ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“คุณมาที่นี่เพื่อรับเงินรางวัล?”
“ใช่ ฉันเป็นคนที่จับยู ชุนโฮและเขาเป็นคนที่บอกวิธีการนำไปสู่การจับกุม”
ผู้ชายคนหนึ่งสวมเสื้อสไตส์ฮาวายและอีกคนที่ใส่ชุดนักเรียนก้าวเข้ามาโดยอ้างว่าพวกเขาจับยู ชุนโฮได้ พนักงานต้อนรับแสดงสีหน้าด้วยความแปลกใจ
“ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน … “
“อะแฮ่ม อย่างนั้นหรือ? “
ขณะที่คังซ็อกมีท่าทางกลุ้มอกกลุ้มใจ แทฮยอคก็แทรกขึ้นมาว่า
“ผู้อำนวยการโช ฮั่นอิลจากฝ่ายบริหารงานบุคคล….เอ่อ ผมหมายถึงหัวหน้าทีมโช ฮั่นอิล บางทีเขาอาจจะรู้ เขาเป็นคนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเงินรางวัลนี้ “
“หัวหน้าทีมโช ฮั่นอิล … ? อ่า! เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะตรวจสอบให้โดยเร็ว “
ทันทีที่มีการกล่าวถึงชื่อของบุคคลที่รับผิดชอบ พนักงานต้อนรับทำหน้าแปลกใจและรีบโทรออก ดวงตาของแทฮยอคเบิกกว้างเมื่อเห็นมัน
“ว๊า แกรู้ได้ยังไง?”
“พี่จำไม่ได้เหรอที่ผมบอกว่าเป็นคนส่งข้าวจากร้านอาหารจีน?”
“อืมม”
“ผมได้ยินเรื่องนี้ในระหว่างที่ส่งอาหารให้ลูกค้า”
“แกเคยส่งอาหารที่นี่ด้วยเหรอ?”
“แน่นอน มันค่อนข้างเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียง “
“ฉันรู้!”
ดวงตาของคังซ็อกฉายแววขึ้น
“จะไม่อร่อยได้อย่างไร แม้แต่บริษัทขนาดใหญ่ยังต้องสั่ง?
นักสืบและจาจังมย็อนไม่สามารถแยกจากกันได้ เขาสาบานว่าสักวันหนึ่งจะสั่งจากร้านอาหารมาลองกินให้ได้
“ขอโทษที่ทำให้คุณต้องรอ!”
ท่าทีของพนักงานต้อนรับเปลี่ยนไปจากเดิม พวกเขาก้มศีรษะด้วยความเคารพและนำทางทั้งสองคนไปยังห้องวีไอพี
น่าประหลาดใจที่ไม่ใช่หัวหน้าทีมโช ฮั่นอิลที่รออยู่ แต่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ เธอสวยมากจนไม่แปลกใจเลยถ้าจะได้เห็นเธออยู่ในทีวี
“สวัสดีค่ะ” ผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โค้งศีรษะของเธอเล็กน้อย ผมของเธอยาวประมาณไหล่และถูกมัดรวบไว้อย่างเรียบร้อย
“ฉันขอโทษนะคะที่ทักทายพวกคุณขณะนั่งอยู่” เธอชี้ไปยังเก้าอี้รถเข็นที่อยู่ข้างเก้าอี้
‘ขาของเธอพิการ’ เธอไม่สามารถเดินได้ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเธอที่จะทักทายพวกเขาขณะที่นั่งอยู่
“ฉันจอง ยูรีค่ะ ฉันได้ยินมาว่าคุณทั้งสองคนจับยู ชุนโฮได้”
คังซ็อกรู้สึกกังวลเป็นอย่างมากเมื่ออยู่ต่อหน้าสาวงาม เขาไม่สามารถพูดได้ชั่วขณะ แทฮยอคจึงบีบด้านข้างลำตัวของเขา เขาเลยร้องอุทานออกมา
“อ่า! เด็กนักเรียนคนนี้ … ซอ แทฮยอคเขาบอกวิธีการจับกุม ส่วนผม โช คังซ็อก นักสืบจากหน่วย 2 สถานีตำรวจคังดงครับ ” คังซ็อกดึงนามบัตรออกมาจากกระเป๋าสตางค์
ผู้หญิงคนนั้นเอียงศีรษะของเธอด้วยความสับสน แม้แต่การเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ก็ยังทำให้เธอดูสง่างาม
“ฉันคิดว่านักสืบจะตรงไปตรงมามากกว่านี้”
“ฮ่าฮ่า! ผมเป็นคนไม่เหมือนใคร ” เขาตกหลุมรักเธอ ไม่ว่าอย่างไรพี่ก็ตกเป็นเหยื่อของเธอแล้ว
เธอดูเหมือนนักศึกษามหาวิทยาลัยมากที่สุด ความแตกต่างระหว่างอายุคังซ็อกกับเธอคือรอบวงโคจรของดาวเคราะห์อย่างน้อยหนึ่งดวง
‘ยังไงซะแล้วเธอเป็นใคร?’
นี่คือห้องวีไอพีของซองจินกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ แน่นอนว่าเธอต้องไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา
เลขานุการของประธานบริษัท? … ฉันไม่คิดอย่างนั้นหรอก
ในความสวยงามนี้ เธอให้ความรู้สึกแปลกประหลาด ดูไม่ชอบมาพากล
ยูรีก้มศีรษะของเธอ
“ยู ชุนโฮ … ขอบคุณสำหรับการจับกุมเขา ฉันต้องการให้เขาถูกตัดสินโดยกฎหมาย “
คังซ็อกมีรอยยิ้มอันน่าพอใจเมื่อได้ยินเธอพูดว่า ‘ตัดสินโดยกฎหมาย’
ขณะที่เธอยังคงพูดอย่างใจเย็น ยูรีก็มีอารมณ์ที่แปลกไป ดวงตาของเธอเต็มไปความโกรธและเกลียด เขารู้สึกสับสนว่าทำไมเธอถึงเป็นเช่นนั้น
แม้ว่าแทฮยอคจะเคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่นี่เป็นเวลาสองปี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นหรือได้ยินคนที่ชื่อจอง ยูรี เธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทหรือเป็นคนใหญ่คนโตที่แทฮยอคไม่สามารถเข้าใกล้ได้
แทฮยอคคิดถึงสถานะของผู้หญิงคนนี้ เขาอาจจะสามารถหาความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกันได้
“ถ้าได้รับความโปรดปราน เขาอาจจะนำความลับของบริษัทมาเปิดเผยหรือว่าเขาอาจจะทำร้ายคนใหญ่คนโต อย่างไรก็ตามยูชุนโฮไม่ใช่คนที่มีข้อมูลลับให้รั่วไหล นั่นหมายความว่าหนึ่งในเหยื่อของเขาจะต้องเกี่ยวข้องกับซองจินกรุ๊ป“
โดยปกติตัวตนของเหยื่อจะไม่ได้ถูกเปิดเผยต่อสื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าบุคคลนั้นเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามแทฮยอคเป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียงของยู ชุนโฮ ขณะที่อยู่ในคุก
‘ใช่ เขาเคยโอ้อวดเกี่ยวกับการฆ่าลูกสาวของบุคคลที่สำคัญมาก ชื่อ…’
ขณะนั้นเองชื่อก็โผล่เข้ามาในหัวของแทฮยอค ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งประธานบริษัทหนึ่งในกลุ่มซองจินกรุ๊ป และยังคงเป็นรองประธานกรรมการบริษัทในอนาคต
‘รองประธานกรรมการจอง กวน-มก!’
เขาสะดุดใจเมื่อเห็นว่าจอง ยูรีมีนามสกุลเดียวกัน อาจจะใช่…
“บางทีคุณอาจเป็นลูกสาวของประธานจอง กวน-มก ?”
ดวงตาของจอง ยูรีเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำพูดของแทฮยอค
“เอ่อ คุณรู้ได้ยังไง?”
“ผมทำงานที่ร้านอาหารจีน บางครั้งเขาก็มากินจาจังมย็อน เขาเป็นลูกค้าประจำมา 20 ปีแล้ว ผมสังเกตเห็นว่าคุณหน้าคล้ายกับเขา “
“พ่อของฉันและจาจังมย็อน …ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังพวกคุณ ฉันจะแนะนำตัวอีกครั้ง ฉันคือจอง ยูรี ผู้อำนวยการของฝ่ายสนับสนุนประชาสัมพันธ์ที่ 2 “
ลูกสาวของประธานบริษัทใหญ่ คังซ็อกอ้างปากค้างหลังจากที่ได้เฝ้าดูอยู่ ขณะที่แทฮยอคพยักหน้าให้เขาราวกับว่าคาดเดาได้
‘อ่อ เพราะเธอได้รับตำแหน่งตั้งแต่อายุยังน้อย ผู้คนจะคิดว่าเธอเข้ามาได้เพราะความสำเร็จจากพ่อของเธอ นั่นเป็นเหตุผลที่เธอปิดบังไว้’
“ถ้าพี่สาวเข้ามาเกี่ยวข้องแสดงว่า พี่ต้องมีความสัมพันธ์กับหนึ่งในผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของยู ชุนโฮ… “
จอง ยูรีหัวเราะที่ถูกเรียกว่า ‘พี่สาว’’ จากนั้นเธอก็รู้สึกหนาวและตัวแข็งทื่อ เมื่อได้ยินชื่อของยู ชุนโฮ
“…ใช่ พี่สาวฉัน กรุณาอย่าบอกเรื่องนี้กับสื่อมวลชน แน่นอนว่าฉันจะขัดขวางคุณ ถ้าคุณพยายามที่จะทำ “
ใบหน้าของยูรีตอนนี้ดูเหมือนผู้จัดการใหญ่ของบริษัท
แทฮยอคพยักหน้า
คังซ็อกตอบอย่างเก้ๆ กังๆเหมือนกับหุ่นยนต์ที่พังแล้ว
“ครับ ผมจะระมัดระวัง “
“ฉะนั้นนั่งลงและผ่อนคลาย ฉันจะพูดคุยด้วย “
แทฮยอคและคังซ็อกนั่งลง ชาก็ถูกนำออกมาเสริฟ์ นอกจากนี้ยังมีขนมที่เตรียมไว้ล่วงหน้า
“เชิญทานได้ค่ะ”
คังซ็อกหยิบขนมหวานเข้าปากทันทีและกลืนโดยไม่ได้เคี้ยว
“ขนมอร่อยมาก”
“ฮ่าๆ ฉันทำเองค่ะ ดังนั้นโปรดทานเยอะๆ นะคะ “
“โอ้ ครับ!”
“เกี่ยวกับเงินรางวัล ซอ แทฮยอค ผู้มีบทบาทสำคัญในการจับตัวเขาจะได้รับ 100 ล้านวอน แน่นอนว่าคุณจะไม่ต้องเสียภาษีใดๆ เนื่องจากเป็นเงินรางวัลค่ะ”
100 ล้านวอน! นั่นเพียงพอที่จะซื้อบ้านดีๆ ในพื้นที่สักหลัง
แทฮยอคได้รับเงินรางวัล แต่คังซ็อกกลับเป็นคนที่ทำเสียงเอะอะ
“ว้าวว,แทฮยอค! นี่มันเยี่ยมไปเลย 100 ล้านวอน! ด้วยเงินนี้ …แกจะได้บ้าน 3LDK ได้เลย! “
แทฮยอคพยักหน้าด้วยความเคารพและกล่าวว่า
“พี่จอง ยูรี ผมกำลังคุยกับผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนประชาสัมพันธ์ไม่ใช่สมาชิกในครอบครัวของเหยื่อ “
“ห๊ะ?”
“เงินรางวัลควรจะเป็น 200 ล้านวอน ไม่ใช่ 100 ล้านวอน”
“เห็นได้ชัดว่า 100 ล้านวอนต่อคน … “
จองยูรีพูดติดอ่างเนื่องจากความสับสน เธอคิดว่าเขาเป็นน้องชายที่น่ารักและไม่คิดเลยว่าเขาจะยืนยันเรื่องเงินสองเท่าเช่นนี้
“ใช่แล้ว 100 ล้านบาทต่อคน แต่เห็นได้ชัดว่า ‘พวกเรา’ มีกันสองคนและแน่นอนว่าไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับนักสืบที่ได้รับรางวัลไม่ใช่เหรอ? มันไม่ได้ระบุอย่างชัดเจน “
“ถะ ถูกต้อง แต่ … “
โดยปกตินักสืบจะไม่ได้รับรางวัลจากการจับอาชญากร
“คนร้ายถูกจับได้เนื่องจากวิธีการของผม อย่างไรก็ตามเขาอาจจะไม่ถูกจับ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่คังซ็อกเชื่อรายงานของเด็กมัธยมปลายและไปตรวจสอบ พี่คังซ็อกยังพุ่งตัวเพื่อไปจับคนร้ายตอนที่เขาวิ่งหนี อย่างนี้จะเรียกว่าผมจับคนร้ายเพียงลำพังหรือ? “
“แน่นอน …”
“อ่า ผมคิดว่ากำลังพูดอยู่กับผู้อำนวยการใหญ่ ลองมามองในมุมของซองจินกรุ๊ป ไม่ใช่ว่าซองจินกรุ๊ปกำลังจะเปิดตัวธุรกิจป้องกันการก่ออาชญากรรมหรือ? แนวคิดของมันคือความยุติธรรม ซึ่งเป็นเหตุผลที่คุณให้เงินรางวัลเพื่อจับอาชญากร “
“เธอรู้มากจริงๆ”
“ผมได้ยินประธานพูด”
“โอ้, พ่อ”
“ความจริง, ฉันไม่คิดว่าบริษัทจะเสียหายหากสนับสนุนนักสืบที่จับอาชญากรได้ แต่พี่คังซ็อกจะแสดงตัวออกข่าวตอนเย็นนี้ในฐานะนักสืบที่จับกุมคนร้ายได้ ถ้าพี่คังซ็อกได้รับเงินรางวัลแล้วภาพออกไปค่อนข้างมาก เธอคิดว่าไง?”
แทฮยอคหยุดคิดครู่หนึ่ง
จอง ยูรีกำลังมองดูแทฮยอคด้วยสายตาเบิกกว้าง คังซ็อกก็ทรุดตัวลงครึ่งหนึ่ง
“ความยุติธรรมที่คุณสร้างมันขึ้นมา พวกเราจะปกป้องมันด้วยอำนาจทั้งหมดที่เรามี “
“นักสืบที่จับกุมคนร้ายที่ก่อความสับสนวุ่นวายทั้งประเทศ คุณเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่สนับสนุนเขา นี่เป็นโอกาสที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของซองจินกรุ๊ป โดยปกติแล้วเงินที่ใช้สร้างภาพลักษณ์ของบริษัททุกปีจะอยู่ที่ 100,000 ล้านวอน ถ้ามองไปยังข้อเท็จจริง 100 ล้านวอนไม่ได้เป็นเงินมากมายอะไร”
คำพูดของแทฮยอคล่อใจอย่างแปลกประหลาด
“ช่วยกรุณารอสักครู่ได้มั้ยคะ? ฉันจะติดต่อกับพ่อของฉัน “
มือของจอง ยูรีสั่น เธอหยิบอินเตอร์คอมบนโต๊ะและโทรหาใครบางคน
“โอ้,พ่อ ยูรีเองค่ะ เกี่ยวกับเงินรางวัลในวันนี้? เพราะ…” ยูรีอธิบายเป็นนานกว่า 10 นาที
“ค่ะ,เข้าใจแล้วค่ะ แน่นอนหนูจะเขียนรายงานส่ง.. ใช่ค่ะ, เด็กมัธยมปลาย …ใช่ค่ะ,หนูแน่ใจ”
หลังจากเสร็จสิ้นการสนทนา จอง ยูรีจึงค่อยๆหายใจลึกๆ สองสามครั้ง จากนั้นเธอก็ยิ้มให้สดใสและทำสัญญาณชัยชนะ
“ไชโย!”
คังซ็อกดูเหมือนว่าเขาจะร้องไห้ เขาได้รับเงิน 100 ล้านวอนอย่างกะทันหัน
แทฮยอคยิ้มด้วยความพึงพอใจ อย่างไรก็ตามเขาได้รับเงินรางวัล 100 ล้านวอน ตอนนี้คังซ็อกจะกลายเป็นผู้พิทักษ์ของเขาอย่างสมบูรณ์ เขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์จึงสมควรได้รับเงินมากกว่าคนอื่น
“ขอบคุณท่านรองประธานสำหรับทุกอย่าง”
คำพูดของเขาเกี่ยวกับจอง กวนมกมีความจริงเพียงครึ่งเดียว แทฮยอคได้พบเขาเมื่อครั้งทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของที่นี่ ไม่ใช่ในตอนนี้ แต่เป็น 20 ปีที่ผ่านมาเขาไปกินจาจังมย็อน พ่อครัวมักจะคุยโม้เกี่ยวกับการให้บริการประธานบริษัทใหญ่ ดังนั้นที่เขารับรู้เกี่ยวกับการเปิดตัวธุรกิจใหม่เป็นเรื่องโกหก แต่เพราะเขามีความทรงจำในอนาคตต่างหาก
จอง ยูรีไม่ได้แสดงท่าทางใดๆ เมื่อพูดถึงความเข้าใจผิดเกี่ยวกับพ่อเธอ ในตอนแรกตำแหน่งของเธอถูกพูดเกินจริง พ่อของเธออาจมอบให้เพื่อปกป้องเธอ ซึ่งเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าทำไมแทฮยอคทำงานที่นี่เป็นเวลาสองปีจึงไม่เคยเห็นเธอ
วะฮะฮ่ะ!
“แทฮยอค!”
คังซ็อกกอดแทฮยอคแน่นจนรู้สึกว่ากระดูกกำลังจะแตก
“พี่ ฉันหายใจไม่ออก … “
“เด็กเลว มันน่าประทับใจมาก ขอบคุณจริงๆ 100 ล้านวอน 100 ล้าน ฉันคิดว่าฉันจะแต่งงานถ้าฉันมีเงินมากขนาดนี้! “
‘เขาจะต้องหาแฟนให้ได้ก่อน’ แทฮยอคมองไปยังคังซ็อก แต่ไม่ได้พูดออกมา
“ฉันจะติดต่อคุณโดยตรงผ่านสถานีตำรวจคังดง.. อ่า, คุณอาจจะต้องทำการสัมภาษณ์หรือถ่ายรูปสำหรับการเลื่อนตำแหน่งของคุณ “
“ผมคงจะต้องถามหัวหน้าเป็นคนแรก แต่อาจจะได้รับคำตอบที่ดี”
“ในเวลานี้ ขอแสดงความยินดีกับคุณนักสืบด้วยค่ะ คุณได้รับ 100 ล้านวอน “
“ทั้งหมดนี่ต้องขอบคุณน้องชายของผม ฮ่าฮ่า แทฮยอค!”
คังซ็อกกอดแทฮยอค คราวนี้เขาทุบหลังแทฮยอคอีกครั้ง
[การโจรกรรมถูกเรียกใช้]
– คุณประสบความสำเร็จในการขโมยข้าวของจากฝ่ายตรงข้าม!
“มะ ไม่นะ!”
แทฮยอคไม่สามารถต่อต้านได้ เขารู้สึกอยากจะร้องไห้
“… ทะ ทำไม แกไม่ชอบเหรอ?”
‘ไม่ได้! สกิลอาชญากรรมถูกเรียกใช้! ในเวลาแบบนี้มันจะประสบความสำเร็จโดยไม่ล้มเหลวใดๆ
แทฮยอคมองผ่านกระเป๋ากางเกง เขาแตะโดนชิ้นผ้าที่ค่อนข้างชื้น เขาต้องระวังไม่ให้คังซ็อกและยูรีสังเกตเห็นขณะที่กำลังตรวจสอบท่าทางของเขาเลยดูน่าเกลียดทันที
‘บ้าเอ้ย กางเกงชั้นใน!’ เขาสามารถขโมยเสื้อผ้าที่ใครสวมใส่ก็ได้
‘การโจรกรรม’ น่ากลัวจริงๆ!
คังซ็อกเริ่มเต้นโดยไม่รู้ว่าชุดชั้นในของเขาหายไป เขารู้สึกมีความสุขเหมือนถูกรางวัลล็อตเตอรี่
ในความเป็นจริงแทฮยอคก็เหมือนกัน
‘100 ล้านวอน, รางวัลใหญ่! ใช่ ฉันจะซื้อบ้านหลังใหม่เพื่อสร้างความประหลาดใจให้กับพี่สาว เห็นได้ชัดว่ามันยังช่วยคังซ็อกได้เช่นกัน
——————————————————————–
เล็กๆ น้อย ๆ ท้ายเรื่อง
*3LDK หมายถึงบ้านที่มีห้องใหญ่ห้องหนึ่งที่ใช้เป็น ห้องครัวและห้องกินข้าว พักผ่อนรวมกัน และมีอีก 3 ห้องนอน
*อินเตอร์คอม เป็นอุปกรณ์สื่อสารด้วยเสียงที่ใช้สำหรับการใช้งานภายในอาคารระยะทางไม่ห่างไกลกันมากนัก ทำงานเป็นอิสระจากเครือข่ายโทรศัพท์สาธารณะ ใช้เฉพาะในส่วนภายในออฟฟิต อาคาร ห้องต่างๆ เชื่อมกันระหว่างจุดนึงไปยังอีกจุดนึง
*******แจ้งข่าวสักนิดนะครับ ช่วงนี้ผมไม่สบายสารพัดสิ่ง แปลไม่ไหวจริงๆครับ คงหายไปสักพัก ถ้าดีขึ้นแล้วจะรีบกลับมาอัพให้ครับ********