I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 337 ก่อนจะไปยังทะเลทราย

| Genius Sword Immortal | 1118 | 2360 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 337 ก่อนจะไปยังทะเลทราย

 

สำหรับเย่เฟิงตอนนี้ ไม่ว่าหน่วย NSA หรือคนอื่นจะคิดยังไงก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย

 

หลังจากที่เฉินเจี้ยนสงและหลี่เสวียนพบกัน พวกเขามีเรื่องอะไรกันมั้ง เย่เฟิงคร้านที่จะไปสนใจ

 

สองวันต่อมา ภายในเมืองเล็กๆเมืองตุนหวงที่ทะเลทรายตะวันออกเฉียงเหนือ รถออฟโร้ดปกคลุมไปด้วยฝุ่นดินจอดอยู่หน้าตู้เอทีเอ็ม ก่อนที่จะมีชายหนุ่มเสื้อดำก้าวลงมาจากรถ

 

“คุณลุง เดี๋ยวผมขอไปกดเงินก่อนนะ”

 

ชายหนุ่มเสื้อดำคนนี้แน่นอนว่าคือเย่เฟิง เนื่องจากเขาขับรถไม่เป็น ดังนั้นจึงจ้างคนจากทะเลตงไห่ขับรถมาส่งเขาถึงทะเลทรายแห่งนี้ ตกลงราคาว่าจะให้เขา 2000 หยวนเป็นค่าจ้าง

 

แต่ที่ตัวเย่เฟิงไม่มีเงินสดมากมาย มีเพียงแค่แบ่งร้อยสิบใบเท่านั้นจึงจ่ายมัดจำไปก่อน และตอนนี้ได้ถึงจุดหมายแล้ว เขาจึงมองหาตู้เอทีเอ็มเพื่อกดเงินมาจ่ายที่เหลือ

 

“ได้เลยหนุ่มน้อย”

 

คนขับรถเป็นทหารที่เกษียณแล้ว ตอนนี้เขาอายุเกินกว่า 50 ปีได้ มีนิสัยที่ใจดี ตอนยังหนุ่มเขาได้ท่องเที่ยวไปทั่วจนช่ำชอง

 

ในระหว่างทาง เย่เฟิงกับเขาพูดคุยกับเรื่องสารพัดในประเภทจีน พวกเขาคุยค่อนข้างถูกคอกัน

 

แต่คนขับรู้ว่าเย่เฟิงมาที่เมืองตุนหวงนี้มีเรื่องต้องจัดการบางอย่าง ดังนั้นเขาก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย เขารู้ว่าไม่ควรจะยุ่งเรื่องคนอื่นมากเกินไป

 

การที่เย่เฟิงมายังเมืองตุนหวงนี้มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา เช่นนั้นแล้วเขาจะอยากรู้มันไปทำไม?

 

หลังจากที่เย่เฟิงออกมาจากรถ อากาศที่ทะเลทรายเริ่มเย็นลงแล้ว มองดูผู้คนในเมืองเล็กๆนี้ที่พูดคุยกับสวมใส่เสื้อผ้าค่อนข้างหนา เย่เฟิงกลับใส่เพียงเสื้อแขนสั้น มันเป็นภาพที่สะดุดตาอย่างยิ่ง

 

แน่นอนว่าเย่เฟิงไม่ได้สนใจว่าอากาศจะเป็นเช่นไร แม้กระทั่งใต้ทะเลตงไห่ที่น้ำทะเลอุณหภูมิลบ 20-30 องศา เขายังไม่ได้รู้สึกอะไรมาก ไม่จำเป็นต้องพูดถึงตอนนี้ที่วรยุทธมีมากขึ้นเลย

 

ระยะทางที่มาถึงเมืองตุนหวงนี้มันมีระยะทางถึง 3000 กิโลเมตร เย่เฟิงเจอคำถามมากมาย แต่เขาก็ใช้วิธีมากมายเพื่อหลีกเลี่ยงมัน

 

“ดูเหมือนว่าอิทธิพลของวังไท่จี๋จะน่ากลัวจริงๆ”

 

ภายในใจเย่เฟิงครุ่นคิด หยิบเอาเงิน 10000 ออกจากตู้เอทีเอ็มอย่างรวดเร็ว อย่างแรกต้องจะมอบให้กับคนขับ 1000 ส่วนที่เหลือก็โยนเข้าไปภายในแหวนมิติไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน

 

บัตรเงินสดนั่นที่ได้หลินชื่อฉิงเช็คดู แต่ละใบมีเงินถึง 10 ล้าน เย่เฟิงส่งเงินทั้งหมดให้กลับอู๋บี บริษัทของเย่เฟิงในตอนนี้มีเงินอยู่มากมาย เพียงเหลือไว้ 12 ล้านที่ไม่ได้มอบให้อู๋บีและเก็บเอามาไว้ใช้ส่วนตัว

 

ส่วนที่เหลือเป็นพันล้านนั่น เย่เฟิงได้ใช้จ่ายอย่างบ้าคลั่งไปกับสมุนไพรทำยา สกัดปรุงเป็นเม็ดยา เม็ดยาฟื้นฟูเจิ้นชี่และรักษา แต่ละอย่างมีถึง 20 เม็ด จากที่คำนวณดูแล้วเพื่อใช้เดินทางในทะเลทรายนี้มันก็เพียงพอแล้ว

 

เรื่องนี้ทำให้เย่เฟิงถึงกับถอนหายใจ ไม่ว่าจะมีเงินมากมายแค่ไหนมันก็ไม่พอเลยจริงๆ พันล้านหยวนสำหรับคนธรรมดามันคือเงินก้อนโตมโหฬาร และสำหรับเขาเพียงแค่เดินทางมาทะเลทรายมันก็หมดเกลี้ยงแล้ว

 

ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ดูเหมือนว่าจะต้องหาวิธีทำเงินจะเป็นการดีที่สุด

 

และหลังจากที่ซื้อสมุนไพรมากมายไปแล้ว ชื่อบริษัทอุตสาหกรรมยาเตาเฟิงก็เข้าตาของผู้คน พันล้านหยวนที่ได้ใช้ไป มันไม่ได้นับเป็นอะไรมากมายในโลกใบนี้ เมื่อมันเทียบกับเงินพันล้านหยวนแล้ว เย่เฟิงคิดว่ามันถูกเสียไปด้วยซ้ำ

 

แต่บริษัทอุตสาหกรรมยาเตาเฟิงหรือสมุนไพรที่ซื้อไปอย่างล้างผลาญ ดังนั้นมันจึงทำให้ผู้คนมีความสนใจ

 

เย่เฟิงส่ายหัว เขาไม่ได้อยากไปคิดมาก ตอนนี้จะเริ่มเดินทางไปในทะเลทรายแล้ว จะต้องไปพบซูเฟยหยิ่งและค้นหาอุปกรณ์วาร์ปก่อนเป็นการดีที่สุด ในระหว่างทาง พวกเขาจะต้องระวังคนของวังไท่จี๋อยู่เสมอ จากที่เฉินฮุยบอก วังไท่จี๋ส่งกำลังคนมาอย่างมากมาย แม้กระทั่งผู้อาวุโสยังส่งมาถึงสี่คน

 

มันสามารถพูดได้ว่าตอนนี้ความแข็งแกร่ง 50% ของวังไท่จี๋อยู่ที่ทะเลทรายแห่งนี้!

 

ด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ มันเพียงพอที่จะล้างสำนักอื่นในโลกยุทธภพได้เลย

 

เย่เฟิงก้าวออกมาจากตู้เอทีเอ็ม เงยหน้ามองเห็นสถานการณ์เบื้องหน้า เห็นรถสีออฟโร้ดสีเขียวของเขาล้อมรอบไปด้วยนักเลงข้างถนนหลายคน ภายในมือแต่ละคนถือไว้ด้วยท่อนเหล็ก ดูท่ทางคล้ายจะปล้นชิงอย่างแน่นอน

 

เย่เฟิงหรี่ตามอง พวกนักเลงนี้ต่างเห็นรถเป็นป้ายทะเบียนนอกพื้น ดังนั้นจึงมีความกล้าที่จะมาปล้นงั้นหรือ? น่าเสียดายที่ทั้งรถไม่มีของมีค่าอะไร ส่วนคนขับรถก็ไม่ได้พกเงินอะไรมากมาย มีเพียงแค่ตัวรถออฟโร้ดเท่านั้นที่มีค่า

 

“ออกมาเดี๋ยวนี้!”

 

หนึ่งในนั้นที่สวมใส่เสื้อหนังแจ็คเก็ต หัวล้านเลี่ยนแต่มีไว้ปอยผมหางหมูอยู่ด้านหลัง ปากคาบบุหรี่เอาไว้ ท่อนเหล็กภายในมือเคาะไปยังรถออฟโร้ด ดัง “เคร้ง” ทำให้ผู้คนแถวนั้นทั้งหมดต่างหวาดกลัว

 

หนึ่งในนั้นที่ใส่เสื้อแขนสั้น ที่แขนมีรอยสักรูปเสือตัวใหญ่สวยงาม เลื่อนเปิดประตูกรงเหล็กรถออฟโร้ดขึ้นมา เนื่องจากคนขับจำเป็นต้องรอเย่เฟิงกลับมา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ล็อคปิดประตูกรงเหล็กรถ พวกนั้นจึงเลื่อนเปิดขึ้นมาได้

 

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับโจรกระจอก สีหน้าคนขับไม่ได้มีอาการตื่นตระหนกให้เห็น แต่กลับเปิดหมวกกันแดดที่สวมใส่ขึ้น วางเท้าไปที่คันเร่ง

 

“บนตัวฉันมีแค่ 3000 เท่านั้น เอาไปสิ”

 

คนขับรถหยิบเอาแบ่งปึกหนึ่งออกจากอก เหลือบมองผ่านหน้าต่างไปยังชายที่สวมใส่เสื้อแจ็คเก็ต

 

ถ้าอีกฝ่ายนำเงินไปแล้วก็จากไป คนขับก็ไม่ต้องการทำอะไรมากมาย ตอนหนุ่มเขามีประสบการณ์เรื่องนี้มากมาย เขาผ่านเรื่องแบบนี้อย่างใจเย็น

 

แม้ว่าจะถูกปล้นไป 3000 การมาเมืองตุนหวงในครั้งนี้ทำให้เขาต้องเป็นหนี้ แต่เรื่องเงินมันไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด เขาเต็มใจที่จะพาเย่เฟิงมายังที่เมืองตุนหวงนี้ ไม่ได้ต้องการเงินด้วยซ้ำ แต่เขารู้สึกสนใจในตัวหนุ่มเย่เฟิงคนนี้ การพูดการจาที่ดูสุภาพมาก

 

น่าเสียดายสิ่งที่เขาคิดไม่ใช่สิ่งที่นักเลงเหล่านี้คิด

 

สหายคนนี้ควักเอาเงิน 3000 ออกมาอย่างเชื่อฟัง หรือว่าบนตัวเขายังมีเงินอีกมาก? เหล่านักเลงพวกนี้ต่างรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก!

 

“ไอ้แก่เจ้าเล่ห์แค่ 3000 ก็จะทำให้พี่น้องพวกเราจากไปหรอ? ออกมาเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นจะทุบตีแกให้เละ ต้องค้นแกให้หมดตัว!”

 

ชายผมสั้นที่แขนมีลายสักรูปเสือร้อง “เฮ้ย” ทำท่าจะขึ้นมาบนรถที่นั่งด้านหลัง ต้องการที่จะเข้ามาดึงคนขับรถออกไป และต้องการเปิดประตูกรงเหล็กฝั่งคนขับขึ้นด้วย

 

แต่ขณะนั้นเอง จู่ๆก็มีแรงดึงเขาอย่างแรง ก่อนที่ร่างที่เข้าไปในรถได้ครึ่งหนึ่งลอยกระเด็นออกมาจากรถกระแทกพื้นทรายอย่างรุนแรง

 

“ปล้นกันกลางวันแสกๆ แกไม่กลัวตำรวจกันเลยหรือ?”

 

เสียงเย่เฟิงดังขึ้นมา เท้าเหยียบไปบนแขนของชายที่มีลายสักรูปเสือ “กร๊อบ” เสียงกระดูกหักดังขึ้น!

 

“เฮ้ย”

 

สหายของพวกเขาถูกเหยียบ ก่อนที่จะส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ส่วนนักเลงที่เหลือต่างไม่ทันตอบสนอง ยืนมองฉากเบื้องหน้านี้อย่างเหลือเชื่อ

 

ในเมืองนี้มันจะยังใครกล้าที่จะล่วงเกินแก๊งของพวกเขาอยู่หรือ?

 

ไม่ใช่แค่เจ้าหนุ่มคนนี้เพียงดึงต้าหู่ออกมา แต่กลับกระทืบแขนเขาหัก ท่าทางก็ดูเหมือนอ่อนแอ แต่มีคนเดียวจะสู้กับคนมากมายได้ยังไง เจ้าหนุ่มคนนี้มันโง่หรือไงกัน?

 

……………………………..

 

แปลโดย คั่นหนังสือ

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments