ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปทันทีที่อาบน้ำเสร็จ’ซูเหมิงหาน’ในชุดลูกไม้สีฟ้าเดินมาอย่างสง่างามตรงทางเข้าบ้าน ผมยาวสลวยดูเปียกชื้นเล็กน้อยจากการพึ่งอาบน้ำมาใหม่ๆ เด็กสาวได้ยิน’เย่เฟิง’คุยกับพ่อของเธออยู่ด้านนอกเกี่ยวยาอะไรบางอย่าง
ดังนั้นเธอจึงอดไม่ได้ที่จะเดินออกมาถามเกี่ยวกับเรื่องราวที่เป็นอยู่ ‘เย่เฟิง’ที่เห็น’ซูเหมิงหาน’เดินออกมา เดินเข้าไปหาเธอพร้อมกระซิบบางอย่างที่ข้างหู ยังไงก็ตามเธอได้ฝึกทักษะเซียนและกำจัดฤทธิ์ยาออกไปจากร่างกายทั้งหมดแล้ว ดังนั้นการบอกความจริงไปจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่มากนัก
หลังจากฟัง’เย่เฟิง’พูดจบ’ซูเหมิงหาน’พลันเกิดความคิดบางอย่างขึ้น
“ช่วยโกหกเขาไปก่อนได้ไหม?”
‘ซูเหมิงหาน’กระพริบตา
“ได้สิ”
‘เย่เฟิง’ยิ้มพลางพยักหน้า หลังจากทั้งสองกระซิบกระซาบกันจบ พวกเขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของ’ซูซินฉาง’ ส่วนชายร่างสูงสองคนนั้นยืนอยู่ฝั่งด้านนอกของสวนคอยอารักขา เมื่อเห็นทั้งสองค่อยๆใกล้เข้ามา ‘ซูซินฉาง’เริ่มตื่นตระหนก โดยเฉพาะเมื่อเขาเห็นสภาพของ’ซูเหมิงหาน’ที่มีสีหน้าไม่ค่อยดีนักยิ่งทำให้เขากระวนกระวายมากขึ้นไปอีก
เขาไม่คิดเลยว่าลูกสาวของเขาจะถูกจับฉีดยาไปเช่นนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้’ซูซินฉาง’เสียใจอย่างมาก
“คุณมีอะไรจะพูดรึเปล่า?”
เด็กสาวหยุดอยู่ใกล้ๆกับ’เย่เฟิง’ สายตาที่งดงามมองไปยัง’ซูซินฉาง’ เธอถามอย่างเศร้าๆราวกับว่าเธอพึ่งรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอ
“พ่อ… เหมิงหาน พ่อมันไม่ดีเอง พ่อมันเลว”
มุมปากของ’ซูซินฉาง’สั่นเทาอย่างรู้สึกสำนึกผิด เขาพยายามฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดต่อ
“ขอแค่เหมิงหานยอมยกโทษให้พ่อ เหมิงหานจะสั่งให้พ่อทำอะไรก็ได้ บอกมาเลย”
“คุณจะทำอะไรให้กับหนูได้งั้นเหรอ?”
‘ซูเหมิงหาน’พูดด้วยสีหน้าที่เจ็บปวดราวกับฝืนทนและกำลังทุกทรมาณอยู่
“พ่อ…”
‘ซูซินฉาง’ไม่รู้ว่าจะกล่าวอะไรดี ตอนนี้เขาจะมีปัญญาทำอะไรให้เธอได้กันล่ะ?
“อย่างน้อย… อย่างน้อยพ่อก็ยังมีบ้านมีรถนะ… เหมิงหานอภัยให้พ่อเถอะ ได้มั้ย? แล้วเรากลับไปอยู่ด้วยกันนะ…”
ทุกคนที่อยู่รอบตัวเขาจากไปทีละคนทีละคนทิ้งให้เขาอยู่เดียวดาย มันช่างเป็นความรู้สึกที่ขมขื่นเหลือเกิน ตอนนี้’ซูซินฉาง’ไม่เหลืออะไรแล้ว เขาแค่อยากได้ลูกของเขากลับมาอยู่กับตัวเอง อย่างที่ทุกคนรู้ว่า’ซูเหมิงหาน’ไม่เคยสนใจอยู่แล้วว่าพ่อของเธอจะมีหุ้นมากเท่าไร รถกี่คันหรือว่าบ้านกี่หลัง ของพวกนั้นไม่ได้สำคัญกับเธอเลย
เด็กสาวต้องการแค่เพียงให้พ่อดูแลเธอดีๆแค่นั้น ขอแค่นั้นเองไม่ว่าจะเจอเรื่องลำบากอะไรเธอก็รับได้หมด แต่น่าเสียดาย…
“บ้านเหรอรถเหรอ มันมีประโยชน์อะไรกับหนูกันล่ะตอนนี้?”
‘ซูเหมิงหาน’พูดอย่างโศกเศร้า ใบหน้าของเด็กสาวดูเหมือนพร้อมจะร้องไห้ได้ตลอดเวลา
“ที่หนูต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ก็เพราะคุณนั่นแหละ คุณทำร้ายหนูขนาดนี้ได้อย่างไรกัน”
คำพูดของเธอทำให้หัวใจของ’ซูซินฉาง’สั่นสะท้าน ตอนที่เขารู้ว่า’ซ่งเทียนยิง’ได้ฉีดยานั่นเข้าใส่ลูกสาวของเขา ‘ซูซินฉาง’ยังรู้สึกเสียใจเล็กน้อยกับการกระทำของเขา แต่ตอนนี้ที่ได้เห็น’ซูเหมิงหาน’ตะโกนต่อหน้าเขาในสภาพที่ย่ำแย่เช่นนี้ มันปลุกให้ความเป็นพ่อของ’ซูซินฉาง’ตื่นขึ้นมา
เขามองไปยังใบหน้าอันบริสุทธิ์ของเธอ ลูกสาวของเขาที่ถูกฉีดยาจนต้องอยู่ในสภาพขาดยาไม่ได้! ทันใดนั้นเองเขาเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะตัวของเขาเองทั้งนั้น ‘ซูซินหาง’ลองคิดดูว่าต่อให้เขาร่ำรวยเหมือนเดิม เงินของเขาก็ไม่อาจช่วยอะไร’เหมิงหาน’ได้อีกแล้ว
ลูกสาวเขามีชีวิตเหลืออีกแค่ปีเดียวเท่านั้นในตอนนี้
“หนูไม่อยากเห็นคุณอีกแล้ว”
เด็กสาวเอนตัวพิงไปที่ร่างของ’เย่เฟิง’ขณะมองไปที่พ่อของเธอ
“เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นหนูไม่ต้องการจะโทษอะไรคุณอีก แต่ถ้าคุณยังมีสำนึกอยู่รับปากหนูมาเรื่องนึงสิ”
“ขอแค่เหมิงหานพูดออกมา พ่อจะทำให้ทุกอย่างเลย!”
‘ซูซินฉาง’พลันผงกหัวตอบรับ
“ถ้าอย่างนั้นบอกความจริงเรื่องอุบัติเหตุของยายหนูมา หนูต้องการให้คนทำผิดตัวจริงรับโทษ”
‘ซูเหมิงหาน’กล่าวอย่างน้ำตาคลอ ‘ซูซินฉาง’ได้ยินเช่นนั้นก็ลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อเขาคิดถึงสภาพของ’ซูเหมิงหาน’แล้วได้แต่ถอนหายใจตกลง ช่างมันเถอะ ในเมื่อเธอเป็นเช่นนี้แล้วมันไม่มีประโยชน์อะไรอีกที่จะปิดบังความจริง ด้วยเหตุนี้’ซูซินฉาง’จึงบอกเล่าถึงเหตุการณ์ในอดีตเมื่อหกปีที่แล้วออกมาอย่างไม่ซ่อนเร้น
เดิมทีในอดีต’ซูซินฉาง’อยากจะแต่งงานกับ’เซี่ยหมิน’ อย่างไรก็ตามยายของ’ซูเหมิงหาน’ไม่ชอบนัก และเธอพยายามทุกทางเพื่อที่จะหยุดงานแต่งงานนี้ ที่ยายของ’ซูเหมิงหาน’ทำเช่นนี้เพราะรู้ว่า’เซี่ยหมิน’ไม่ใช่คนที่ดีนัก และต้องมีปัญหากับ’ซูเหมิงหาน’ในอนาคตอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ทำให้’เซี่ยหมิน’เกิดความแค้นขึ้นในใจ หกปีก่อน’เซี่ยหมิน’และน้อยชายของเธอ’เซี่ยเฉิงเย่’จึงได้จ้างคนมาฆ่ายายของซูเหมิงหานโดยทำให้มันดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งพวกเขาก็ทำตามแผนสำเร็จ ยายของ’ซูเหมิงหาน’จึงต้องจบชีวิตลงไปแบบนั้น เมื่อ’ซูซินฉาง’รู้เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากมันผ่านไปแล้ว
เขาไม่เพียงไม่ปรักปรำเซี่ยหมินและเซี่ยเฉิงเย่แต่ยังกลับช่วยปิดบังเรื่องที่เกิดขึ้นอีกด้วย ยิ่งกว่านั้นยังรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้กับคนที่ถูกจ้างวานไปฆ่าคนนั้น เพราะตอนนั้นบริษัทของ’ซูซินฉาง’กำลังอยู่ในช่วงการพัฒนา สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดคือทรัพยากรของ’เซี่ยหมิน’…
“อย่างที่คิดเอาไว้ พวกมันจริงๆด้วย”
‘เย่เฟิง’คาดเดาไว้ในใจ จากเหตุการณ์ที่ร้านอาหารจิงเฉิงทำให้เขามั่นใจถึงร้อยเปอร์เซนต์ นอกจาก’เซี่ยหมิน’ ‘เซี่ยเฉิงเย่’และ’ซูซินฉาง’ ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งนั้น เมื่อทราบความจริง’ซูเหมิงหาน’รู้สึกโล่งใจ จากนั้น’ซูซินฉาง’กล่าว
“พ่อมั่นใจว่าจะต้องเอาความผิดกับพวกนั้นได้แน่ ถ้าพวกนั้นไปขึ้นศาลเมื่อไหร่พ่อจะเป็นคนไปเป็นพยานด้วยตัวเอง”
การกระทำของ’ซูซินฉาง’ถือว่าเป็นการปกปิดความผิด ดังนั้นถึงเขาจะไม่ได้กระทำความผิดด้วยแต่การปกปิดมันไว้ก็ถือเป็นความผิดหนักเช่นกัน แต่ถ้าเกิดว่าเขาเป็นพยานในคดีความนี้ โทษของเขาก็คงจะลดหย่อนไปได้บ้าง ‘ซูซินฉาง’พยักหน้าช้าๆ
“งั้นพ่อไปก่อนนะ…”
“ก่อนจะะถึงเวลานั้น คุณอยู่กับหน้าบากไปก่อนก็แล้วกัน”
‘เย่เฟิง’กวักมือ
“อย่าคิดจะหลบหนีเด็ดขาด ด้วยความสามารถของผมมันไม่ยากเลยที่จะหาตัวคุณ”
“เข้าใจแล้ว”
ได้ยินเช่นนั้นทำให้’ซูซินฉาง’ค่อนข้างรู้สึกกลัวจนเหงื่อแตก เท่าที่เขารู้’เย่เฟิง’เป็นคนต่อย’ซ่งเทียนยิง’ร่วงลงมาจากตึกหกชั้น! ถ้า’เย่เฟิง’ยอมปล่อยเขาไปตอนนี้ก็ถือว่าดีเท่าไหร่แล้ว ยิ่งกว่านั้นเขาไม่คิดจะหลบหนีเลยในเมื่อ’เย่เฟิง’เองก็มีความสัมพันธ์กับตระกูลหลิน
ต่อให้เขาหนีก็ไม่มีทางรอดไปได้หรอก เมื่อเห็นชายร่างสูงสองคนพาตัว’ซูซินฉาง’ขึ้นรถจากไปทำให้’ซูเหมิงหาน’ยิ้มออกมา เธอยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออก
“เธอนี่แสดงเก่งจริงๆให้ตายสิ”
‘เย่เฟิง’ก็ยิ้มเช่นกันขณะที่โอบไหล่ของเธอ เขากล่าวชมการแสดงของเด็กสาว ถ้าเธอไม่เล่นบทโศกได้ดีเช่นนี้คงไม่ทำให้’ซูซินฉาง’เชื่อได้หรอก แล้วเรื่องก็คงไม่ราบรื่นขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม’เย่เฟิง’สามารถทำให้’ซูซินฉาง’เปิดเผยความจริงออกมาง่ายๆด้วย ‘การสะกดจิต’ เพียงแต่ผลข้างเคียงจะเกิดหากอีกฝ่ายขัดขืน
มันจะทำให้เกิดความเสียหายแก่สมองของคนที่โดนสะกดจิต แล้วถ้าหากใช้การสะกดจิตบ่อยครั้งอาจจะทำให้คนที่โดนกลายเป็นคนปัญญาอ่อนไปได้ ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นพ่อของ’ซูเหมิงหาน’เขาจึงไม่อยากเลือกใช้วิธีนี้เสียเท่าไหร่
อย่างที่’ซูเหมิงหาน’บอกไว้ เธอต้องการให้เรื่องนี้ไปขึ้นศาล ‘เย่เฟิง’ไม่รู้เกี่ยวกับมันเท่าไหร่ แต่ในเมื่อเขามาอยู่ในโลกปัจจุบันแล้วก็ได้แต่ตามใจเธอ ความรุนแรงไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาได้เสมอไป
“งั้นเหรอ?”
ใบหน้าของเด็กสาวแดงระเรื่อเพราะถูก’เย่เฟิง’กอด แต่เธอก็ไม่ได้พยายามขัดขืน แต่กอดชายหนุ่มกลับอย่างแนบแน่นกว่าเดิมแล้วกล่าว
“นี่ถ้าเขารู้ว่าฉันไม่ได้ติดยาไปจริงๆเขาจะไม่สงสัยเหรอ ฉันไม่อยากให้คนอื่นรู้ด้วยว่าฉันฝึกวิชาเซียนแบบนาย…”
สิ่งที่เธอพูดเป็นความจริงทุกอย่าง ตอนนี้ยังไม่มีวิธีรักษาคนจากยาตัวนั้นได้ ถ้าเรื่องที่’ซูเหมิงหาน’ไม่มีอาการติดยารั่วออกไปมันคงทำให้หลายๆฝ่ายเกิดความสงสัยแน่นอน
“หือ?”
ทันใดนั้น’ซูเหมิงหาน’ที่อยู่ในอ้อมกอดของ’เย่เฟิง’เห็นบางสิ่งและก้าวถอยออกไป
“เกิดอะไรขึ้น?”
‘เย่เฟิง’ถามด้วยความสงสัย
“เธอคนนั้นอีกแล้ว”
‘ซูเหมิงหาน’มองออกไปด้านนอกประตูบ้าน ‘เย่เฟิง’มองตายสายตาของเธอไป มันทำให้เขารู้สึกตะลึงทันที ‘หลงหวางเอ๋อ’? เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน? เขาเห็นเงาของใครบางคนยืนอยู่ตรงข้ามกับบ้านใต้ต้นไม้ใหญ่ เป็นร่างที่ดูคุ้นตาเหลือเกิน ‘หลงหวางเอ๋อ’ไม่ใช่หรือนั่น?
เวลานี้’หลงหวางเอ๋อ’ยืนอยู่อีกฝั่งของถนนขณะกอดอกเอาไว้ และกำลังจ้องมองมายังบ้านของ’เย่เฟิง’ ใบหน้างดงามอันละเอียดของเธอปรากฏความเศร้าโศกออกมา ตอนแรก’เย่เฟิง’แทบไม่เชื่อสายตาตนเองแต่หลังจากมองอย่างชัดเจนแล้ว มันทำให้หัวใจของเขารู้สึกเจ็บแปลบ
………………………
แปลโดยทีมงาน GSI
Solar Spark : เอาแล้วรถไฟชนกัน แนะนำให้ไปเรียนวิธีสับรางกับปรมาจารย์หยุนเช่อโดยด่วนเลยเย่เฟิง
ที่มา: