I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 346 คิดจะจับกุมเทพธิดางั้นหรือ อย่าได้หวังกันเชียว

| Genius Sword Immortal | 1104 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 346 คิดจะจับกุมเทพธิดางั้นหรือ? อย่าได้หวังกันเชียว

 

การมีอยู่ของสองผู้ฝึกวิญญาณ มันคือไพ่ตายของเย่เฟิง

 

ฉึก! ฉึก! ฉึก!

 

ปราศจากสัญญาณแจ้งเตือนใดๆหอกกระดูกพิษโลกาปรากฏออกมาพริบตาโจมตีไปยังหลังถังซิน ทิ่มแทงไปยังโล่ปราณ แต่กลับไม่สามารถทำลายโล่ปราณของถังซินได้

 

แม้ว่าความหนาแน่นของโล่ปราณถังซินจะไม่แข็งแกร่ง แต่วรยุทธของจ้าวอี้เปยและหลิงเฉยด้อยเกินไป มันจึงไม่สามารถทำลายการป้องกันของถังซินได้

 

อย่างไรก็ตามทั้งสองได้ดึงความสนใจของถังซินสำเร็จ

 

“ใครกัน?”

 

ถังซินหันกลับไปทันที ในความคิดของเขาเย่เฟิงได้ถอยออกไปไกลถึง 20 เมตร คงไม่สามารถทำอันตรายอะไรเขาได้ชั่วคราว เขาจะต้องดูว่าใครกันที่ลอบโจมตีด้านหลังของเขา หากไม่ยอมหลีกเลี่ยงอาจจะกลายเป็นเรื่องร้ายแรงได้

 

ร่างเล็กต้วมเตี้ยมของเขาหันกลับไปในทันที แต่กลับเห็นเป็นวิญญาณที่หน้าตาน่าเกลียดห้อยหัวอยู่ด้านหลังของเขา ราวกับเป็นวิญญาณที่ตายโหง

 

สองวิญญาณร้ายที่หน้าตาน่าเกลียดห้อยหัวลงมา ซึ่งก็คือจ้าวอี้เปยและหลิงเฉินที่สร้างร่างกายขึ้นมา

 

เมื่อเห็นถังซินหันมา พวกเขาก็พร้อมใจกันแสยะยิ้ม

 

“โอ้”

 

ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของถังซิน เขาไม่เคยพบเห็นเรื่องแปลกประหลาดเช่นนี้ ตื่นตกใจจนผงะถอยหลัง ขณะที่กำลังจะตั้งสติ แต่มันก็ไม่ทันเสียแล้ว

 

กระบี่เริงระบำ!

 

ลำแสงกระบี่สีเขียวมากมาย สว่างวาบขึ้นรอบๆร่างถังซิน เย่เฟิงใช้ออกกระบี่เริงระบำครั้งที่สอง ปราณกระบี่ทั้ง 15 ตวัดฟันทำลายโล่ปราณถังซินอย่างต่อเนื่องครั้งแล้วครั้งเล่า

 

[คั่นหนังสือ : สำหรับท่านที่อ่านตอนที่ผมยังไม่ได้ทำการแก้ไข ตอนที่ทำลายตันเถียนถังเยว่ ไม่ใช่กระบี่ผ่ามิตินะครับ แต่เป็นกระบี่เริงระบำ]

 

“เรียบร้อย”

 

ร่างของเย่เฟิงปรากฏขึ้นมาบนทางเดิน เพลิงสุดขั้วสองดวงถูกปาออกไป ทำลายศพถังเยว่และถังซินจนปราศจากร่องรอย

 

เขาไม่ได้หันไปดูเลยว่าถังซินจะตายหรือไม่ เนื่องจากเขามีความมั่นใจมาก จอมยุทธที่มีวรยุทธแปดสิบปีเมื่อเจอวิชานี้เข้าไปก็ยากที่จะรับมือได้ แม้ว่าเขาจะไม่ตาย แต่เจอเพลิงสุดขั้วเข้าไปอีกก็ต้องตายแน่นอน

 

ซากศพของพวกเขาเผาไหม้อย่างหมดจด ไม่เหลือร่องรอยแม้แต่เล็กน้อย ลมพัดกระจายไปกับกองทราย ร่องรอยถูกกำจัดสะอาดเอี่ยมในทันที

 

การต่อสู้เล็กๆในทางเดินนี้ แทบจะไม่ทำให้ผู้คนรู้เลย ไม่ว่าจะเป็นศิษย์ตระกูลถังที่คุ้มกันอยู่ด้านนอกหรือจอมยุทธภายในทางเดินนี้ที่เตรียมพร้อมจะจับกุมเทพธิดาทะเลตงไห่ มันไม่มีใครรู้เลยว่า ตอนนี้ผู้อาวุโสตระกูลทั้งสองต่างถูกสังหารตายตกไปแล้ว

 

ส่วนจ้าวอี้เปยและหลิงเฉิน พวกเขาทั้งสองต่างสลายร่างกาย กลายเป็นไร้รูปร่างติดตามอยู่เบื้องหลังเย่เฟิง

 

พวกเขามองดูเย่เฟิงอย่างชื่นชม สังหารถังเยว่และถังซินด้วยท่าทางที่พลิ้วไหวดั่งสายน้ำ ปราศจากการติดขัดใดๆ

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลิงเฉิน เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงจอมยุทธที่มีวรยุทธถึงแปดสิบปีว่าเป็นอย่างไรภายในโลกยุทธภพ และยังรู้ถึงตัวตนของตระกูลถังทั้งสองภายในโลกยุทธภพอีกด้วย แต่ผู้อาวุโสวรยุทธแปดสิบปี กลับถูกเย่เฟิงสังหารได้อย่างไม่คาดคิด!

 

อันที่จริงหลิงเฉินรู้ว่าเย่เฟิงแข็งแกร่งเพียงใด เนื่องจากสามารถจัดการหลี่เสวียนที่มีวรยุทธ 95 ปีได้ การจัดการคนทั้งสองที่มีวรยุทธ 80 ปีมันคงจะไม่เป็นปัญหาลำบากอะไรนัก

 

แต่อย่างไรก็ตามมันเหมือนเรื่องเพ้อฝัน เมื่อต้องมาเห็นเหตุการณ์นี้ด้วยตาตัวเอง ส่วนเรื่องที่น่าตกใจมากที่สุดคือหลิงเฉินอดไม่ได้ที่จะคิดถึงฐานะผู้ฝึกวิญญาณของตนเอง แรกเริ่มเขาเป็นศิษย์วังไท่จี๋ ต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้เขาได้รับโอกาสนั่นแล้ว

 

เย่เฟิงเคยบอกเอาไว้ว่าโลกใบนี้ไม่ใช่สนามต่อสู้ของพวกเขา แต่มันเป็นโลกเทวะอีกโลกหนึ่ง เรื่องนี้ทำให้จ้าวอี้เปยและหลิงเฉินถึงขนาดเลือดลมเดือดพล่าน

 

พวกเขาในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นบุญคุญหรือความแค้น ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะขอเพียงติดตามเย่เฟิง เพื่อยึดครองโลกหล้า

 

ร่างของเย่เฟิงสลายหายไป เหินลงไปตามทาง วิชากระบี่เริงระบำที่เขาใช้เมื่อครู่นี้ เจิ้นชี่ในร่างแทบจะหมดไปครึ่งหนึ่ง จำเป็นต้องกลืนเม็ดยาลงไป เพื่อฟื้นฟูเจิ้นชี่

 

ความแข็งแกร่งดั่งเช่นถังเยว่และถังซิน ทางหมัดเทพทวารายังคงมีสองผู้อาวุโสเหนือใต้อยู่อีก เจิ้นชี่ที่เหลืออยู่น่าจะเพียงพอรับมือ ส่วนเหล่าจอมยุทธคนอื่น เขาเพียงใช้วิทยายุทธธรรมดาก็สามารถจัดการได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้กระบี่เริงระบำให้สิ้นเปลืองเจิ้นชี่

 

ตราบเท่าที่สามารถไปพบซูเฟยหยิ่งภายในโบราณสถานได้แล้ว สถานการณ์คงจะดียิ่งขึ้น

 

เย่เฟิงมุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็ว จากทักษะสัมผัสวิญญาณตรวจสอบดู ไม่นานก็มาถึงส่วนลึกของโบราณสถานอย่างรวดเร็ว สภาพเส้นทางเริ่มจะราบรื่น แต่ผนังเส้นทางยังคงปกคลุมไปด้วยชั้นของทราย แสดงให้เห็นว่ามันเป็นโบราณสถานที่อยู่มานมนานแล้ว

 

สำหรับสถานที่แห่งนี้ เย่เฟิงพบว่าเขาไม่สามารถใช้ทักษะสัมผัสวิญญาณตรวจสอบทะลุผ่านกำแพงไปได้เลย เนื่องจากเป็นโบราณสถานของผู้ฝึกเซียน มันเป็นมาตรฐานที่กำแพงจะสามารถป้องกันการตรวจสอบของทักษะสัมผัสวิญญาณได้

 

ภายในโลกเทวะ สิ่งก่อสร้างของเหล่าผู้ฝึกเซียนสามารถที่จะป้องกันการตรวจสอบของทักษะสัมผัสวิญญาณได้ เว้นเสียแต่ว่าวรยุทธจะมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้สร้าง มิเช่นนั้นจะไม่มีทางที่จะตรวจสอบมันได้เลย นอกจากนี้การใช้ทักษะสัมผัสวิญญาณตรวจสอบ ภายในโลกเทวะมันถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม การสำรวจสิ่งก่อสร้างของผู้ฝึกเซียนคนอื่น มันอาจจะนำปัญหามาได้

 

เมื่อจ้าวอี้เปยและหลิงเฉินเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ก็ไม่ได้มีความคืบหน้าเช่นกัน เป็นเช่นเดียวกับเย่เฟิง ได้แต่ลอยไปตามเส้นทาง ต้องการที่จะทะลุผ่านกำแพงมันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

 

เย่เฟิงเหลือบมองไปยังมือถือ พบว่ามันไม่มีสัญญาณ ก่อนที่จะโยนเข้าไปภายในแหวนมิติ และมุ่งหน้าเข้าไปภายในโบราณสถานต่อ

 

ไม่นานจากนั้น เย่เฟิงบรรลุมาถึงเส้นทางแยกของโบราณสถาน ห่างไปไม่ไกลพบกลุ่มคนกำลังพูดคุยกันบางอย่างอยู่ ภายในมือกลุ่มคนพวกนี้ต่างถืออาวุธ ท่าทางคล้ายเตรียมพร้อมต่อสู้ทุกเมื่อ

 

“ปืนตาข่ายของหน่วย NSA? กับระเบิด?”

 

เย่เฟิงใช้ทักษะสัมผัสวิญญาณตรวจดู รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เหล่าอุปกรณ์ถูกขนส่งมาแล้ว ดูเหมือนว่าเหล่าจอมยุทธพวกนี้จะเข้าใจดีว่าซูเฟยหยิ่งน่ากลัวเพียงใด ไม่แม้แต่มีความประมาท

 

ยิ่งพูดยิ่งถูก การต้องเผชิญหน้ากับเทพธิดาทะเลตงไห่ที่บินได้ ถ้าหากพวกเขายังกล้าประมาทก็คงโง่เต็มทีแล้วไม่ใช่หรือ?

 

ภายในกลุ่มคน เย่เฟิงพบเห็นสหายเก่าอยู่เช่นกัน ซึ่งก็คือหมัดเทพเจ้าดาวใต้ซูเสี่ยวอวี่

 

นี่คือชายชราหนวดขาวที่ถูกจับกุมโดยหน่วย NSA ในทะเลตงไห่ อธิบายจนปากเปียกปากแฉะว่าเขาไม่ได้เป็นคนสังหารหน่วย NSA ถูกปล่อยตัวมาเดือนหนึ่งแล้ว แต่เขายังรู้สึกโกรธแทบตาย

 

เขาคาดเดาเอาไว้ว่าหน่วย NSA สองคนนั้นจะต้องเป็นเย่เฟิงที่สังหาร แต่ไม่มีหลักฐาน ท้ายที่สุดได้แต่ปล่อยวาง มีเพียงแค่วิดีโอบันทึกของหน่วย NSA เท่านั้น บางทีมันอาจจะเป็นหลักฐานสร้างปัญหาให้เย่เฟิงได้

 

“ปืนยาชาล็อตสุดท้ายยังมาไม่ถึงอีกหรอ ไม่ใช่ว่าตระกูลถังเป็นคนรับมาหรือ?”

 

ซูเสี่ยวอวี่ขมวดคิ้วเทาๆของเขา รู้สึกว่ามีเรื่องราวผิดปกติ แต่ก็เลิกคิดไป ในเวลานี้ทุกอย่างเตรียมพร้อมที่จะลงมือแล้ว รอเพียงแค่ปืนยาชาขนส่งมาเท่านั้น พวกเขาก็จะสามารถเริ่มการจับกุมเทพธิดาได้ในทันที

 

เส้นทางแยกที่ซูเสี่ยวอวี่อยู่ มันมีหลายเส้นทางที่นำทางไปสถานที่อื่นๆ มันเหมือนกับว่าสถานที่แห่งนี้มันเป็นเขาวงกต เส้นทางแยกนี้ไม่ใหญ่มาก มันเป็นตำหนักกว้างประมาณเส้นผ่าศูนย์กลางสิบเมตร ด้านข้างซูเสี่ยวอวี่มีศิษย์เทพทวาราธรรมดาอยู่ประมาณ 5-6 คน

 

“คิดจะจับกุมเทพธิดางั้นหรือ? อย่าได้หวังกันเชียว”

 

เย่เฟิงค่อยๆย่องเข้าไป แอบลอบหัวเราะภายในใจ

 

เขาย่องเข้าไปภายในห้องนั้น เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของซูเฟยหยิ่ง มันอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แม้กระทั่งรู้สึกว่าอยู่เพียงใกล้แค่เอื้อมเท่านั้น!

 

……………………………..

 

แปลโดย คั่นหนังสือ

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments