I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 367 รูปโฉมอันทรงเสน่ห์หาที่เปรียบไม่ได้

| Genius Sword Immortal | 1075 | 2363 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 367 รูปโฉมอันทรงเสน่ห์หาที่เปรียบไม่ได้

 

คลื่นความร้อนอันน่ากลัวปรากฏขึ้น ปรากฏจากสองด้านเฉินเจี้ยนสง ทำให้ดวงตาทั้งสองแทบจะมืดบอด

 

แม้เปลวเพลิงจจะไม่ได้พุ่งตรงมาที่เขาโดยตรง แม้ว่าจะหยุดก่อนที่จะถึงห่างไกลหลายสิบเมตร เฉินเจี้ยนสงก็ยังรู้สึกราวกับถูกเผาทั้งเป็น ถ้าหากเขาเข้าไปหลายร้อยเมตรข้างหน้าทะเลเพลิง ไม่ว่าจะเป็นใครจะต้องตายตกอย่างไร้ที่กลบฝัง

 

ความร้อนที่น่ากลัวนี้ แม้กระทั่งแค่เฉินเจี้ยนสงขบคิดก็อ่อนล้าแล้ว ด้วยสัญชาตญาณของเขาจึงรอดชีวิตมาได้ เนื่องวิชาท่าร่างของเขา จึงถอยออกมาจากตำแหน่งที่รุนแรงได้ทันท่วงที

 

และเหล่าจอมยุทธที่เหลือไม่ได้สังเกตสถานการณ์ให้ดี ขณะที่ระเบิดขึ้นกว้างไกล ใบหน้าแต่ละคนถูกลลามเลียโดยเปลวเพลิง เฝ้ามองดูเฉินเจี้ยนสงที่เหินถอยออกมาจากเบื้องหน้า ภายในใจผู้คนเต็มไปด้วยความชื่นชมอย่างต่อเนื่อง

 

ช่างสมกับที่อยู่ในตำแหน่งฐานะหัวหน้าผู้อาวุโสของวังไท่จี๋จริงๆ ด้วยวิชาฝ่ามือพลิกฟ้าดิน จัดการสังหารแมงมุมดำยักษ์ที่น่าหวาดกลัวได้

 

กลุ่มศิษย์ขั้นสูงของวังไท่จี๋รีบเร่งเข้าไปทันที ก่อนที่จะช่วยประคองร่างของเฉินเจี้ยนสง

 

เวลาผ่านไปอย่างยาวนาน

 

เปลวเพลิงในห้องโถงทางเดินก็มอดดับลง แมงมุมดำยักษ์กลายเป็นเถ้าถ่านภายในเปลวเพลิง เป็นเช่นเดียวกับเหล่าฝูงแมงมุมดำขนาดเล็กถูกสังหารเป็นโขยงโดยดาวตกจากฟากฟ้าของซูเฟยหยิ่ง แต่แสงส่องสว่างมากขึ้นกว่ายี่สิบเท่า

 

“ตอนนี้จะทำอะไรต่อไปดี?”

 

ภายในใจทุกคนต่างมีคำถามนี้

 

ผู้อาวุโสตระกูลหลักของตระกูลถังเดินไปหาเฉินเจี้ยนสง แต่กลับถูกขวางทางโยกลุ่มศิษย์ขั้นสูงของวังไท่จี๋ เกรงกลัวว่าอีกฝ่ายจะวางแผนคิดร้ายต่อเฉินเจี้ยนสง

 

“หลีกทาไปซะ ฉันต้องการหารือกับผู้อาวุโสเฉินของพวกแก”

 

ผู้อาวุโสตระกูลหลักของตระกูลถัง ถังชิงเทียน แค่นเสียงเย็นชา

 

“ผู้อาวุโสเฉินกำลังพักฟื้นอยู่ กรุณาอย่าได้รบกวน”

 

ศิษย์ขั้นสูงชายวัยกลางคนเอ่ยปากอย่างสงบนิ่ง

 

“หลบไปซะ”

 

เสียงเฉินเจี้ยนสงดังแว่วมา ก่อนที่จะก้าวออกมา สีหน้าซีดเซียว วิชาฝ่ามือเมื่อครู่นี้มันน่าสนใจนัก แต่เขาที่ใช้ฝ่ามือพลิกฟ้าดินมันก็สิ้นเปลืองกำลังภายในไปอยากมาก มันให้เรี่ยวแรงดูอ่อนล้า

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้หวาดกลัวถังชิงเทียนจะแอบลอบโจมตีเขา เนื่องจากสถานการณ์ในตอนนี้มันไม่เหมาะสมนัก ปราศจากข้อสงสัยว่าเป็นการกระทำที่โง่เขลาถ้าหากตอนนี้จะมาสู้กันเอง

 

“จากทีคิดดูแล้ว จำเป็นต้องผ่านทะเลเพลิงไปเท่านั้น”

 

เฉินเจี้ยนสงที่เดินมาเหลือบมองไปยังสุดโถงทางเดิน

 

ไม่รู้เลยว่าเย่เฟิงและสาวสวยคนนั้นเคลื่อนย้ายหายไปที่ใด พวกเขาไม่สามารถอยู่ภายในสถานที่แห่งนี้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือมีอันตรายเพียงใด พวกเขาจะต้องกลับไปที่โลกให้ได้! และทะเลเพลิงเบื้องหน้านี้คือเส้นทางเดียวที่เขาสามารถเลือกได้

 

เหล่าผู้คนต่างได้พักผ่อนเป็นเวลาหลายชั่วโมง ในระหว่างนั้นไม่ได้มีสิ่งอะไรเข้ามาโจมตีอีก ดูเหมือนว่านอกจากแมงมุมดำยักษ์ที่น่ากลัวแล้ว มันจะไม่มีสิ่งใดอยู่อีก

 

ในที่สุดภายใต้คำสั่งของเฉินเจี้ยนสงและถังชิงเทียน ผู้คนทั้งหมดต่างรวมกลุ่มกัน เดินไปถึงตำแหน่งที่ทะเลเพลิงจะพวยพุ่งออกมา

 

จากการศึกษาเป็นเวลานาน ในที่สุดเฉินเจี้ยนสงก็ค้นพบแสงริบหรี่ บนเพดานในพื้นที่เปลวเพลิง ภาพวาดที่ดูลึกลับราวกับเป็นแผนผังยากที่จะเข้าใจ สิ่งนี้มันทำให้เขาตื่นเต้นยินดี มันคือแผนผังเส้นทางอะไรกัน?

 

หรือว่าเส้นทางผ่านพื้นที่ทะเลเพลิงนี้?

 

…. …..

 

ภายในตำหนักหิน

 

เย่เฟิงและซูเฟยหยิ่งตรวจสอบอยู่เป็นเวลานาน ไม่อาจพบวิธีที่จะไปจากตำหนักหินแห่งนี้ได้เลย ขณะที่เย่เฟิงพยายามใช้วิชากระบี่ผ่ามิติ กลับพบว่าม่านพลังเจิ้นชี่โปร่งใสอันนั้นปิดกันมนุษย์ที่ทำการเคลื่อนย้ายเอาไว้

 

เข้ามาได้แต่ออกไม่ได้

 

เปรี้ยง

 

เย่เฟิงกัดฟัน ชกไปยังประตูหิน ที่ปิดอย่างแน่นหนา เขายอมรับไม่ได้ จะต้องมาติดอยู่ภายในสถานที่ที่แม้แต่นกก็ยังไม่เข้ามาทำรังเลยหรือ? แม้ว่าจะติดอยู่กับสาวงดงามในสามโลกเช่นซูเฟยหยิ่ง อ้า! มันไม่ใช่สิ่งที่ต้องการเสียหน่อย

 

บางทีราชันปีศาจหั่วอวิ๋นอาจจะสร้างความวอดวายบนโลกไปหมดแล้วก็เป็นได้ ส่วนเขาและซูเฟยหยิ่งต้องมาติดอยู่ภายในสถานที่แห่งนี้ และถ้าหากเขาสามารถกลับไปได้ เขาเกรงว่ามันจะมีปัญหาใหญ่รอคอยเขาอยู่

 

“อย่าได้ลุกลี้ลุกลน”

 

เสียงซูเฟยหยิ่งดังเข้าหูเย่เฟิง ก่อนที่มือนุ่มและเย็นจะมาจับมือเขา คล้ายกำลังจะปลอบประโลม ให้กำลังใจเขา

 

“อาจารย์ ข้าไม่ได้เป็นเด็กแล้วนะ”

 

เย่เฟิงอดมิได้ที่จะยิ้ม ภายในมือรู้สึกถึงสัมผัสอันอ่อนนุ่ม ภายในใจของเขาพลันรุ่มร้อน

 

ซึ่งทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงหลงหวางเอ๋อและซูเหมิงหาน ไม่รู้ว่าสองสาวจะเป็นเช่นไรกันบ้าง

 

เขาติดตามซูเฟยหยิ่งมาตั้งแต่เยาว์วัย สำหรับความงดงามของอาจารย์เขา เขาแน่นอนว่าหลงใหล แต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นอาจารย์ของเขา ไม่จำเป็นต้องพูดถึงสถานการณ์ในตอนนี้ เขาไม่มีทางมีความคิดเช่นนั้นแน่

 

“เจ้ายังคงเป็นเจ้าหนูน้อย”

 

บนใบหน้าอันงดงามของซูเฟยหยิ่งเปิดเผยถึงความกังวล ก่อนที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ

 

ใบหน้าอันยิ้มแย้มนี้ ทำให้เย่เฟิงอดมิได้ที่จะตะลึงอยู่ชั่วขณะ เป็นเวลาหานเท่าใดแล้วที่อาจารย์ไม่ได้หัวเราะ? นางกำลังหัวเราะ และมั่นใจได้ว่าดูน่าหลงใหลยิ่งกว่าผู้หญิงมากมายที่เย่เฟิงเคยพบเห็นมา นอกจากนี้ นางเป็นตัวตนที่เย็นชาอยู่ตลอดเวลา

 

แม้กระทั่งภายในโลกเทวะ ผู้ฝึกเซียนคนอื่นไม่เคยพบเห็นใบหน้าซูเฟยหยิ่งที่ยิ้มแย้มมาก่อน!

 

“มันจะต้องมีหนทางอยู่”

 

ใบหน้าอันยิ้มแย้มของซูเฟยหยิ่งปรากฏเพียงไม่นานเท่านั้น ก่อนที่จะสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย คลายมือจากเย่เฟิง ก้าวไปทีละก้าวตรงไปยังขอบตำหนักหิน

 

เย่เฟิงเหลือบมองไปยังกระโปรงส่วนต้นขาที่เขาฉีกขาด เห็นถึงต้นขาอันขาวผุดผ่อง เพียงพอที่จะทำให้ผู้ชายทุกคนน้ำลายไหลย้อย และชุดกระโปรงคลุมที่ตำแหน่งหน้าอกจากการถูกขาแมงมุมแทงทะลุ จนขาดเป็นรูโบว่ ถ้าหากมีลมผัดผ่านมา สามารถเห็นปทุมถันอันขาวราวหิมะคู่นั้นที่อิ่มเอิบแทบจะล้นโผล่ออกมาให้เห็น

 

ภายในวิหารเก่าแก่ พวกเขาไม่ได้มีเวลาที่จะสนใจเรื่องนี้นัก แต่สถานการณ์ในตอนนี้มันสงบสุขดี ขณะที่ไม่สามารถหาวิธีออกไปได้ ทำให้เย่เฟิงสังเกตเห็นถึงภาพวาบหวิวนี้

 

“อาจารย์ ท่าน…”

 

เย่เฟิงพลางชี้ไปที่หน้าอกของหน้า

 

“หื้ม?”

 

ซูเฟยหยิ่งขมวดคิ้วดกดำเป็นปมเล็กน้อย ก่อนที่จะก้มลงมองดู พบเห็นว่ากระโปรงยาวขาวหิมะเป็นรูโบว่ ไม่สามารถปกปิดทุกส่วนที่มีเสน่ห์งดงาม แทบจะเปลือยเปล่าออกมาให้เห็น ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะยกมือขาวขึ้นมาปิดบัง

เมื่อเงยหน้าขึ้นมา ค้นพบว่าเย่เฟิงกำลังมองนางพลางกลืนน้ำลาย

 

“เจ้าคิดว่ากำลังมองอะไรอยู่?”

 

นางมองค้อนอย่างเย็นชาก่อนจะหันกลับไป ไม่มอบโอกาสให้เย่เฟิงได้จ้องมองอีก

 

“ไม่ ไม่ได้มองเลย อาจารย์ ข้าจะมอบนี้ให้ท่านต่างหาก”

 

เมื่อเย่เฟิงตั้งสติได้ก็รีบเร่งหยิบเอากระโปรงยาวสีดำออกมาจากแหวนมิติก่อนจะยื่นมือออกไป

 

มันเป็นของที่เขาเอาใส่ไว้ในแหวนมิติเพื่อความฉุกเฉิน แรกเริ่มเพียงต้องการเตรียมไว้สำหรับหลงหวางเอ๋อและซูเหมิงหาน แต่ตอนนี้มันควรจะมอบให้ซูเฟยหยิ่งใช้จะดีกว่า

 

ซูเฟยหยิ่งใช้ทักษะสัมผัสวิญญาณออก ก่อนที่จะยื่นมือออกมาหยิบกระโปรงยาวสีดำโดยไม่แม้แต่จะหันมา

 

วิชาเซียน พรางกาย!

 

นางใช้ออกวิชาเซียน ปกปิดร่างด้วยเจิ้นชี่ เพื่อไม่ให้มองเห็นเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า

 

ไม่นานชุดกระโปรงยาวสีขาวหิมะที่เป็นรูโบว่ถูกโยนทิ้งไปบนพื้นด้านนึง ทำให้เย่เฟิงมองดูมันพลางกลืนน้ำลาย อดไม่ได้ที่จะนึกภาพร่างซูเฟยหยิ่งที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่….

 

ซูเฟยหยิ่งรวดเร็วเฉียบขาด จัดการเสร็จอย่างว่องไว

 

หลังจากนั้นนางก็โบกสะบัดมือ ปลดวิชาพรางกายออก ร่างงดงามอันทรงเสน่ห์ปรากฏเบื้องหน้าเย่เฟิงอีกครั้ง

 

เย่เฟิงทำได้แค่เพียงเหลือบมอง ซูเฟยหยิ่งในชุดกระโปรงยาวดำนี้มันกลับตรึงตาตรึงใจกว่าเก่าเสียอีก เป็นรูปโฉมอันทรงเสน่ห์ไร้ที่เปรียบ

 

……………………………..

แปลโดย คั่นหนังสือ

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments