I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Genius Sword Immortal ตอนที่ 376 ขอให้มีความสุขในค่ำคืนนี้

| Genius Sword Immortal | 1176 | 2364 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 376 ขอให้มีความสุขในค่ำคืนนี้

 

ขณะที่ร่างบอบบางที่เกือบเปลือยเปล่าโผเข้ามาในอ้อมกอด เย่เฟิงอดมิได้ที่จะยื่นมือทั้งสองออกไปโอบที่เอวบางๆราวกับท่อนไม้ของเซียวเยวี่ย

 

เมื่อเขาก้มลงมองก็เห็นแสงสีขาวที่เปล่งประกายภายในสายตา เมื่อครู่ที่ราชันปีศาจหั่วอวิ๋นฟันชุดกระโปรงสีแดงส่วนบนของเซียวเยวี่ย กลับกลายมาเป็นบุญตาแก่เย่เฟิง ภาพมุมกว้างหน้าอกของเธอมันยังเป็นฉากที่สวยงามที่สุด

 

เนื่องจากชุดถูกฟันขาด ภูเขาหิมะทั้งสองลูก เผยออกเกินครึ่ง อีกครึ่งส่วนร่างเซ็กซี่ปกปิดมันเอาไว้ อย่างไรก็ตามด้วยรูปทรงที่เด่นชัด มันเพียงพอที่จะทำให้ผู้คนจินตนาการได้

 

เรื่องนี้ทำให้เย่เฟิงรู้สึกร้อนรุ่มหัวใจทันที

 

ถ้าหากผู้ชายพบเจอสถานการณ์เช่นนี้แต่ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไร ก็คงเป็นหลิ่วเซี่ยฮุ่ยแล้ว!* น่าเสียดายเย่เฟิงนั้นไม่ใช่ ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เขาจะตอบสนองอย่างยินดี

 

[คั่นหนังสือ : 柳下惠/หลิ่วเซี่ยฮุ่ย = ตั้งแต่สมัยชุนชุนจ้านกั๋ว ในหลู่ก๊ก หลิ่วเซี่ยฮุ่ย柳下惠 ที่สวมกอดลูกสาวของอ้ายต้ง爱冻 แต่ก็มิได้ล่วงเกินหรือแสดงกิริยาลวนลาม จึงนำมาใช้ในกรณีผู้ที่มีจิตใจมั่งคงแน่วแน่ ]

 

ร่างบอบบางของเซียวเยวี่ยที่เกาะติดเย่เฟิงอยู่ เริ่มรู้สึกการเปลี่ยนแปลงของเย่เฟิงทันที แต่ไม่ได้หวาดกลัวผลักเขาออก กลับกลายเป็นว่ายิ่งกอดแน่นยิ่งขึ้น และขาเรียวยาวที่แสนยั่วยวนก็ถูไถไปยังต้นขาเย่เฟิงทันที

 

“อย่าเพิ่งไปเลยนะ อยู่กับฉันก่อน…”

 

กลิ่นหอมกล้วยไม้ส่งออกมาจากเซียวเยวี่ยบางเบา ส่งมาจากด้านข้างหูเย่เฟิง ท่าทางที่ดูยั่วเย้า มือหยกพลันลูบขึ้นมาบนหน้าอกเข้า

 

เย่เฟิงไม่ได้พูดอะไร ในเวลานี้เขารู้ว่าพูดไปก็เปล่าประโยชน์

 

ใช้โอกาสจากซอยเล็กแห่งนี้ที่ปราศจากผู้คน เย่เฟิงแบกอุ้มเซียวเยวี่ยขึ้นมา ก่อนจะกระทืบเท้ากระโดดขึ้น เหินไปยังหน้าตาระเบียงของห้องที่เซียวเยวี่ยเปิดเอาไว้อย่างง่ายดาย ก่อนจะดึงม่านหน้าต่างปิดเอาไว้

 

หลังจากที่ร่างพวกเขาเพิ่งจากไป มีสายตรวจกำลังใช้ไฟฉายวิ่งเข้ามาที่ซอยเล็กๆแห่งนี้

 

พวกเขาได้ยินเสียงการสู้กันและมีไฟไหม้ แต่เมื่อมาถึงแล้ว กลับพบว่าไม่มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นที่นี้ ทำให้พวกเขารู้สึกสงสัย หรือว่าจะตาฝาดไป?

 

พวกเขาเพียงตรวจดูไม่นาน เนื่องจากผับด้านข้างเกิดเรื่องสำคัญขึ้น มีคนตายถึงสองคน

 

ตามที่พยานได้บอกสองคนนั้นถูกฆาตกรรมโดยเย่เฟิง เพียงแค่ตบเบาๆที่หัวไหล่ของหนุ่มหน้าขาวจ้าวเหรินเจี๋ย ทำให้เขาหน้าซีดเผือดและตายลง หัวใจหยุดเต้น ส่วนโหมวฉีกวงตระกูลโหมวคนนั้น ถูกบีบคอจนหายใจไม่ออกตาย เป็นการฆ่าที่โหดเหี้ยมมาก!

 

เรื่องนี้ถูกรายงานถึงอธิบดีกรมตำรวจเขตเหยียนจิงโหมวเจิ้นเฉียงอย่างรวดเร็ว สั่งให้คนออกไปตามจับให้เร็วที่สุด

 

เมื่อเห็นศพของโหมวฉีกวง สีหน้าโหมวเจิ้นเฉียงบูดเบี้ยวน่าเกลียด แต่เขารู้ว่าเย่เฟิงในตอนนี้เป็นคนสำคัญของหน่วย MSA แม้ว่าเขาจะเป็นถึงอธิบดีก็ยังไม่คู่ควรพอจะเอาเรื่องกับอิทธิพลของเย่เฟิง!

 

เขาทำได้เพียงรายง่ายเรื่องนี้ไปให้คนของหน่วย NSA ได้รับรู้ ให้เรื่องนี้มันเป็นหน้าที่จัดการของหน่วย NSA แทน แต่ไม่ได้หมายความว่าโหมวเจิ้นเฉียงโยนเรื่องนี้ทิ้งไป

 

เมื่อหน่วย NSA ส่งจ้าวปาที่ใส่เสื้อโค๊ทมาถึง โหมวเจิ้นเฉียงก็รีบเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะราดน้ำมันลงบนกองไฟบอกกล่าวถึงรายละเอียดวิธีที่เย่เฟิงสังหารอย่างโหดร้าย

 

แถมยังออกคำสั่งใส่ร้ายเย่เฟิงให้หน่วย NSA คิดว่าเขาเป็นภัยอันตราย โหมวเจิ้นเฉียงถึงกับส่งศพโหมวฉีกวงและจ้าวเหรินเจี๋ยไปฟันซ้ำอีกหลายแผล เพื่อเป็นหลักฐานอันโหดร้ายของเย่เฟิง

 

จ้าวปาพูดนัย ถ้าหากเย่เฟิงชั่วร้ายจริงๆ หน่วย NSA แน่นอนว่าจะไม่ปล่อยเย่เฟิงเอาไว้แน่

 

มันก็ทำให้โหมวเจิ้นเฉียงโล่งอกเล็กน้อย

 

….. …..

 

ภายในห้องพักโรงแรม เย่เฟิงและเซียวเยวี่ยกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันก่อนที่จะทิ้งตัวลงบนเตียง ริมฝีปากที่ยั่วยวนอดรอไม่ไหวถึงกับรุกประกบ

 

เซียวเยวี่ยราวกับห่างผู้ชายมาเนิ่นนาน หรือเป็นครั้งแรกที่เริ่มรุกจูบ ท่าทางจึงดูไม่ค่อยนุ่มนวลสละสลวย บดขยี้ราวกับหิวกระหาย ทำให้ในใจเธอรู้สึกไม่ดีเล็กน้อย จึงปล่อยให้เป็นหน้าที่เย่เฟิงแทน

 

แต่ขณะที่พวกเขาล้มลงไปบนเตียง ตัวแนบสนิทชิดแน่นดุจกาวกับเลคเกอร์ เย่เฟิงพลันสัมผัสถึงบางสิ่ง

 

“หยุดก่อน”

 

เย่เฟิงใช้ทักษะสัมผัสวิญญาณตรวจสอบไปรอบๆ หัวคิ้วขมวดมุ่น ก่อนจะคว้าเอาร่างบอบบางอันยั่วยวนของเซียวเยวี่ย

 

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

 

เซียวเยวี่ยมือวางไว้บนหน้าอกเขา นัยน์ตาทั้งสองดูงุนงง ไม่เข้าใจว่าเหตุใดครั้งนี้เย่เฟิงถึงเป็นคนหยุด

 

“ไม่มีอะไร ฉันจะไปเดี๋ยวเดียว เป็นเด็กดีรออยู่บนเตียงก่อนนะ”

 

เย่เฟิงจูบไปที่แก้มเธอก่อนจะลุกขึ้นเดินไปยังประตูห้อง

 

สัมผัสวิญญาณของเขาตรวจพบกลุ่มของหน่วย NSA มาพร้อมกับตำรวจ กำลังค้นหาบางอย่างภายในโรงแรมแห่งนี้ คาดการณ์ดูคงไม่นานก็จะถึงห้องของพวกเขา

 

หน่วย NSA ถึงกลับออกปฏิบัติการ แน่นอนว่ามันจะต้องไม่ใช่เรื่องค้าประเวณีอะไรแน่ๆ เย่เฟิงไม่จำเป็นต้องคิดก็รู้ว่าต้องมาหาเขาแน่นอน ดูเหมือนว่าราชันปีศาจหั่วอวิ๋นที่ปลอมเป็นรูปร่างเขาจะก่อเรื่องใหญ่ไว้ให้แล้ว

 

เย่เฟิงไม่ต้องการให้เซียวเยวี่ยเป็นห่วงก่อนที่จะรีบจัดการปัญหานี้

 

ช่างโชคดีนักที่ผู้นำกลุ่มมาคือจ้าวปา ลุงแปดคนนี้เป็นมือพระกาฬของหน่วย NSA อย่างน้อยก็เป็นคนมีเหตุผล

 

เย่เฟิงเปิดประตูออกไป จ้าวปาเพิ่งให้คนตรวจดูห้องนี้ กลับเห็นเป็นเขาที่เปิดประตูออกมาเองอดมิได้ที่จะตกใจ แต่ละคนภายในมือยกปืนขึ้นเล็ง

 

“หยุดอย่าขยับ ยกมือขึ้น!”

 

ใครบางคนตะโกนเสียงดังทันที

 

เย่เฟิงยกมือขึ้นตามที่บอก แต่บนสีหน้าปรากฏท่าทางที่สงบนิ่งผ่อนคลายและมองไปยังจ้าวปาอย่างสบายๆ “ลุงแปด นำคนมากมายมาทำไมอะไรกัน?”

 

จ้าวปาเมื่อเห็นเย่เฟิงก็ยิ้มอย่างข่มขืน “ไม่ใช่ว่าตกลงกันแล้วหรือว่าจะไม่ก่อปัญหา? แล้วเรื่องที่ผับสองคนนั้นเล่า?”

 

“ใครกัน?”

 

เย่เฟิงเอ่ยปากถาม ที่ผับมันเกินระยะสัมผัสวิญญาณของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นั้น

 

“มีคนสองคนถูกฆ่า หลายคนต่างเป็นพยานว่าเธอเป็นคนฆ่า”

 

จ้าวปาอธิบายออกมา

 

“ตายยังไง?”

 

เย่เฟิงกล่าวออกไปตรงๆ

 

“ถูกมีดแทงหลายแผลแต่สาเหตุถูกบีบคอตาย และอีกหนึ่งคนสาเหตุการตายไม่ชัดเจน…”

 

จ้าวปาบอกตามที่ผลชันสูตรของแพทย์ที่โหมวเจิ้นเฉียงให้มา

 

“แน่นอนว่าไม่ใช่ผม”

 

เย่เฟิงยิ้มอย่างสบายใจ กระตุ้นเจิ้นชี่ กระบี่สีเขียวก่อตัวขึ้นภายในมือของเขาทันที “ถ้าเป็นผมจริง เป็นไปไม่ได้ที่จะมีรอยมีด และอีกอย่างลุงคิดว่าผมจะโง่พอที่จะลงมืออย่างโจ่งแจ้ง?”

 

“ฉันก็คิดว่าเป็นเช่นนั้น”

 

จ้าวปายกยิ้มขึ้น “ฉันก็คาดหวังว่าจะมาฟังความจริงจากปากเธอ…ถ้างั้นตอนนี้ ไม่รบกวนเธอแล้ว ขอให้เธอมีความสุขในค่ำคืนนี้”

 

จ้าวปามั่นใจอย่างมากว่าเย่เฟิงไม่ได้เป็นฆาตกรในคดีนี้ แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นที่ผับที่นี้ เพียงแค่ตึกด้านข้าง เย่เฟิงแน่นอนว่าจะต้องรู้เรื่อง

 

และเขาก็รู้ว่าเย่เฟิงอยู่ในห้องกำลังทำอะไร เรื่องความสุขไม่ควรจะถูกรบกวน แต่เรื่องนี้ ไม่รู้ว่ามันจะไปถึงหูหลินชื่อฉิงรวดเร็วแค่ไหน?

 

เย่เฟิงพลันทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจนัก

 

เรื่องเขาและเซียวเยวี่ย เขาไม่มีเจตนาจะปกปิด ถ้าอีกฝ่ายถามมาแน่นอนว่าเขาตอบออกไปตามตรง มันจะเป็นเรื่องร้ายแรงอะไร? คืนนี้เซียวเยวี่ยเป็นพยานให้เขาว่าสังหารราชันปีศาจหั่วอวิ๋น บางทีอาจจะต้องให้เธอฝึกวิถีจิตเป็นผู้ฝึกเซียน

 

จ้าวปาโบกมือพาคนจากไป

 

โหมวเจิ้นเฉียงไม่คาดคิดเลยว่าแผลมีดแทงที่ใส่ร้ายเย่เฟิงกลับกลายเป็นหลุดจากผู้ต้องสงสัย! เมื่อเขารับรู้ข่าวว่าเย่เฟิงปลอดภัยไร้เรื่องราว โกรธจนกระอักเลือด

 

เขาไม่ใช่พวกจอมยุทธ แน่นอนว่าไม่รู้ความแตกต่างระหว่างมีดแทงหรือกระบี่ฟัน และไม่รู้ว่าหน่วย NSA จะรู้จักเย่เฟิงดี มันมากเกินกว่าที่เขารู้!

 

……………………………..

 

แปลโดย คั่นหนังสือ

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments