บทที่ 212 นักสู้ที่แข็งแกร่ง
 
 
 
ด้วยที่เย่เฟิงได้ทิ้งอุปกรณ์สื่อสารขนาดจิ๋วไปแล้ว แผนของหลี่เฟิงล้มเหลวในที่สุด นอกจากนี้ เรือดำน้ำของอเมริกาก็ถูกทำลายไปแล้ว พวกเขาจึงไม่มีเหตุผลต้องยิงตอร์ปิโดของเรือ Destroyer ที่เตรียมเอาไว้อีกต่อไป
 
 
 
เดิมที หลี่เฟิงตั้งใจว่าเมื่อเย่เฟิงค้นพบเรือดำน้ำ เขาก็จะยิงตอร์ปิโดเข้าใส่ทันที และหากเป็นไปตามนี้ เย่เฟิงก็ไม่มีทางจะหลบหนีออกไปจากรัศมีการระเบิดได้ และจะถูกฝังร่างอยู่ใต้ก้นทะเลในที่สุด
 
 
 
แต่เขาคำนวณความแข็งแกร่งของเย่เฟิงผิดพลาดไป แผนนี้จึงประสบความล้มเหลวโดยสมบูรณ์
 
 
 
ด้วยเหตุนี้เอง เรือดำน้ำของอเมริกาจึงไม่อาจสร้างความเสียหายอันใดแก่ประเทศจีนได้ และยังถูกกำจัดไปโดยที่กองทัพไม่เสียกระสุนแม้แต่เพียงครึ่งลูก เพราะเย่เฟิงได้จัดการให้หมดแล้ว
 
 
 
แต่นี้เป็นการกระทำโดยสมัครใจของเย่เฟิงเอง เพราะไม่ว่าอย่างไร ก็ไม่มีใครสามารถบังคับให้ชายหนุ่มทำตามที่สั่งได้ เผ่ยเขิงกรุ๊ปนั้นต้องการทำลายเกาะภูเขาน้ำแข็งที่มีร่างของซูเฟยหยิ่งอยู่ แล้วจะให้เขาปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้งั้นหรือ?
 
 
 
อย่างไรก็ตามหลังจากเหตุการณ์นี้ ชื่อของเย่เฟิงถูกบันทึกไว้ในรายชื่อบุคคลที่ต้องจับตามองของหน่วย NSA ทันที และอยู่ในระดับ S เช่นเดียวกันกับหลงโม่หรัน
 
 
 
ในโลกยุทธภพนั้น หากผู้ฝึกยุทธ์คนใดมีความแข็งแกร่งอันร้ายกาจ ชื่อของพวกเขาจะถูกบันทึกไว้ในรายชื่อบุคคลที่ต้องจับตามองของหน่วย NSA
 
 
 
การที่เย่เฟิงถึงขนาดที่สามารถจัดการเรือดำน้ำได้ด้วยตัวคนเดียว แสดงให้เห็นว่าฝีมือของเขาร้ายกาจเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปแล้วเกิดมีวันหนึ่งที่ชายหนุ่มทำบางสิ่งที่เลวร้ายขึ้นมา พวกเขาคงต้องประสบกับความสูญเสียมหาศาล……
 
 
 
……………..
 
ห่างออกไป 30 กิโลเมตรจากเกาะน้ำแข็ง ในเวลานี้ เย่เฟิงและหลงหวางเอ๋อยังคงอยู่ที่ตำแหน่งเดิม
 
 
 
“ดูเหมือนจะมีบางอย่างที่หนีออกจากเรือดำน้ำก่อนที่มันจะระเบิดนะ”
 
รัศมีการตรวจจับในทักษะสัมผัสวิญญาณของหลงหวางเอ๋อนั้น กว้างกว่าเย่เฟิงประมาณ 30 เมตร จึงมีเพียงหญิงสาวคนเดียวที่รับรู้เรื่องนี้
 
 
 
“มันคืออะไร?”
 
เย่เฟิงเอ่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
 
 
 
“อาจจะเป็นห้องกู้ชีพ สวี่เล่อก็อยู่ในนั้น นอกจากนี้………เจ้าหกตัวประหลาดก็รอดจากการระเบิดด้วย พวกมันยังไม่ตาย!”
 
 
 
เรือดำน้ำทั่วไปนั้นไม่ได้มีห้องกู้ชีพที่ดีดตัวออกในลักษณะนี้ แต่เผ่ยเขิงกรุ๊ปในวันนี้คือบริษัทที่วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของกองทัพ การติดตั้งห้องกู้ชีพไว้ในเรือดำน้ำของบริษัทตัวเองถือเป็นเรื่องธรรมดา
 
 
 
แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ ตัวประหลาดผมยาวทั้งหกที่ถูกเรียกว่านักสู้รุ่นสองกลับรอดชีวิตจากการระเบิดที่รุนแรงได้ พวกมันยังไม่ตาย! ช่างเป็นเรื่องเหนือการคาดหมายจริงๆ
 
 
 
แม้แต่เย่เฟิงและหลงหวางเอ๋อเอง ถ้าทั้งคู่อยู่ในตำแหน่งเดียวกับตัวประหลาดพวกนั้น ก็ไม่มีทางจะรอดไปจากแรงระเบิดได้
 
 
 
“ดูเหมือนว่าลักษณะกายภาพและความทนทานของเจ้าพวกนั้นจะแข็งแกร่งจริงๆ”
 
สีหน้าของเย่เฟิงมืดคล้ำลงเล็กน้อย
 
 
 
ในโลกเทวะ นอกจากนิกายสุสานดาราแล้ว มันก็ยังมีนิกายอื่นอยู่เช่นกัน และมีบางนิกายที่เหล่าศิษย์แต่ละคนจะมีลักษณะทางกายภาพที่แข็งแกร่งกว่าปกติ จากการใช้ทักษะประเภทขัดเกลาร่างกายเป็นประจำ
 
 
 
ยังมีตำนานอีกว่า ผู้ใดที่ได้รับมรดกกระบี่มังกร ความแข็งแกร่งของร่างกายพวกเขาจะสูงยิ่งกว่าผู้ที่ใช้ทักษะขัดเกลาร่างกายทั่วไป แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เย่เฟิงมีเพียงแหวนกระบี่มังกรโบราณ เพราะเขายังไม่ทันได้ค้นหามรดกกระบี่มังกรจากสุสานกระบี่มังกรโบราณในตอนนั้น
 
 
 
หากได้รับมรดกกระบี่มังกรมาจริง ต่อให้กลับไปโลกเทวะ เขาก็ยังถือว่าเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง!
 
 
 
แน่นอนว่าเป้าหมายนี้ยังห่างไปจากปัจจุบัน ในตอนนี้ อย่าว่าแต่การค้นหาตำนานของสุสานกระบี่มังกรโบราณเลย เย่เฟิงยังไม่รู้แม้แต่วิธีกลับไปยังโลกเดิมของตัวเองด้วยซ้ำไป
 
 
 
“ไปกันเถอะ เราคงปล่อยให้พวกมันมาสร้างปัญหาในอนาคตไม่ได้”
 
ขณะที่กอดหลงหวางเอ๋อไว้ เย่เฟิงเคลื่อนที่ขึ้นสู่ผิวน้ำอย่างรวดเร็ว
 
 
 
ผู้หญิงที่ชื่อสวี่เล่อคนนั้นมีความเกลียดชังต่อหลินชื่อฉิงเป็นอย่างยิ่ง และอีกไม่นาน เธอก็คงรู้ว่าผู้ที่ลงมือสังหารไซ่เชาหงจริงๆก็คือเย่เฟิง ด้วยเหตุนี้ เธอจะกลับมาสร้างปัญหาให้เขาอีกในอนาคต
 
 
 
ไม่ว่าอย่างไร สวี่เล่อก็ไม่ใช่บุคคลตัวเล็กๆ เธออยู่ในระดับเดียวกันกับไซ่เชาหงเพราะเป็นลูกสาวของหนึ่งในประธานของเผ่ยเขิงกรุ๊ป ด้วยนิสัยใจคอของผู้หญิงคนนี้หากรอดชีวิตไป ก็ไม่รู้ว่าจะสร้างการคุกคามอะไรอีก
 
 
 
และยิ่งสภาพของสวี่เล่อในตอนนี้ เย่เฟิงสามารถใช้กระบี่จัดการกับเธอได้อย่างง่ายดายในเวลาไม่นาน แล้วจะมีสิ่งใดต้องคิดมากอีก?
 
 
 
หลังจากจัดการผู้หญิงคนนี้แล้ว เขาและหลงหวางเอ๋อจะรีบกลับไปยังเกาะภูเขาน้ำแข็งเพื่อช่วยเหลือซูเฟยหยิ่ง เย่เฟิงมั่นใจว่าหากเทียบกับทีมของหนิวเหมิ่งแล้ว เขาสามารถเจาะทะลวงน้ำแข็งได้เร็วกว่ามาก
 
 
 
……………
 
 
 
ณ อีกด้านหนึ่ง สวี่เล่อในชุดสีดำรัดรูปพร้อมด้วยชาวต่างชาติที่เป็นคนของเผ่ยเขิงกรุ๊ปอีกส่วนหนึ่ง กำลังอยู่ในห้องกู้ชีพ และห้องนี้กำลังลอยขึ้นสู่ผิวน้ำทีละน้อย
 
 
 
การหลบหนีจากการระเบิดของเรือดำน้ำไม่ใช่เรื่องง่าย หรือต่อให้มีใครหนีออกไปได้ทันจริง แต่การขึ้นสู่ผิวน้ำอย่างรวดเร็วก็จะทำให้ร่างกายของคนๆนั้นไม่อาจทนต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของความดันในร่างกายได้ และชีวิตระหว่างทาง โชคดีที่เทคโนโลยีอันล้ำสมัยของเผ่ยเขิงกรุ๊ปทำให้สวี่เล่อสามารถรอดชีวิตได้
 
 
 
ห้องกู้ชีพสีดำที่ปกป้องคนทั้งสี่ไว้ ในที่สุดก็เคลื่อนที่ขึ้นสู่ผิวน้ำทะเลอันสงบนิ่งแล้ว
 
 
 
ความจริง สวี่เล่อได้ดำเนินภารกิจของเรือดำน้ำลำนี้อย่างลับๆให้ไม่ให้พ่อของเธอรู้ หญิงสาวรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ เธอคงไม่เลือกมาที่นี่แน่ ตอนนี้เรือดำน้ำก็ได้ระเบิดไปแล้ว ชะตากรรมของทั้งสี่คนคงไม่พ้นต้องตกอยู่ในมือของทางการจีนในที่สุด
 
 
 
แต่สิ่งที่หญิงสาวยังคงไม่รู้คือผู้ที่ทำลายเรือดำน้ำด้วยการตวัดกระบี่เพียงสองครั้ง มันเป็นใครกันแน่?
 
 
 
ตูม!
 
 
 
แต่ทันใดนั้น สวี่เล่อพลันตื่นตกใจทันทีเมื่อเห็นบุคคลแปลกหน้าในชุดสีดำที่โผล่ขึ้นมาในสายตา ประเทศจีนมีบุคคลที่ร้ายกาจขนาดนี้อยู่ด้วยจริงๆงั้นหรอ?
 
 
 
หญิงสาวรีบคว้ารีโมทที่ห้อยไว้ที่เอวมาทันที โชคดีที่พวกนักสู้รุ่นสองยังไม่ตายและยังคงต่อสู้ได้
 
 
 
“คุณหนูสวี่ พวกเราต้องพึ่งคุณแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเราทุกคนต้องตกอยู่ในมือทางการจีนแน่”
 
หนึ่งในสามกัปตันวัยกลางคนของเรือดำน้ำที่มีอายุประมาณ 45 ปี กล่าวกับหญิงสาวด้วยใบหน้าร้อนใจเป็นภาษาอังกฤษ
 
 
 
หากสวี่เล่อเลือกไม่สนใจพวกเขาจนต้องตกอยู่ในมือของทางการจีน ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และไม่รู้ว่าจะถูกคุมตัวไว้นานเท่าไหร่ ทั้งหมดทั้งมวลนั้นเป็นเพราะว่าพวกเขาคือบุคคลสำคัญที่ควบคุมเรือดำน้ำนิวเคลียร์รุ่นนี้!
 
 
 
ทางการจีนคงจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อง้างปากและล้วงข้อมูลทั้งหมดจากพวกเขาแน่
 
 
 
“พวกแกหุบปากไปเลย”
 
สวี่เล่อตะคอกกลับไปด้วยอารมณ์โมโห
 
 
 
หลังจากนั้น เธอกดรีโมทในมือเพื่อควบคุมนักสู้รุ่นสองทั้งหกให้ว่ายน้ำขึ้นมาล้อมห้องกู้ชีพเพื่อคุ้มกันพวกเธอไว้
 
 
 
เมื่อเห็นตัวประหลาดทั้งหกว่ายน้ำขึ้นมาล้อมห้องกู้ชีพไว้ เหล่ากัปตันทั้งสามก็รู้สึกตื่นตะลึง ทำไมตัวประหลาดพวกนี้ถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้? มันเป็นตัวอะไรกัน? ซูเปอร์แมน? แบทแมน? ไอรอนแมน?
 
 
 
พวกเขารู้เพียงว่าเผ่ยเขิงกรุ๊ปได้วิจัยเทคโนโลยีด้านพันธุศาสตร์ แต่ไม่เคยคิดเลยว่า จะพัฒนางานวิจัยจนสามารถสร้างนักสู้ที่สามารถรอดชีวิตการจากระเบิดของเรือดำน้ำแบบนี้ขึ้นมาได้
 
 
 
ถึงแม้จะรู้สึกตกใจ แต่ก็ทำให้พวกเขามีความมั่นใจมากขึ้น ด้วยนักสู้รุ่นสองทั้งหกตัวนี้ ทุกคนอาจจะรอดจากกำมือของทางการจีนก็เป็นได้……..
 
 
 
ขณะที่พวกเขากำลังฝันหวาน ทันใดนั้น ประกายแสงสีเขียวก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้า และในเวลาต่อมา ห้องกู้ชีพก็ถูกผ่าแยกออกเป็นสองส่วน
 
 
 
เจ้าหมอนั่น!
 
 
 
ทั้งสี่คนถึงกับผงะไปพร้อมกัน สวี่เล่อตกใจจนกรีดร้องออกมาเสียงดัง พร้อมกับความหวาดผวาที่ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าอวบ
 
 
 
เจ้าหมอนั่นไล่ตามพวกเธออย่างกับวิญญาณอาฆาต!
 
 
 
เย่เฟิงได้พุ่งตัวขึ้นมาจากก้นทะเล และใช้กระบี่ในมือผ่าห้องกู้ชีพของสวี่เล่อออกเป็นสองส่วน ทั้งสี่คนที่อยู่ในห้องจึงทยอยตกลงไปในน้ำกันทีละคน
 
 
 
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย! ฉันว่ายน้ำไม่เป็น!”
 
สวี่เล่อร้องตะโกนด้วยน้ำทะเลที่เต็มปาก และรู้สึกเหมือนกำลังจากตาย โชคดีที่ในเวลานี้ พวกตัวประหลาดได้ว่ายน้ำเข้ามาและแบกร่างของเธอขึ้นไว้บนไหล่
 
 
 
“ตาย!”
 
เย่เฟิงวาดกระบี่ในมือพร้อมกับร่างของเขาที่พลันเลือนรางลงไป
 
 
 
และในเวลาถัดมา กระบี่เจินชี่สีเขียวเข้มก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าสวี่เล่อ
 
 
 
……………………..
 
แปลโดย Solar Spark