ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปอำนาจของรังสีกระบี่ชี่สีฟ้าน้ำแข็งนั้นไม่ใช่ธรรมดา
เดิมที่อำนาจการทะลุทะลวงของกระบี่เจินชี่สีแดงนั้น เทียบได้กับกระสุนปืนทั่วไป ส่วนกระบี่เจินชี่สีแสดนั้นรุนแรงกว่าสีแดงเป็นเท่าตัว อย่างไรก็ตาม สำหรับรังสีกระบี่ชี่สีฟ้าน้ำแข็งนั้น หากเทียบกับทั้งสองสีก่อนหน้านี้แล้ว ความรุนแรงของมันสูงยิ่งกว่านับ 10 เท่า!
แต่ทักษะนี้คือการควบแน่นเจินชี่ปริมาณมหาศาลทั่วร่างมาใช้ในชั่วพริบตา
และด้วยระดับวรยุทธ์ของ’เย่เฟิง’ในตอนนี้ หากเขาใช้ทักษะนี้ออกไปละก็ เจินชี่ทั่วร่างของเขาก็แทบจะแห้งเหือดไปในทันที ซึ่งหลังจากนั้น แม้แต่กระคงสภาพกระบี่เจินชี่เอาไว้ หรือใช้ทักษะย่างก้าวไร้เงาแค่ครั้งเดียว ก็ถือเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับเขา
อำนาจกระทะลุทะลวงของรังสีกระบี่ได้เจาะทะลุหัวของตัวประหลาดระดับสูงไปในทีเดียว จนมันแตกกระจายเป็นชิ้นๆ จากนั้น มันได้ทะลวงต่อไปเข้าหา’ไซ่เชาหง’!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับรังสีกระบี่ชี่ที่ใกล้เข้ามา รูม่านตาของ’ไซ่เชาหง’ก็พลันแคบลง
เขาไม่เคยคิดว่า’เย่เฟิง’จะสามารถปลดปล่อยพลังชี่ภายในออกมาใช้นอกร่างกายได้ นี่มันรังสีกระบี่ชี่!
‘ไซ่เชาหง’เป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไป ชัดเจนว่าเขาไม่อาจตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้เลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม ในชั่วพริบตาก่อนตาย สีหน้าที่หลากหลายก็แสดงออกมาบนใบหน้าของชายหนุ่ม
‘ไซ่เชาหง’คิดไปถึงตอนที่เขายังอยู่ที่อเมริกา พ่อของเขาคือประธานบริษัทเผ่ยเขิงกรุ๊ป ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็ตาม ก็จะได้รับความเคารพจากคนรอบข้าง นอกจากนี้ ชายหนุ่มยังถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่ยอดเยี่ยมในสายตาของคนทั่วไปมากมาย มีคนใหญ่คนโตในกองทัพมักจะเชิญชวนเขาไปทานอาหารเย็นร่วมกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่ง’ไซ่เชาหง’ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนพวกนั้น
เมื่อเขามายังประเทศจีน ด้วยประวัติการศึกษาอันยอดเยี่ยม และความมีเสน่ห์ต่อผู้คนโดยธรรมชาติ ‘ไซ่เชาหง’ประสบความสำเร็จในสิ่งต่างๆมากมาย และสามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากมาที่เขาได้
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ชายหนุ่มได้เปิดเผยความทะเยอทะยานที่สูงส่งอันนับไม่ถ้วนแก่พ่อของเขา เมื่อมาถึงที่ประเทศจีน ด้วยการลงมือที่รอบคอบและมั่นคงตลอด 1 ปี เวลาเก็บเกี่ยวของเขาก็มาถึง
แต่เขากลับถูกขัดขวางแผนการ เพราะ’เย่เฟิง’และชายสวมหน้ากาก!
ด้วยความสันพันธ์อันน่าตกใจระหว่าง’เย่เฟิง’และตระกูลหลิน รวมทั้งข่าวลือเรื่องคู่หมั้นของ’เย่เฟิง’คือ’หลินชื่อฉิง’ ทั้งสองสิ่งนี้ส่งผลอย่างร้ายแรงต่อแผนที่วางเอาไว้ของ’ไซ่เชาหง’ มันทำให้เขาต้องยืดเวลาแผนการออกไปอีก แต่เมื่อชายสวมหน้ากากลงมือสังหาร’ซ่งหู่’ ‘ตู้ปางหลง’ และเหล่ามือดีมากมายที่เขาอุตส่าห์ฟูมฟักมาอย่างดีตลอดหนึ่งปี ชายหนุ่มก็รู้สึกโมโหอย่างมาก มันทำให้เขาต้องเร่งสร้างกลยุทธ์ขึ้นมาใหม่ ซึ่งใช้พลังงานสมองไปไม่น้อย
เพราะสิ่งเหล่านี้ ชายหนุ่มถูกใครบางคนก่อกวนแผนการจนยุ่งเหยิงไปหมด เขาจึงจำเป็นต้องว่าจ้างใครบางคนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าชายสวมหน้ากากมาจัดการ……
‘ไซ่เชาหง’รู้ว่าที่ประเทศจีนแห่งนี้ มีผู้ฝึกยุทธ์ที่เชี่ยวชาญมากมาย ซึ่งก็มีบางส่วนที่เขาได้ว่าจ้างมาเช่นกัน แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าชายหนุ่มสวมหน้ากากที่ดูกระจอกเช่นนี้ จะแข็งแกร่งถึงขนาดปลดปล่อยพลังชี่ภายในออกมานอกร่างกายได้
ฉึก!
รังสีกระบี่ชี่พุ่งทะลุตัดขั้วหัวใจของ’ไซ่เชาหง’
ทันใดนั้น เลือดสดๆก็สาดกระจายออกมา พร้อมกับร่างที่ร่วงลงไปบนพื้นดัง “ปัง”
“กริ๊ดดด!”
ขณะที่อีกด้านหนึ่ง เมื่อ’เสี่ยวฉี’เห็นเลือดสดๆที่สาดกระเซ็น เธออดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา จากนั้นก็สลบไป
‘เย่เฟิง’ไม่มีเวลามาสนใจอาการของหญิงสาว สายตาของเขารีบกวาดไปมองตัวประหลาดระดับสูงอีก 4 ตัวที่เหลือ แต่ทันใดนั้น เขาก็พบว่าพวกมันไม่มีการเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย ร่างของพวกมันนิ่งไม่ไหวติ่งราวกับเสียการควบคุมไป
น่าแปลกจริงๆ
‘เย่เฟิง’เดินไปยังร่างของ’ไซ่เชาหง’ที่นอนอยู่บนพื้น และพบรีโมตควบคุมในกระเป๋าเสื้อของมัน แต่เพราะรังสีกระบี่ชี่ของเขา มันจึงพังไปแล้ว ชายหนุ่มเชื่อว่าเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ต้องเป็นสิ่งควบคุมเจ้าตัวประหลาดพวกนั้นแน่
ถึงอย่างนั้น’ เย่เฟิง’รู้สึกขี้เกียจเกินกว่ามานั่งสนใจอุปกรณ์ไฮเทคชิ้นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่มีความสามารถพอจะตรวจสอบของสิ่งนี้ด้วยตัวเองได้
ทันใดนั้น ‘เย่เฟิง’รู้สึกถึงการสั่นไหวของไหวิญญาณสีดำในกระเป๋าเสื้อของเขา เมื่อล้วนมันออกมา ชายหนุ่มมองเห็นควันสีน้ำเงินลอยออกมาจากร่างของ’ไซ่เชาหง’ และไหลเข้าไปในไหวิญญาณในทันที
“เจ้านี่มันดูดวิญญาณแบบอัตโนมัติเลยงั้นหรอ?”
‘เย่เฟิง’รู้สึกแปลกใจ ถึงอย่างนั้น เขาไม่ได้ใช้มันอัญเชิญศพเดินได้ออกมา แน่นอนว่าเจ้าสิ่งนี่มันแทบจะไร้ประโยชน์สำหรับเขาเลย
เมื่อไหวิญญาณได้ดูดวิญญาณของ’ไซ่เชาหง’เข้าไปแล้ว มันก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรออกมาอีก
‘ถึงแม้วิญญาณของไซ่เชาหงจะไม่ได้มีความสำคัญกับเราเท่าไหร่ แต่ไว้เรามีวรยุทธ์ระดับ 10 ปีเมื่อไหร่ เราจะเอามันออกมาลวงคอถามเรื่องสำคัญสักหน่อย…..’
‘เย่เฟิง’คิดในใจก่อนจะเก็บไหวิญญาณเข้าไปในกระเป๋าเสื้อดังเดิม
เขาหันไปมอง’เสี่ยวฉี’ที่ถูกห้อยแขนทั้งสองข้างและถูกมัดปากเอาไว้ ชายหนุ่มวาดกระบี่ในมือตัดเชือกที่ผูกหญิงสาวเอาไว้ ทำให้ร่างเล็กๆของเธอร่วงลงมาเบาๆ
‘เราช่วยเธอคนนี้ไว้สองครั้งแล้วสิ แต่จริงๆก็เป็นแค่ความบังเอิญเท่านั้น’
‘เย่เฟิง’คิดในใจและปล่อยหญิงสาวเอาไว้แบบนี้
เวลานี้ สิ่งเดียวที่เขาสนใจคือพลังงานวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่มีกลิ่นอายรั่วไหลออกมาจากห้องลับในห้องใต้ดินแห่งนี้ ด้วยพลังนั่นมันอาจเพิ่มระดับวรยุทธ์ของเขาได้ถึง 5 ปีในทีเดียว!
‘เย่เฟิง’ยังคงมีเจินชี่หลงเหลืออยู่ในร่างเล็กน้อย ดังนั้น เขาจึงควบแน่นให้กลายเป็นกระบี่ออกมา ชายหนุ่มรีบเดินไปยังกำแพงอย่างไม่คิดให้มากความ แล้วใช้กระบี่ตัดกำแพงให้เป็นช่องที่พอจะให้คนเดินเข้าไปด้านในได้
ทันใดนั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงอำนาจแห่งพลังวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อันล้นเหลือที่อยู่ไม่ห่างจากตัวเขา
‘นี่มันอะไรกัน?’
‘เย่เฟิง’ผงะถอยหลังไปเล็กน้อยกับแรงกดดันอันหนาแน่น แต่เขาก็ไม่รีรออะไรอีกแล้วรีบเข้าไปในห้องลับอย่างรวดเร็ว
ทางเข้าห้องลับแห่งนี้ เดิมทีถูกตั้งรหัสเอาไว้ แต่ในเมื่อ’เย่เฟิง’สามารถรับรู้ถึงกลิ่นอายของพลังนี้ได้ ดังนั้น ไม่ว่าห้องลับจะถูกซ่อนเร้นไว้อย่างไร มันก็ไม่อาจรอดพ้นสัมผัสของเขาไปได้ บางที ผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปของโลกใบนี้อาจจะไม่สามารถรับรู้ถึงพลังนี้ได้ แต่สำหรับผู้ฝึกวรยุทธ์วิถีเซียนอย่าง’เย่เฟิง’แล้ว พลังวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับหิ่งห้อยยามค่ำคืนที่เขาไม่มีทางมองข้ามมันไปได้อย่างเด็ดขาด
ห้องลับแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 100 ตารางฟุต กำแพงรอบๆห้องถูกทาด้วยสีขาวทำให้ห้องดูค่อนข้างกว้างขวาง ที่นี่มีกล่องเหล็กที่ถูกตั้งรหัสวางไว้มากมายที่มุมห้อง พวกมันทำให้ผู้ที่ได้เห็นรู้สึกสงสัยว่าจะมีสิ่งใดที่ใส่เอาข้างใน
แต่ทันใดนั้น หัวใจของ’เย่เฟิง’ก็พลันเต้นรัวเมื่อรู้สึกได้ถึงบางสิ่ง เขาสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่เล็ดลอดออกมาจากกล่องใบหนึ่งซึ่งถูกตั้งรหัสไว้!
ชายหนุ่มก้าวไปยังกล่องใบนั้นแล้วกวัดแกว่งกระบี่ในมือเพื่อเปิดมันออกมาอย่างระมัดระวัง
หลังจากเปิดฝากล่องเหล็กออกมาได้ มันไม่ได้มีสิ่งใดที่ดูผิดปกติซึ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกโล่งใจ
เขาหยิบมันเข้ามาใกล้ๆแล้วมองเข้าไปข้างใน ชายหนุ่มมองเห็นหินก้อนหนึ่งที่มีขนาดเท่ากับกำปั้น ลวดลายที่ผิวของมันแลดูแปลกประหลาด ทั้งยังดูโปร่งแสงและมีสีเขียวใส มีพลังวิญญาณรั่วไหลออกมาจากเจ้าของสิ่งนี้แบบไม่จบไม่สิ้น
นี่มัน….ลูกปัดสวรรค์!
หัวใจของ’เย่เฟิง’พ่องโตขึ้นทันที!
ในโลกเทวะ สมบัติสวรรค์ที่สามารถเพิ่มระดับวรยุทธ์ให้แก่ผู้ฝึกวรยุทธ์นั้น มีเหลืออยู่ไม่มากในปัจจุบัน ส่วนของที่สมบัติทั่วไปที่สามารถหาได้ไม่ยาก จะสามารถเพิ่มระดับให้แก่ผู้ใช้ได้เพียงครั้งแรกที่ใช้เท่านั้น ลูกปัดสวรรค์ลูกนี้ถือว่าเป็นสมบัติสวรรค์ชั้นยอดในกลุ่มพวกนั้นอย่างแท้จริง!
ที่โลกเทวะนั้น แม้แต่ตระกูลโม่ซึ่งเป็นตระกูลใหญ่ในโลกแห่งนั้น ก็ยังไม่มีโอกาสได้ยลโฉมสมบัติสวรรค์เลยแม้แต่อันเดียว หากข่าวเรื่องลูกปัดสวรรค์ปรากฏขึ้นมาที่โลกแห่งนั้น ผู้คนมากมายโดยเฉพาะพวกเฒ่าประหลาดที่มีระดับวรยุทธ์มากกว่า 100 ปี คงได้ตามหากันจนแทบพลิกแผ่นดิน
เหตุผลหลักเป็นเพราะว่าเจ้าลูกปัดสวรรค์อันนี้ สามารถเพิ่มระดับวรยุทธ์ของผู้ใช้ได้ถึง 5 ปีในทีเดียว
ระดับวรยุทธ์ที่เพิ่มขึ้นมา 5 ปีนั้น ไม่ถือว่าน้อยเลย เพราะอายุขัยของมนุษย์นั้นมีจำกัด หากมีโอกาสได้เพิ่มวรยุทธ์ขึ้น 5 ปีในแค่ไม่กี่นาที จะมีใครคนใดไม่ปรารถนากัน?
“ทีนี้ เราจะได้มีวรยุทธ์ระดับ 10 ปีเสียที”
‘เย่เฟิง’รู้สึกตื่นเต้นไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ ดูเหมือนว่านี้เขาจะโชคดีมากจริงๆ
ถึงแม้จะดูน่าเหลือเชื่อที่’ไซ่เชาหง’มีของล้ำค่าแบบนี้อยู่ด้วย แต่ในเมื่อลูกปัดเม็ดนี้ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาแล้ว ‘เย่เฟิง’ก็คงไม่อาจไม่เชื่อได้อีก
หากเขาต้องการรู้เบื้องหลังทั้งหมด ‘เย่เฟิง’เพียงแค่ดูดซับของสิ่งนี้ แล้วหลังจากนั้น เขาจะสามารถใช้ทักษะชุมนุมวิญญาณ และลากวิญญาณของ’ไซ่เชาหง’จากไหวิญญาณออกมาถามรายละเอียดทั้งหมดได้
‘เย่เฟิง’พยายามยับยั้งความตื่นเต้นในใจ เพราะชายหนุ่มรู้ว่าเวลานี้เขายังมีเรื่องอื่นต้องทำอยู่อีก
แต่ทันใดนั้น ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมากจากด้านหลัง
“เสี่ยวฉี!”
น้ำเสียงหวานใสของ’หลินชื่อฉิง’ดังมาจากภายนอก ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าอย่างเป็นจังหวะของคนกลุ่มหนึ่ง ไม่นาน ชายหนุ่มก็ถูกคนพวกนั้นปิดทางเข้าออกห้องแห่งนี้ทำให้’เย่เฟิง’ติดกับอยู่ข้างใน
ฉึก!
เสียงลูกกระสุนเจาะผ่านบางสิ่งดังขึ้นอย่างชัดเจน
ตั้งแต่ที่’เย่เฟิง’ใช้งานเจินชี่ภายในร่างไปหมดสิ้น เขาก็ไม่อาจหลบหนีลูกกระสุนได้ทัน ทันใดนั้น ชายหนุ่มก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ต้นขาข้างขวา เลือดของเขาหลั่งไหลออกมาจากรูโหว่ขนาดใหญ่ที่ต้นขา และในเวลาเดียวกัน กระสุนลูกนี้ได้ส่งผลประหลาดบางอย่างต่อเส้นลมปราณที่ขาข้างขวาของเขา
นี่มันปืนอะไรกัน? ทำไมมันถึงได้รุนแรงแบบนี้?
‘เย่เฟิง’คุกเข่าลงข้างหนึ่งแล้วรีบหันกลับไปมองด้านหลัง!
…………………………………
แปลโดย Solar Spark
Solar Spark: ค้างได้ทุกตอนจริมๆ
ที่มา :