“ข้ารู้ว่าเจ้ามีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับคนอื่น แต่ในเมื่อเหตุการณ์มันเป็นเช่นนี้เจ้าก็ต้องยอมรับมัน ในท้ายที่สุดเจ้าจะเข้าใจความลำบากของข้า”
 
‘ซูเฮิน’ เห็นการกระทำของพวกเขาราวกับแมลงตัวจ้อย เขาไม่ได้ขยับและเพียงแค่ปล่อยพลังวิญญาณระดับ 5 ขั้นแก่นวิญญาณออกมา เพื่อทำลายการโจมตีของ ‘ซูหลง’
 
ในขณะนั้นแรงกดดันนี้แผ่กระจายออกไปทั่วบริเวณ แรงกดดันนี้ดึงรั้ง’ซูรู่’เอาไว้ ไม่ต้องพูดถึงการหลบหนี แม้แต่ที่จะออกไปข้างหน้าสักก้าว นางก็ไม่สามารถทำได้ จากนั้นนางก็ล้มลงกับพื้นเนื่องจากไม่สามารถต้านทานแรงกดดันนี้ได้
 

 
“ท่านพ่อ !! ปล่อยพี่ชายและพี่สาวไปเถอะ ข้าสัญญาว่าข้าจะแต่งงานกับ ซางก้วน หยา”
 
‘ซูเหม่ย’ มองดู’ซูหลง’และ ‘ซูรู่’ ด้วยใบหน้าและแววตาที่เจ็บปวด
 

 
“เฮ้อออ………เหม่ยน้อย !! พ่อขอโทษ”
 
‘ซูเฮิน’ กล่าวตอบพร้อมทั้งแสดงสีหน้าที่ปวดร้าว
 
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ปล่อย’ซูหลง’ และ’ซูรู่’ไปง่ายๆ เขาใช้วิธีการพิเศษในการประทับตราไปที่ทั้งสองคน ทำให้ทั้ง ‘ซูหลง’ และ ‘ซูรู่’ ไม่อาจเปล่งเสียงออกมาได้
 
หลังจากนั้นเพียงไม่นาน ขบวนขันหมากของตระกูลซางก้วนก็มาถึงที่ด้านหน้าของเมือง ‘ซางก้วน หยา’ สวมชุดเจ้าบ่าวอยู่บนหลังม้าที่มีขนาดตัวที่สูงใหญ่ เขาไม่อาจเก็บซ่อนรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าของเขาได้ เพราะเขากำลังจะได้แต่งงานกับผู้หญิงที่เขาเฝ้าฝันถึงทุกวันเวลา
 
ภายในขบวนขันหมากพี่ชายของ ‘ซางก้วน หยา’ ก็อยู่ในนั้น เขาคือคนที่บีบให้ ‘ชูเฟิง’ ต้องหลบหนี และกระโดดหน้าผาลงไป เขาคือ ‘ซางก้วน เทียน’
 
และสิ่งสำคัญก็คือ ในตอนนี้ ‘ซางก้วน เทียน’ ได้สวมชุดเจ้าบ่าวเช่นกัน ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความหยิ่งผยองอวดดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่า ‘ซางก้วน หยา’ เลยแม้แต่น้อย
 

 
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีเจ้าบ่าวสองคน หรือว่าสองพี่น้องนี่จะแต่งงานกับ ซูเหม่ย ทั้งคู่ !!”
 
เหล่าผู้คนรอบๆ ต่างพูดคุยกัน พวกเขารู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก
 

 
“ซางก้วน เทียน ! ซางก้วน หยา ! นี่มันหมายความว่ายังไง !?”
 
‘ซูเฮิน’ นำเหล่าผู้เชี่ยวชาญจากภายในตำหนักเจ้าเมืองออกมา เมื่อเขามองไปด้านหน้าเขาก็เห็นการกระทำของตระกูลซางก้วน
 

 
“ท่านเจ้าเมือง !! เหตุใดที่เราสองพี่น้องมาที่น่ะหรือ ถ้ากหากตอบตามตรง ก็เพื่อมาแต่งงานกับลูกสาวของท่าน”
 
‘ซางก้วน หยา’ กล่าวตอบ
 
ขณะที่เขายังอยู่บนหลังม้า และใช้สายตามองลงมา มันเหมือนเป็นการดูถูกและไม่ให้เกียรติน่ะครับ ผู้เป็นนายเหนือหัวอยู่บนหลังม้า พลทหารเดินเท้า
 

 
“ท่านเจ้าเมือง ข้าจะไม่ปิดบังท่าน !! ข้า ซางก้วน เทียน นั้นได้ตกหลุมรักลูกสาวของท่าน แม่นางซูรู่”
 
 
“บังเอิญว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของน้องชายข้า ซางก้วน หยา กับลูกสาวคนเล็กของท่าน ซูเหม่ย ดังนั้นทำไมเราไม่จัดงานแต่งคู่โดยที่ตระกูลของข้า คือข้า ซางก้วน เทียน และฝ่ายของท่านคือแม่นาง ซูรู่ ข้าจะปฏิบัติต่อนางอย่างดีที่สุด”
 
‘ซางก้วน เทียน’ กล่าวตอบ และเขาก็ไม่ได้ลงจากม้าเช่นกัน
 

 
“เหลวไหล !! ซางก้วน หยา กำลังจะแต่งงานกับคุณหนูเล็กของพวกเรา ด้วยข้อตกลงที่มีมาก่อนหน้านี้ แต่สำหรับเจ้า มันไม่ใช่ !!”
 
หนึ่งในชายชราจากตำหนักของเจ้า กล่าวออกมาด้วยความโกรธ
 

 
“สะเออะ !! ข้ากำลังพูดกับท่านเจ้าเมือง ไม่ใช่เจ้า !!”
 
‘ซางก้วน เทียน’ กล่าวตอบ พร้อมทั้งหยิบแส้ขึ้นมาในมือ และฟาดมันออกไป
 

 
“หืมมมม….. มีพลังเพียงแค่ระดับ 1 ขั้นแก่นวิญญาณ เจ้าไม่ควรมาทำตัวอวดดีต่อหน้าข้า !!”
 
ชายชราไม่ได้หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เมื่อต้องเผชิญหน้ากับแส้ที่พุ่งมาราวกับมังกร เขาเพียงแค่โบกมือและเกร็งพลังคว้าไปที่แส้นั้น พลังของเขาอยู่ในระดับที่ 2 ขั้นแก่นวิญญาณ
 

 
“เจ้ามันไม่มีสัมมาคาราวะ ลงมานี่ซะ !!”
 
ชายชรากำลัง เร่งพลังพร้อมที่จะกระชาก ‘ซางก้วน เทียน’ ลงมาจากหลังม้า
 
*****ปึก*****
 
ในขณะนั้น มีฝ่ามือที่ทรงพลังยิ่งกว่าคว้าข้อมือของชายชราเอาไว้ พลังนั้นค่อยๆข่มพลังของชายชรา และหยุดทุกการกระทำที่กำลังจะเกิดขึ้น
 

 
“นายท่าน !!”
 
ชายชรามองไปที่ด้านข้างของเขา และนั่นทำให้เขาไม่กล้าที่จะทำอะไรอีก เพราะว่าคนที่หยุดเขานั้น คือนายเหนือหัวของเขา ‘ซูเฮิน’
 
‘ซูเฮิน’ส่ายศรีษะให้กับชายชรา พร้อมทั้งส่งสายตาที่บ่งบอกว่า การกระทำของชายชรานั้นบุ่มบ่ามเกินไป เขาสูดหายใจเข้า และกล่าวออกมาว่า
 

 
“ไปพานายหญิงทั้งสองออกมา วันนี้ตระกูลซูจะจัดงานแต่งงานคู่ กับตระกูลซางก้วน !!”
 
 
“ห๊าาาาาา !!”
 
เมื่อได้ยินคำกล่าวของ ‘ซูเฮิน’ เหล่าฝูงชนรอบๆต่างตกตะลึงไปตามๆ กัน
 
การแจ่งงานระหว่าง ‘ซางก้วน หยา’ และ ‘ซูเหม่ย’ นั้น เป็นเรื่องที่ถูกกำหนดไว้แล้ว แต่การแต่งงานระหว่าง ‘ซางก้วน เทียน’ และ ‘ซูรู่’ นั้น เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย มันเป็นเรื่องที่ตระกูลต่างๆไม่เคยทำมาก่อน แต่นี่ ตระกูลของท่านเจ้าเมืองวิหคเพลิง กำลังจะทำในสิ่งที่ผู้อื่นต่างมองว่าไม่ถูกต้อง
 
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ ‘ซูเฮิน’ ไม่ได้ทำการตอบโต้ใดๆ ในกิริยาของสองพี่น้อง แต่เขากลับลดศักดิ์ศรีของเขาลง และทำตามความต้องการของสองพี่น้องตระกูลซางก้วน เหล่าผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น ต่าวคิดไม่ออกว่าเพราะอะไร แม้จะคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้สักร้อยครั้ง ก็ไม่อาจจะหาคำตอบใดๆ ได้
 

 
“เกิดอะไรขึ้น !! ท่านเจ้าเมืองยองทำตามข้อเสนอ ของสองพี่น้องตระกูลซางก้วนอย่างนั้นรึ !?”
 
บางคนที่เกิดความสงสัยถามขึ้น
 

 
“เจ้าคงไม่รู้ซินะ ข้าเคยได้ยินมาว่า หัวหน้าตระกูลซางก้วน ซางก้วน เยว่ มีระดับพลังอยู่ที่ระดับ 6 ขั้นแก่นวิญญาณ แต่ท่านเจ้าเมืองมีพลังเพียงระดับ 5 ขั้นแก่นวิญญาณเท่านั้น ถึงแม้ว่าตระกูลของท่านเจ้าเมืองจะเป็นเสาหลักของเมืองวิหคเพลิง แต่ด้านความแข็งแกร่งนั้นเป็นรองจากตระกูลซางก้วน”
 
 
“ข้าเชื่อว่า การรวบรัดการแต่งงานระหว่าง ซางก้วน หยา และ ซูเหม่ย นั้น เป็นเพราะ ซางก้วน เยว่ อยู่เบื้องหลัง”
 
บางคนได้ให้คำวิจารณ์ออกมา
 
เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และพวกเขาก็ได้พบความจริงที่ว่า เจ้าเมืองที่แท้จริงไม่ใช่ตระกูลซู แต่เป็นตระกูลซางก้วน นี่เป็นข่าวใหญ่สำหรับเมืองวิหคสีเพลิง
 
ทุกคนต่างรู้สึกว่าเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง เมื่อ ‘ซูรู่’ และ ‘ซูเหม่ย’ สวมชุดเจ้าสาวและก้าวออกมาจากที่พัก ทุกคนในเมืองต่างรู้ว่าสถานการณ์ภายในเมืองกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป
 

 
“แย่แล้ววว !! เกิดเรื่องขึ้นแล้ววววว !!”
 
ในตอนนั้นมีเสียงตะโกนออกมาด้วยความตกใจ การกระทำนี้ทำลายความเงียบสงบได้อย่างชัดเจน ทุกๆ สายตายทั่วบริเวณ ต่างจ้องมองไปทางต้นเสียงเป็นตาเดียว
 
พวกเขาเห็นเหล่าทหารวิ่งเข้าไปในตำหนักที่พัก หากมองอย่างละเอียดจะพบว่า บนร่างกายของเหล่าทหารต่างมีบาดแผลเต็มไปหมด
 

 
“เกิดอะไรขึ้น !? เกิดอะไรขึ้น !?”
 
‘ซูเฮิน’ และคนอื่นๆ ต่างสอบถามอย่างรวดเร็ว
 

 
“เมือง !! เมือง……..กะ….กำ…..ลัง ถูกศัตรูบุก”
 
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็หมดสติไป
 

 
“อะไรนะ !! ศัตรูบุก !!”
 
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ‘ซูเฮิน’ ไม่รู้จะทำอย่างไร เขากวาดสายไปยัง ‘ซางก้วน หยา’ และ ‘ซางก้วน เทียน’ แต่ก็พบว่า พวกเขาทั้งสองนั้นไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นกัน
 
‘ซูเฮิน’ รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก เพราะในความเป็นจริงนั้น ตระกูลซูของเขา มีศัตรูเพียงหนึ่งเดียวนั่นคือตระกูลซางกวน แต่ในเมื่อพวกเขาไม่ได้รู้เรื่อง แล้วใครกันที่กล้ามาบุกเมืองวิหคเพลิง
 
*****ตุ้บ*****ตุ้บ*****ตุ้บ*****
 
*****เคร้ง*****เคร้ง*****เคร้ง*****
 
*****ตุ้บ ตุ้บ เคร้ง*****เคร้ง เคร้ง ตุ้บ*****
 
ในเวลานั้น จากทิศทางที่ทหารวิ่งมา ได้มีเสียงที่ดังราวระฆังและกลองดังขึ้นมา ทุกคนอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าด้วยความยากเย็น ในตอนนี้ความหวาดกลัวเข้ามาอัดแน่นอยู่ภายในหัวใจของพวกเขา เนื่องจากเสียงดังราวระฆังและกลองดังขึ้นเรื่อยๆ อย่างชัดเจน จากการคุ้มกันตัวเจ้าสาว
 
 
 
ผู้แปล โดยคุณ#
 
ตระกูล ซ่างกวน ก็ ซ่างกวน เหอะว่ะ ให้บวก คฤหาสกิเลนด้วย อีกไม่นานก็โดนพี่เฟิง. . . . . . . .
 
แล้วจากนั้นจะเป็นยังไงกันต่อไป . . . . . .
 
ไหนๆเจ้าสาวก็สวมชุดเจ้าสาวรอ 2 คนแล้ว ชูเฟิง แพ๊ค คู่เลยแล้วกัน ข้างซ้าย ซูรู่ ข้างว่า ซูเหม่ย ตรงกลาง ต้านต้าน ใจคอมืงจะเอาผู้หญิงทั้งโลกเลยเลยไม๊
 
ที่มา: