ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 365 ติดอยู่ภายในตำหนักหิน
เย่เฟิงชะงักค้างขณะที่มองไปยังท่าทางของนาง ส่วนซูเฟยหยิ่งแสร้งทำเป็นสีหน้าราบเรียบ “มองอะไรนักหนาไปดูศิลาจิตวิญญาณสวรรค์นู้นไป”
เมื่อพูดจบ นัยน์ตางดงามก็หันไปมองศิลาจิตวิญญาณสวรรค์ซึ่งอยู่ใจกลางตำหนักหิน
อากาศรอบๆภายในตำหนักหินแห่งนี้ ศิลาจิตวิญญาณสวรรค์ปลดปล่อยลำแสงบางเบาที่อ่อนอุ่น คลื่นพลังวิญญาณของถูกปลดปล่อยออกมาอย่างหนาแน่นเช่นกัน ศิลาจิตวิญญาณสวรรค์มันเป็นวัตถุสมบัติสวรรค์ที่พิเศษ พลังวิญญาณพวกนี้ผู้ฝึกเซียนไม่สามารถดูดซับมันได้ มันทำแค่เป็นแหล่งพลังงานของอุปกรณ์วาร์ปเท่านั้น
อุปกรณ์วาร์ปภายในโลกเทวะ ศิลาจิตวิญญาณสวรรค์หนึ่งก้อนสามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานวิญญาณให้อุปกรณ์วาร์ปทำงานได้นานถึงเกือบหนึ่งปี มันเป็นแหล่งพลังงานที่มีค่าอย่างมาก
แต่การต้องใช้มันเพื่อนเคลื่อนย้ายข้ามโลก เย่เฟิงไม่รู้เลยว่ามันจำเป็นต้องใช้มากมายกี่เท่า ถ้าหากแปดถึงสิบเท่ามันก็คงไม่เป็นปัญหา
“มันเป็นศิลาจิตวิญญาณสวรรค์จริงๆ”
ซูเฟยหยิ่งมีประสบการณ์มากมายภายในโลกเทวะ เพียงเหลือบมองศิลาจิตวิญญาณสวรรค์ และไม่นานก็ยืนยันได้ บนใบหน้างดงามของนางฉาบไปด้วยความพึงพอใจ “เมื่อมีสิ่งนี้อยู่การกลับไปไม่ใช่ปัญหาเลย และสามารถกลับมาที่นี้เมื่อใดตามที่ต้องการก็ได้ เพียงแต่ไม่รู้เลยว่าเหล่าจอมยุทธพวกนั้นเป็นยังไงบ้าง…”
“ถ้าท่านออกไปจากวิหารแห่งนี้ได้ ท่านจะต้องรู้แน่ว่าโลกใบนี้คือที่ใด”
เย่เฟิงครุ่นคิดเช่นนั้น
“สถาพพวกเราในตอนนี้ไม่ดีนัก ทางที่ดีไม่ควรสำรวจไปทั่วสถานที่แห่งนี้ เจ้าต้องกลับไปอย่าได้บ้าบิ่นนัก ”
ซูเฟยหยิ่งขมวดคิ้วมุ่น ท่าทางเย็นชาแต่เจือปนความเป็นห่วง
ไม่มีใครจะรู้ดีไปกว่านางแล้วเกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกเขาในตอนนี้ แม้ว่าพิษร้ายภายในร่างจะถูกเย่เฟิงดูดออกไปหมดแล้ว แต่ในสถานการณ์ที่เจิ้นชี่เหือดแห้งไป และจำต้องฝืนใช้วิชาดาวเคลื่อนดาราคล้อย ความเสียหายของเส้นชีพจรตันเถียนมันเป็นปัญหาใหญ่มาก
ตอนนี้ถ้าหากต้องลงมืออีกครั้ง ความแข็งแกร่งที่นางสามารถใช้ออกได้เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น นอกจากนี้วิชาที่สิ้นเปลืองเจิ้นชี่มากมายดั่งเช่นวิชาดาวเคลื่อนดาราคล้อยนี้ มันไม่สามารถใช้ได้อีกชั่วคราว
และหากพบเจอแมงมุมดำยักษ์อีกครั้ง เกรงว่าจะไม่สามารถหนีไปได้เลย ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นเช่นนี้นางไม่กล้าที่จะพาเย่เฟิงวิ่งสำรวจไปทั่วสถานที่ได้อีกครั้ง แต่ต้องการฟื้นฟูความแข็งแกร่งกลับมาก่อน
ซูเฟยหยิ่งให้เย่เฟิงหยิบศิลาจิตวิญญาณสวรรค์เก็บไปภายในแหวนมิติ เย่เฟิงต้องการที่จะมอบคืนแหวนมิตินี้ให้กับนาง แต่นางกลับปฏิเสธ “เจ้าเก็บไว้เธอ ข้าเกรงกลัวว่า…”
นางมีท่าทางลังเลที่จะกล่าวออกไป ทำให้เย่เฟิงรู้สึกอยากรู้เล็กน้อย อาจารย์เป็นอะไรไปกัน?
อย่างไรก็ตามเขาเลิกคิดทันทีเนื่องจากเห็นซูเฟยหยิ่งสำรวจไปรอบๆตำหนักหินแห่งนี้อย่างรวดเร็ว พลันตระหนักได้ถึงปัญหา : ประตูหินของตำหนักหินแห่งนี้กลายเป็นว่าไม่สามารถเปิดได้จากข้างใน
“ให้ข้าทดลองดูเถอะ”
เย่เฟิงกระตุ้นเจิ้นชี่ กระบี่สีเขียวปรากฏขึ้นมาภายในมือของเขา ก่อนที่จะตวัดลงฟันไปยังประตูหินที่สลักอักษรลึกลับ
ติง!
ในขณะนั่นเองม่านพลังโปร่งใสพลันปรากฏขึ้นที่ประตูหินในทันที สกัดกั้นกระบี่เจิ้นชี่ของเย่เฟิง ก่อนกระบี่ของเย่เฟิงจะกระเด็นออกไป และมันก็ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน!
เรื่องนี้ทำให้เย่เฟิงถึงกลับหน้าเปลี่ยนสี ไม่คิดเลยว่าแม้กระทั่งประตูหินก็ยังยอดเยี่ยม ถึงขนาดปลดปล่อยเจิ้นชี่มาเป็นม่านพลังได้
“จัดการไม่ได้เลย ม่านพลังมันหนาแน่นเกินไป”
ซูเฟยหยิ่งยกมือขาวขึ้นสัมผัสไปยังม่านพลังเจิ้นชี่ที่โปร่งใส คิ้วดำขมวดเป็นปมแน่นพลางพูดว่า “แม้กระทั่งควาามแข็งแกร่งของข้าตอนปกติก็ไม่สามารถทำลายได้ ดูเหมือนว่าคนที่สร้างวิหารแห่งนี้แข็งแกร่งอย่างมากมาย”
ซูเฟยหยิ่งที่แข็งแกร่งกลับไม่ใช่คู่มือของม่านพลังนี้ ถ้าเช่นราชันปีศาจหั่วอวิ๋นก็คงจะกลายเป็นทารกหั่วอวิ๋นเยาเลย แน่นอนว่าไม่สามารถเปรียบเทียบกับ “แข็งแกร่ง” ขอบเขตนี้
เรื่องนี้มันทำให้เย่เฟิงหมดสิ้นหนทาง และรีบเร่งสำรวจไปที่กำแพงของตำหนักหินทรงกลมแห่งนี้ พบว่าม่านพลังโปร่งใสมันปกคลุมทั่วตำหนักหิน
กำแพงที่เรียบลื่น พื้นและเพดานที่ราวกับกระจกคลอบเอาไว้ มันเหมือนจะกลไกลับที่จะเปิดประตูหินได้เลย
ประตูหินนี้มันเปิดได้เพียงแค่ด้านนอกเท่านั้นงั้นหรือ?
เย่เฟิงและซูเฟยหยิ่งมองกันหน้าและกัน พบเห็นสายตาของแต่ละฝ่ายฉายไปด้วยความสลด
มันเหมือว่าพวกเขาจะติดอยู่ภายในตำหนักหินเสียแล้ว และม่านพลังเจิ้นชี่บางทีวิชาเคลื่อนย้ายก็คงไม่อาจจะทะลุผ่านออกไปได้! เห็นได้ชัดเลยว่า เป้าหมายที่สร้างตำหนักหินให้เป็นทรงกลมเช่นนี้ มันจะต้องเอาไว้ใช้กักขังคนอื่น
ศิลาจิตวิญญาณสวรรค์อันล้ำค่า แท้จริงกลับไม่ง่ายที่จะได้มันมา
และไม่รู้เลยว่าวิหารแห่งนี้มันยังมีผู้ฝึกเซียนคนอื่นอยู่หรือไม่? ถ้าหากมีอยู่ แล้วพบเจอพวกเขา เกรงว่าคงจะ…
…….
และตำแหน่งที่ซูเฟยหยิ่งใช้วิชาดาวเคลื่อนดาราคล้อยพาเย่เฟิงจากมา ตำแหน่งเส้นทางที่มืดมิดที่ปรากฏกลุ่มคนเหล่าจอมยุทธมารวมตัวกันและรวมถึงเจ้าแมงมุมดำยักษ์ด้วย
ซึ่งมันใกล้เพียงเอื้อมมือจนสีหน้าเฉินเจี้ยนสงต้องหม่นหมองลง
เย่เฟิงและซูเฟยหยิ่งหายตัวไปเฉยๆได้ยังไงกัน?
หรือว่าเวทมนตร์เคลื่อนย้ายในตำนานจะมีอยู่จริง? อ้า! นี่มันแทบเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
“อ้า อ้า อ้า ช่วยด้วย!”
ในขณะนั้นเสียงชายหนุ่มสองคนก็กรีดร้องอย่างอนาถด้านข้างที่เฉินเจี้ยนสงเพิ่งผ่านมา แมงมุมดำขนาดใหญ่ที่สูงสี่ถึงห้าเมตรน่าหวาดกลัวจนทำให้ผู้คนแทบเสียสติ
มีเพียงแค่เฉินเจี้ยนสงที่ยังคงสุขุมสงบนิ่ง เห็นฉากที่ชายหนุ่มคนหนึ่งถูกคว้าจับเอาไว้ อีกคนถูกเหวียงไปโดยแมงมุมดำยักษ์ ก่อนที่มันจะล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว!
เขาไม่ยินยอมที่จะตายอยู่ที่นี้ เขาจะต้องร่วมมือกับเหล่าจอมยุทธที่เหลือ ร่วมมือกันจัดการเจ้าสิ่งน่ารังเกียจนี้ให้ได้!
ตึง!
ชายหนุ่มที่ถูกแมงมุมดำยักษ์โยนออกไปหวาดกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ แต่ก็มิอาจจะหลบหนีชะตาที่จะต้องถูกสังหารได้ ถูกแทงทะลุท้องด้วยขาของแมงมุมและปล่อยพิษร้ายใส่ ก่อนที่จะโยนไปกระแทกกับกำแพงอย่างรุนแรง
เพียงไม่นานชายหนุ่มที่กรีดร้องไปด้วยความหวาดกลัว หมดลมหายใจไปแล้ว ทั้งร่างที่ถูกลงมือจัดการ แทบจะไม่มีเค้าโครงร่างของมนุษย์เลย
“อย่าฆ่าฉันเลย! อย่าฆ่าฉันเลย! อ้า!”
ชายหนุ่มอีกคนรีบวิ่งผ่านไปที่ตำหน่งของแมงมุมดำยักษ์อยู่เมื่อครู่นี้ และโชคดียิ่งที่ไม่พบเห็นเฉินเจี้ยนสง ก่อนที่เขาจะรีบเร่งวิ่งไปสุดทางเดิน
แมงมุมดำยักษ์ต้องการที่จะไล่ตามไปแต่จู่ๆก็ปรากฏท่าทางลังเเล ร่างแมงมุมดำยักพลันหยุดในทันที
สิ่งนี้ทำให้เฉินเจี้ยนสงที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลรู้สึกสงสัยเล็กน้อย หรือว่ามันมีอะไรที่ทำให้แมงมุมนี้หวาดกลัวอยู่?
ไม่นานต่อมาเขาก็รู้ได้ว่ามันคือสิ่งใด
ขณะที่มองดูชายหนุ่มกรีดร้องพลางวิ่งหนีไป ทันใดนั้นด้านหน้าเส้นทางก็สว่างวาบไปด้วยเปลวเพลิง บนกำแพงก็เกิดเปลวเพลิงพวยพุ่งออกมา
ชายหนุ่มที่วิ่งไปบนทางเดินเส้นนั้นถูกเผาผลาญเป็นเถ้าถ่านในทันทีไม่เหลือแม้แต่ซาก ทำให้แมงมุมดำยักษ์ถอยห่างออกไปกว่ายี่สิบเมตรอย่างหวาดกลัว ขากระย่องกระแย่งทั้งแปดไต่กำแพงขึ้นไปเรื่อยเพื่อซ่อนตัวอยู่บนเพดานโถงทางเดิน
เฉินเจี้ยนสงที่อยู่ห่างไกลยังคงสัมผัสได้ถึงความร้อนแทบจะต้องละลายร่างของเขาได้สบายเลย!
เพียงแค่คลื่นความร้อนนี้เขาก็คาดเดาได้เลยว่า ต่อให้เป็นแมงมุมดำยักษ์ถูกโยนเข้าไปภายในทะเลเพลิงนี้ผลลัพธ์คงมีเพียงแค่ความตายเท่านั้น ภายในวิหารเก่าแก่แห่งนี้แท้จริงยังมีกับดักซ่อนอยู่อีกด้วย!
เรื่องนี้มันทำให้เฉินเจี้ยนสงเต็มไปด้วยความหวังที่จะต้องรอดชีวิตออกไปได้
ส่วนเหล่าจอมยุทธที่เหลืออยู่ด้านหลัง ตกตะลึงกับฉากเบื้องหน้าที่เปลวเพลิงพวยพุ่งออกมา ทำให้พวกเขาขบคิดว่ามันราวกับหนัง สยองขวัญ ไซ-ไฟ
ฉากหนึ่งในหนังที่มีเหล่าใบเลื่อยปกคลุมไปทั่วเส้นทางเดิน คนที่ผ่านเข้าไปต่างถูกหั่นเป็นชิ้นเนื้อ แต่กับฉากที่พวกเขาพบเจอในตอนนี้ มันเป็นคนที่ผ่านเข้าไปถูกเปลวเพลิงพวยพุ่งออกมาเผาร่างจากทั้งสองฝั่งกำแพง
นี่เป็นสถานที่บัดซบอะไรกันแน่?
แมงมุมดำยักษ์ ฝูงแมงมุมเป็นโขยง ผู้หญิงที่เคลื่อนย้ายพริบตาได้ และเย่เฟิงที่แปลกประลาด…น่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง!
……………………………..
แปลโดย คั่นหนังสือ