I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 294 บัญชียังไม่ได้คิด ก็จะไปแล้วงั้นหรือ

| Genius Sword Immortal | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 294 บัญชียังไม่ได้คิด ก็จะไปแล้วงั้นหรือ?

 

ยามเมื่อเย่เฟิงออกมาพร้อมกับหลินซิวเหวิน ทุกคนเห็นได้อย่างชัดเจนว่าภายในนัยน์ตาอันเลือนลอยของหลินซิวเหวินมันหายไปอย่างไร้ร่องรอย!

 

“ซิวเหวิน?”

 

หลินเหรินเทียนมีท่าทางที่ตื่นเต้นมากที่สุดในผู้คนที่เห็นฉากนี้ จากนั้นเขาก็วิ่งซวนเซตรงไปหาหลินซิวเหวิน

 

“ป๊า?”

 

หลินซิวเหวินเร่งฝีเท้าขึ้นและเงยมองหน้าหลินเหรินเทียนก่อนจะเอ่ยปากออกมา

 

เพียงแค่คำนี้คำเดียวก็ทำให้หลินเหรินเทียนเบิกบานใจในทันที!

 

เขาเชื่อคนของโรงพยาบาลในเครือที่บอกว่าหลินซิวเหวินหมดทางเยียวยาแล้ว สติปัญญาของเขาถอยลงเนื่องจากเซลล์สมองถูกทำลาย มันไม่สามารถที่จะรักษาได้ แต่ความจริงในตอนนี้ที่อยู่เบื้องหน้าของเขา มันคือลูกชายของเขาที่ถูกรักษาหายแล้วโดยเย่เฟิง

 

เจ้าพวกหมอเถื่อนบัดซบ!

 

หลินเหรินเทียนสาปแช่งจากก้นบึ้งหัวใจของเขา พวกกลุ่มแพทย์ที่มีฝีมือที่สุดของโรงพยาบาลภายในประเทศจีนรวมตัวกันแต่ยังทำอะไรไม่ได้ แต่เย่เฟิงกลับรักษาได้ นี่มันเป็นเพราะพวกกลุ่มแพทย์นี้มันไม่มีฝีมือหรือว่าเย่เฟิงมันเก่งกาจเกินไปกันแน่?

 

ยามเมื่อหลินเหรินเทียนวิ่งไปหาเย่เฟิงกับหลินซิวเหวิน คนอื่นในลานสนามก็มีสีหน้าท่าทางที่แตกต่างกันไป

 

หลินชื่อฉิงยกยิ้มที่แสดงว่าเป็นไปตามคาดหวัง แอบลอบขยิบตาให้กับเย่เฟิง เกี่ยวกับความสามารถของเย่เฟิง ตอนที่อยู่บนถนนเธอเข้าใจว่ามีความมั่นใจเพียงแค่ 80% ที่จะรักษาหลินซิวเหวินได้ตามที่เย่เฟิงบอก ดังนั้นหลินชื่อฉิงจึงเลือกที่จะเชื่อเย่เฟิง

 

ในขณะนี้มันก็ดูเหมือนว่าเย่เฟิงจะไม่ได้ทำให้เธอผิดหวังเลย

 

ไม่ว่ายังไง หลินซิวเหวินก็ยังถือว่าเป็นน้องชายเธอ การที่ต้องมาปัญญาอ่อนมันก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับมีอะไรมาจุกอยู่ที่หน้าอก แต่หลังจากที่เย่เฟิงรักษาหายแล้ว สิ่งที่จุกอยู่ตรงหน้าอกของเธอก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

เสี่ยวฉีและเสี่ยวเยวี่ยสองสาว ที่ยืนอยู่ห่างออกไปอยู่ที่ด้านหลังของเสี่ยวเต๋อเฉิง พวกเธอกำลังมองไปยังเย่เฟิงและหลินซิวเหวินที่เดินออกมาจากรถหรูหรา ทำให้สีหน้าของพวกเธอปรากฏความประหลาดใจที่เป็นสุขขึ้นมาอีกครั้งและมีท่าทางที่สำนึกถึงบุญคุณ

 

เย่เฟิงทำสำเร็จ!

 

ในตอนแรกพวกเธอไม่ได้เชื่อมากนัก แต่ความจริงได้ปรากฏอยู่ที่เบื้องหน้าในตอนนี้ มันเป็นเรื่องที่เหนือเกินการควบคุมที่ไม่ให้พวกเธอไม่เชื่อได้

 

นอกเหนือจากอาการประหลาดใจ ทั้งสองสาวก็มีความสุขอย่างมาก เนื่องจากมันเป็นเรื่องที่แน่นอนแล้วว่าเสี่ยวฉีไม่จำเป็นต้องถูกบังคับให้แต่งงานกับหลินซิวเหวินอีก ปัญหาที่ตระกูลฉีต้องเผชิญในที่สุดก็ถูกแก้ไขได้อย่างง่ายดาย! แน่นอนว่าขณะที่เสี่ยวเต๋อเฉิงดื้อดึงยืนกรานต่อหลินเหรินเทียนมันอาจจะทำให้เกิดผลลัพธ์ใดๆที่สองสาวไม่อาจจะคาดเดาได้

 

ภายในใจเสี่ยวเยวี่ยกำลังครุ่นคิด ได้แต่หวังว่าเมื่อหลินเหรินเทียนเห็นหลินซิวเหวินรักษาหายแล้ว เขาจะไม่ตามตื้อเรื่องเสี่ยวฉีอีก

 

สำหรับคนอื่นของตระกูลเสี่ยว จากเหตุการณ์ที่น่าตกตะลึงก็ยิ้มหน้าบานฉีกไปจนถึงใบหู

 

แรกเริ่มพวกเขาคิดว่าเย่เฟิงกำลังพูดเพ้อเจ้อ นอกจากนี้ทั่วทั้งเหยียนจิงมีใครไม่รู้บ้างว่านายน้อยสามของตระกูลหลินกลายเป็นคนปัญญาอ่อน และเป็นไปได้ว่าตลอดชีวิตไม่มีทางหาย ซึ่งไม่มีความคิดว่าจะมีวันนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา เหล่าแพทย์ผู้บริหารโรงพยาบาลต่างๆมากมายกลับเสียหน้ายับเยินอย่างไม่คาดคิดเนื่องจากปัญหาถูกเย่เฟิงแก้ไขได้

 

นอกจากนี้ มันใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งนาทีเท่านั้น!

 

เย่เฟิงใช้เวทมนต์อะไรกัน?

 

แต่ในความเป็นจริง พวกเขาไม่มีวันที่จะมีโอกาสได้รับรู้

 

ผู้คนที่ติดตามหลินเหรินเทียน ซึ่งเป็นผู้คนของตระกูลหลินมากมายที่ต่างสนิทสนมกับกับซิวเหวิน ในตอนนี้พวกเขาก็มองไปที่หลินซิวเหวินที่หายดี จากนั้นพวกเขาก็รู้สึกยินดีและเดินตามหลินเหรินเทียนไปยังเบื้องหน้าเย่เฟิงและหลินซิวเหวิน

 

“ซิวเหวิน แกเป็นยังไงบ้าง?”

 

หลินเหรินเทียนที่วิ่งมาถึงก็ถอดแว่นออกพลางถามไถ่อย่างรีบร้อน

 

หลินซิวเหวินสวมใส่เสื้อธรรมดาลายทางสีขาว บนใบหน้าอันหล่อเหลาฉาบไว้ด้วยสีหน้าที่โอหังเฉกเช่นปกติขณะที่ค่อยๆพูด “รู้สึกสบายดีอย่างมากและต่อไปนี้น้องเย่จะกลายเป็นพี่ใหญ่เย่ของผม”

 

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลินเหรินเทียนก็มีสีหน้าที่หมองคล้ำในทันที

 

หมายความว่ายังไงกัน เย่เฟิงกลายเป็นพี่ใหญ่เย่?

 

@#$%!!

 

นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน!

 

ความคิดแรกของหลินเหรินเทียนคือหลินซิวเหวินยังคงไม่หายดี ยังคงต้องทำการรักษาต่อ ถ้าไม่ใช่เช่นนั้นแล้วทำไมถึงไปเรียกเย่เฟิงว่าพี่ใหญ่เย่กัน?

 

“น้องเย่” และ “พี่ใหญ่” มันทำให้ผู้คนที่อยู่ด้านข้างหลินเหรินเทียนกลายเป็นตกตะลึง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน? ทุกคนต่างรู้ดีว่าแต่เดิมหลินซิวเหวินไม่ค่อยจะลงรอยกับเย่เฟิง แต่ตอนนี้มันกลับ…

 

เมื่อเป็นเช่นนี้ เย่เฟิงจึงกลายเป็นดูน่าสงสัยนัก

 

นี่มันไม่เหมือนว่าโดนสะกดจิตเพื่อควบคุมหลินซิวเหวินเลย เนื่องจากหลินซิวเหวินกลายเป็นคนปัญญาอ่อนอยู่ ซึ่งตอนนี้ความทรงจำเขาก็กลับมาแล้ว

 

ในเมื่อเขาฟื้นจนหายดีแล้ว ก็ต้องถามว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น รวมถึงเรื่องเหตุการณ์ของไซ่เชาหงว่ามันมีความเป็นมายังไงบ้าง

 

ในกรณีนี้ หลินซิวเหวินได้เปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อเย่เฟิง เนื่องจากที่เย่เฟิงทำให้เขากลับมาหายดี มันจึงทำให้เขารู้สึกชื่นชมงั้นเหรอ

 

หลินซิวเหวินเป็นเพลย์บอย ภายใต้การสอนสั่งของหลินหงชวน ถือว่ายังด้อยกว่าเสิ่นเทียนเจียว เนื่องจากเขาไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง จึงทำให้นับถือและร่วมมือกับไซ่เชาหงในก่อนหน้านี้

 

แต่ตอนนี้ ความนับถือของเขากลับกลายจากไซ่เชาหงเป็นเย่เฟิงไปได้

 

เรื่องนี้มันพลิกกลับกลายเป็นนับถือเย่เฟิงอย่างไม่คาดคิด

 

“ซิวเหวิน พวกเราไปโรงพยาบาลตรวจดูให้ละเอียดอีกสักครั้งเถอะ”

 

ท่าทางของหลินเหรินเทียนค่อนข้างไม่ค่อยเชื่อถือเย่เฟิง สาเหตุเพราะลูกชายเขาตื่นขึ้นมาก็เปลี่ยนไป ความคิดที่มีต่อเย่เฟิงจากหน้ามือกลายเป็นหลังมือเช่นนี้ได้ยังไง?

 

ที่เขาคิดเช่นนี้ เนื่องจากสถานการณ์ในตอนนี้มันเป็นไปได้มากที่สุด

 

เย่เฟิงล่วงรู้ถึงความคิดของเขา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป กับคนอย่างหลินเหรินเทียนเย่เฟิงไม่มีความจำเป็นต้องพูดอะไรด้วย

 

เขารักษาหลินซิวเหวินไม่ใช่เพื่อเอาใจหลินเหรินเทียน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้แยแส ในทางตรงกันข้าม หลินเหรินเทียนคนนี้กลับแอบเล่นสกปรกหลายครั้งแล้ว ถ้าวันนี้ไม่ได้จัดการอะไรสักอย่าง ไม่ใช่ถือว่าเย่เฟิงหวาดกลัวเขาหรอกเหรอ?

 

“ป๊าจะพาไปไหน?”

 

หลินซิวเหวินเพิ่งกลับจากสภาพปัญญาอ่อน เมื่อได้ยินก็จ้องมองพ่อเขา เหตุใดป๊าถึงไม่ขอบคุณเย่เฟิงกัน? ในกรณีนี้ ที่เย่เฟิงเป็นคนที่ช่วยรักษาเขา!

 

“ไปกันเถอะ”

 

หลินเหรินเทียนพลันหันร่างมาครึ่งหนึ่งและเหลือบมองไปยังเย่เฟิง “ถ้าซิวเหวินเป็นอะไรไปอีก แกจะต้องรับผิดชอบ พวกเราไป!”

 

เขาโบกสะบัดมือ เดินนำเหล่าคนของตระกูลหลินขึ้นรถเพื่อจะจากไป

 

แต่ไปไม่ได้นาน พวกเขาก็พบว่ามีร่างหนึ่งมาขวางทางเบื้องหน้าพวกเขาเอาไว้ ซึ่งก็คือเย่เฟิง

 

“แกต้องการจะทำอะไร?”

 

หลินเหรินเทียนแค่นเสียง สายตาจับจ้องไปยังเย่เฟิง ในตอนนี้เขาก็ไม่ได้หาเรื่องเย่เฟิงหรือตระกูลเสี่ยวก็ดีถมเถไปแล้ว แต่เย่เฟิงยังกล้าที่จะมาขวางทางเขาอีก? คิดว่าจริงๆหรือว่าด้วยความแข็งแกร่งเท่านั้นก็กล้ามาอาละวาดได้?

 

มองไปยังเย่เฟิงที่ขวางทางหลินเหรินเทียนและคนอื่น หลินชื่อฉิงกับเสี่ยวฉีและเสี่ยวเยวี่ยทั้งสามสาวก็รู้สึกประหลาดใจ เย่เฟิงต้องการจะทำอะไรกันแน่?

 

“บัญชียังไม่ได้คิด คุณก็จะไปแล้วงั้นหรือ?”

 

เย่เฟิงที่ยืนอยู่เบื้องหน้าหลินเหรินเทียนและคนอื่น ก็มองไปยังหลินเหรินเทียนที่สวมแว่นตาอย่างเงียบๆ ขณะที่นัยน์ตาของอีกฝ่ายฉายแววจิ้งจอกเจ้าเล่ห์

 

“บัญชี? แกหมายถึงอะไรกัน?”

 

หลินเหรินเทียนเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกอยากจะหัวเราะออกมาเล็กน้อย เย่เฟิงมันกับกล้าที่จะคิดบัญชีกับเขางั้นเหรอ?

 

เขายอมรับว่าเขาได้ใช้วิธีสกปรกมากมายอย่างลับๆต่อเย่เฟิง แต่เย่เฟิงคนนี้กล้าที่จะมาเอาเรื่องเขาหลินเหรินเทียน? จะต้องให้บอกยังไงว่าเขาคือหลินเหรินเทียนเป็นลูกชายของตาเฒ่าหลิน เป็นกระดูกสันหลังของตระกูลหลิน เป็นนักการเมืองของประเทศจีน

 

ถ้าเย่เฟิงต้องการตามที่เขาได้พูดมา มันก็ต้องคิดถึงผลที่จะตามที่ด้วย!

 

[คั่นหนังสือ : ตอนที่แล้วยังกลัวหัวหด ตอนนี้ทำไมอยู่ๆมันก็เก่งขึ้นมาก็ไม่รู้เหมือนกันครับ]

 

……………………………..

 

แปลโดย คั่นหนังสือ

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments