๋อ’แล้ว ยังถือว่าต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้แสงสีขาวที่สลัวๆจากไข่มุขเรืองแสงในตำนาน เสื้อผ้าแพรไหมของหญิงสาวค่อยๆหลุดร่วงออกจากร่างอย่างช้าๆ
เผยให้เห็นผิวขาวเนียนดั่งไข่มุขต่อหน้าชายหนุ่ม ภาพที่เห็นนี้แทบทำให้วิญญาณของ’เย่เฟิง’สั่นสะท้าน มันสะกดสายตาเขาไว้จนไม่อาจละไปมองที่อื่นได้ราวกับว่ามันคือศิลปะที่สวยงามที่สุดบนโลกใบนี้ ถึงแม้’เย่เฟิง’จะเคยเห็นความสวยงามอันน่าทึ่งของหญิงสาวมาแล้ว
แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป เรือนร่างของเธอดูส่องสว่างดั่งแสงจันทร์ ชายหนุ่มรู้สึกว่าเลือดในร่างเดือนพล่านไปทั้งตัว และแม้ชายหนุ่มจะพยายามขัดขืน แต่ตอนนี้ หญิงสาวไม่ยินยอม!
“อย่าขยับ……ฉัน…..ต้องการ……”
‘หลงหวางเอ๋อ’ใช้มือที่ขาวเนียนของเธอกดหน้าอกของ’เย่เฟิง’ไว้ ดวงตาคู่สวยของหญิงสาวแสดงออกถึงความยั่วยวน ขณะที่เธอก้มลงและฉีกเสื้อผ้าของเขาออก พร้อมกับโยนมันไปไว้อีกด้านหนึ่ง
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หาก’เย่เฟิง’ต้องการขัดขืนจริงๆ มีเพียงทางเดียวคือต้องสังหารเธอเสีย แน่นอนว่าเขาไม่อาจทำอย่างนั้นได้ มันเหมือนดังสุภาษิตที่ว่า ‘ดอกไม้งาม หากไม่เด็ดสุดท้ายย่อมร่วงหล่น’
หาก’เย่เฟิง’เป็นชายแท้ มีหรือจะรังเกียจเรื่องแบบนี้?
ดังนั้น ชายหนุ่มจึงยอมแพ้ และกางมือทั้งคู่ออก…….. ภายในทะเลสาบ เสียงแวกว่ายของฝูงปลาที่เงียบลงกลับช่วยเป็นใจให้กับบรรยากาศของพวกเขาทั้งคู่ ความเป็นใจนี้แปรเปลี่ยนที่นี่ให้เหมือนดั่งสรวงสวรรค์ เรือนผมที่ยาวสลวยของหญิงสาวค่อยๆไหลลงมาบนใบหน้าของชายหนุ่มพร้อมด้วยกลิ่นหอมละเอียดอ่อนที่ชวนให้ใจเต้นรัว
“บ้าชิบ!”
‘เย่เฟิง’ถึงกับร้องออกมาในสถานการณ์เช่นนี้ น้ำเสียงของเขา ถึงแม้จะดูไม่เข้ากับบรรยากาศในปัจจุบัน แต่ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะร้องออกมาเพราะเขาเกือบจะควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้อีกแล้ว
ชายหนุ่มตกใจขึ้นมาอย่างรุนแรงราวกับเขาถูกเสียบแทงไปที่ความรู้สึกข้างใน ‘เย่เฟิง’จึงอุทานขึ้นมา เมื่อพวกเขาทั้งคู่ใกล้ชิดกัน ‘เย่เฟิง’กลับพบว่าร่างกายของหญิงสาวตระกูลมังกรคนนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยากในโลกเทวะ ซึ่งมันถูกเรียกว่า “ร่างชีพจรเทวะ”
จะเก็บขุมทรัพย์! หรือส่งเธอกลับบ้าน! สิ่งที่ผู้คนเรียกว่า ‘พายบนท้องฟ้า’ มันเป็นอย่างนี้เองหรือ? ร่างกายอันแสนพิเศษของหญิงสาวเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งในโลกเทวะ ‘เย่เฟิง’ไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะได้มาพบที่โลกใบนี้!
………………………….
แปลโดยทีมงาน GSI
Solar Spark: ค้างหนักกว่าเดิมอีก555 คุณ Marionette แนะนำว่าถ้าใครค้างให้รีสตาร์ทคอม ตึ่งโป๊ะ! ยังไงเดี๋ยววันนี้ดึกลงให้อีกตอนนะครับ รอก่อนเน้อ
ที่มา: