ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 358 ก้าวข้ามม่านหมอก
ร่างอันบองบางของซูเฟยหยิ่งถูกแทงทะลุโดยแมงมุมยักษ์ทันที ร่างถึงกับผงะชะงักค้าง ปรากฏอาการเจ็บปวดและเหลือเชื่อฉายอยู่บนใบหน้านาง
สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ค่อยๆคืบคลานเข้ามาใกล้นาง แต่ทักษะสัมผัสวิญญาณของนางกลับตรวจไม่พบ!
มันคือแมงมุมอะไรกันแน่?
“สารเลว!”
เมื่อเย่เฟิงเห็นฉากนี้ ภายในใจเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว แมงมุมสารเลวนี้กลับกล้าลอบทำร้ายซูเฟยหยิ่ง มันรนหาที่ตายแล้ว! ถึงแม้ว่าแมงมุมตัวนี้จะแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง หรือแม้กระทั่งทักษะสัมผัสวิญญาณก็ยังตรวจสอบไม่ได้ แต่สำหรับเย่เฟิงกลับปราศจากความกลัว
กระบี่เริงระบำ!
ขณะนั้นเอง เย่เฟิงก็กระตุ้นพลังจิตวิญญาณกระบี่ของแหวนกระบี่มังกรโบราณ ลำแสงกระบี่สีเขียวปรากฏท่ามกลางความมืดมิด เพียงพริบตาก็ปรากฏขึ้นรอบแมงมุมยักษ์
“กรีส!”
แมงมุมยักษ์สีดำยืนตรงถึงกับมีความสูงเต็มที่ 4-5 เมตร ผิวหนังเรียบลื่นของมันราวกับชุดเกาะ มีขนเพียงเล็กน้อย และมันแตกต่างไปจากแมงมุมบนโลกอย่างสิ้นเชิง
เย่เฟิงใช้ออกกระบวนท่านี้อย่างรวดเร็ว ปราณกระบี่สว่างวาบ ผิวหนังของมันยากที่จะทำลาย ส่งเสียงดังราวกับฟาดไปบนเหล็กกล้า
15 กระบี่กลับสร้างความเสียหายไม่ได้เลย!
การโจมตีแมงมุมดำยักษ์ของเย่เฟิงเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ทำให้มันดูรวดเร็วรุนแรง ลืมเลือนซูเฟยหยิ่งที่ถูกแทงทะลุอก แต่แล้วกรงเล็บแมงมุมอีกอันปรากฏขึ้น ทิ่มแทงไปยังตำแหน่งใกล้เย่เฟิง
เย่เฟิงที่กลับออกมาจากมิติ พลันเผชิญหน้ากับกรงเล็บสีดำมืดราวกับเหล็กของแมงมุมยักษ์ ถ้าหากถูกมันแทงทะลุ จะต้องจบสิ้นอย่างแน่นอน
ย่างก้าวไร้เงา!
เย่เฟิงทำได้เพียงใช้ออกมาด้วยความรวดเร็ว เหินถอยหลังออกไปไกล ขบฟันแน่นด้วยความไม่เต็มใจ
แม้กระทั่งการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเขายังทำอะไรแมงมุมดำยักษ์นี้ไม่ได้ อย่าบอกนะว่าเขาจะทำได้แค่กล้ำกลืนความแค้นมองดูซูเฟยหยิ่งอยู่อย่างนี้?
ถ้าหากสังหารแมงมุมดำยักษ์ตัวนี้ได้ เพียงแค่ดูไปยังผิวหนังและกรงเล็บของมัน แน่นอนเลยว่ามันถือเป็นวัตถุดิบดีอย่างยิ่ง แต่น่าเสียได้สำหรับเย่เฟิง แมงมุมดำยักษ์ตัวนี้มันแข็งแกร่งเกินไป
แม้กระทั่งซูเฟยหยิ่งแทบจะหมดสติไปจากอาการบาดเจ็บที่รุนแรง ตอนนี้เห็นได้ว่าเย่เฟิงไม่สามารถต้านทานศัตรูเพียงลำพังคนเดียวได้
ถ้าหากใช้ทักษะสัมผัสวิญญาณตรวจสอบแมงมุมนี้ได้ ก็คงจะรู้ถึงระดับวรยุทธของมัน แต่กระทั่งซูเฟยหยิ่งยังตรวจสอบมันไม่ได้ แสดงว่าวรยุทธของมันจะต้องสูงเป็นอย่างยิ่ง หรือไม่ก็มีวิธีซ่อนกลิ่นอายเอาไว้
เกี่ยวกับวรยุทธของเหล่าอสูร ความแข็งแกร่งวรยุทธของพวกมันแบ่งแยกกันออก แน่นอนว่าเจ้าแมงมุมดำยักษ์เบื้่องหน้านี่ไม่ใช่ประเภทเดียวกับราชันปีศาจหั่วอวิ๋นที่เป็นปีศาจ แต่เป็นอสูรบริสุทธิ์ ส่วนวรยุทธน่าจะเทียบเท่ากันได้
“เย่เฟิง รับนี่ไป”
ในขณะนั้นเอง ซูเฟยหยิ่งที่ถูกกรงเล็บแทงทะลุตะโกนขึ้นมา พลางยกมือขาว โซ่แสงดาราสีน้ำเงินก็พุ่งไปยังทิศทางที่เย่เฟิงอยู่ทันที
“นี่มัน…?”
เย่เฟิงเมื่อเห็นก็ตกใจ ซูเฟยหยิ่งกลับใช้ออกวิชาเซียน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าทนทานต่อความเจ็บปวดมากแค่ไหน แต่เมื่อซูเฟยหยิ่งคิดใช้ออกวิชาเซียนนี้ มันก็เป็นที่มั่นใจแล้วว่ามีวิธีที่จะจัดการแมงมุมดำยักษ์เบื้องหน้านี้
เย่เฟิงยื่นแขนออกไปโดยมิได้ลังเล คว้ารับเอาโซ่แสงดาราสีน้ำเงินเอาไว้
เพียงชั่วพริบตาที่สัมผัสมัน เย่เฟิงรู้สึกถึงพลังอันมากมายนับไม่ถ้วนถูกส่งผ่านมาจากโซ่แสงดารา มันราวกับมหาสมุทรหลั่งไหลอย่างบ้าคลั่งมาภายในตัวเขา
ทันใดนั้น เย่เฟิงพลันนึกถึงวิชาที่ตกทอดมาของสำนักสุสานดาราที่โด่งดัง วิชาเซียนก้าวข้ามม่านหมอก
นี่มันไม่ใช่วิชาเซียนที่ใช้โจมตี แต่เป็นวิชาเซียนที่เพิ่มความแข็งแกร่ง สามารถส่งเจิ้นชี่ของอีกคนหนึ่งให้กับอีกคนเพื่อใช้ออกได้ และใช้ออกวิชาเซียนได้อย่างเต็มที่
สำนักสุสานดาราเมื่อหนึ่งร้อยปีที่แล้วมีชื่อเสียงโด่งดังเนื่องจากวิชาเซียนนี้ แต่น่าเสียดายในสำนักสุสานดาราในปัจจุบันไม่หลงเหลือคนที่มีพรสวรรค์อีก เจ้าสำนักรุ่นก่อนรับซูเฟยหยิ่งเป็นศิษย์เพียงคนเดียว เหล่าชนรุ่นหลังภายในโลกเทวะหลายคนต่างไม่รู้จักวิชาเซียนนี้
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้…”
เย่เฟิงขบฟันแน่น เมื่อซูเฟยหยิ่งใช้วิชาเซียนนี้แล้ว เขาก็มีความมั่นใจมากที่จะสังหารแมงมุมดำยักษ์เบื้องหน้านี้
กระบี่เริงระบำ!
เย่เฟิงรวบรวมเจิ้นชี่ทั้งหมดที่ซูเฟยหยิ่งส่งมาให้ โคจรไปบนแหวนกระบี่มังกรโบราณทันที เพียงไม่นาน ก็หายเข้าไปภายในมิติ ลำแสงกระบี่สว่างวาบรอบๆแมงมุมดำยักษณ์อันแล้วอันเล่า
การโจมตีนี้ของเย่เฟิงเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดที่เขาเคยใช้ออก!
ซูเฟยหยิ่งโบกสะบัดมือขาว ใช้เจิ้นชี่ที่เหลือเพียงน้อยนิดบังคับผ้าไหมหิมะดึงความสนใจแมงมุมดำยักษ์ ก่อนจะพยายามพันมัดกรงเล็บ ทันใดนั้นกรงเล็บแมงมุมก็พังทลาย ร่างเย็นเยียบร่วงหล่นลงบนพื้นทันที ในที่สุดก็แยกตัวออกมาจากแมงมุมดำยักษณ์แล้ว
ใบหน้าอันงดงามของนางเงยขึ้น มีแววตาอันซับซ้อนมองไปยังเย่เฟิง และลำแสงกระบี่เย่เฟิงที่ล้อมอยู่รอบแมงมุมดำยักษ์
การใช้วิชาก้าวข้ามม่านหมอกนี้ ยิ่งมีวรยุทธน้อยมันก็ยิ่งมีโอกาสบาดเจ็บสูง เมื่อเย่เฟิงใช้กระบี่เริงระบำเช่นนี้ มันอาจจะทำให้ตันเถียนบาดเจ็บ บางทีอาจจะถูกทำลาย ดังนั้นก่อนหน้านี้ซูเฟยหยิ่งจึงไม่ได้คิดใช้วิชานี้
แต่ตอนนี้นางบาดเจ็บอย่างรุนแรง ครุ่นคิดได้เพียงแค่วิธีนี้วิธีเดียวที่จะใช้สังหารแมงมุมดำยักษ์ได้
นางรู้สึกผิดต่อเย่เฟิง แต่ก็เลิกคิดไปเนื่องจากมันเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตเย่เฟิงได้เช่นกัน เย่เฟิงคงจะไม่กล่าวโทษนาง
ขณะที่เย่เฟิงใช้วิชากระบี่เริงระบำ กระบี่มากมายปรากฏอยู่รอบๆแมงมุมดำยักษ์ ห่างออกไปไม่ไกลลำแสงเคลื่อนย้ายพลันสว่างวาบอีกครั้ง ครั้งนี้สว่างมากกว่าเดิม จากนั้นก็ปรากฏผู้คนกว่า 30 คนภายในวิหารเก่าแก่นี้
เหล่ากลุ่มคนพวกนี้คือจอมยุทธที่ราชันปีศาจหั่วอวิ๋นผลักส่งเข้าไปภายในลำแสงเคลื่อนย้าย
“อ้วก”
ใครบางคนอ้วกออกมาทันที เนื่องจากอดกลั้นไม่ไหวจากการเคลื่อนย้ายข้ามโลก
การเคลื่อนย้ายข้ามโลก แม้กระทั่งซูเฟยหยิ่งก็ยังรู้สึกอึดอัด ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเหล่าจอมยุทธนี้ สีหน้าขาวซีด แข้งขาสั่น อ้วกอาหารที่กินไปเมื่อคืนออกมาหมด
แต่สำหรับเหล่าจอมยุทธขั้นยอดฝีมือ ผู้อาวุโสสำนัก รีบเร่งเบิกตาขึ้นโดยพลัน เนื่องจากสัญชาตญาณได้บ่งบอกพวกเขาถึงอันตราย
นี่พวกเขากำลังเห็นอะไรกันแน่?
ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมใส่ชุดขาวหิมะร่วงหล่นลงบนพื้น ที่หน้าอกมีบาดแผลรุนแรง กรงเล็บดำมืดที่น่ากลัวของแมงมุมยักษ์ กรงเล็บขาของมันยาวถึงแปดเมตรโบกสะบัดไปมา ดูน่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง
ขณะที่มองคราแรก พวกเขาคิดว่าแมงมุมดำยักษ์จะต้องสังหารผู้หญิงชุดขาวอย่างแน่นอน
แต่ทันใดนั้น พวกเขาก็ตกตะลึงกับฉากที่มองดูในขณะนี้
พบเห็นลำแสงกระบี่อันแล้วอันเล่า ปรากฏขึ้นรอบๆแมงมุมดำยักษ์ มันราวกับสายฟ้าที่ผ่าฟาดลงไปยังแมงมุมดำยักษ์ ส่งเสียงดัง “เคร้ง” “เคร้ง” เหมือนเสียงโลหะกระทบกันอย่างต่อเนื่อง
คลื่นลำแสงกระบี่ กระหน่ำลงมาราวกับสายน้ำที่เชี่ยวกราก ท่วมท้นแมงมุมดำยักษ์
“กรีส!”
แมงมุมดำยักษ์พลันตระหนักได้ถึงอันตราย ตื่นตระหนกจนสับสนวุ่นวาย แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
สิบกระบี่
ร้อยกระบี่
พันกระบี่
การมีเจิ้นชี่ซูเฟยหยิ่งเพิ่มขึ้นมา ในที่สุดทำให้เย่เฟิงสามารถบรรลุวิชากระบี่ผ่ามิติขั้นสามได้!
……………………………..
แปลโดย คั่นหนังสือ