I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 369 จากไปเพียงลำพัง

| Genius Sword Immortal | 1048 | 2339 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 369 จากไปเพียงลำพัง

 

โลงศพน้ำแข็งดาราเป็นวิชาป้องกันตัวเองของสำนักสุสานดารา แต่ข้อเสียของมันเด่นชัดอย่างมาก

 

ด้วยวรยุทธของซูเฟยหยิ่งที่มีหนึ่งร้อยปีนี้ ใช้วิชาเซียนโลงศพน้ำแข็งดาราคงอยู่ได้เพียงหนึ่งร้อยวัน ในระหว่างร้อยวันซูเฟยหยิ่งจะเข้าสู่การจำศีล ไม่ดื่มไม่กินและไม่เคลื่อนไหว หลังจากหนึ่งร้อยวันชั้นของน้ำแข็งจะเริ่มละลายลง

 

มีเพียงแค่คนที่มีวรยุทธมากกว่าซูเฟยหยิ่งสามเท่า ซึ่งก็คือสามร้อยปี มิเช่นนั้นก็มิอาจทำลายชั้นน้ำแข็งนี้ได้ แต่วรยุทธสามร้อยปีที่ว่านั้น ภายในโลกเทวะถือว่าเป็นระดับปรมาจารย์ น้อยครั้งที่จะปรากฏตัวออกมาให้เห็น

 

ภายในตำหนักหินทรงกลมนี้ ซูเฟยหยิ่งใช้โลงศพน้ำแข็งดาราเข้าสู่การจำศีล ส่วนพวกเฉินเจี้ยนสงและเหล่าจอมยุทธกลายเป็นพบเจอเรื่องน่าเศร้า เหล่าคนของวังไท่จี๋และตระกูลถังที่ติดอยู่ภายในตำหนักหิน ไม่สามารถออกไปและไม่มีอาหารและน้ำให้ดื่มกิน

 

ใครบางคนมีสีหน้าหมองคล้ำซับซ้อน บอกกล่าวให้หันไปดูที่ใจกลางตำหนักหินที่มีแท่งน้ำแข็งสูงตั้งอยู่ทันที

 

“ทำลายมันกันเถอะ”

 

แม้ว่ามันจะไม่มีความหวังอะไรเหลืออยู่ แต่เฉินเจี้ยนสงก็ยังกัดฟันบอกออกไป เขาไม่ใช่บุคคลที่นั่งรอคอยความตาย ไม่ยินยอมตกตายภายใต้สถานที่แบบนี้

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขากลุ่มคนได้ลองดู หรือรวมพลังกัน แต่พบว่าพลังของพวกเขาไม่มีทางที่จะทำลายแท่งน้ำแข็งของซูเฟยหยิ่งได้แม้แต่น้อย แม้แต่รอยขีดข่วนสักนิดก็ไม่มี

 

ทั้งสิบห้าคนนี้ต่างติดอยู่ภายในตำหนักหิน!

 

รวมถึงศิษย์ของวังดาบสวรรค์หลายคน ที่เฉินเจี้ยนสงมองอย่างรังเกียจตอนที่อยู่ตรงกับดักทะเลเพลิงและมีความคิดที่จะใช้เขาเป็นเหยื่อ

 

จะทำเช่นไรกันดี?

 

ทุกคนต่างหมดสิ้นหนทางมองหน้ากันและกันด้วยสีหน้าซังกะตาย ได้ลองกันมาหลายวิธีเป็นเวลานาน แต่เพียงพบว่าพวกเขาทำไปทั้งหมดต่างไร้ความหมาย

 

…. ….

 

ขณะที่เย่เฟิงอยู่ด้านนอกตำหนักหิน

 

บนใบหน้าปรากฏความเศร้าสร้อยเล็กน้อย ปรารถนาอยากจะเปิดประตูตำหนักหินเหลือล้น เพื่อให้ซูเฟยหยิ่งได้ออกมาด้วยกัน แต่เขารู้แก่ใจดีว่าถ้าหากเปิดตำหนักหินในตอนนี้ เขาไม่สามารถนำซูเฟยหยิ่งที่กำลังจำศีลอยู่ในโลงศพน้ำแข็งดาราไปได้ และพวกเขาอาจปล่อยให้เฉินเจี้ยนสงหนีรอดไปได้

 

“อาจารย์ หลังจากหนึ่งร้อยวัน ข้าจะกลับมาช่วยเหลือท่าน”

 

เย่เฟิงกำหมัดแน่น ก่อนจะหันหลังไปโบกมือจัดการเผาทำลายซากศพของศิษย์วังไท่จี๋ด้วยบอลเพลิงจนกลายเป็นเถ้าถ่าน ศิษย์วังไท่จี๋คนนี้เป็นผู้ที่พบกลไกเปิดประตูก่อนจะเปิดประตูตำหนักขึ้น แต่น่าเสียดายที่ไม่รู้เลยว่าประตูที่เปิดขึ้นมาเป็นเส้นทางแห่งความตายของพวกเขา

 

เย่เฟยเงยหน้ามองไปข้างหน้าพลางใช้ทักษะสัมผัสวิญญาณตรวจสอบ

 

โถงทางเดินนี้ยาวถึงหนึ่งลี้ แม้ว่าเย่เฟิงจะใช้ทักษะสัมผัสวิญญาณก็ยังไม่อาจพบปลายทางได้ แต่มันเป็นซูเฟยหยิ่งที่ใช้ทักษะสัมผัสวิญญาณตรวจเส้นทางเอาไว้แล้ว เนื่องจากนางต้องใช้ดาวเคลื่อนดาราคล้อยออกไป มิเช่นนั้นอาจจะเคลื่อนย้ายไปสถานที่แปลกประหลาด จนอาจจะพบเจออันตรายที่มากกว่านี้

 

ห้องโถงนี้มีสองเส้นทางต่างเชื่อมต่อระหว่างตำหนักหินที่เก็บศิลาจิตวิญญาณสวรรค์และอุปกรณ์วาร์ปที่พวกเขาข้ามโลก

 

บนโถงทางเดินอันมืดมิด เย่เฟิงใส่ใจการเดินทุกฝีก้าว มันจำเป็นต้องระมัดระวังอยู่ตลอดเวลาทั่วทิศทาง เนื่องจากหวาดกลัวว่าแมงมุมตัวใดอาจจะลอบโจมตีออกมาได้

 

เขาไม่ได้รับรู้เลยว่าเฉินเจี้ยนสงผ่านเส้นทางนี้มาได้เช่นไร นอกจากนี้ดูเหมือนว่าแมงมุมดำยักษ์จะหายไป แต่เขาก็ไม่ได้คิดที่จะผ่อนคลายลงแม้แต่น้อย

 

เพียงเมื่อเขาเดินไปได้ไม่นาน เขาก็ตระหนักได้ถึงอันตราย มันไม่ได้มาจากแมงมุมดำยักษ์ แต่มันเป็น….

 

กำแพงทั้งสองด้านของโถงทางเดินพ่นเปลวเพลิงออกมาอย่างฉับพลัน หลายร้อยเมตรของโถงทางเดินจะต้องปกคลุมไปด้วยอุณหภมิที่สูงมากมายอย่างน่าทึ่ง ทันทีที่มันเริ่มพวยพุ่งออกมาจากกำแพง ขนทั่วร่างของเย่เฟิงพันลุกตั้งชันอย่างพร้อมเพรียง กลิ่นไหม้โชยออกมา

 

“ท่าไม่ดีแล้ว ต้องเร่งมือแล้ว!”

 

เย่เฟิงไม่คิดที่จะวิ่งไปตามเส้นทาง วิชากระบี่ผ่ามิติ!

 

วูบ!

 

วูบ!

 

วูบ!

 

กระบี่ผ่ามิติใช้ออกติดตั้งสามครั้ง ผลาญเจิ้นชี่ภายในร่างครั้งแล้วครั้งเล่าจนแทบหมดสิ้น เมื่อร่างของเขาปรากฏขึ้นมาด้านนอกทะเลเพลิง ทั้งร่างดำเป็นตอตะโกน เสื้อผ้าไหม้ ผมเผ้าหยิกงอ ราวกับเป็นขอทาน

 

“นั่นมันกลไกอะไรกัน เฉินเจี้ยนสงพากลุ่มคนผ่านมันมาได้จริงๆ?”

 

เย่เฟิงสาปแช่งในความโชคร้าย หันหัวไปมองดู พบเห็นว่าเปลวเพลิงที่พุ่งออกมาหยุดลงแล้ว ทำให้เขารู้สึกโล่งอก

 

เขารู้ว่าเฉินเจี้ยนสงพาคนพวกนั้นผ่านไปได้ มันจะต้องมีแผนผังอธิบายกลไกของมันแน่ เมื่อครู่เขาไม่ได้มีเวลาพอที่จะศึกษา ในตำหนักหินทรงกลมที่มีศิลาจิตวิญญาณสวรรค์มันไม่มีกลไกใดๆทั้งนั้น มีเพียงแค่เปิดออกจากข้างในไม่ได้ ซึ่งเย่เฟิงเชื่นมั่นในความฉลาดของซูเฟยหยิ่งเป็นอย่างมาก

 

“ดูเหมือนแมงมุมจะไม่ปรากฏตัวออกมา…”

 

เย่เฟิงมองไปยังทะเลเพลิง ขบคิดอยู่ในโถงทางเดินที่เงียบสงบ ภายในอากาศเหม็นอับชื้นส่งกลิ่นของเลือดออกมาบางเบา เนื่องจากสถานที่แห่งนี้อากาศถ่ายเทไม่สะดวก กลิ่นเลือดอันบางเบานี้จึงไม่หายไปง่ายๆ

 

“สถานที่แห่งนี้มีแมงมุมมากมาย ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีใครมาเป็นเวลานานแล้ว หวังว่าร้อยวันนี้จะไม่เกิดปัญหาอะไรก่อนนะ….”

 

เย่เฟิงหันไปมองข้างหลังครั้งหนึ่ง ภายในใจเป็นห่วงถึงความปลอดภัยของซูเฟยหยิ่ง แท้รู้ดีว่าตอนนี้เขาควรต้องกลับที่โลกก่อน

 

หลังจากที่ครบร้อยวันแล้ว วรยุทธของเขาก็เพิ่มขึ้นอีก หลังจากที่ซูเฟยหยิ่งออกมาจากโลงศพดาราแล้ว พวกเขาจะพยายามร่วมมือกันสำรวจวิหารด้านนอกแห่งนี้ให้หมด ให้รู้ว่าแท้จริงสถานที่แห่งนี้มันคือที่ใดกันแน่!

 

ในเมื่อไม่มีคนอื่นมาที่แห่งนี้ มันก็คงจะต้องไม่เกิดเรื่องผิดพลาดอะไร

 

สิ่งที่กลัวที่สุดคือภายในวิหารแห่งนี้มันจะมีคนที่แข็งแกร่งอยู่ เมื่อเป็นเช่นนั้นซูเฟยหยิ่งอาจจะตกเป็นอันตราย แน่นอนว่าเป็นไปได้น้อยมากอย่างยิ่ง มันเหมือนว่าวิหารแห่งนี้จะถูกทิ้งร้างมานานเป็นที่สุด เป็นสาเหตุให้แมงมุมเป็นโขยงฝูงใหญ่เช่นนั้นมารวมตัวกัน

 

เย่เฟิงส่ายหัวเลิกคิดเรื่องนี้ ยิ่งคิดมากไปยิ่งไร้ประโยชน์

 

เขาลุกขึ้นก่อนจะเดินไปยังทิศทางไม่ได้ทำอะไรอีก ผ่านห้องโถงทางเดินไปถึงประตูที่เป็นรูของตำหนักหินอย่างรวดเร็ว ทักษะสัมผัสวิญญาณตรวจสอบรับรู้ได้ถึงอุปกรณ์วาร์ปโบราณที่ส่งข้ามโลกมา

 

เหมือนกับอุปกรณ์วาร์ปที่โบราณสถานในทะเลทรายบนโลก อุปกรณ์วาร์ปนี้ล้อมรอบไปด้วยท่อมากมาย เพื่อโคจรเจิ้นชี่เข้าไปภายในตัวอุปกรณ์ ซึ่งสามารถใช้พลังจากศิลาจิตวิญญาณสวรรค์เพื่อเปิดการทำงานอุปกรณ์นี้ได้

 

เย่เฟิงไม่ได้ล่าช้าอะไรอีก หยิบเอาศิลาจิตวิญญาณสวรรค์ออกมาจากแหวนมิติอย่างเบามือ เดินไปข้างหน้า ก่อนที่จะใส่มันไปในร่องหนึ่งของอุปกรณ์วาร์ป

 

ความเร็วในการเปิดการทำงานครั้งนี้รวดเร็วกว่าครั้งที่ซูเฟยหยิ่งและราชันปีศาจหั่วอวิ๋นเปิดมันเสียอีก นอกจากนี้ พลังงานจากศิลาจิตวิญญาณสวรรค์ก็หลั่งไหลเข้าไปในทันที ตัวอักษรลึกลับที่อุปกรณ์วาร์ปเปล่งลำแสงขึ้นทันที ก่อนที่จะรวมตัวกันก่อเกิดเป็นแท่งลำแสงพุ่งขึ้นไปบนเพดาน

 

เย่เฟิงหยิบเอาศิลาจิตวิญญาณสวรรค์กลับมา ก่อนที่จะก้าวข้าวไปในลำแสงเคลื่อนใหญ่ รู้สึกได้ถึงพลังงานของศิลาจิตวิญญาณสวรรค์ถูกดูดออกมาอย่างมาก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ศิลาจิตวิญญาณสวรรค์คงใช้งานได้แค่หกครั้งเท่านั้น

 

ตอนนี้หลงเหลืออีกห้าครั้ง

 

เมื่อเย่เฟิงก้าวเข้าไปภายในลำแสงเคลื่อนย้าย พลันรู้สึกร่างกายถูกฉีกกระชากอีกครั้ง ร่างสลายหายไปไม่ให้เห็นอีก ทำงานเคลื่อนย้ายแล้ว!

 

…. ….

 

ภายในโบราณสถานที่ทะเลทรายบนโลก

 

หน่วย NSA ได้ค้นพบส่วนใต้โบราณสถานในวันที่สอง มันมีกลุ่มคนถึงเจ็ดแปดคนพร้อมอาวุธหนักภายในมือแต่ละคนคุ้มกันที่ประตูอยู่ เตรียมพร้อมอุปกรณ์ที่จะใช้ขุดสำรวจ ใช้อุปกรณ์กรัดกร่อนเพื่อเข้าไปภายในโบราณสถาน

 

ภายในตำหนักหินอุปกรณ์วาร์ป กลุ่มเจ็ดแปดคนอาวุธครบมือของหน่วย NSA เฝ้าอยู่ที่ประตูทางเข้า ถัดไปมีผู้เชี่ยวชาญอุปกรณ์วาร์ปกำลังศึกษามันอยู่

 

ทันใดนั้นเองบนแท่นหินอุปกรณ์วาร์ปพลันเปล่งลำแสงสีขาวพวยพุ่ง

 

……………………………..

 

แปลโดย คั่นหนังสือ

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments