ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 380 งานชุมนุมยุทธภพ
ถ้าหากต้องการจะสกัดสร้างอุปกรณ์ ทางที่ดีควรจะหาสถานที่ที่มีพลังวิญญาณอยู่มากมาย ดีที่สุดควรเป็นถ้ำบำเพ็ญเซียน ส่วนตัวเลือกที่ดีที่สุดของเย่เฟิงตอนนี้ก็คือ ถ้ำภูเขาซางซานภายในสำนักเซียนเร้นลับอย่างไม่ต้องสงสัย
นอกจากนี้ สภาพขณะที่กำลังทำการสร้างจำเป็นต้องมีอุณหภูมิที่สูงอย่างยิ่ง สำหรับเพลิงสุดขั้วของเย่เฟิงมีความร้อนสูงอยู่ แม้กระทั่งบรรลุสูงมากกว่าสองหมื่นองศา แต่ถ้าหากต้องการสร้างอาวุธวิเศษที่มีคุณสมบัติที่ดี อุณหภูมิแค่นี้มันไกลเกินกว่าจะเพียงพอ
ภายในโลกเทวะ เหล่าสำนักใหญ่หรือผู้ฝึกเซียนที่มีอิทธิพลยิ่งใหญ่ ต่างมีเตาหลอมคุณภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาวุธวิเศษที่ใช้สำหรับหลอมสร้าง มันสามารถปลดปล่อยอุณหภูมิที่สูงจนน่ากลัว ขณะเดียวกันก็ใช้ไว้ต่อสู้ได้เช่นกัน แต่น่าเสียดายเย่เฟิงและซูเฟยหยิ่งไม่มีอาวุธวิเศษเช่นนั้น
หรือในทางกลับกัน เย่เฟิงจะต้องพยายามบรรลุวิชาเซียนให้สูงขึ้นอีกขั้นเป็น เพลิงดวงตะวัน
ถ้าสามารถมอบอาวุธวิเศษที่มีประสิทธิภาพสูงในการต่อสู้ให้หลงหวางเอ๋อ จากนั้นกลับไปที่วิหารเก่าแก่อีกครั้งเพื่อช่วยเหลือซูเฟยหยิ่งมันจะเป็นกำลังเสริมที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง ส่วนซูเหมิงหาน เย่เฟิงรู้สึกว่าสาวน้อยคนนี้จะมีวรยุทธต่ำเกินไป และเนื่องจากเป็นเพียงเด็กสาวธรรมดามาก่อน ไม่มีประสบการณ์เล่ห์กลเรื่องการต่อสู้เพียงพอ สถานที่อันตรายเช่นวิหารเก่าแก่นั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆที่จะให้เธอไปได้
“หวางเอ๋อ?”
เมื่อเย่เฟิงเข้ามาภายในห้องก็ร้องเรียกเสียงเบา
แม้ว่าหลงหวางเอ๋อจะปิดตาอยู่ แต่ระยะสัมผัสวิญญาณของเธอกว้างไกลกว่าเย่เฟิงมาก รับรู้ได้ว่าเย่เฟิงกลับมาแล้ว ที่เย่เฟิงเรียกนี้คือต้องการให้เธอตื่นจากการฝึกสมาธิ ดวงตาคู่งามเปิดขึ้นมองตาอีกฝ่าย
“นายกลับมาแล้ว…”
ร่างของเธอเด้งจากที่นอนขึ้นมา รอยยิ้มน่ารักและสดใส ราวกับผีเสื้อโบยหินเหินเข้าสู่อ้อมแขนเย่เฟิง “ครั้งนี้ที่ไปมันอันตรายมากไหม? ทำไมอาจารย์ถึงไม่ได้กลับมาด้วยกัน?”
“เธอ…”
เย่เฟิงรู้สึกลังเล สรุปใจความเพื่อบอกเรื่องราววิหารโบราณอีกครั้ง
จากที่เดินทางไปทะเลทราย ได้สังหารสุดยอดฝีมือของวังดาบสวรรค์ ตระกูลถัง หมัดเทพทวาราและวังไท่จี๋มากมาย และจากนั้นก็เข้าไปภายในอุปกรณ์วาร์ป และเรื่องทั้งหมดภายในวิหารโบราณ และท้ายที่สุดเรื่องที่ตนกลับมาคนเดียว….ทั้งหมด หลงหวางเอ๋อถึงขนาดตัวสั่นกลัวจนหวาดผวา
ถังเยว่กับถังซินผู้อาวุโสตระกูลสาขาของตระกูลถังถูกสังหาร? หานจืออู๋ถูกสังหาร(หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ)? เหล่าสี่ผู้อาวุโสวังไท่จี๋เม่ย หลัน จวี๋ จู๋ ถูกสังหาร?
[คั่นหนังสือ : เหมือนจำได้ตายแค่สามนะครับ แต่ประโยคนี้มันเขียนมาแบบนี้อะครับ ไม่ได้บอกว่าสามในหนึ่งหรืออะไรเลย บอกว่าสี่ผู้อาวุโส]
เหล่าจอมยุทธสุดยอดฝีมือที่มีชื่อเสียง กลุ่มแรกถูกสังหารโดยเย่เฟิง และต่อมาเป็นอาจารย์สาวสวย และราชันปีศาจหั่วอิ๋นอย่างไม่คาดคิด ทั้งหมดต่างถูกสังหารตายอย่างง่ายดาย!
“ถ้าเช่นนั้น อาจารย์ไม่สามารถกลับมาด้วยได้ เนื่องจากติดอยู่ที่วิหารโบราณสินะ?”
หลงหวางเอ๋อคิ้วดำขมวดมุ่นเล็กน้อย “มิน่าล่ะ ได้ยินข่าวแพร่กระจายมาว่า หลงโมหรันปิดประตูฝึกในถ้ำหลัวฝู สั่งห้ามเหล่าคนตระกูลหลงออกไปยุ่งเรื่องภายในยุทธภพ”
“ประกาศปิดประตูฝึก?”
เย่เฟิงประหลาดใจ รู้สึกโล่งอกอยู่ภายในใจ ตอนนี้หลงโมหรันก็คือแก่นศักดิ์สิทธิ์ปลอมแปลงของซูเฟยหยิ่ง แต่ซูเฟยหยิ่งติดอยู่ภายในโลงศพน้ำแข็งดาราภายในวิหารโบราณ แน่นอนว่าไม่สามารถควบคุมตัวตนหลงโมหรันได้
เมื่อเป็นเช่นนี้จึงหลบเลี่ยงออกมา ซูเฟยหยิ่งจึงต้องทำให้ “หลงโมหรัน” ประกาศปิดประตู มิเช่นนั้นเมื่อเหล่าบรรพบุรุษของตระกูลรับรู้ว่าหลงโมหรันในตอนนี้เป็นตัวปลอม เย่เฟิงจะต้องเผชิญหน้ากับหายนะแน่นอน
ก่อนหน้านี้บรรพบุรุษตระกูลหลงกำลังปิดประตูฝึก ตามที่ได้ยินมาไม่นานก็คงจะบรรลุขอบเขตวรยุทธหนึ่งร้อยห้าสิบปีเป็นจอมยุทธสุดยอดฝีมือชั้นเซียนคนหนึ่ง ตอนนี้ปิดประตูมาหลายปีแล้ว ถ้าหากออกมา มันจะต้องตกตะลึงจนสั่นสะเทือนโลก
“ใช่แล้ว เธอรู้เรื่องฉันกับเซียวเยวี่ยได้ยังไงกัน…”
หลังจากที่เล่าเรื่องต่างๆของตัวเองแล้ว เย่เฟิงค่อนข้างรู้สึกอยากรู้ ในเวลาเดียวกันก็เอ่ยปากถามอย่างรู้สึกผิด
เมื่อได้ยินเย่เฟิงเอ่ยปากถามเรื่องนั้น หลงหวางเอ๋งพลันยกยิ้ม ยืนเขย่งเท้าโอบกอดรอบคอเขา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสุข เอียงหัวมองที่เขา “เป่ยจือและเสี่ยวเฉินบอกพวกเรา ราชันปีศาจหั่วอวิ๋นปลอมรูปร่างเป็นนายกลับมาที่เหยียนจิง ดังนั้นพวกเราจึงไปหาพี่สาวหลินคืนนั้น ถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของนาย ฉันได้ยินว่านายไปที่ผับแห่งหนึ่งและฆ่าคนไปสองคน ฉันกับซูเหมิงหานก็รีบเร่งไปทันที ใครจะรู้กันว่า….”
[คั่นหนังสือ : ลืมบอกครับ เป่ยจือ เป็นชื่อเล่นของ จ้าวอี้เปย]
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ใบหน้างามของหลงหวางเอ๋อก็แดงระเรื่อราวกับดวงตะวัน ในเวลาเดียวกันก็เหลือบตามองไปยังเย่เฟิงที่หน้าซีดขาว นัยน์ตาสว่างวาบด้วยความรังเกียจ “ใครจะไปรู้กันว่านายและพี่สาวเซียวจะ…ผิดศีลธรรมกันอยู่ ช่างน่าไม่อาย”
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ เย่เฟิงก็รู้สึกอับอาย “ไม่นะ เธอเห็นแล้วหรือไง?”
“ไม่ได้เห็นเอง แต่ฉันมีสัมผัสวิญญาณ…”
หลงหวางเอ๋อแค่นเสียง “ขนาดอยู่ในห้องน้ำ ยังจะมีอารมณ์อีกนะ”
“เอ๊ะ หรือว่าเธอก็ต้องการเหมือนกัน? งั้นคืนนี้เรามา…”
เย่เฟิงจ้องก่อนที่จะเอื้อมมือกระชับร่างเล็กกระจุ๋มกระจิ๋มอันนุ่มนิ่มของหลงหวางเอ๋อมาในอ้อมแขน
“ฝันไปเถอะ”
หลงหวางเอ๋ยยกยิ้มขึ้นที่มุมปากก่อนจะทุบลงไปที่หน้าอกเขาอย่างแรง “ตอนเย็นค่อยกลับมากินข้าวกับพวกเราด้วย ตอนนี้นายต้องไปมหาลัยเยียนจิงก่อน วันนี้มหาลัยเปิดแล้ว เหมิงหานและจื่อหลานก็ไปแล้ว”
“อืม…”
เย่เฟิงรู้สึกเสียดาย ดูเหมือนว่าหลงหวางเอ๋อเมื่อเทียบกับเซียวเยวี่ยยังขี้อายเกินไป ขนาดเซียวเยวี่ยครั้งแรกยังกล้าที่จะทำให้ห้องน้ำ แต่หลงหวางเอ๋อกระทั่งตอนนี้ยังคิดว่ามันน่าอายจนไม่อาจมองหน้าผู้คนได้…
“ใช่แล้ว เธอรู้ไหมว่าจะหาหญ้าจันทราได้ที่ไหน?”
เย่เฟิงที่กำลังรุ้มเร้าเธออยู่พลันนึกเรื่องนี้ขึ้น ก่อนจะถามออกไป
“ไม่รู้เลย”
หลงหวางเอ๋อส่ายหัว แต่ดูเหมือนว่าจะเคยได้ยินชื่อหญ้าจันทราอยู่เหมือนกัน “นายต้องการที่จะรักษาเป่ยจือและเสี่ยวเฉินหรอ? หญ้านี้ในโลกยุทธภพหายากอย่างยิ่ง และยังไม่ค่อยมีประโยชน์ บางทีคนทำพิธีขนศพในเซียงซี*น่าจะมีใครบางคนเก็บเอาไว้อยู่”
[คั่นหนังสือ : 湘西赶尸,/ขนศพในเซียง = เหมือนของคนไทยเรากับที่ไปรับศพกลับบ้าน ประมาณว่าเสียชีวิตข้างนอกแล้วนิมนต์พระสงฆ์ไปเชิญวิญญาณกลับบ้านครับ]
“ขนศพในเซียงซี”
เย่เฟิงครุ่นคิด
“นายไม่จำเป็นต้องไปหาพวกเขาก็ได้”
หลงหวางเอ๋อยิ้ม “ทุกๆสามปีในเหยียนจิงจะมีการรวมตัวกันอยู่ เรียกว่างานชุมนุมยุทธภพ ก่อนงานชุมนุมยุทธภพมันจะมีงานแลกเปลี่ยนสินค้ากันอยู่ เหล่าคนทำพิธีขนศพในเซียงซีจะต้องเข้าร่วมด้วย ”
“งานชุมนุมยุทธภพ?”
เย่เฟิงขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่ามันคืองานอะไร
“มันจะมีเวทีให้เหล่าสำนักส่วนใหญ่ในโลกยุทธภพได้แลกเปลี่ยนฝีมือกัน โดยแบ่งแยกหลักเป็นรุ่นเยาว์และรุ่นอาวุโส”
หลงหวางเอ๋ออธิบายง่ายๆ “ฉายาจอมยุทธรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งของเฉินฮุยก็ได้รับมาจากงานชุมนุมยุทธภพนี้ เหล่าสำนักส่วนใหญ่จะนำทรัพยากรบางอย่างมาเมื่อเป็นรางวัลแก่เหล่ารุ่นเยาว์ที่มีความสามารถ ส่วนรุ่นอาวุโส มันจะเป็นการจัดอันดับสิบสุดยอดฝีมือของยุทธภพ…. ”
เมื่อเย่เฟิงได้ยิน รู้เลยว่างานชุมนุมยุทธภพนี้อาจจะใช้เป็นเครื่องมือบางอย่าง และไม่ต่างไปจากอะไรกับโลกเทวะจัดงานประลองอันยิ่งใหญ่เหมือนกับงานชุมนุมนี้
ในงานชุมนุมยุทธภพ จะต้องมีเหล่าจอมยุทธรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งมาที่นี้ อย่างไม่ต้องสงสัยว่ามันจะดึงดูดเหล่าจอมยุทธทั่วโลกยุทธภพให้มาเข้าร่วม! ส่วนงานแลกเปลี่ยนสินค้าก่อนหน้านั้น แน่นอนว่ามันจะมีสมบัติสวรรค์มากมายที่เก็บรวบรวมมาตลอดสามปี!
“งานชุมนุมยุทธนี้จะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่?”
“อย่างเร็วก็หนึ่งเดือนถัดไป แต่พวกเราไม่ควรจะไปเข้าร่วมดีที่สุด…”
หลงหวางเอ๋อกล่าวอย่างอึกอัก
“หลงโมหรัน” ยังปิดประตูฝึกอยู่ เมื่อเวลามาไม่ว่าตระกูลหลงจะเข้าร่วมก็ไม่อาจบอกได้ แต่หลงโมหรันคงไม่ได้เข้าร่วม ยุทธภพส่วนใหญ่ในประเทศจีนต่างเห็นเย่เฟิงเป็นศัตรู!
ถ้าหากพวกเขาจะเข้าร่วม พวกเขาจะต้องเข้าร่วมในสถานะอะไร?
แน่นอนว่าไม่ใช่ตระกูลเย่ นอกจากนี้ตระกูลเย่ถูกประกาศว่าถูกทำลายไปเมื่อยี่สิบปีก่อนแล้ว หลงโมหรันก็ไม่ได้ ไม่สามารถใช้ฐานะของตระกูลหลงได้ ในทางกลับกัน งานชุมนุมยุทธภพนี้่สำหรับทุกคนแต่ไม่ใช่เย่เฟิง
แม้ว่างานแลกเปลี่ยนสินค้าก่อนหน้านั้น บางทีพวกเขาเข้าร่วมอาจจะสร้างปัญหาหลายเรื่องได้
“นายจะทำยังไง?”
เย่เฟิงยิ้มบางเบา “งานชุมนุมนี้มีอะไรดีที่จะต้องเข้าร่วม ให้ฉันไปฉันยังไม่อยากไปเลย สบายใจเถอะ เมื่อถึงเวลาจะต้องหาโอกาสไปเพื่อตามหาหญ้าจันทราเป็นการดีที่สุด”
……………………………..
แปลโดย คั่นหนังสือ