I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 307 น่าหลงใหล

| Genius Sword Immortal | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 307 น่าหลงใหล

 

ตำรวจด้านนอกไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเย่เฟิง

 

รอจนกว่าที่ตำรวจจะพบว่า กระสุนระเบิดมันเป็นของปืนลำแสง จากนั้นพวกเขาจะต้องรายงานไปที่หน่วย NSA และหน่วย NSA ก็จะต้องตรวจสอบ ซึ่งต้องใช้เวลานาน ไม่ต้องกล่าวถึงว่าเย่เฟิงจะต้องจัดการกับหน่วย NSA อีกครั้ง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร เย่เฟิงก็สามารถจัดการได้อย่างอิสระ

 

ขณะนี้เย่เฟิงได้โอบเสี่ยวเยวี่ยเข้าไปภายในโรมแรมเพื่อเปิดห้อง

 

ความคิดของเย่เฟิงคือพาเธอมาพัก จากนั้นเขาก็กลับบ้านก่อน แต่สายตาของพนักงานต้อนรับภายในโรงแรมและเสี่ยวเยวี่ยเหมือนจะบอกใบ้บางอย่าง

 

หลังจากที่เข้ามาภายในห้อง เสี่ยวเยวี่ยไม่แม้แต่จะคิดล๊อคประตู จากนั้นก็เงยหน้าอันงดงามของเธอขึ้นจูบเย่เฟิงทันที

 

การกระทำนี้ทำให้เย่เฟิงถึงกับร่างแข็งค้าง สาวน้อยคนนี้ คิดจะทำอะไรกัน?

 

คิดไม่ออกเลยว่าทำเช่นนี้เพราะอะไร?

 

บอกตามตรงเลยว่าหากเป็นคนอื่นที่จะต้องอดกลั้น เย่เฟิงรับประกันได้ว่าพวกเขาจะต้องอดกลั้นไม่ไหว! นอกจากนี้เขายังคงรู้สึกเลือดสูบฉีด มันต้องกล่าวโทษที่หน้าตาและรูปร่างของเสี่ยวเยวี่ย โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดเขาหิมะทั้งสองลูกนั้น ทำให้ผู้คนแทบที่จะคอแห้งผาก

 

“นี่เธอ?”

 

เย่เฟิงพยายามที่จะร้องเรียกอีกฝ่าย

 

“หื้ม?”

 

เสี่ยวเยวี่ยกอดรั้งคอของเขาใกล้เขามา นัยน์ตาดูพร่าเลือน ร่างชุดแดงดูวุ่นวายและกลุ่มก้อนอันนุ่มนิ่มก็เบียดเข้ามากดอยู่ที่ตัวเย่เฟิง

 

การกระทำนี้ทำให้เย่เฟิงดึงแขนอีกฝ่ายและเหวี่ยงเธอลงไปยังเตียงนอนที่นุ่มนิ่มอย่างไม่รู้ตัว

 

“มีสติหน่อยสิ”

 

เย่เฟิงที่ยืนอยู่ข้างเตียงร้องตะโกนบอก

 

เสี่ยวเยวี่ยที่ถูกโยนลงบนเตียงได้ยินคำพูดของเย่เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มหัวเราะ ‘คิกคัก’ จนร่างสั่น ทำให้กลุ่มก้อนด้านหน้าเธอกระเพื่อมขึ้นลงจากแรงสั่น

 

ในความจริงเธอไม่ได้เมาเลย แม้ว่าตอนแรกจะรู้สึกเมาเล็กน้อย แต่หลังจากเหตุการณ์ที่รอยัลพาเลซแล้วเธอก็สร่างเมาเรียบร้อย

 

มันเป็นเหตุการณ์หลังจากที่เย่เฟิงใช้ปืนลำแสง!

 

คำพูดที่ว่าไม่มีสติ สำหรับเสี่ยวเยวี่ยที่ใช้ชีวิตอยู่ในชางไห่ไม่ได้ทำตัวเหลวไหลนัก ไม่งั้นมันจะเป็นไปได้ยังไงที่เธอยังบริสุทธิ์อยู่เช่นนี้?

 

“ฉันไม่มีเสน่ห์พอเหรอ?”

 

เสี่ยวเยวี่ยเงยหน้าขึ้นยิ้ม นัยน์ตาเบิกกว้างมองไปที่เย่เฟิง ภายในสายตาเต็มไปด้วยความอยากรู้และร้อนแรง แต่มันมีแววตาของความกังวลอยู่ภายในลึกๆ

 

“มันจะเป็นเช่นนั้นได้ยังไงเล่า?”

 

เย่เฟิงส่ายหัว ถ้าหากใครกล้าพูดว่าเสี่ยวเยวี่ยมีเสน่ห์ไม่พอ มันจะต้องเป็นสุนัขตาบอดแน่ๆ “ฉันเพียงคิดว่าเธอเมามากไปแล้ว ฉันไม่อยากเอาเปรียบใคร”

 

“เป็นอย่างงี้นี่เอง ฉันไม่คิดเลยว่านายจะเป็นสุภาพบุรุษเช่นนี้”

 

เสี่ยวเยวี่ยกระพริบตาคู่งามของเธอ ลึกขึ้นมานั่งดึงแขนเย่เฟิงเข้ามาภายในเตียงให้นอนอยู่ด้านข้างเธอ

 

เย่เฟิงต้องการที่จะอดกลั้น แต่คิดว่าอดกลั้นตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์แล้ว จากนั้นก็ตามน้ำไปกับเธอยอมนอนลงบนเตียง สำรวจใบหน้าของเสี่ยวเยวี่ยที่เนียนใส ขาวราวกับแผ่นหยก มันเหมือนกับวุ้นใสๆ

 

ด้วยใบหน้าที่งดงามของเสี่ยวเยวี่ยไร้การแต่งแต้ม สาวน้อยคนนี้มันเทียบได้กับผู้หญิงที่แต่งหน้าให้ดึงดูดใจเสียอีก เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเสี่ยวเยวี่ยดูแลผิวหน้าของเธออย่างดีมากแค่ไหน

 

ความสวยงามมันเป็นธรรมชาติของผู้หญิง ไม่ยกเว้นแม้กระทั่งเสี่ยวเยวี่ยจิตรกรคนนี้

 

“ฉันชอบนาย”

 

เสี่ยวเยวี่ยยื่นหน้าเข้ามาและจ้องไปในนัยน์ตาเย่เฟิง หน้าของพวกเขาทั้งสองมันห่างกันเพียงแค่สองคืบนิ้วเท่านั้น เสี่ยวเยวี่ยรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเย่เฟิง มันราวกับสายลมอ่อนๆปะทะบนใบหน้าเธอ มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกรุ่มร้อนมากยิ่งขึ้น

 

คำสารภาพของเธอมันตรงไปตรงมาอย่างมาก แม้กระทั่งเย่เฟิงก็ทำอะไรไม่ถูก

 

“เพราะอะไร?”

 

เย่เฟิงรู้สึกประหลาดใจ

 

เขาคิดไม่ออกเลยว่า สาวน้อยเสี่ยวเยวี่ยคนนี้จะชอบเขา มันไม่เร็วเกินไปหน่อยหรือ?

 

เกี่ยวกับสาเหตุที่เสี่ยวฉีชอบเขา เย่เฟิงพอจะรู้อยู่ แต่เขาไม่รู้เลยว่าพี่สาวของเธอ เสี่ยวเยวี่ยก็ยังชอบเขาเช่นกัน เขาไม่เคยได้ทำอะไรดีๆให้กับเสี่ยวเยวี่ยเลย เหตุใดอีกฝ่ายถึงมาชอบเขากัน?

 

“นายไม่รู้เลยเหรอว่า นายน่าหลงใหลอย่างมาก”

 

เสี่ยวเยวี่ยยิ้มและไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มอีก

 

ในความคิดของเธอ มันราวกับความชอบที่ไม่มีสาเหตุ ตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับเย่ฟิง เธอรู้สึกเย่เฟิงเป็นคนที่พิเศษไม่เหมือนคนอื่น

 

ขณะที่อยู่บนถนนออกไปชางไห่ บีเอ็มดับเบื้ลยูสีเงินและออดี้สีแดงชนกัน นั่นคือการพบกันครั้งแรกของพวกเขา ในตอนนั้นเธอรู้สึกอย่างเลือนรางว่าเย่เฟิงมันแตกต่างจากผู้ชายในโลกนี้

 

มันรู้สึกอย่างชัดเจนว่ามีความแตกต่าง แต่แตกต่างเช่นไรไม่สามารถอธิบายได้

 

จากนั้นก็เป็นตอนที่อยู่ในโรงแรมเขตเซียงซาน เธอเดินทางไปเพื่อพบเย่เฟิง กำลังถูกหวังเฉาตงตามตื้อ จากนั้นเขาก็ถูกเย่เฟิงต่อยกระเด็น ตอนนั้นเธอรู้สึกว่าเย่เฟิงเป็นคนแปลกประหลาด

 

มันไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะกล้าหาญ ซึ่งหวังเฉาตงมันเป็นเพียงคนรวยรุ่นที่สอง เป็นประเภทที่ไม่เข้าใจสถานการณ์อะไรอย่างชัดเจน ส่วนประเภทที่ไม่โง่เขลาและเก่งกาจ เย่เฟิงเป็นประเภทหลังอย่างเห็นได้ชัด

 

หลังจากนั้นต่อมา มันทำให้เสี่ยวเยวี่ยรู้สึกประหลาดใจ

 

จากปากของเสี่ยวฉี เธอได้ยินมาว่าวีรกรรมของเย่เฟิงภายในเหยียนจิงทั้งหมด และได้ไปเจอเหตุการณ์การต่อสู้ระหว่างเย่เฟิงและหลงโมหรัน จากนั้นเธอจึงมั่นใจว่าเย่เฟิงไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน

 

หลังจากที่กลับมาที่เหยียนจิง เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอมันมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่เมื่อได้รู้ว่าเย่เฟิงกับหลินชื่อฉิงเป็นคู่หมั้นกัน ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เย่เฟิงยังมีแฟนสาวสองคนอีก เรื่องนี้มันทำให้เธอรู้สึกลังเลใจ

 

แต่หลังจากวันนี้ เธอจะโยนเรื่องราวทั้งหมดทิ้งไป

 

เธอชอบเย่เฟิง จะต้องทำเช่นไรกับผู้หญิงที่เหลือ?

 

มันเกิดขึ้นน้อยมาก ที่เธอจะเป็นคนแรกที่มีความรู้สึกชอบต่อผู้ชายก่อน เมื่อครั้งที่เธอกำลังประสบปัญหาเพราะจ้าวเหรินเจี๋ย จากนั้นไม่นาน เย่เฟิงก็เตะจ้าวเหรินเจี๋ยกระเด็น ในที่สุดเธอก็พ้นออกมาจากเรื่องฉาวโฉ่

 

“ฉัน…”

 

เสี่ยวเยวี่ยจ้องมองตาเย่เฟิง มองไปภายในนัยน์ตาของเขาอย่างมีความสุข มันมีความรู้สึกหวาดกลัวอยู่เล็กน้อย ผู้ชายคนนี้คิดอะไรอยู่ในใจกันแน่?

 

เธอสารภาพบอกไปอย่างไม่คิดอะไรมาก แต่หลังจากที่สารภาพออกไปแล้ว ภายในใจเธอตอนนี้รู้สึกค่อนข้างหวาดกลัว

 

“ฉันต้องไปแล้ว”

 

เย่เฟิงยิ้ม เงยหน้ามองนาฬิกาบนกำแพง ค้นพบว่าเวลามันเริ่มจะดึกมากแล้ว

 

“ไปกันเถอะสาวน้อย”

 

คำพูดนี้มันทำให้เสี่ยวเยวี่ยโมโหในใจทันที อารมณ์ที่เดือดพลันระเบิดออก “มารดานายเพิ่งจะบอกรักไปแต่นายกลับสะบัดก้นจะกลับงั้นหรือ?”

 

เมื่อพูดจบก็ดันมือทั้งสองไปบนอกเย่เฟิง จากนั้นร่างชุดแดงก็ขึ้นคร่อมบนร่างของเย่เฟิงบนเตียงทันที ริมฝีปากอันร้อนแรงก็ระดมจูบประทับลงบนใบหน้าของเย่เฟิง

 

จะขืนใจกันเลยหรือ?

 

[คั่นหนังสือ : 卧勒个槽? คือประโยคนี้แปลไม่ถูกครับ แต่มันมีคำว่า ฝืนบังคับอยู่ ผมเลยดำน้ำแปลเป็น ขืนใจแทนนะครับ ส่วนท่านรู้ความหมายที่แท้จริง แจ้งให้ทราบได้เลยครับจะทำการแก้ไขทันที]

 

เย่เฟิงตกใจกับการกระทำของเสี่ยวเยวี่ย สาวน้อยคนนี้ช่างกล้าอย่างไม่คาดคิด มันดุดันยิ่งกว่าหลงหวางเอ๋อเสียอีก!

 

ความคิดของเธอตอนก่อนในแถบทะเลจีนตะวันออกมองออกได้อย่างชัดเจน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะประเมินเธอต่ำไปแล้ว

 

แต่ว่า…

 

เย่เฟิงรู้สึกว่าสาวน้อยคนนี้ไม่เข้าใจสถานการณ์อะไรเลย การที่ขึ้นคร่อมมาแบบนี้ มันเหมาะสมแล้วหรือ?

 

ครุ่นคิดยังไม่ทันเสร็จ

 

ขณะที่หน้าอกของเขารู้สึกได้ถึงกลุ่มก้อนสองลูกที่นุ่มนิ่ม มันก็ทำให้เขาเลือดสูบฉีดเดือดพล่านไปหมด เป็นเช่นนี้เขาจะคิดอะไรออกอีก?

 

……………………………..

 

แปลโดย คั่นหนังสือ

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments