ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปที่ร้านกาแฟในตอนนี้ยังมีเรื่องสำคัญอีกหลายอย่างที่ต้องจัดการ ดังนั้น ‘เสี่ยวฉี’จึงไม่ได้ตามทั้งสองไปด้วย
“เขาน่าจะเล่นบาสอยู่ตอนนี้ เดี๋ยวพี่สาวจะพาไปแล้วกันนะ”
‘หลินชื่อฉิง’พูดด้วยรอยยิ้มขณะเดินออกมาจากร้านกับ’เย่เฟิง’ ในเมื่อแผนของเธอที่จะสร้างภาพลักษณ์ความเป็นพี่สาวลงไปในใจ’เย่เฟิง’ เป็นไปได้ด้วยดี ดังนั้น เธอต้องทำมันต่อไปจนจบ
ขณะเดียวกัน ‘เย่เฟิง’ที่เดินมากับ’หลินชื่อฉิง’รู้สึกว่าคุณหนูหลินคนนี้เป็นที่นิยมจริงๆ ตลอดทางที่พวกเขาเดินผ่านมา มีผู้คนมากมายเดินเข้ามาทัก’หลินชื่อฉิง’ซึ่งมีทั้งผู้ชายแล้วผู้หญิง ในฐานะประธานสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเหยียนจิง
ทักษะทางด้านผู้คนของเธอคนนี้จัดว่ายอดเยี่ยมอย่างมาก ซึ่งไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนก็มักจะเจอคนรู้จักและแวะเวียนเข้ามาทักทายอยู่เสมอ กลิ่นหอมอ่อนๆรอบตัวหญิงสาวยังคงลอยเข้ามาแตะจมูก’เย่เฟิง’ และขณะเดียวกัน แขนของหนุ่มสาวก็ได้สัมผัสกันอยู่บ่อยครั้ง
สิ่งเหล่านี้ทำให้เขารู้สึกสำราญใจ ซึ่งการที่ได้อยู่กับสาวสวยคนนี้ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นแฟนกับเธอ มันก็ยังคงมากพอที่จะทำให้ชายหนุ่มใดรู้สึกมีความสุข อาจบอกได้ว่าเสน่ห์ของ’หลินชื่อฉิง’นั้นมีมากจนน่าอัศจรรย์ใจ ซึ่งแม้แต่ชายหนุ่มที่จิตใจเข้มแข็งอย่าง’เย่เฟิง’ยังแทบควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ยามได้เดินอยู่ข้างสาวสวยคนนี้
เวลานี้ ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนเลือดในตัวเดือดพล่านพร้อมกับอารมณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในใจ หาก’เย่เฟิง’เป็นเพียงแค่ชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งในมหาลัยเหยียนจิงแล้ว อาจบอกได้ว่าเขาช่างเป็นคนที่โชคดีอย่างยิ่ง เพราะบางที แค่การได้พูดอะไรสักอย่างต่อหน้า’หลินชื่อฉิง’ยังถือเป็นเรื่องยากมากสำหรับคนทั่วไป
ไม่นาน พวกเขาทั้งคู่ก็มาถึงยังด้านข้างลานบาสเกตบอลของมหาลัยเหยียนจิง ในเวลาเช้าแบบนี้จะมีชายหนุ่มมากมายมาซ้อมบาสกันที่นี่ หยาดเหงื่อของพวกเขาที่หยดลงบนสนามแสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นและพละกำลังของคนหนุ่ม เมื่อมองไปยังฝูงชนที่แออัดอยู่ในสนามจากระยะไกล
‘เย่เฟิง’มองเห็นชายหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่งในชุดสเวตเชิตแขนสั้น ซึ่งในตอนนี้ เขาได้วิ่งหลบหลีกผู้เล่นคนอื่นอย่างพริ้วไหวก่อนจะกระโดดสแลมดั้งอย่างง่ายดาย
“เยี่ยมเลยพี่ไซ่”
กลุ่มของผู้คนตระโกนเชียร์เขา ‘นั่นน่ะหรอไซ่เชาหง?’
‘เย่เฟิง’คิดกับตัวเองในใจ เขาและ’หลินชื่อฉิง’ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ชายคนนั้นช้าๆ เมื่อเห็น’ไซ่เชาหง’ยิ้มอย่างเริงร่าขณะที่คนอื่นๆที่เหลือส่งเสียงเชียร์เขาอย่างออกหน้าออกตา นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาชนะเกมนี้แล้ว และกำลังจะพักยก ‘ไซ่เชาหง’นั้นสวมเสื้อและกางเกงกีฬาที่แสนจะธรรมดา
ขณะที่ชื่อของเขามีความหมายว่าเครื่องประดับซึ่งก็ไม่ได้สวมอยู่กับตัวเขาเลยสักชิ้น ถึงอย่างนั้น ชายคนนี้ก็ดูสดใส เยือกเย็น คล่องแคล่ว และมีเสน่ห์ เขาสูงเกือบ 190 cm ซึ่งรูปร่างของ’ไซ่เชาหง’นั้นแทบจะเรียกได้ว่าเพอร์เฟคเลยทีเดียว
ดังนั้น หากบอกว่า’หลินชื่อฉิง’ให้ความสนใจกับชายคนนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องน่าแปลกใจอันใดแม้แต่น้อย ทันใดนั้นท่ามกลางฝูงชนในสนาม ก็ปรากฏร่างที่คุ้นเคยขึ้นในสายตาของ’เย่เฟิง’ ชายคนนั้นคือ’หลินซิวเหวิน’ ซานเชาแห่งตระกูลหลิน
(ซานเชาคือบุตรชายคนที่สาม)
“ทำไมน้องชายของคุณถึงอยู่ที่นี่ล่ะ?”
ด้วยความงงงวย ‘เย่เฟิง’ถาม’หลินชื่อฉิง’ออกไปตามตรง
“น้องเย่เคยคุยกับซิวเหวินด้วยหรอ?”
หญิงสาวพูดด้วยรอยยิ้ม
“เขาสนิทกับเชาหงน่ะ แล้วก็ยังชื่นชมเชาหงเขาด้วย”
เมื่อ’เย่เฟิง’ได้ฟังดังนั้น เขาก็คิดในใจว่าเจ้าเด็กน้อยคนนี้เนี่ยนะ? ‘ไซ่เชาหง’มีอิทธิพลแค่ไหนกันถึงทำให้แม้แต่’หลินซิวเหวิน’แห่งตระกูลหลินที่แสนจะหยิ่งยโสคนนั้น ยอมรับในตัวเขาได้?
หลังจากจบเกม ‘ไซ่เชาหง’เดินมาที่ข้างสนามเพื่อพักผ่อนพร้อมกับเริ่มพูดคุยกับ’หลินซิวเหวิน’
“พี่ไซ่ เสี่ยวฉียังไม่ยอมรับผมเลย ผมควรทำยังไงดี?”
‘หลินซิวเหวิน’แสดงท่าทีถ่อมตัวขณะขอคำแนะนำจาก’ไซ่เชาหง’ เขาพูดต่อว่า
“ผมเพิ่งเคยเจอผู้หญิงแบบนี้เป็นครั้งแรกเลย เธอไม่ให้ราคากับผมสักนิด แล้วที่หนักกว่านั้น พี่สาวผมยังไม่ยอมช่วยผมเรื่องนี้ด้วย…..”
“ผู้ชายน่ะควรเข้มแข็งอยู่เสมอนะ แล้ว นายกลัวอะไรล่ะ?”
‘ไซ่เชาหง’ยิ้มอย่างผ่อนคลายก่อนจะวางมือลงบนบ่า’หลินซิวเหวิน’ และขณะที่เขายื่นนามบัตรให้’หลินซิวเหวิน’ ‘ไซ่เชาหง’ก็พูดว่า
“สำหรับเรื่องนี้ เอาไว้พูดคุยกันส่วนตัวทีหลังนะ ยังไงตอนนี้พี่สาวนายก็มาแล้ว ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอหน่อย”
น้ำเสียงของ’ไซ่เชาหง’เต็มไปด้วยพลังที่สามารถดึงดูดผู้หญิงได้ทุกรุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหญิงสาวร้อนรักที่มีอยู่มากมายในมหาลัยแห่งนี้ เมื่อปีก่อนที่เขาเพิ่งเข้ามาที่นี่ ในระหว่างการแข่งขันประกวดร้องเพลง เสียงร้องของ’ไซ่เชาหง’ได้กระแทกใจหญิงสาวมากมายจนทำให้พวกเธอแทบคลั่ง
และได้คว้าตำแหน่งชนะเลิศของมหาลัยมาครอบครอง หลังจากนั้นมา ดูเหมือนว่าเหตุการณ์นั้นจะทำให้เขาเป็นที่รู้จักไปทั่ว ชื่อของ’ไซ่เชาหง’ได้ถูกพูดถึงอยู่บ่อยครั้งในเว็บบอร์ดมหาลัย
และในไม่ถึงครึ่งปี สิ่งนี้ก็ทำให้เขากลายเป็นบุคคลโด่งดังในมหาลัย ซึ่งไม่ใช่เฉพาะกับเหล่านักศึกษาหญิงเท่านั้น เขาเป็นที่นิยมในหมู่นักศึกษาชายเช่นกัน ดังนั้น ไม่ว่าในมุมมองของใครคนใดก็ล้วนบอกได้ว่า’ไซ่เชาหง’คนนี้เป็นคนที่แทบจะสมบูรณ์แบบ
เวลานี้ เขาเงยหน้าขึ้นมองแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนเมื่อเห็น’หลินชื่อฉิง’เดินมาหาเขาพร้อมกับ’เย่เฟิง’ การปรากฏตัวของ’หลินชื่อฉิง’นั้นมากพอที่จะหยุดสายตาของชายหนุ่มแทบจะทุกคน พวกเขามองมาที่เธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเห็นหญิงสาวเดินมากับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง
คนนั้นเป็นใครกัน? ผู้คนมากมายเริ่มคาดเดาตัวตนของ’เย่เฟิง’ และในขณะเดียวกัน พวกเขาก็มองมายัง’ไซ่เชาหง’อย่างอยากรู้อยากเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างคนทั้งสาม
“พี่หลิน พี่มาแล้วหรอ”
‘หลินซิวเหวิน’ดีใจอย่างยิ่ง ซึ่งเขาได้ซ่อนนามบัตรที่ได้จาก’ไซ่เชาหง’ก่อนจะวิ่งไปหาพี่สาวของเขาพร้อมกับโบกมือให้ บนข้อมือของชายหนุ่ม นาฬิกาข้อมือ Patek Philippe platinum ส่องสว่างจ้าเมื่อปะทะกับแสงแดดยามเช้า แค่นาฬิกาข้อมือเรือนนั้นก็แสดงออกถึงความร่ำรวยอันมหาศาลที่คนทั่วไปไม่มีโอกาสได้สัมผัสตลอดช่วงชีวิตของพวกเขา
(Patek Philippe platinum รุ่นนี้มีจริงนะครับ ผมลองไปส่องราคามา ประมาณ4ล้านเหรียญ หรือเกือบ140ล้านบาท)
เมื่อเห็น’หลินชื่อฉิง’เดินมากับ’เย่เฟิง’ ใบหน้าของ’หลินซิวเหวิน’ก็พลันมืดครึ้มลงในทันที
“พี่หลิน พี่มากับมันได้ไงเนี่ย?”
“อย่าพูดอย่างนั้นสิซิวเหวิน”
‘หลินชื่อฉิง’ยิ้มขณะยกมือที่ขาวเนียนขึ้นสางเรือนผมอันสวยงามของเธอเบาๆ ก่อนจะวางมือบนไหล่’เย่เฟิง’
“น้องเย่น่ะเป็นคนดีมากนะ ถ้าวันหลังเธอพยายามจะรังแกเขาอีก พี่สาวคนนี้จะไม่ยอมพูดกับเธอเลย เข้าใจไหม?”
เมื่อ’หลินซิวเหวิน’ได้ยินดังนั้น เขาก็มองมายัง’เย่เฟิง’อย่างไม่เป็นมิตรแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่พยายามสื่อความหมายทางสายตา ‘ไอ้บัดซบ แกกล้าแย่งพี่สาวไปจากฉันงั้นหรอ?’
ได้เห็นสายตาแบบนั้น ‘เย่เฟิง’ก็พลันขมวดคิ้วขณะคิดในใจ ‘เจ้าหมอนี่อารมณ์เสียเพราะไม่อยากให้เรามาเป็นพี่เขยมัน หรือเพราะกลัวว่าเราจะแย่งพี่สาวมันไปกัน? อารมณ์ของเจ้าหนุ่มเพลย์บอยคนนี้ช่างเข้าใจยากจริงๆ
“ชื่อฉิง เธอจะไม่แนะนำพวกเราหน่อยหรอ?”
‘ไซ่เชาหง’ยิ้มอย่างแจ่มใส เขาพูดขณะมองมายัง’เย่เฟิง’ด้วยความสนใจ
“น้องเย่ คนนี้คือเชาหงนะ”
หญิงสาวพูดด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะแนะนำ’เย่เฟิง’ต่อ
“ส่วนนี่คือเย่เฟิง หลานชายเพื่อนสนิทของปู่ฉันเอง และเขาถือว่าฉันเป็นพี่สาวของเขา”
ใบหน้าของ’เย่เฟิง’พลันเปลี่ยนเป็นมืดมนขณะคิดในใจ ‘บ้าสิ ฉันถือว่าเธอเป็นพี่สาวตั้งแต่เมื่อไหร่?’ แน่นอนว่าชายหนุ่มไม่ได้พูดปฏิเสธออกไป เพราะถึงอย่างไร เวลานี้เขาสนใจเพียงเรื่องของ’ไซ่เชาหง’เท่านั้น ช่างน่าตกใจที่ฝ่ายนั้นก็มองเขากลับมาเช่นกัน เมื่อทั้งสองคนได้จ้องมองกันและกัน
‘เย่เฟิง’พยายามค้นหาบางอย่าง แต่ชายหนุ่มก็ไม่พบอะไรที่เป็นประโยชน์กับเขาเลย
“สวัสดีนะ ฉันชื่อไซ่เชาหง”
ชายหนุ่มรูปหล่อพูดขณะยิ้มให้อย่างสุภาพ รอยยิ้มของเขาดูสดใสยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ ซึ่งชัดเจนว่าชายคนนี้คู่ควรกับตำแหน่งคนดังในมหาลัยอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะแม้จะได้เจอกับคู่แข่งทางด้านความรัก เขาก็ยังคงมีท่าทีสงบ และเต็มไปด้วยความสุภาพ
“ผมเย่เฟิง”
‘เย่เฟิง’ยิ้มตอบแต่ไม่ได้พูดอะไรมาก ตอนนี้ เขาเพิ่งแค่อยากแน่ใจว่า’ไซ่เชาหง’คนนี้เป็นคนเดียวกันกับ’ไซ่เชา’จากองค์กรลึกลับหรือไม่ และเพื่อให้ความต้องการของเขาสำเร็จลุล่วง แน่นอนว่า’เย่เฟิง’ย่อมไม่แสดงอะไรให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ตัว ชายหนุ่มตัดสินใจลับๆว่าเขาจะใช้แผนสะกดรอยโดยอาศัยทักษะอำพรางของเขาเพื่อเปลียนรูปลักษณ์ภายนอก
และด้วยทักษะนี้ การติดตามใครสักคนจะเป็นเรื่องง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ในเมื่อสุดท้าย ‘เย่เฟิง’ก็เห็นแล้วว่า’ไซ่เชาหง’มีหน้าตาอย่างไร ดังนั้นตอนนี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีก
“เอาละครับ ในเมื่อตอนนี้พวกเราก็ได้รู้จักกันแล้ว เพราะงั้นก็เชิญพูดคุยกันต่อตามสบายนะครับ ผมขอตัวกลับไปที่โรงเรียนก่อน”
‘เย่เฟิง’ยิ้มขณะโบกมือ จากนั้น เขาก็หันตัวเดินจากไปทันที ‘หลินชื่อฉิง’ช้าเกินไปที่จะหยุด’เย่เฟิง’ไว้ เพราะเขาได้เดินออกไปจากสนามบาสแล้ว หญิงสาวรู้สึกแปลกใจที่ทำไมเธอถึงมักรู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้ดูแปลกๆอยู่ตลอดเวลา
“น้องเย่ เดี๋ยวพี่ไปส่งนะ”
‘หลินชื่อฉิง’พูดขณะพยายามหยุดเขาไว้
“ไม่ต้องหรอกครับ ระยะทางจากที่นี่ไม่ไกลเท่าไหร่”
‘เย่เฟิง’เดินต่อไปโดยไม่หันกลับมามอง และหลังจากเดินเลี้ยวไปสองโค้ง ชายหนุ่มก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ‘หลินชื่อฉิง’ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ แต่ทันใดนั้น เธอก็นึกถึงบางอย่างได้จึงหันหน้ามาหา’ไซ่เชาหง’ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“อ้า จริงสิ เมื่อสองวันก่อน เรื่องทุนการศึกษาของนักเรียนแลกเปลี่ยนพวกนั้นได้จัดการรึยังหรอ?”
“เรียบร้อย”
‘ไซ่เชาหง’ยิ้ม
“ฉันช่วยจ่ายค่าเทอมให้พวกเขาเป็นการส่วนตัวแล้ว การที่พวกเขาไม่ได้ทุนการศึกษาทั้งที่ยื่นใบสมัครไปแล้วก็ทำให้รู้ว่าการจัดการเรื่องนี้ของมหาลัยยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ พวกเราคงต้องขอความเห็นของประธานนักศึกษา……..”
…………..
ไม่มีใครรู้ว่าเวลานี้ ‘เย่เฟิง’กำลังมองมายังพวกเขาจากที่ห่างไกล ด้วยทักษะอำพรางของเขาทำให้ในสายตาของคนอื่น ‘เย่เฟิง’ดูไม่ต่างอะไรกับนักศึกษาชายธรรมดาคนหนึ่งที่กำลังเดินกลับไปยังข้างสนามบาสอีกครั้ง
‘เย่เฟิง’นั้นตั้งใจจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกไปเรื่อยๆ ซึ่งเขาจะใช้ทักษะอำพรางนี้ ตามสะกดรอยตาม’ไซ่เชาหง’ตลอดทั้งวัน!
………………………
แปลโดยทีมงาน GSI
ที่มา: