ตอนที่แล้วตอนต่อไปบทที่ 343 วางแผนจับกุมเทพธิดา
เย่เฟิงที่แอบฟังอยู่ข้างนอกเต็นท์ รับรู้ได้ว่าชายชราทั้งสองต่างเป็นคนของตระกูลถังและคนของหมัดเทพทวารา ตอนนี้กับแอบลอบจับมือกันอย่างลับๆ เพื่อรับมือกับวังไท่จี๋
ที่ทะเลทรายตอนนี้ วังไท่จี๋นำผู้อาวุโสสูงสุดมาถึงสี่คน แบ่งออกเป็น เม่ย(บ๊วย), หลัน(กล้วยไม้), จู๋(ไผ่), จวี๋(เบญจมาศ) สี่ตำแหน่งสูง แน่นอนว่าตอนนี้สี่ตำแหน่งสูงนี้กลายมาเป็นชายชราสี่คน อายุประมาณ 60-70 ปี มีวรยุทธ 80-90 ปี มีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง
แต่ตระกูลถัง มาเพียงแค่ผู้อาวุโสตระกูลสาขา วรยุทธ 70-80 ปี ด้อยกว่าเมื่อเทียบกับวังไท่จี๋ ส่วนหมัดเทพทวารามีผู้อาวุโสเหนือใต้มา หมัดเทพเจ้าดาวใต้ซูเสี่ยวอวี่และหมัดเทพเจ้าดาวเหนือหานจืออู๋(ไม่ใช่เคนชิโร่นะครับ) วรยุทธแปดสิบปีและหนึ่งร้อยปี เป็นเสาหลักของหมัดเทพทวารา มาที่ทะเลทรายแห่งนี้เพื่อรับมือกับกองกำลังของวังไท่จี๋ นอกจากนี้หมัดเทพทวารายังมาพร้อมกับศิษย์สุดยอดฝีมืออีกสี่คน มีวรยุทธประมาณเจ็ดสิบปี
ส่วนชายชราที่เย่เฟิงแอบฟังพวกเขาคุณกันเงียบๆอยู่ตอนนี้ คือผู้อาวุโสตระกูลสาขา ถังเยวี่ย และศิษย์สุดยอดฝีมือหมัดเทพทวารา มันเป็นการแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างสองสำนักในระหว่างสองวัน
แรกเริ่มซูเฟยหยิ่งไล่ตามแขนเพลิงเจ้าสำนักหั่วอวิ๋นจนมาถึงทะเลทราย จึงถูกสามสำนักใหญ่พบเห็นเข้า ตระหนักได้ว่าที่โบราณสถานแห่งนี้มีตัวตนที่น่ากลัวอยู่สองคน หนึ่งเป็นเทพธิดาทะเลตงไห่ที่มีเรื่องโด่งดังเมื่อไม่นานมานี้
สองคือตัวตนที่มาพร้อมกัน หลังจากที่เข้าไปภายในโบราณสถาน เหมือนจะแยกกันไปคนละทิศทาง
คนของวังไท่จี๋ที่พบเจอกำแพงเพลิง เบื้องหลังมันจะต้องเป็นตัวตนที่น่ากลัวอย่างแน่นอน ส่วนเทพธิดาทะเลตงไห่ที่โด่งดัง ถูกปิดกั้นตำแหน่งโดยตระกูลถังและหมัดเทพทวารา
“อาจารย์ถูกพบหรือยังนะ?”
เย่เฟิงเมื่อได้ยิน ก็รู้สึกวิตกเล็กน้อย คอยตั้งใจฟังอย่างระวัง
ยิ่งฟังเขายิ่งตกใจ ตระกูลถังและหมัดเทพทวาราทั้งสองกองกำลังนี้ ต่างกำลังสมคบคิด “วางแผนจับกุมเทพธิดา”! สาเหตุที่ยังไม่ได้ลงมือ เนื่องจากตระกูลถังกำลังขยอุปกรณ์อาวุมาอยู่ อาวุธประเภทเดียวกับปืนตาข่ายของหน่วย NSA และยังมีระเบิด ฯลฯ
ในการจับกุมเทพธิดาทะเลตงไห่ กลุ่มคนทั้งสองต่างมาทำข้อตกลงกัน แอบหารือกันอย่างลับๆ ไม่เปิดเผยเรื่องราวให้บุคคลที่สามได้รับรู้ ทำงานร่วมมือกันจับกุมเทพธิดาทะเลตงไห่และแบ่งผลประโยชน์กัน
“พวกเขาต้องการที่จะจับกุมอาจารย์ ฉันต้องรีบแล้ว”
เย่เฟิงฟังพวกเขาคุยกันภายในเต็นท์อย่างระวัง ขบคิดถึงสถานการณ์ในตอนนี้ เขาจำเป็นต้องกระทำการบางอย่าง
เมื่อตำแหน่งสถานที่ของซูเฟยหยิ่งตกเป็นเป้าของตระกูลถังและหมัดเทพทวารา เย่เฟิงจะต้องรีบเร่งลงมือให้ทัน และเตือนให้ซูเฟยหยิ่งระวังตัว แม้ว่าวรยุทธของซูเฟยหยิ่งจะลึกล้ำ แต่สถานที่ภายในโบราณสถานมันคับแคบ ความสามารถที่จะใช้ออกได้มีจำกัด
ไม่จำเป็นต้องพูดถึงว่าซูเฟยหยิ่งไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีสมัยนี้ เมื่อติดกับเข้าคงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร?
เมื่อเย่เฟิงได้รับรู้ข่าวสารนี้ก็แอบย่องไปต่อข้างหน้าอย่างเงียบๆ เตรียมจากไปจากค่ายของสำนักใหญ่ทั้งสามนี้
เพียงไม่นานหลังจากที่เขาจากมา ภายในเต็นท์ผู้อาวุโสถังเยวี่ยก็เปิดออก เดินออกจากเต็นท์อย่างระวัง จากไปตามเส้นทางที่เย่เฟิงผ่านมา มุ่งสู่ทางเข้าโบราณสถานอย่างรีบเร่ง
ตระกูลถังแบ่งแยกหน้ามือเป็นหลังมือ โดยเฉพาะตระกูลหลักและตระกูลสาขา แม้กระทั่งตำแหน่งผู้อาวุโสเล็กๆของตระกูลสาขาดั่งเช่นถังเยวี่ย ภายในตระกูลถังถือว่าไม่มีอำนาจมากนัก เนื่องจากมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี ดังนั้นจึงได้ตำแหน่งผู้อาวุโสธรรมดาเท่านั้น
ตาของเย่เฟิงถังเสวี่ยเฟิง เนื่องจากเป็นเพียงแค่ตระกูลสาขา ดังนั้นจึงไม่มีค่าอะไร แม่ของเย่เฟิงถังฉิงหลิงจึงถูกขับออกจากตระกูลในอดีต
ถังเยว่ และถังซิน เป็นผู้อาวุโสตระกูลสาขา ถูกส่งมารับมือวังไท่จี๋ที่ทะเลทรายตอนนี้ ถ้าหากสามารถทำได้สำเร็จ แน่นอนว่าฐานะของเขาจะสูงขึ้นภายในตระกูลถัง ดังนั้นพวกเขาจึงทุ่มสุดตัว ปราศจากความลังเลที่จะร่วมมือกับคนของหมัดเทพทวารา ซึ่งกลายเป็นสองรุมหนึ่ง
จากการหารือระหว่างศิษย์สุดยอดฝีมือของหมัดเทพทวาราทำให้ถังเยว่อดใจรอไม่ไหว รีบเร่งออกไป เตรียมพร้อมแผนการทันที
เนื่องจากข่าวที่เขาได้รับ เหล่าอุปกรณ์การต่อสู้จำเป็นต้องถูกส่งมาที่เมืองอย่างรวดเร็ว!
เนื่องจากการลอบแอบเข้ามาของเย่เฟิงจำเป็นต้องใช้เจิ้นชี่ ความเร็วไม่เท่ากับชายชราถังเยว่ มองอย่างเบิกตาค้างทำอะไรไม่ถูกไปยังถังเยว่ที่สวมใส่เสื้อจอมยุทธสีน้ำเงินผ่านเข้าไป เดินไปข้างหน้า ตรงไปใกล้เข้าไปยังหลุมทรายขนาดใหญ่เรื่อยๆ
เย่เฟิงขบคิด ตัดสินใจซ่อนตัวดูสถานการณ์ก่อน มิเช่นนั้นหากถูกจับได้อาจจะเกิดเรื่องร้ายแรงได้
และไม่นานจากนั้นเขาก็มาถึงหลุมทรายขนาดใหญ่ซึ่งเป็นทางที่ถังเยว่เข้าไปภายในโบราณสถาน!
หลุมทรายขนาดใหญ่นี้มันลึกลงไปอย่างมาก หลังจากที่เข้ามาภายในหลุมทรายที่ก้นหลุมต่างมีเส้นทางเข้าโบราณสถานมากมาย สามารถเห็นได้ชัดเจนถึงทางเข้าโบราณสถาน มันดูมีอายุเก่าแก่อย่างมาก แต่ใกล้ๆกับเส้นทางเข้าโบราณสถาน มันมีเหล่าจอมยุทธมากมายคอยคุ้มกันเอาไว้อยู่
วังไท่จี๋คอยคุ้มกันอยู่สี่ทางเข้า ส่วนหมัดเทพทวาราและตระกูลถังคอยคุ้มกันสี่ทางเข้าเช่นกัน ทั้งสองแบ่งคุ้มกันคนละสอง
เมื่อเย่เฟิงมองดู ครุ่นคิดว่าหลุมทรายในตอนนี้ต่างมีสุดยอดฝีมือมากมาย ถ้าหากเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกเซียนแล้วล่ะก็ เขาจะต้องถูกพบโดยทักษะสัมผัสวิญญาณของคนเหล่านี้เป็นแน่ น่าเสียจอมยุทธเหล่านี้ไม่มีทักษะสัมผัสวิญญาณ มันไม่มีทางที่จะพบเจอเขาแน่นอน
ตอนนี้เย่เฟิงไม่ต้องการที่จะยุ่งเกี่ยวกับคนของวังไท่จี๋ มีเพียงต้องการไปพบกับซูเฟยหยิ่งให้เร็วที่สุด ดังนั้นจึงเดินไปยังสี่ทางเข้าที่หมัดเทพทวาราและตระกูลถังดูแลอยู่ พบเห็นว่าถังเยว่ผู้สวมใส่ชุดจอมยุทธสีน้ำเงินได้มาถึงที่ทางเข้าแล้ว กำชับศิษย์ตระกูลถังสองคนให้คุ้มกันให้ดี ก่อนที่จะเดินเข้าไปในทางเข้า
วิชาเซียนล่องหนเย่เฟิงตอนนี้สามารถซ่อนได้ทั้งกลิ่นอายและตัวตน มีเพียงแค่ผู้ฝึกเซียนที่มีวรยุทธเยอะกว่าเขาเท่านั้น มิเช่นนั้นอีกฝ่ายไม่มีทางพบตัวเขาได้
นอกจากนี้ภายในหลุดทรายแห่งนี้มันไม่มีชายชราที่มีวรยุทธเกินหนึ่งร้อยปีเลย ดังนั้นเย่เฟิงจึงติดตามอย่างสบายใจ ติดตามอย่างใกล้ชิดอยู่เบื้องหลังถังเยว่
จากตอนนี้ที่เข้ามาภายในทางเข้าโบราณสถานลึกลงไปใต้ดินถึง 100 เมตร เส้นทางที่เข้ามาภายในหลุมทรายนี้ เส้นทางมันลาดเอียงถึง 45 องศา ถ้าหากมีวรยุทธไม่สูงเพียงพอหรือไม่มีอุปกรณ์เฉพาะ จะต้องลื่นไถลลงไปตามเส้นทางนี้อย่างแน่นอน
ระหว่างที่เย่เฟิงแอบย่องตามเส้นทางทรายนี้ไป ค้นพบว่าโถงทั้งสี่ด้านต่างเป็นหินสีเหลือง ดูเก่าแก่มาก
ก้อนอิฐสีเหลืองมัว เย่เฟิงมองดูราวกับว่ามันเป็นของวิเศษบางอย่าง
หรือว่ามันจะเป็นโบราณสถานของผู้ฝึกเซียน?
สีหน้าเย่เฟิงหมองคล้ำ สถานที่แห่งนี้จะต้องไม่ธรรมดา! เมื่อเป็นเช่นนั้น มันถึงได้มีอุปกรณ์วาร์ปอยู่ ได้แต่หวังว่าอุปกรณ์วาร์ปมันจะยังไม่ถูกทำลายไป
ถังเยว่รีบเร่งเดินไป ไม่คาดคิดเลยว่าจะมีบุคคลกำลังติดตามเขาอยู่ อารมณ์ตื่นเต้นเล็กน้อยพลางพึมพำกับตัวเอง “ถ้าหากจับกุมเทพธิดาได้แล้วล่ะก็ ฐานะในตระกูลถังของฉันจะต้องสูงขึ้นอย่างแน่นอน”
ทั้งตระกูลถัง มีตระกูลสาขาแบ่งแยกออกมาเก้าสาขาเป็นตระกูลเล็กๆจากตระกูลหลัก
แต่เมื่อยี่สิบปีก่อนตระกูลเย่ได้จบสิ้นลง ดังนั้นการแต่งงานระหว่างตระกูลเย่และถังฉิงหลิงจึงถูกกดดันจากตระกูลสาขาทั้งแปดทันที ท้ายที่สุดถังฉิงหลิงก็ถูกขับไล่ออกจากตระกูลถัง เหลือเพียงถังเสวี่ยเฟิง แต่ถังเสวี่ยเฟิงก็ออกไปพร้อมกับถังฉิงหลิง คนอื่นในตระกูลเข้าร่วมกับตระกูลสาขาที่เหลืออีกแปด
ถังเยว่คนนี้ ในอดีตเป็นคนของถังเสวี่ยเฟิง แต่เพื่อความมั่งคั่งและชื่อเสียง จึงเต็มใจไปเป็นสุนัขรับใช้ของตระกูลหลักทันที!
……………………………..
แปลโดย คั่นหนังสือ