ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 295 ลิ้มรสผงทลายใจ
หลินเหรินเทียนยอมรับว่าความแข็งแกร่งของเย่เฟิงมันน่ากลัว แต่มันจะมีประโยชน์อะไร?
นอกจากนี้ ตอนนี้บ้านเมืองมีกฏหมายและมันยังมีพลังวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาอยู่ แม้ว่าจะเป็นจอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดภายในโลกยุทธภพ แต่ด้วยความสัมพันธ์ที่รักษาสมดุลกันอยู่ ทำให้ไม่กล้าที่จะออกมาอาละวาดที่โลกภายนอก
ถ้าหากเย่เฟิงที่เป็นคนของโลกยุทธภพ มันก็ไม่มีทางที่จะทำร้ายหลินเหรินเทียนได้ มันเป็นกฎข้อบังคับที่ได้ทำเอาไว้
แต่ช่างน่าเสียดายอย่างยิ่ง เขาเป็นบุคคลที่มาจากโลกเทวะ
ดูเหมือนว่าหลินเหรินเทียนกล้าที่จะใช้อำนาจและอิทธิพลมาข่มขู่เขา ถ้าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นที่โลกเทวะแล้วล่ะก็ เขาคงจะถูกจัดการจนเละไม่รู้กี่ครั้งคราวแล้ว
สำรวจไปผู้คนรอบๆที่ประหลาดใจพลางยิ้มให้อย่างดูถูก มุมปากของเย่เฟิงยกโค้งขึ้น ก่อนที่จะเดินเข้าไปหาหลินเหรินเทียนทีละก้าว
“แกต้องการจะทำอะไร?”
คนตระกูลหลินสองคนก็เข้ามาขวางอยู่เบื้องหน้าหลินเหรินเทียนในทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความระวัง พวกเขารู้สึกหวาดกลัวว่าเย่เฟิงจะกระทำอันใดที่ผิดกฏหมายต่อหลินเหรินเทียน
“ฉันบอกว่าเขาต้องชดใช้หนี้ที่ค้างไว้”
เย่เฟิงพูดเบาๆและยกมือขวาขึ้น จากนั้นมีดบินเล็กๆก็ปรากฏขึ้นมาภายในมือของเขา
เมื่อเห็นมีดบินปรากฏออกมา ทุกคนทั้งหมดต่างตกใจ!
คนตระกูลหลินทั้งสองคนนั้นเมื่อเห็นก็พลันกลืนน้ำลาย “กลางวันแสกกลับคิดใช้อาวุธ”
ช่างน่าเศร้าคนทั้งสอบต่างตอบสนองไม่ทัน เย่เฟิงก็สะบัดมือขวาส่งมีดบินภายในมือพุ่งออกไปราวกับกระสุน ตัดผ่านท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ผ่านคนทั้งสองที่คุ้มกันหลินเหรินเทียนไปข้างหลัง
มีดบินกรีดผ่านแว่นตาที่หลินเหรินเทียนสวมใส่อยู่อย่างง่ายดาย จากนั้นแว่นตาก็กระเด็นออกไปพร้อมกับคราบเลือดสดเล็กน้อย
ติง!
จากนั้นมีดบินก็พุ่งผ่านไปปักที่ต้นไม้ใหญ่และหยุดลง
สิ่งที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ ทำให้คนรอบๆเบิกตากว้าง นี่มันเกิดอะไรขึ้น ปามีดบินเพียงแค่สร้างรอยขีดข่วนให้หลินเหรินเทียนเท่านั้นนะหรือ? ทำมันไปเพื่ออะไรกัน?
เย่เฟิงก็เดินเข้าไปหาทีละก้าวมุมปากก็ยกโค้งขึ้น “แกฟังไว้ให้ดี มีดบินที่ใช้ไปเมื่อครู่มันเป็นมีดที่อาบยาพิษไว้ของสำนักเซียนเร้นลับ พิษที่ว่าคือผงทลายใจ หากไม่มียาแก้สองวันหลังจากนั้นแกจะตายอย่างอนาถ”
หลังจากที่เย่เฟิงสังหารฉีหลินจื่อ เขาก็ได้หยิบเอาถุงยาที่มียาถอนพิษอยู่มาด้วย นอกจากนี้เขาก็ได้นำพิษอันอื่นและยาถอนพิษ รวมถึงพิษผงทลายใจซึ่งถูกฉาบไว้บนมีดบินหลายเล่มจากนั้นก็เก็บไว้ในแหวนมิติเพื่อง่ายต่อการใช้งาน
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ได้ใช้
ขณะที่เย่เฟิงพูดเช่นนั้นออกไป สีหน้าของหลินเหรินเทียนก็พลันเปลี่ยนจากเขียวเป็นม่วงในทันที แต่คนอื่นของตระกูลหลินกลับมองหน้ากันอย่างทำอะไรไม่ถูก
ยาพิษ!
ยาพิษของสำนักเซียนเร้นลับ!
แม้กระทั่งหลินชื่อฉิงและเสี่ยวฉีสาวทั้งสองก็ยังรู้สึกหวาดกลัวกับการกระทำและคำพูดของเย่เฟิงครั้งนี้ นี่เขากล้าทำเช่นนี้จริงๆงั้นเหรอ?
“ยาถอนพิษ?”
หลินเหรินเทียนไม่ยินยอมต่ออีกฝ่าย สีหน้าหมองคล้ำจ้องมองเย่เฟิงอย่างดื้อรั้น
“นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับท่าทางของแก”
เย่เฟิงพูดอย่างสบายด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา “ยาถอนพิษไม่ได้อยู่ที่ตัวฉันไม่จำเป็นต้องมองมาที่ฉัน มันไร้ประโยชน์ ถ้าแกเต็มใจที่จะขอโทษฉันและสัญญาว่าจะไม่ล่วงเกินฉันในอนาคต ฉันจะบอกยาถอนพิษให้เลยทันที”
“เฮอะ ฝันไปเถอะ!”
หลินเหรินเทียนแค่นเสียงอย่างเย็นชา ให้เขาขอโทษเจ้าเด็กเหลือขอคนนี้น่ะเหรอ ด้วยทำตามวิธีนี้ ตัวเขายังจะคงเหลือศักดิ์ศรีอยู่อีกเหรอ?
เขาหยิบแว่นที่เหลือขาข้างเดียวขึ้นมาใส่และดันไว้บนดั้งให้มันมั่นคง จากนั้นเหลือบมองเย่เฟิงอย่างอาฆาตแค้น เขาจะจดจำวันนี้เอาไว้ เย่เฟิงกล้าที่จะข่มขู่เขา มีดบินอันนั้นช่างงามหน้านักมันทำให้นัยน์ตาของเขาเปล่งประกายไปด้วยความคิดชั่วร้าย
ช่างน่าเศร้า หลินเหรินเทียนรู้ดีว่าเย่เฟิงน่ากลัวแค่ไหน ในที่นี้ตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะทำอะไรเย่เฟิง
จะส่งหน่วย NSA มาจับกุมเย่เฟิง แต่ก็ทำไม่ได้ เหตุเพราะความเก่งกาจและความสามารถของเย่เฟิงหลินเหรินเทียนรู้ดี มันไม่มีทางทำอะไรเย่เฟิงได้ ในเมื่อมันเป็นเช่นนี้ เขาจะต้องหาวิธีการอื่นเพื่อมาใช้จัดการเย่เฟิง
สำหรับพิษผงทลายใจ หลินเหรินเทียนคิดว่าถ้าไปที่โรงพยาบาลในเครือก็คงง่ายดายที่จะถอนพิษ เขาหรือจะยอมขอโทษเย่เฟิง? มันเป็นไปไม่ได้!
เย่เฟิงเหลือบมองเขาเล็กน้อย เมื่อเห็นอีกฝ่ายตัดสินใจเช่นนั้น
“ยาพิษนี้ไม่ใช่จะถอนกันง่ายๆ”
ในใจเย่เฟิงรู้สึกเย้ยหยัน
เป็นเพราะหลังจากที่เขาได้ผงทลายใจมาแล้ว เขาก็ได้ทำการเพิ่มผสมสูตรตัวยาหลายอย่างเพื่อเสริมสร้างพิษของมันและเสริมความรุนแรงอย่างต่อเนื่องอย่างเป็นธรรมชาติ เพียงแค่สองวันจะต้องตายอย่างอนาถ และในระหว่างสองวันนั้นบุคคลที่โดนพิษจะต้องทุกทรมานด้วยความเจ็บปวดอย่างมาก
วิธีการสกัดพิษนี้ มันเป็นสูตรยาจากโลกเทวะ เย่เฟิงเชื่อว่าบนโลกนี้ไม่มีใครสามารถถอนพิษมันได้อย่างแน่นอน
เชื่อได้เลยว่าจะต้องไม่ถึงวันที่หลินเหรินเทียนจะรู้ถึงคุณภาพพิษนี้ ความเจ็บปวดที่ทรมานรุนแรงจะต้องทำให้เขาหันหัวกลับมาขอโทษเย่เฟิง!
ให้หลินเหรินเทียนก้มหัวให้ เรื่องนี้ทุกคนภายในเหยียนจิงไม่มีใครกล้าที่จะคิด แน่นอนว่าเย่เฟิงกระทำมันอย่างง่ายดาย นอกจากนี้มันยังน่าจับตาอย่างมาก
หลากหลายความรู้สึกที่หลินเหรินเทียนไม่กล้าที่จะจัดการกับเย่เฟิงอย่างตรงไปตรงมา ทำให้เขากลืนไม่ได้คายไม่ออก ทำได้แต่เพียงหนีบหางแล้วจากไป แต่ก่อนที่เขาจะไปก็พลันมองอย่างแค้นเคืองไปยังเย่เฟิง แม้ว่าหลินเหรินเทียนจะไม่ได้พูดอะไร แต่จากที่มองคราเดียว รู้ได้เลยว่าเขาเกลียดชังเย่เฟิงมากจนฝังลึกไปในกระดูก
เย่เฟิงไม่ได้สนใจอีกฝ่ายที่จะจากไป
หลินซิวเหวินที่เพิ่งมีสติก็เห็นฉากที่พ่อของเขาและเย่เฟิงเผชิญหน้ากันอย่างดุเดือด แต่ภายใต้สถานการณ์นี้เขาไม่สามารถแสดงความเห็นอะไรออกไปได้ เพียงทำได้แค่มองหลินเหรินเทียนจากไปจากนั้นก็ตามออกไป
ก่อนที่เขาจะไป เขาก็หันไปมองเย่เฟิงซึ่งภายในสายตามีท่าทางที่สลับซับซ้อน
สำหรับซิวเหวิน เย่เฟิงได้ช่วยเขาไว้ นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่ชาญฉลาด เป็นบุคคลที่คู่ควรให้เขานับถือ แน่นอนว่าหลินเหรินเทียนเป็นพ่อของเขา ในเมื่อถูกสั่งสอนมาตั้งแต่ยังเล็กทำให้เขาเป็นไปไม่ได้ที่จะทิ้งหลินเหรินเทียนไปหาเย่เฟิง
คนของตระกูลหลินก็เดินไปขึ้นรถหรูจากนั้นก็ขับออกไปจากหมู่บ้านตระกูลเสี่ยว
แน่นอนว่าพวกเขาได้นำพายุมรสมจากไปพร้อมกับเขาด้วย
“เสี่ยวเย่”
หลินชื่อฉิงได้เดินเข้ามาหาเย่เฟิง จากนั้นก็เอียงซ้ายทีขวาทีมองสำรวจเย่เฟิงว่าไม่ได้เป็นอะไร เธอก็รู้สึกโล่งอก
“พี่หลิน หวังว่านั่นจะไม่ทำให้พี่เดือดร้อนนะ”
เย่เฟิงหรี่ตามอง อีกฝ่ายเป็นคนของตระกูลหลิน ถ้าการกระทำของเขาทำให้หลินชื่อฉิงคิดว่าเป็นการกระทำเกินเลย เขาก็คงจะไม่ตั้งใจทำเช่นนั้น
“ไม่เป็นไรหรอก”
หลินชื่อฉิงส่ายหัวและยิ้มให้ เมื่อนึกถึงหน้าซีดเผือดของหลินเหรินเทียน ใบหน้าอันสวยงามของเธอก็ปรากฏท่าทางมีความสุข
มันเป็นหนึ่งอาทิตย์แล้วที่หลินเหรินเทียนต่างวุ่นวายกับชีวิตของเธอ ในที่สุดตอนนี้ก็ถูกเย่เฟิงจัดการ ในเมื่อเย่เฟิงไม่ได้จัดการสังหารหลินเหรินเทียนโดยตรง หลินชื่อฉิงก็รู้ว่าเย่เฟิงได้ให้โอกาสอีกฝ่าย
เนื่องจากชีวิตของหลินเหรินเทียนตกอยู่ในน้ำมือของเย่เฟิงแล้วตอนนี้!
เพื่อแลกกับชีวิตของเขา หลินเหรินเทียนจะไม่ยอมทิ้งศักดิ์ศรีของเขาและมาขอโทษเย่เฟิงให้อับอายอย่างนั้นหรือ? เมื่อถึงเวลานั้นจะต้องน่าสนใจอย่างมากแน่ๆ
“เย่เฟิง”
เสี่ยวฉีและเสี่ยวเยวี่ยสาวสวยทั้งสองต่างวิ่งเข้ามาหาอย่างเร่งรีบ
เสี่ยวเยวี่ยกระโปรงแดงผู้เซ็กซี่ถือว่าไม่เลว แต่กับเสี่ยวฉีผู้น่ารักมันอดไม่ได้ที่จะยับยั้งหัวใจไม่ให้ตื่นเต้นและอดมิได้ที่จะพึมพำ มันช่างเป็นตัวตนที่ดูร่าเริงสดใสนัก
หลังจากที่ประสบกับเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ เสี่ยวฉีในปัจจุบันนี้ก็รู้สึกนับถือเย่เฟิงอย่างมาก
……………………………..
แปลโดย คั่นหนังสือ