I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 89 – ถึงตาของพวกเจ้า

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

” วันนี้ ใครที่ทำร้ายตะกูลชูของข้า มันผู้นั้นจะต้องตาย!!! “

เสียงของ ‘ชูเฟิง’ ฟังดูทรงพลัง คำพูดที่ปล่อยออกมามันซึมลงไปถึงวิญญาณ เกือบทุกคนที่ได้ยินประโยคนั้นรู้สึกหนาวไปถึงกระดูก แม้แต่ตะกูล ชู ก็เช่นกันเด็กหนุ่มด้านหน้า ช่างน่ากลัวยิ่งนัก

ร่างกายของเขาที่อาบไปด้วยโลหิตอีกทั้งปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงออกมาอยู่ตลอดเวลา บอกได้เลยว่าเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้เหมือนกับปีศาจ ที่ฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา

” เจ้าเป็นใคร ? “

ผู้นำตะกูล สู่ ตะโกนออกมาเสียงดัง ซึงนั่นเป็นคำถามที่ทุกคนอยากจะรู้ดูจากเสื้อผ้าของเขา บอกได้เลยว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ เป็น สาวกหลัก ของโรงเรียนมังกรฟ้า นอกจากเครื่องหมายแล้ว ยังมีอะไรหลายๆอย่างที่บ่งบอกว่าเขาคือศิษย์โรงเรียนมังกรฟ้า

อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ เลือดอาบทุกส่วนบนร่างกายของ ‘ชูเฟิง’ แม้แต่หน้าของเขาก็ด้วย ทุกคนจึงไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้คือใคร รู้อย่างเดียวว่าเขาเรียกตัวเองว่า คนตะกูล ชู

ดังนั้นเป็นปกติที่พวกเขาจะทำอะไรไม่ถูกพวกเขาไม่รู้ว่า ตะกูล ชู มีเด็กหนุ่มเช่นเขาอยู่ได้ยังไง แม้แต่ตะกูล ชู เองก็ยังไม่รู้ว่าลูกหลานของเขาเป็นสาวกหลักกันตั้งแต่เมื่อไหร่

” ข้า ชูเฟิง แห่งตะกูล ชู!!! “

‘ชูเฟิง’ตอบเสียงดัง

” อะไรนะ ชูเฟิงงั้นหรอ ? “

” นั้น เฟิงเอ๋อ ? ! ! ! ! ! “

เมื่อได้ยินเขาประกาศนามออกมา ทุกคนในที่นี่ก็โวยวายกันใหญ่ชื่อของ ‘ชูเฟิง’ ภายในหนึ่งร้อยลี้รอบๆภูเขา กล่าวได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักเขาแต่ก่อนหน้านี้ที่พวกเขารู้ ‘ชูเฟิง’ ก็แค่เด็กหนุ่ม อายุ 15 อยู่อาณาจักรห้วงวิญญาณระดับ 6 แล้วทำไมถึงได้เป็นศิษย์หลักไปได้ ?

อีกทั้งยังฆ่าผู้เชี่ยวชาญระดับ 8 ห้วงวิญญาณแม้ว่าพวกเขาแทบไม่อยากจะเชื่อ ที่จากที่ดูเหตุการณ์ที่ผ่านมา พวกเขาก็พบว่าเด็กคนนี้น่าสะถึงกลัวจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น รูปร่าง หน้าผม หากดูดีๆ ก็คล้าย ‘ชูเฟิง’ จริงๆที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ‘ชูเฟิง’ เป็นศิษย์ของโรงเรียนมังกรฟ้า

หากมีลูกหลานที่เป็นสาวกหลักปรากฏตัวในตะกูล ชู นับได้ว่า ชูเฟิง คือความหวังของตะกูลมากที่สุด ณ ตอนนี้

” เป็นเจ้าใช่มั้ยไอ้เจ้าปีศาจที่ทำร้ายหลายชายข้า สู่ เทียนอี้ ? “

ผู้นำตะกูล สู่ ถาม

“ก็ความสามารถของเขามันด้อยกว่าข้า จะมาแตะต้องข้าได้ยังไง โชคดีที่ข้าไม่ฆ่ามันตั้งแต่ตอนนั้น “

‘ชูเฟิง’กล่าวอย่างไม่เกรงกลัว

” เจ้า…….!!!!!!!  “

ผู้นำของตะกูล สู่ โกรธอย่างมาก ขณะนั้นเขาต้องการจะเข้าไปฆ่าชูเฟิงแต่ก่อนที่เขาจะลงมือ เขาก็ถูกผู้นำตะกูล หวัง และ ตะกูล ม่า หยุดไว้ พวกเขาทั้งสองกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

” ท่านเห็นสิ่งที่อยู่ในมือเขาหรือป่าว หรือว่าท่านตาบอด นั้นเป็นเครื่องหมายมังกรฟ้านะ!!! “

” แล้วยังไง ? ไอ้เจ้านี้มันทำร้ายหลานชายของข้า ขณะนี้เขายังลุกออกจากเตียงไม่ได้เลย จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่สามารถเดินได้ เขานั้นหมดหนทางที่จะฝึก ยุทธใดๆพลังวิญญาณก็สุญสิ้นเหมือนคนพิการ วันนี้ข้าต้องฆ่ามันล้างแค้นให้หลายชายข้าให้ได้”

ผู้นำตะกูล สู่ กล่าวด้วยความเกรี้ยวกราด

“ท่านจะบ้าไปแล้วหรอ นั้นมันผ้าคลุมสัญลักษณ์โรงเรียนมังกรฟ้านะ!!! การมีเครื่องหมาย ก็คือ ได้รับการปกป้องจากโรงเรียนมังกรฟ้า หากท่านกล้าแตะต้องเขา ไม่เพียงแค่ท่าน แม้แต่พวกเราสองตะกูลก็จะตกที่นั่งลำบากไปด้วย “

สองตะกูล ม่า หวัง แสนจะหวาดกลัว พวกเขาไม่ได้กลัวตะกูล ชู แต่อย่างใด หากแต่พวกเขาต้องกลัวโรงเรียนมังกรฟ้า แม้วาโรงเรียนจะเป็นแค่อันดับสองของเขต มังกรฟ้า แต่พวกเขานับได้ว่าเป็นขุมพลังขนาดใหญ่

โรงเรียนมังกรฟ้านั้นไม่จำเป็นต้องส่งทัพใหญ่ออกมาจัดการพวกเขา แค่เหล่าอาวุโสเพียงไม่กี่คน ตะกูลของพวกเขาจะถูกบดขยี้จนไม่เหลือซาก แล้วจะกล้ามีใครตอแยหรือขัดใจเขา

” เจ้าสองคนบ้าไปแล้วหรอ ตอนนี้พวกเราหันหลังกลับไม่ได้แล้ว เจ้าดูสิ่งที่เราทำกับพวกเขาสิคิดว่าเขาจะปล่อยเราไปงั้นหรอ ? “

” ตอนนี้ เราถอยไม่ได้แล้ว เราต้องฆ่า ชูเฟิง ให้ได้ ต้อให้เราไม่ฆ่าเขา โรงเรียนมังกรฟ้าก็ไม่ปล่อยพวกเรารอดไปได้อยู่ดี “

” ถ้าหากเราฆ่ามันแล้ว ปิดข่าวไม่ให้โรงเรียนมังกรฟ้ารู้ เรายังสามารถถูๆไถๆไปได้ แต่หากเราปล่อยเขาไว้ ข่าวนี้จะไปถึงหูโรงเรียนมังกรฟ้าอย่างรวดเร็ว ถึงตอนนั้นพวกเราจะไม่เหลืออะไร “

ผู้นำตะกูล สู่ กล่าวอย่างจริงจังได้ยินเช่นนั้น ผู้นำสองตะกูลจมสูู่ห้วงแห่งความคิด ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจว่า ผู้นำตะกูล สู่ กล่าวได้ถูกต้อง พวกเขาลงมือกับตะกูล ชู ขนาดนี้ มีหรือตะกูล ชู จะไม่ใช้โรงเรียนมังกรฟ้ามาฆ่าล้างบางพวกเขา

พวกเขาจนหนทาง เหลือแต่ทางนี้เท่านั้นที่ยังพอจะเป็นความหวัง หากพวกเขาปล่อยเขารอดไปได้ มีแค่ความตายเท่านั้นที่รอตะกูลของพวกเขา

” ลูกเฟิง!!! หนีไป ทิ้งเราไว้ !!! “

เห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี ‘ชู หยวน’ ตะโกนออกมาเสียงดัง

ตะกูล สู่ ตะกูล ม่า และ ตะกูลหวัง เตรียมปิดทางหนีทีไล่ ของ ‘ชูเฟิง’ พวกเขาส่งผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรกำเนิดวิญญาณออกมาเพื่อโจมตี ‘ชูเฟิง’

* ตึก ตึก ตึก*

ในตอนนั้นไม่เพียงแต่ ‘ชูเฟิง’ จะไม่หนี แต่เขาก้าวออกมา ขณะที่ใบหน้าอาบไปด้วยเลือดพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนจะมั่นใจ แล้วกล่าว

” ข้าบอกแล้ว ว่าใครที่ทำร้ายตะกูลชูของข้า มันผู้นั้นจะต้องตา. . . .  “

* พรึบบ *

ก่อนที่เขาจะพูดจบ ลมพัดขึ้นใต้เท้าทำให้’ชูเฟิง’หายไป

” เฮื้อ ~ “

ในขณะที่ ‘ชูเฟิง’ หายตัวไป ก็มีเสียงคนหลายคนร้องออกมาจากสนามที่พักของตะกูล เมื่อมองไปพวกเขาก็พบว่าคนตะกูล สู่ ถูก’ชูเฟิงฆ่า’ เด็ดศีรษะ!!!

* พรึบ *

‘ชูเฟิง’ได้หายตัวไปอีกครั้ง ต่อจากนั้นก็มีผู้คนจากตะกูลต่างๆก็ถูกฆ่าตายภายในพริบตา เหมือนกับการฆ่าล้างเผ่าพันธ์

” บัดซบ . . . . จับมันไว้แล้วฆ่ามันให้ได้!!! “

ตอนนั้น ผู้นำตะกูล สู่ ตะโกนออกมาแล้ววิ่งเข้าใส่ ‘ชูเฟิง’อย่างรวดเร็ว ขณะที่ ผู้นำของ ตะกูล หวัง และ ตะกูล ม่า ตามมาติดๆ

ตอนนั้น ‘ชู หยวนบ้า’ ‘ชู หยวน’ และ คนอื่นๆ ถูกตรึงไว้ด้วยความตะลึง พวกเขาเช็ดเหงื่อขณะที่มอง ‘ชูเฟิง’ ไม่มีใครรู้ว่า เขานั้นจะเป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรห้วงวิญญาณระดับ 7 แต่กลับเผชิญหน้ากับสามผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรกำเนิดวิญญาณ

ด้วยความแตกต่างระหว่างอาณาจักรห้วงวิญญาณกับอาณาจักรเนิดวิญญาณ เสมือนว่าห่างกันระหว่างพิภพกับสวรรค์  ช่องว่างนั้นแตกต่างกันเกินไป เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเผชิญหน้ากับทั้งสามคนด้วยตัวคนเดียว

* เปรี้ยงง * . . .

แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือ ผู้เชี่ยวชาญของตะกูลทั้ง 3 ที่มีออร่าหน้าเกรงขาม ดูมีทรงพลังยิ่ง แต่กลับไล่ตามความเร็วของ ‘ชูเฟิง’ ไม่ทัน

พวกเขาได้แต่ทนดูคนจากตะกูลของตนถูก ‘ชูเฟิง’ ฆ่าตายต่อหน้าต่อตา พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยสักอย่าง เนื่องจากไล่ตามความเร็ว ‘ชูเฟิง’ ไม่ทัน ด้วยความเร็วขนาดนั้นพวกเขาสามารถมองออกว่าต่อให้ตามไปก็ไม่มีทางจะจับเขาได้ทัน

หลังจากผ่านช่วงเวลาสั้นๆ พื้นที่รอบสนาม ก็เหลือเพียงแค่ผู้นำ จาก 3 ตะกูล เท่านั้น พวกเขา 3 คน คือ ผู้นำ ตะกูล สู่ ตะกูล ม่า และ ตะกูล หวัง สำหรับคนที่มากับพวกเขาทั้งหมดต่างถูกฆ่าตายจนเรียบ ร่างบางร่างก็ไร้ศีรษะ พระเอกนี่มันฆาตกรโรคจิตชัดๆ

” บัดซบ!!! ข้าจะหั่นเจ้าออกเป็น หมื่นๆ ชิ้น”

เมื่อเขามองร่างครอบครัวของพวกเขาที่ไร้วิญญาณหล่านั้น ผู้นำทั้งสามโกรธจนควันแทบออกหู

* ตึก ตึก *

ในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ หยุดความเร็วแล้วค่อยๆเดินเข้าไปหา ‘ชู หยวนบ้า’ และ ‘ชู หยวน’ พร้อมกับใช้สายตาจ้องมองผู้นำทั้งสามอย่างเย็นชา และกล่าว

” ทีนี้ก็ถึงตาของพวกเจ้า “

โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . . . . . .

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments