I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 338 ตบหัวแล้วลูบหลัง

| Genius Sword Immortal | 1120 | 2360 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 338 ตบหัวแล้วลูบหลัง

 

มันไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มนักเลงพวกนี้กระทำเรื่องราวเช่นนี้ในเมือง แต่มันเป็นครั้งแรกที่มีใครบางคนมาขวางพวกเขา แถมยังจัดการอย่างรุนแรง กระทืบแขนพรรคพวกเขาจนหัก

 

ชายหัวล้านหางหมูที่สวมใส่เสื้อแจ็คเก็ตโบกมือขึ้น จ้องเขม็งไปยังเย่เฟงอย่างดุร้าย ส่วนห้าคนที่เหลือก็ล้อมรอบเย่เฟิงอยู่ตรงกลาง พวกเขาต่างโยนท่อนเหล็กภายในมือทิ้ง มีดแหลมคมถูกควักออกมาแทนที่

 

พวกเขาแค่ปล้นเงิน ไม่ได้เป็นฆาตกร แต่ในเมื่อมีคนกล้าออกมายั่วยุพวกเขา ถ้าไม่ได้เห็นเลือดก็คงไม่พอใจ

 

“ลุง นี่ 1000 ที่เหลือ ลุงไปก่อนได้เลย”

 

เย่เฟิงเตะไปยังชายที่แขนหักหนึ่งที ก่อนที่จะยื่นแบงค์ร้อยสีแดงสิบใบให้คนขับรถ นักเลงพวกนี้เพียงก่อการในถิ่นนี้เท่านั้น เพียงแค่ออกไปจากที่นี่ คนขับรถก็จะไม่พบเจออันตรายอะไรอีก

 

“แต่…หนุ่มน้อย”

 

คนขับรถรู้สึกตกใจในความหมายที่เย่เฟิงบอก มือเปล่าแต่กล้าไปสู้กับคนที่มีอาวุธน่ะหรือ? ถ้าเป็นพวกตำรวจก็ว่าไปอย่าง ชายหนุ่มคนนี้ไม่มีทางหนีรอดไปได้ง่ายๆแน่!

 

“ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ แค่พวกมันไม่กี่คนผมไม่เห็นอยู่ในสายตาหรอก”

 

มุมปากเย่เฟิงยกโค้งขึ้น “เพียงแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น เสี่ยวเฉิน ตรวจดูทุกที่ ดูว่าในเมืองนี้ยังมีใครน่าสงสัยอีก! ”

 

คนของวังไท่จี๋ส่วนใหญ่อยู่ใกล้กับเมืองเล็กๆแห่งนี้ น่าจะทิ้งคนเฝ้าเอาไว้ในเมือง นอกจากนี้ได้ยินว่าหมัดเทพทวารามาด้วยตัวเอง ถ้าหากรับรู้ตำแหน่งอีกฝ่ายได้ เย่เฟิงก็สามารถที่จะเตรียมพร้อมเอาไว้ได้

 

ก่อนหน้านี้ซูเสี่ยวอวี่และ “หลงโมหรัน” ถูกจับกุมโดยหน่วย NSA แต่หน่วย NSA ไม่ได้ทำอะไรให้เขาลำบาก เพียงถามเรื่องบางอย่าง สอบสวนเกี่ยวกับรายละเอียดเรื่องทะเลตงไห่ก่อนปล่อยตัวเขาออกมา ขณะที่เรื่องหลัง เป็นเพราะเย่เฟิงและหลินชื่อฉิงช่วยเหลือ ดังนั้นหน่วย NSA จึงได้ปล่อยตัวเขา

 

ตอนนี้วิชาเซียนปลองแปลงของซูเฟยหยิ่ง ยังคงเป็นรูปร่างหลงโมหรันอยู่ ซึ่งตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ภายในถ้ำของตระกูล เตรียมพร้อมที่จะสั่งงานคนของตระกูลหลงภายในโลกยุทธภพอยู่ในขณะนี้

 

เพียงไม่กี่คำเท่านั้น เย่เฟิงส่งเสียงบอกจ้าวอี้เปยและหลิงเฉินทั้งสองที่กำลังลอยอยู่เหนือทะเลทราย เวลานี้เป็นโอกาสที่พวกเขาจะได้ช่วยเหลือเย่เฟิง

 

เมื่อทั้งสองได้ยิน ก็ตอบรับคำสั่งในทันที แยกออกค้นหาเป็นสองทิศทาง เนื่องจากร่างของผู้ฝึกวิญญาณสามารถทะลุกำแพงได้ สามารถเหินบินอยู่บนอากาศมองเห็นได้ไกล เหมาะสมแก่การลาดเลา

 

การต้องตรวจสอบสถานการณ์ภายในเมือง สำหรับจ้าวอี้เปยและหลิงเฉิน มันเหมือนกับการกินข้าวธรรมดา แน่นอนว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องกินข้าว แต่สามารถดูดซับพลังวิญญาณได้ทุกที่และทุกเวลา

 

แต่ช่วงอายุของผู้ฝึกวิญญาณสั้นนัก ตอนนี้พวกเขามีวรยุทธ 10 ปี สามารถอยู่ได้แค่ 2 ปีเท่านั้น หลังจากสองปีผ่านไปถ้าวรยุทธไม่เพิ่มขึ้น พวกเขาจะสลายหายไปเป็นอากาศ

 

เมื่อเห็นว่าจ้าวอี้เปยและหลิงเฉินแยกกันไปสองทิศทางเพื่อตรวจสอบแล้ว เย่เฟิงพลันผ่อนคลายลง เดินไปยังรถออฟโร้ด ก่อนตบไปบนฝากระโปรงรถ “ลุงไปได้เลยครับ”

 

หลังจากที่เย่เฟิงกล่าวกับคนขับรถเย่เฟิงก็หยิบเอามีดจากแหวนมิติและปาออกไปอย่างรวดเร็ว มีดอันแหลมคมพุ่งไปยังกลุ่มคนที่ล้อมรอบอยู่ ดูเหมือนจะเล็งไปยังชายที่สวมเสื้อแจ็คเก็ต

 

แทบจะไม่มีเวลาตอบสนองสหายหัวล้านก็เปิดเผยสีหน้าเจ็บปวด มีดบินที่เย่เฟิงปาออกไปแทงไปที่หลังมือของเขา ทำให้มีดที่อยู่ภายในมือร่วงหล่นลงไปบนพื้นทรายทันที

 

ฉากนี้ตกอยู่ภายใต้สายตาของคนขับรถ อ้า! ร้องอุทานกับความแข็งแกร่งของเย่เฟิง ด้วยฝีมือการปามีดนี้ แสดงให้เห็นว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ธรรมดา

 

คนขับรถรู้สึกโล่งใจ เหยียบคันเร่งออกไปทันที แต่ก่อนที่จะจากไปก็ถอยหลัง จากนั้นก็ชนอีกฝ่ายสามคนก่อนที่จากไปอย่างรวดเร็ว

 

ทั้งสามคนแยกกันหลบพร้อมร้องตะโกน กำลังรีบไล่ตามรถที่กำลังจะหนีไป แต่ก็ถูกดึงรั้งไว้โดยเย่เฟิง กระแทกพื้นทรายอย่างแรง ก่อนที่จะถูกหักกระดูกเช่นกัน ลุกขึ้นมาไม่ไหวอีก

 

ภายในถนนเมืองเล็กๆนี้เต็มไปด้วยคนมากมาย เย่เฟิงจัดการนักเลงหลายคนที่กำลังพุ่งออกไปแล้ว ขณะที่คนขับรถได้ขับจากออกไปยังถนนใหญ่แล้ว

 

คนขับรถหันมามองเย่เฟิงและพบว่าเขาได้จัดการอีกฝ่ายไปหมดแล้ว ก็รู้สึกโล่งใจ มันดูเหมือนว่าเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้จะเก่งกาจอย่างมาก เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้เขาก็ไม่จำเป็นต้องห่วงอะไรอีก

 

รถออฟโร้ดขับจากไปอย่างรวดเร็ว

 

ในที่สุดเย่เฟิงก็โล่งใจเช่นกัน ถ้าหากลุงคนขับคนนั้นไม่ยอมจากไป เขาก็คงไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากเป็นเพราะเขาต้องไปทำธุระของเขา ถ้าปล่อยให้ลุงอยู่ภายในเมืองก็คงจะถูกปล้น มันอาจทำให้เย่เฟิงรู้สึกผิดได้

 

นอกจากนี้เย่เฟิงยังอยากให้อีกฝ่ายไปส่งให้ถึงทะเลทราย

 

“แก…แกเป็นใครกัน?”

 

เมื่อมองไปยังมือของตัวเองที่ถูกเย่เฟิงจัดการอย่างง่ายดาย ชายหัวล้านรู้สึกตกใจทันที เห็นมีดบินภายในมือทำให้นึกถึงเรื่องบางอย่างได้

 

มือที่ถูกมีดบินเพียงไปนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลหลายวันก็หายแล้ว แต่ถ้าเขาล่วงเกินคนที่ล่วงเกินไม่ได้ ต่อให้มีหลายชีวิตก็ไม่พอ! ตอนนี้ภายในใจเขารู้สึกเศร้าที่ไม่ได้ฟังคำที่ลูกพี่บอกว่าช่วงนี้มีคนที่เก่งกาจอยู่ข้างนอกมากมาย เขาไม่ได้สนใจมัน และไม่คิดเลยว่าตัวเขาจะวิ่งมาชนเรื่องราวกับคนนี้

 

“ฉันเป็นใครไม่เกี่ยวข้องกับแกหรอก”

 

เย่เฟิงกล่าวบอกเบาๆ ย่างก้าวที่ละก้าวไปยังชายหัวล้านที่มือบาดเจ็บ “บอกฉันมาที เมื่อไม่กี่วันก่อนพบเห็นคนแบบฉันบ้างไหม?”

 

เมื่อได้ยินชายหัวล้านก็มองตาโต คนแบบไหนที่เหมือนเขากัน?

 

แต่เป็นเพียงไม่นานที่เขาตกใจกับคำถามของชายหนุ่มเสื้อดำนี้ หรือว่าเขาจะหมายถึงคน “ที่มีวรยุทธสูงส่ง” เช่นเขากัน?

 

“มี..มี หัวหน้าบอกว่าไม่นานมานี้มีเข้ามามากมาย ดังนั้นจึงบอกให้พวกเราระวังเอาไว้”

 

เย่เฟิงเหยียบไปยังหลังมือของเขาจนเจ็บปวดรวดร้าว ชายหัวล้านพูดพลางพยักหน้ารัวๆทันที เขาไม่กล้าที่จะต่อต้าน “แต่ลูกพี่ไม่ค่อยได้เข้มงวดเท่าไหร่ จึงออกมาปล้นกัน”

 

“ไม่มีงานทำหาเงินกันแล้วหรือไงห๊ะ?”

 

เย่เฟิงแค่นเสียง โยนแบงค์ร้อยมากกว่า 20 ใบลงไป ก่อนจะกล่าว “ฉันมีเรื่องที่ต้องจัดการที่นี่ แกต้องหาคนไปตรวจสอบให้ฉัน ถ้าเจอคนที่น่าสงสัยต้องรายงานฉันทันที นี่เบอร์โทรของฉัน”

 

จ้าวอี้เปยและหลิงเฉินจะต้องเข้าไปลึกภายในทะเลทรายกับเขา เพื่อตามล่าร่องรอย แต่เมืองเล็กแห่งนี้เป็นจุดพักอยู่นอกเขตทะเลทราย ถ้าหากมีคนของโลกยุทธภพมา แน่นอนว่าจะต้องพักอยู่ที่นี่

 

พูดได้ว่ามีใครบางคนเป็นหูเป็นตาในที่นี่ เมื่อเย่เฟิงเข้าไปในทะเลทรายแล้วจะได้เตรียมตัวถูก

 

เมื่อชายหัวล้านเห็นเย่เฟิงทิ้งเงินให้จำนวนมากก็ตกใจทันที เขาไม่คิดว่าเย่เฟิงที่เก่งกาจขนาดนี้จะมอบเงินให้เขา!

 

“พาพรรคพวกไปโรงพยาบาลดูอาการซะ จากนั้นก็คอยจับดูคนที่ว่าเอาไว้”

 

เย่เฟิงยิ้มให้ก่อนจะตบหัวไหล่ชายหัวล้าน “เมื่อเรื่องจบแล้วรอฉันกลับมา จะเพิ่มเงินให้แกอีก”

 

ตบหัวแล้วลูบหลัง เย่เฟิงซื้อตัวคนของชายหัวล้านในทันที!

 

……………………………..

 

แปลโดย คั่นหนังสือ

 

เปิดกลุ่มลับแล้วนะครับ ติดตามได้ที่เพจ

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments