3 วันต่อมา . . . . . ณ ภายในเมืองวิหคเพลิง
 
ทุกคนต่างพากันสนุกสนานโดยเฉพาะบรรดาตระกูล ซ่างกวน และอาวุโสระดับสูง รอบนอกภายในเมืองล้วนแต่เป็นแขกที่มีชื่อเสียงที่เดินทางมายังเมืองวิหคเพลิง
 
วันนี้ถือเป็นวันแห่งความสุขครั้งใหญ่ของตระกูล ซ่างกวน เพื่ออีกไม่ช้า บุตรหลานของพวกเขากำลังจะแต่งงานกับ ‘ซูเหม่ย’ ซึ่งเป็นบุตรสาวคนที่ 2 ของเจ้าเมืองวิหคเพลิง ‘ซูเฮิน’
 
*ฝันไปเถอะพวกมึง……… เด๋วสนุกแน่ รอลูกพี่เฟิงก่อน*
 
ในขณะที่ ประทัดแดงทุกจุด ฆ้อง กลอง ต่างดังขึ้นกันสนั่นหวั่นไหว ภายในห้องพักของตำหนักเจ้าเมืองยังมีบรรยากาศที่อึมครึมผิดปกติ จนดูมึดมน
 
ขณะนี้ ‘ซูเหม่ย’ สวมชุดกระโปรงยาวสีแดง มันช่างเป็นชุดที่สวยงามเป็นอย่างมาก ใบหน้าของนางเองก็ถูกแต่งเติมจนงดงาม ความงามของนางกล่าวได้ว่าสามารถทำลายล้างทั้งอาณาจักรและเมืองให้พังพินาศ
 
หญิงสาวรับใช้ ที่อยู่ข้างๆกำลังแต่งหน้าให้กับนาง ขณะที่กำลังหวีผมให้ แม้นางจะได้ยินเสียงหัวเราะดังครึกครื้นจากภายนอก แต่นางกับดูไม่มีความสุขแม้เพียงเสี้ยวเดียว ในทางตรงกันข้าม สองสายธารค่อยๆหลั่งไหลออกจากดวงตาลงบนแก้มอันอ่อนหวานของนาง
 
ที่ทำให้คนรับใช้เหนื่อย ก็คือการที่คอยเอาผ้าเช็ดน้ำตาให้นางซ้ำแล้วซ้ำเล่า สำหรับซูเหม่ย นางไม่อาจห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลได้ ขณะที่คนรับใช้กำลังเซ็งนางก็ร้องไห้ออกมา จนใบหน้าที่แต่งไว้พังพินาศต้องทำใหม่ทั้งหมด
 
* ปั้งงงงง *
 

 
” ออกไป !!! “
 
ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากทางเข้า จนทำให้ประตูใหญ่ที่แข็งแกร่ง กระจายออกเป็นชิ้นๆ ทั้งสององครักษ์ที่คอยคุ้มกัน ก็กระเด็นไปกองในห้องพร้อมกับหมดสติไป
 

 
” ว้ายยย  ~ ~ ~ “
 
เห็นเช่นนั้นหญิงรับใช้กรีดร้องออกมา แต่เมื่อเห็นสองร่างที่เดินเข้ามานางรับใช้ก็ถึงกับยืนตะลึง
 
ชายและหญิงที่เดินเข้ามา ผู้หญิงสวมชุดขาวดูน่ารักและมีเสน่ห์ หน้าอกที่วาดขึ้นได้สัดส่วน นางสามารถดึงดูดวิญญาณใครหลายต่อหลายคน แม้แต่ผู้หญิงใดๆจะต่างพากันสยบต่อความงามของนาง นางคือพี่สาวของ’ซูเหม่ย’
 
‘ซูรู่’ นั้นเอง
 
อีกคนเป็นชาย สูงใหญ่ กำลังยืนอยู่ข้างๆ’ซูรู่’ ชายคนนั้นคิ้วหนา ตาโต ผิวเข้ม เขาจะเป็นใครไปไม่ได้นอกซะจาก พี่ชายของ’ซูรู่’และ’ซูเหม่ย’ ลูกชายคนโตของ ‘ซูเฮิน’
 
‘ซูหลง’ นั้นเอง
 
‘ซูหลง’ มีอายุ 25 ปี และตั้งใจฝึกฝนตัวเองเป็นอย่างดี เขามีพลังวิญญาณอยู่ในอาณาจักรแก่นแท้ระดับ 2 และเป็นลูกชายคนโตของตระกูล ซู เขามักจะเดินทางไปข้างนอกเพื่อช่วยตระกูลซูกระซับความสัมพันธ์กับตระกูลต่างๆ เขาจึงไม่ค่อยได้อยู่ในเมือง วิหคเพลิง มากนัก
 
ยังไงก็ตาม เมื่อ ‘ซูหลง’ ได้ข่าวว่าน้องสาวของเขากำลังจะแต่งงานกับ’ซ่างกวน’ โดยที่นางถูกบังคับเขาจึงรีบเดินทางกลับมา
 

 
” พี่ใหญ่ พี่รอง ทำไมพวกท่านถึงมาอยู่ที่นี่ ? “
 
เมื่อเห็นหน้าของทั้งสอง ‘ซูเหม่ย’ ประหลาดใจเล็กน้อยพร้อมกับรีบเช็ดน้ำตาบนใบหน้า
 

 
” น้องเล็ก ตามข้ามา พวกเราจะออกไปกัน!!! “
 
‘ซูหลง’มอง’ซูเหม่ย’ที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาบนแก้ม เขาไม่พูดใดๆต่ออีก เขารีบคว้ามือของซูเหม่ยและดึงนางออกไป ขณะที่’ซูรู่’เดินก็เดินตามไป
 

 
” ท่านพี่จะทำอะไร ปล่อยข้า “
 
‘ซูเหม่ย’พยายามจะขัดขืนแต่นางไม่อาจทำอะไรได้ ต่อหน้าพี่ชายที่มีพลังวิญญาณสููงส่งกว่านาง
 

 
” ไอน้องบ้า เจ้าเกลียด ซ่างกวน หย๋า แล้วเจ้าจะไปแต่งงานกับมันหรอ ในฐานะที่ข้าเป็นพี่ชาย ข้าจะไม่ยอมส่งเจ้า ให้ต้องไปตกอยู่ในนรก!!! “
 
‘ซูหลง’พูดออกมขณะที่ลาก’ซูเหม่ย’ออกจากตำหนัก แต่เมื่อมาถึงทางออก เขาก็ถึงกับต้องตะลึงและหยุดการเคลื่อนไหว
 
หลายสิบคนปรากฏตัวต่อหน้าเขา ทั้งหมดคือผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของเมือง วิหคเพลิง พร้อมกับคนที่ทำให้พวกเขาเคลื่อนไหว เจ้าเมืองวิหคเพลิง ‘ซูเฮิน’
 

 
” เจ้ากำลังจะทำอะไร ? “
 
‘ซูเฮิน’ขมวดคิ้วลงเหมือนดาบขณะที่เริ่มสอบ
 

 
” ท่านพ่อ ข้าจะน้องเหม่ยออกไป ข้าจะไม่ยอมให้นางต้องไปแต่งงานกับไอสารเลวนั้น !!! “
 
‘ซูหลง’ กล่าวเสียงดัง
 
* เพรียยยะ *
 
หลังจากที่เขาพูดจบฝ่ามือก็ลอยลงมาบนใบหน้าของ’ซูหลง’ ความแรงของมันทำให้เขาที่อยู่ในอาณาจักรแก่นแท้วิญญาณระดับ 2 ลงไปกองกับพื้น เลือดค่อยๆไหลออกจากมุมปากของเขา ขณะที่ใบหน้ากลายเป็นสีแดง คนที่ลงมือก็คือ ‘ซูเฮิน’ พ่อของเขา
 

 
” ไสหัวไปซะ!!! “
 
‘ซูเฮิน’จ้อง’ซูหลง’ พร้อมกับไล่
 

 
” ท่านพ่อ อะไรทำให้ท่านกลายเป็นแบบนี้ ท่านคิดจะบังคับให้นางไปแต่งงานกับคนที่นางไม่ได้รัก งั้นหรอ ? “
 
ตอนนั้น ‘ซูรู่’ ก็พูดออกมา พร้อมกับเดินไปข้างๆ’ซูเหม่ย’ ขณะที่ชี้หน้าของ’ซูเหม่ย’
 

 
” ท่านมองดูนี่สิ เห็นคราบน้ำตาบนหน้าลูกสาวของท่านหรือไม่ ท่านทำให้นางต้องมีสภาพเป็นเช่นนี้ เห็นไม๊ว่านางต้องเจ็บปวดแค่ไหน “
 
 
” หากท่านเป็นพ่อที่แท้จริง ท่านต้องคิดถึงความสุขของนาง และปล่อยให้นางตัดสินใจเรื่องของตัวเองในอนาคต “
 
เสียงของ’ซูรู่’ดังชัดเจน และทุกคนที่อยู่ในที่นั้นต่างพากันลำบากใจ แม้แต่ดวงตาของ’ซูเฮิน’ก็ยังแวววาวเขาไม่ได้พูดอะไรในตอนนั้น หลังจากที่เอามือยกขึ้นมาเหมือนให้สัญญาณผู้ติดตามที่ตามมาคนเหล่านั้นเห็นเช่นนั้น พวกเขาทั้งหมดก็เข้าใจความหมายของ’ซูเฮิน’ได้ทันที
 
พวกเขาค่อยๆถอยหลังออกไป จากนั้นก็เหลือเพียง 4 คนที่ยังอยู่ ได้แก่ ‘ซูเฮิน’ ‘ซูหลง’ ‘ซูรู่’ และ’ซูเหม่ย’
 

 
” เห้ออ . . . . . . . . .”
 
‘ซูเฮิน’ถอนหายใจก่อน แล้วเปลี่ยนท่าทางไปอย่างสิ้นเชิง เขาโกรธมาก ก่อนหน้านี้ ตอนนี้เมื่อเขาใจเย็น แล้วจึงกล่าว
 

 
” ลูกหลง ลูกโร่ว ลูกเหม่ย จริงๆข้าก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้ “
 
 
” ตะกูลซ่างกวนได้รับการอนุมัติจากคฤหาสน์องค์ชาย กิเลน และพวกเขายังมีอำนาจที่จะเข้ามายึดอำนาจปกครองเมืองวิหคเพลิงของเรา อีกอย่าง ซ่างกวน เยว่ ก็เข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้วิญญาณระดับ 6 เมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งมันเกินข้ารับมือได้ ในตอนนี้เขาจึงเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองวิหคเพลิง “
 
 
” หากพวกเขาต้องการชิงตำแหน่งการปกครองเมืองวิหคเพลิง ตำแหน่งเจ้าเมืองของข้าจะต้องเป็นของเขาทันที และแน่นอนว่าตำหนักของเจ้าเมืองจะต้องมอบให้กับเขา ซึ่งผลเสียของมันนับว่าใหญ่หลวงนัก “
 
 
” แต่ ซ่างกวน เยว่ บอกข้าว่าอีกไม่นานเขาก็กลายไปคนแก่ชรา เขาจึงไม่สนใจตำแหน่งเจ้าเมืองอีกต่อไป ตอนเขาต้องการเห็นเพียงลูกหลานของพวกเราได้เข้าวิวาร์กัน “
 
 
” ตราบใดที่ลูกเหม่ยแต่งงานกับซ่างกวนหย๋า ทุกอย่างที่ผ่านมาก็จะยุติ และตระกูลซ่างกวนก็จะเลิกแทรกแซงเรื่องต่างๆภายในเมือง “
 
 
” ท่านพ่อ ทำไมมืงถึงโง่ได้ขนาดนี้ ซ่างกวน เยว่ เป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ ท่านจะไปเชื่อคำพูดเน่าๆของเขางั้นหรอ “
 
‘ซูรู่’โมโหมาก
 

 
” ท่านพ่อ ให้ได้ชัดเจนว่าเขาต้องการคุกคามท่านโดยการให้ท่านยอมมอบลูกสาวให้กับหลานของเขา และเมื่อได้น้องเหม่ยไป นั้นก็เป็นการบอกได้แล้วว่าท่านเกรงกลัวเขา มีหรอที่เขาจะไม่ยึดอำนาจท่าน “
 
‘ซูหลง’ ลุกขึ้นพร้อมกับพูด
 

 
” แล้วเจ้าเข้าใจข้ามั้ย ตราบใดที่ลูกเหม่ยยอมแต่งงาน ตะกูลซ่างกวนจะไม่ทำให้เราต้องเจอกับสถานการณ์ลำบากต่อตระกูลซูของข้าในเวลานี้ ตราบใดที่ตระกูลซูของเข้ายังถืออำนาจเป็นที่ 1 จะไม่มีใครจะต่อต้าน อีกไม่นานข้าก็จะเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้วิญญาณระดับ 6  ในตอนนั้นข้าจะเอาทุกอย่างกลับมา “
 
‘ซูเฮิน’ทำหน้าจริงจัง
 

 
” พ่อ ท่านกำลังจะบอกว่าตระกูล ซู สำคัญมากกว่าความสุขของ น้องเหม่ยงั้นหรอ ? เพื่อที่จะปกป้องสถานะของตระกูล ท่านก็เต็มใจที่จะยกซูเหม่ยให้เป็นเครื่องต่อรอง สินะ ? ถึงแม้จะขุดหลุมฝังความสุขลูกสาวตัวเอง !!! “
 
แม้แต่ดวงตา’ซูรู่’ก็เริ่มชิ้น
 

 
” ถูกต้อง ตระกูลซูสำคัญที่สุด!!! “
 
‘ซูเฮิน’ ตอบแบบ เหี้ยๆ
 

 
” หากเป็นเช่นนั้น เราก็ไม่ต้องพูดกันอีกต่อไป วันนี้ข้าจะพาน้องเหม่ยออกไป “
 
‘ซูรู่’คว้า’ซูเหม่ย’กระโดดออกไป ขณะที่ใช้พลังแก่นแท้วิญญาณพานางหลบหนี ไปอย่างรวดเร็ว
 

 
”  ท่านพ่อ เพื่อความสุขของน้องเหม่ย ข้าจำเป็นต้องขัดขวางท่าน !!! “
 
ในเวลาเดียวกัน ‘ซูหลง’ก็ปลดปล่อยพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งพร้อมกับใช้ทักษะเข้าโจมตี ‘ซูเฮิน’ เพื่อถ่วงเวลาให้ ‘ซูรู่’ พา ‘ซูเหม่ย’ หนีไปจากพ่อเลวๆเช่นนี้ . . . . . .
 
 
 
พี่เฟิง . . . . พี่เฟิง. . . . . พี่เฟิง. . . . . . . . พี่เฟิง . . . . . . . . . . พี่เฟิง ฆ่าแม่งให้หมด . . . . . . . .
 
เราลงมาถายกันว่าช่วงตอนถล่มงานแต่งงานจะใครตายบ้าง . . . . . . . .
 
ชายชุดเทามาช้าจริงๆ
 
ที่มา: