ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 352 สามผู้อาวุโสตายตก
กลุ่มคนของวังไท่จี๋ไม่คาดคิดเลยว่าการที่มาภายในโบราณสถานอย่างยากลำบากกลับมาต้องเจอกับอสูรร้ายเช่นนี้
พวกเขาไล่ตามเย่เฟิงและเทพธิดาทะเลตงไห่มา หรือว่าอสูรร้ายนี้จะเกี่ยวข้องอะไรกับสองคนนั้น?
เหล่าคนวังไท่จี๋ครุ่นคิด แต่ไม่ค่อยมั่นใจ
ใจกลางตำหนักหลัก เจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยาลุกขึ้น ส่วนสูงแทบจะเท่าสองคนยืนต่อกัน หัวกระทิงดูน่ากลัว ร่างกายปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง เมื่อพบเห็นเหล่าคนวังไท่จี๋ เปลวเพลิงที่ปกคลุมอยู่พลันก่อตัวเป็นชุดเกราะเพลิง พลังดูแข็งแกร่งน่าอัศจรรย์
เกิดคลื่นความร้อนระเบิดออกมา มันกระจายออกไปสี่ทิศทางขณะที่เจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยาสูดหายใจเข้าลึก คนของวังไท่จี๋จำเป็นต้องผงะถอยหลังกันออกมา ท้ายที่สุดบางคนที่ไม่อาจทนทานไหว กรีดร้องออกมาก่อนจะหันหลังหลบหนีไป
“แม่จ๋า มันเป็นตัวอะไรกันแน่!”
สีหน้าของชายหนุ่มเปิดเผยถึงอาการที่ตกใจเสียขวัญอย่างรุนแรง แข้งขาสั่นรีบวิ่งหนีออกไป
“ม่อ!”
เจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยาส่งเสียงคำรามกระทิงดังลั่น ก่อนที่จะพ่นไฟออกมา
เปรี้ยง!
ชายหนุ่มหน้าขาวคนนั้นถูกเพลิงผลาญจนเป็นเถ้าถ่านทันที แม้กระทั่งเสียงร้องยังไม่ทันร้องออกมา ดูเหมือนว่าเพลิงของเจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยามันจะรุนแรงมากกว่าเพลิงสุดขั้วของเย่เฟิงเสียอีก
“พวกแกรบกวนการพักผ่อนของข้าเทพเจ้าอัคคี สมควรตาย!”
เจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยากล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกแหบแห้ง ร่างของเขาปกคลุมไปด้วยเกราะเพลิง มองดูราวกับเทพเจ้าลงมาบนโลกใบนี้ และเมื่อคำพูดที่เอ่ยออกมามันทำให้เหล่าคนวังไท่จี๋ต่างตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
เจ้าปีศาจกระทิงนี้ เทพเจ้าอัคคีอะไรกัน? มันพูดเรื่องไร้สาระอะไร!
เหล่าคนของวังไท่จี๋แน่นอนว่าไม่เชื่อ แต่ความสงสัยมันไม่สามารถถามออกไปได้ พวกเขาแน่นอนว่าไม่ใช่คู่มือของปีศาจกระทิงนี้ ภาพของเจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยา มันทำให้เหล่าคนวังไท่จี๋ตื่นกลัวจนขวัญเสีย และไม่มีอารมณ์จะต่อล้อต่อเถียง
แม้กระทั่งผู้อาวุโสเม่ย หลันและจวี๋ทั้งสามคนยังสีหน้าเปลี่ยนเป็นหมองคล้ำ พวกเขาไม่มีทักษะสัมผัสวิญญาณ เป็นไปไม่ได้ที่จะตรวจสอบพลังของอีกฝ่ายว่าแข็งแกร่งเพียงใด!
มีเพียงแค่เจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยาคนเดียวงั้นหรือ?
ผู้อาวุโสเม่ย หลันแลจวี๋ต่างสูญเสียความมั่นใจ ด้วยวรยุทธพวกเขาทั้งหมดแยกกันหลบหนีมันคงจะมีใครบางคนรอดไปได้ แต่ถ้าหากปีศาจกระทิงมันพ่นไฟมาอีก ไม่มีใครรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
พวกผู้อาวุโสมีชีวิตมายาวนานแล้ว แน่นอนว่ารักชีวิตตนเองเหนือกว่าสิ่งใด แต่ศิษย์วังไท่จี๋บางคนไม่ได้คิดเช่นนั้น
“จัดการมันเลย พวกเรามีสามผู้อาวุโสอยู่ แน่นอนว่าจะต้องมีความเป็นต่อ!”
ชายหนุ่มที่คล้ายกับผู้นำได้ตะโกนออกมา ก้าวออกมาข้างหน้ากลุ่ม เผชิญหน้ากับเจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยาเพียงลำพัง
เมื่อเทียบกับเจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยา ชายหนุ่มคนนี้ราวกับเด็กน้อยคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามเขากลับมีความกล้าหาญ ปราศจากความกลัว
ราวกับวิญญาณบ้าคลั่ง และยังเห็นชายหนุ่มที่ต้องการหลบหนีตายไปคน เหล่าศิษย์วังไท่จี๋แต่ละคนต่างลุกโชนไปด้วยกำลังใจ
ต่อให้เป็นปีศาจกระทิงก็เถอะ มันจะต้องรับมือผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสามของพวกเขาไม่ได้แน่!
ชายหนุ่มทั้งเก้ายืนอยู่เบื้องหน้า หวังพึ่งพาผู้อาวุโสเม่ย หลันและจวี๋ทั้งสาม เหล่าชายราสองชายหนึ่งหญิงต่างตะลึงงัน ชิบหายแล้ว! เจ้าเด็กพวกนี้มันรนหาที่ตายหรือไงกัน?
ลูกวัวไม่เกรงกลัวเสือ รนหาที่ตายไม่ว่า ดันลากพวกเขาไปด้วย!
ผู้อาวุโสทั้งสามต่างมองหน้ากันเอง หญิงชราที่คลุมหน้าผู้อาวุโสเม่ยพลันตะโกนขึ้นกันที “ดีมาก ปีศาจชั่วร้ายนี่ไม่ใช่คู่มือของวังไท่จี๋พวกเรา พวกเราควรร่วมมือกันสังหารมัน!”
เมื่อเสียงตะโกนจบลงเหล่าศิษย์วังไท่จี๋ต่างโห่ร้องด้วยความฮึกเหิม ไม่ได้ทำให้พวกเขาหมดหวัง
เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสเม่ยตะโกนเช่นนี้ ก็ออกตัววิ่งทันที ใช้ออกวิชาม้าป่าแบ่งผม แขนอวบๆสะบัดไปยังเหล่าศิษย์วังไท่จี๋
กระบวนท่าม้าป่าแบ่งผมส่งกำลังภายในออกไป ร่างของทุกคนต่างถูกดันออกไปข้างหน้า ทันใดนั้นเอง เหล่าศิษย์วังไท่จี๋ทั้งเก้าคนถูกผลักไปยังทิศทางของเจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยากะทันหัน
ผู้อาวุโสเม่ยต้องการที่จะสังหารพวกเขา ส่วนตัวเองก็หลบหนีไป
กลุ่มคนต่างเปิดเผยสีหน้าที่เสียใจ ผู้อาวุโสเม่ยคนนี้ มันช่างไร้ยางอายเกินไปแล้ว!
ผู้อาวุโสหลันและจวี๋ก็ติดตามผู้อาวุโสเม่ยไปทันที ร่างแต่ละคนต่างแยกหลบหนี ต้องการแอบผละจากออกไป
น่าเสียดายเจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยาไม่ใช่อสูรร้ายที่ไร้สติปัญญา แท้จริงแล้วบางทีอาจจะมีความฉลาดมากกว่ามนุษย์เสียอีก เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ อดไม่ได้ที่จะยกยิ้ม ร่างแปรเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิงทันที ไม่ได้สนใจเหล่าศิษย์วังไท่จี๋ แต่ไปสกัดกั้นเส้นทางหลบหนีของผู้อาวุโสทั้งสาม
เจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยาเป็นอสูรที่มีวรยุทธภายในโลกเทวะ สามารถใช้ทักษะสัมผัสวิญญาณได้ แน่นอนว่ารู้ดีถึงวรยุทธของกลุ่มคนพวกนี้ขั้นสูงเท่าใด
ตราบเท่าที่จัดการผู้อาวุโสสามคนนี้ได้ จากนั้นเหล่าพวกที่เหลือก็ไม่เป็นภัยคุกคามสำหรับเขา
“ต้องการจะหนีงั้นหรือ?”
เปลวเพลิงเจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยาพุ่งไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปรากฏเบื้องหน้าผู้อาวุโสเม่ยในทันที
เปรี้ยง!
ปีศาจกระทิงพ่นไฟออกมา พุ่งตรงไปยังรัดร่างของผู้อาวุโสเม่ยเอาไว้ทันที ความร้อนที่มากมายทำให้เธอทนทานไม่ไหวจึงต้องกระตุ้นกำลังภายในสร้างโล่ปราณออกมาต่อต้าน
ทั้งสองต่อต้านกันอยู่เพียงชั่วครู่ ท้ายที่สุดก็พ่ายแพ้แก่เจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยา ผู้อาวุโสเม่ยกรีดร้องก่อนที่จะถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน
ฉากนี้ทำให้ผู้อาวุโสหลันและจวี๋ที่ต้องการหลบหนีต่างตื่นตกใจ ผู้อาวุโสเม่ยยังคงต้านทานได้อยู่นาน ดูเหมือนปีศาจกระทิงจะไม่ได้แข็งแกร่งมากอย่างที่คิดไม่ใช่หรือ?
ถ้าทั้งสามรู้ว่าเป็นเช่นนี้ คงสามารถร่วมมือกันจัดการมันแล้ว!
ภายในใจผู้อาวุโสทั้งสองต่างรู้สึกเสียใจ ต่างมองหน้ากันเอง พยักหน้าส่งสัญญาณให้กัน ขบคิดว่าตอนนี้ร่วมมือกันคงยังไม่สายไป
พวกเขาทั้งสองกระทืบเท้าออก ด้วยความรวดเร็วพุ่งตรงไปยังเจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยาจากสองทิศทาง
“โฮะโฮะ! อย่างพวกแกน่ะหรือจะมาเข้าใจถึงวิชาเซียน?”
เจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยาที่สูงกว่าสี่เมตร โพล่งหัวเราะ โฮะโฮะ ออกมา ก่อนที่แขนเพลิงทั้งสองจะเหยียดขยายออกในทันที
วิชาเซียน?
ผู้อาวุโสหลันและจวี๋ทั้งสองต่างไม่เข้าใจ แต่เมื่อมาถึงจุดนี้มันไม่อาจถอยกลับไปได้แล้ว
“ลองรับมือกระบี่ไท่จี๋ดู!”
“พลังไท่จี๋ ท่าหมุนตัวกำหมัดฟาดสกัดชก!”
สองผู้อาวุโสทั้สองคำรามลั่น กำลังภายในกระตุ้นรวมไปอยู่ที่ฝ่ามือ ก่อนที่จะโจมตีไปยังเจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยาอย่างรุนแรง
วิชาเซียน เพลิงมังกรทลายปฐพี!
แขนทั้งสองของหั่วอวิ๋นเยาเหยียดขายออก กลายเป็นเปลวเพลิงสองสาย ก่อนจะกลายเป็นมังกรสองตัว ด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้า คว้าผู้อาวุโสหลันและผู้อาวุโสจวี๋ที่อยู่ห่างไกลอยู่ภายในมือ
“ตายซะ!”
หัวกระทิงของเจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยาเปิดเผยท่าทางโหดเหี้ยม เจิ้นชี่ถูกกระตุ้นขึ้นทันที
ตูม! ตูม!
ร่างชายชราทั้งสองที่อยู่ภายในเงื้อมมือต่างระเบิดขึ้นโดยพลัน กลายเป็นเพียงโลหิตสดๆสาดกระจาย จอมยุทธทั้งสามของวังไท่จี๋ที่โด่งดังสะเทือนปฐพี กลับถูกเจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยาบดขยี้เละ
ในขณะนี้ ภายในสายตาเหล่าศิษย์วังไท่จี๋ เจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยาไม่ได้ทำให้พวกเขาหวาดกลัวเท่านั้น แต่มันทำให้พวกเขาชอบใจด้วย เนื่องจากผู้อาวุโสทั้งสามต่างทอดทิ้งพวกเขาเพื่อหลบหนี แต่ตอนนี้ตายกันหมดแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยที่จะทำให้พวกเขารู้สึกยินดี เป็นเรื่องที่มีความสุข
เพียงแต่ว่า…รายต่อไปคงเป็นพวกเขาไม่ใช่หรือ?
ชายหนุ่มที่เป็นผู้นำดูไม่ค่อยเต็มใจนัก เขาขบฟันแน่น ตัดสินใจที่จะเสี่ยงตาย เจรจากับเจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยา
แต่ขณะนั้นเอง เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้น
หลังจากที่สังหารสามผู้อาวุโสไปแล้ว เจ้าสำนักหั่วอวิ๋นเยาไม่ทันได้หายใจ จู่ๆ ก็ประสบกับการโจมตีอันน่ากลัว ซึ่งก็คือซูเฟยหยิ่งและเย่เฟิงที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆได้ลอบลงมือแล้ว!
……………………………..
แปลโดย คั่นหนังสือ