ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปGDK ตอนที่ 24 : ทองก้อนแรก
“บ้าเอ๊ย! ข้าจะฆ่าเจ้า!”
แดเนียลระเบิดเสียงคำราม เขาคลั่งอย่างสมบูรณ์แบบและเริ่มโจมตีใส่หานซั่วอย่างโหดเหี้ยม ราวกับพร้อมจะลากหานซั่วลงนรกไปพร้อมกัน
หานซั่วในตอนนี้ เป็นเหมือนเรือเล็กที่มั่นคงท่ามกลางมหาสมุทรที่กำลังบ้าคลั่ง แม้ดูเหมือนจะพลิกคว่ำได้ทุกเมื่อ แต่กลับลอยลำต่อไปได้อย่างเด็ดเดี่ยวและปลอดภัย
เมื่อความว่องไวของหานซั่วเป็นที่ประจักษ์ในสายตาของทุกคน ไม่มีใครคิดว่าหานซั่วหลบได้เพราะโชคช่วยอีกแล้ว ผู้ที่เคยเป็นห่วงก็ยิ้มได้อย่างไร้กังวล แม้แต่เจฟฟ์เองก็กอดอกเฝ้ามองเขา พร้อมกับหัวเราะอย่างเบิกบานใจ
ในที่สุด แดเนียลก็หมดแรง และหยุดกะทันหันพร้อมหอบหายใจอย่างแรง เขาจ้องหานซั่วอย่างโกรธแค้น เหงื่อไหลหยดเป็นสายราวกับฝนตก เขาคำรามว่า
“เจ้าหนู แน่จริงก็ลองรับหมัดของข้าดูสักครั้งนึงสิ เอาแต่หนีอย่างเดียวมันจะไปมีประโยชน์อะไร?”
แดเนียลตั้งใจเพียงบ่นเพื่อระบายความโกรธ เพราะไม่คิดว่าหานซั่วจะยอมอยู่แล้ว แต่น่าประหลาด หานซั่วหยุดโพสท่านักเพาะกาย พยักหน้าให้แดเนียล พร้อมกับยิ้มและพูดว่า
“ไม่มีปัญหา”
ทุกคนต่างทบทวนความคิดที่มีต่อหานซั่วใหม่อีกครั้งทันที เมื่อได้ยินหานซั่วตอบไปแบบนั้น หลายคนมีท่าทีตกตะลึงด้วยความสงสัย เพราะร่างกายของหานซั่วทั้งเล็กและบอบบาง แม้เข้าใจว่าเขาทั้งคล่องแคล่วและว่องไว แต่ไม่มีสักคนที่เชื่อว่าหานซั่วผู้บอบบาง และไร้ซึ่งออร่าต่อสู้ จะมีพละกำลังเพียงพอต่อกรกับชายกล้ามโตอย่างแดเนียลได้
แม้แต่แดเนียลเองก็ประหลาดใจกับคำตอบของหานซั่ว เขาฟื้นตัวอย่างเร็วและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ดี! ดีมาก! เจ้าหาเรื่องตายเองนะ อย่ามาโทษข้าก็แล้วกัน!”
แดเนียลภาคภูมิใจกับร่างกายอันกำยำและความแข็งแกร่งดุดันของตนเองอยู่เสมอ และจุดนี้เองที่เป็นแหล่งที่มาของพลังของเขา และแม้จะคับแค้นใจ แต่แดเนียลยังยอมรับแม้จะไม่เต็มใจนัก ว่าความเร็วและความว่องไวที่เขามีเทียบกับหานซั่วไม่ได้ จึงขึ้นอยู่กับเขาแล้ว ว่าจะสามารถลบล้างการสบประมาทก่อนหน้านี้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวได้หรือไม่ แดเนียลจึงตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ทุ่มอย่างสุดตัว
แดเนียลรวบรวมพละกำลังทั้งหมดที่มี ปล่อยหมัดพุ่งตรงไปข้างหน้า เส้นเลือดบนแขนปูดโปนเมื่อเขาเพิ่มความเร็วและพละกำลังเต็มพิกัด ส่งให้หมัดพุ่งเข้าต่อยหานซั่ว
หานซั่วหรี่ตาลงเล็กน้อย ความชั่วร้ายอันเยือกเย็นเป็นประกายลึกลงไปในดวงตา ให้ความรู้สึกโหดเหี้ยมราวกับอสรพิษที่กำลังรอคอยเหยื่อของมัน
เมื่อหมัดของแดเนียลกำลังพุ่งเข้าใส่หน้า หานซั่วตั้งสมาธิรวบรวมแก่นมนตราไปที่หมัดขวาที่กำไว้แน่น และปล่อยหมัดพุ่งเข้าประสานงากับหมัดเหล็กของแดเนียลทันที
เปรี้ยง!
แดเนียลส่งเสียงร้องลั่นราวกับหมูถูกเชือด พร้อมกับเสียง กร๊อบ! แขนขวาทั้งแขนของเขาทิ้งห้อยลงไปทันที หมัดขวาที่เคยกำแน่นก่อนหน้านี้ กลับหงิกงอเหมือนตีนไก่ และสั่นอย่างบ้าคลั่งไปทั่วทั้งแขน
ความเอาจริงเอาจังในสายตาของหานซั่วหายไปแล้ว ในขณะที่รอยยิ้มใสซื่อไม่มีพิษมีภัยปรากฏขึ้นแทนบนใบหน้า เขาดึงหมัดขวาหดกลับเข้ามาและสะบัดแขนขวาเบา ๆ พลางมองหมัดของตัวเองอย่างประหลาดใจ และพึมพำกับตัวเองว่า
“เอ๋? ข้ารับหมัดนั่นได้ด้วยแฮะ?”
แดเนียลซึ่งทุ่มพลังอย่างสุดตัว ทั้ง ๆ ที่เห็นว่าร่างกายของหานซั่วดูอ่อนแอและบอบบางแค่ไหน ไม่ใช่เพียงตั้งใจแค่จะสั่งสอน แต่กะเอาให้ถึงตาย และเป็นเพราะหานซั่วในตอนนี้ ไม่ใช่คนขลาดอายที่ได้แต่ยืนโง่ ๆ ยอมรับทุกอย่างที่พุ่งเข้าใส่อีกต่อไปแล้ว แม้บางครั้งจะแกล้งโง่บ้าง แต่เขาไม่ใจดีกับคนที่ตั้งใจจะฆ่าเขาจริง ๆ แน่
ผลลัพธ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นเมื่อสองหมัดปะทะกัน ทำให้ห้องรับรองทั้งห้องที่เต็มไปด้วยนักเรียนอัศวินและเป้ามนุษย์มากมายต่างตกตะลึง เป้ามนุษย์จำนวนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้เคียงต่างมองหานซั่วด้วยความหวาดกลัว และถอยห่างออกมาโดยอัตโนมัติ เกิดเป็นพื้นที่ว่างซึ่งมีหานซั่วยืนอยู่ตรงกลาง
นักเรียนอัศวินทั้งหมดต่างตื่นเต้นตกใจและถกเถียงกันไปมา บ้างก็สงสัยว่าหานซั่วคือหนึ่งในคนเถื่อนหายากที่อาศัยอยู่ในอาณาจักร หรือแม้แต่ออร์คในร่างมนุษย์
แดเนียลกำลังร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดขณะที่แขนขวายังสั่นไม่หยุด ทุกคนรู้ดีว่าเสียงดังกร๊อบเมื่อครู่ แปลว่าแขนขวาของแดเนียลน่าจะหักและใช้การไม่ได้แล้ว
เจฟฟ์ คนรับใช้แก่ ๆ มองแดเนียลอย่างผิดหวัง และพูดปลอบอย่างอ่อนโยนว่า
“แดเนียล ข้าเสียใจนะที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ข้าเกรงว่าสภาพร่างกายของเจ้าตอนนี้น่าจะหมดสิทธิ์อยู่ที่นี่ต่อแล้วล่ะ”
แดเนียลหันขวับไปมองหานซั่วอย่างไม่พอใจเมื่อได้ยินเจฟฟ์พูด และผลักหานซั่วให้พ้นทางก่อนจะเดินออกจากห้องรับรอง เพราะการต่อสู้เมื่อครู่ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บมากเกินไป และมีกฎบางข้อกำหนดไว้ แดเนียลจึงเข้าใจสถานภาพของตัวเองดี และเมื่อรู้ว่าสู้หานซั่วไม่ได้ ทางเลือกเดียวที่มีคือออกไปจากที่นั่นให้เร็วที่สุด
เมื่อแดเนียลออกไปแล้ว เจฟฟ์ก็ตะโกนด้วยเสียงอันดังว่า
“เอาล่ะ เอาล่ะ! ทุกคนเจรจาต่อรองกันต่อได้!”
นักเรียนอัศวินหลายคนกรูกันเข้ามาหาหานซั่วทันทีที่เจฟฟ์ประกาศ สายตาของพวกเขาจับจ้องมาที่เขาพลางร้องตะโกน
“1 เหรียญทอง!”
“2 เหรียญทอง!”
“3 เหรียญทอง!”
ตามปกติแล้ว ตามระดับความแข็งแกร่งของเป้ามนุษย์ซึ่งเป็นคนธรรมดาจะถูกพวกนักเรียนจ้างด้วยราคาเพียง 10 ถึง 15 เหรียญเงินเท่านั้น ส่วนทหารเก่ง ๆ อาจจะได้รับตั้งแต่ 1 ถึง 5 เหรียญทอง ขึ้นอยู่กับระดับ
ดังนั้น เงิน 2 หรือ 3 เหรียญทองที่คนเหล่านี้กำลังเสนอให้จึงนับได้ว่ามากอย่างน่ามหัศจรรย์ แม้ว่าหานซั่วได้แสดงพลังให้เห็นไปแล้วเมื่อครู่ แต่เขาก็ไม่ใช่ทหารอยู่ดี เพราะทหารที่แข็งแกร่งกว่าสามารถใช้ออร่าต่อสู้ในการโจมตีอย่างรุนแรงถึงตายกับแดเนียลในการต่อสู้เมื่อครู่ได้เลยทีเดียว — เงิน 2 หรือ 3 เหรียญทองนี้จึงเป็นราคาที่สูงอย่างน่าเหลือเชื่อสำหรับเป้ามนุษย์ที่เป็นเพียงคนธรรมดา
หานซั่วพร้อมที่จะยอมรับ 1 เหรียญทองที่นักเรียนคนแรกเสนอมาอยู่แล้ว แต่เมื่อมีข้อเสนอ 2 เหรียญทองเพิ่มเข้ามาอีก หานซั่วจึงหุบปากเงียบ และเฝ้ารอให้การเสนอราคาที่สูงกว่า
แม้เขาจะไม่ได้มาที่นี่เพื่อเงิน แต่หานซั่วก็เข้าใจว่าเงินเป็นสิ่งสำคัญในโลกนี้ไม่ต่างจากในโลกเดิม เขาจึงคงยอมรับเพียง 1 เหรียญทองไม่ได้ในเมื่อมีโอกาสรับได้ถึง 2 เหรียญทอง
นักเรียนอัศวินทุกคนกรูเข้ามาและเสนอราคาที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม หานซั่วเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่ใช่ทหารที่มีความแข็งแกร่งโดดเด่นอะไร คนเหล่านี้จึงเริ่มหยุดเมื่อมีการเสนอราคาถึง 3 เหรียญทอง
“5 เหรียญทอง!”
แล้วความอดทนรอคอยของหานซั่วก็มอบโชคก้อนโต เมื่ออัศวินระดับกลางหน้าตาหล่อเหลาผู้มีผมสีทองเป็นลอน ดูมีเมตตาและอ่อนน้อมถ่อมตน เสนอราคาสูงกว่าคนอื่น
คนส่วนใหญ่หยุดทันทีที่เขาเสนอราคาถึง 5 เหรียญทอง ทุกคนเหลือบมองเขาด้วยสายตาไม่เห็นด้วย หนึ่งในคนกลุ่มนั้นพูดขึ้นว่า
“ลอว์เรนซ์ นักรบระดับกลางเท่านั้นแหละถึงจะควรค่ากับเงิน 5 เหรียญทอง เจ้าเด็กนี่แข็งแกร่งอยู่ก็จริง แต่ไม่คุ้มค่ากับเงิน 5 เหรียญทองแน่ เจ้าไม่เสนอราคาสูงไปหน่อยรึ?”
ลอว์เรนซ์ยิ้มและพูดด้วยอาการสงบ
“สูงไปหน่อยก็จริง แต่เรามาสายเอง และพวกทหารเก่ง ๆ ก็ถูกจ้างไปหมดจนเหลืออยู่แค่ไม่กี่คน เราต้องเลือกเขาเท่านั้นแหละ”
คนอื่น ๆ ต่างเห็นด้วยเมื่อคิดตามสิ่งที่เขาพูด บรรดาเป้ามนุษย์ที่หลงเหลืออยู่ในห้องรับรอง หานซั่วน่าจะแข็งแกร่งมากที่สุด แต่ถ้ายังมีพวกทหารที่เคยอยู่ก่อนหน้านี้ หานซั่วอาจจะไม่ได้เงินตอบแทนสูงขนาดนี้ก็ได้ แต่สำหรับตอนนี้ เมื่อเขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด และนักเรียนอัศวินก็ไม่ได้เหลือตัวเลือกอื่นมากนัก และต่างก็ไม่ยอมรอจนเหลือแต่ตัวสำรอง จึงเป็นผลให้ค่าตัวของหานซั่วสูงขึ้นเรื่อย ๆ
“เงิน 5 เหรียญทองฟังดูเป็นยังไงบ้างสำหรับสหายที่น่าทึ่งคนนี้?”
ลอว์เรนซ์ยิ้มให้หานซั่วพร้อมกับพูดอย่างเป็นมิตร
เมื่อหานซั่วมองไปรอบ ๆ และเห็นว่าไม่มีใครเสนอราคาสูงกว่านี้แล้ว จึงเดินเข้าไปหาลอว์เรนซ์ผู้ที่น่าจะแข็งแกร่งที่สุดในหมู่คนที่ยืนอยู่ เขาพยักหน้ารับ
“ข้าตกลง”
“ข้าชื่อลอว์เรนซ์ และนี่ เงิน 5 เหรียญทอง หวังว่าเจ้าจะช่วยข้าในการฝึกซ้อมของเราได้นะ”
ลอว์เรนซ์เดินเข้าไปหาหานซั่วและยื่นหยิบเงิน 5 เหรียญทองออกมาจากถุงเงินสีสันสวยงาม
หานซั่วปลาบปลื้มเล็กน้อยเมื่อรับเงิน 5 เหรียญทองมา ไบรอันถูกขายให้วิทยาลัยเวทมนตร์และศาสตร์แห่งพลังบาบิโลนด้วยเงินจำนวนนี้เองเมื่อในอดีต เงิน 5 เหรียญทองที่เขาได้รับจากนักเรียนอัศวินนี่สามารถซื้อชีวิตของไบรอันคืนมาได้เลย ถือว่าเป็นจำนวนที่มหาศาลเกินเอื้อมสำหรับฐานะของหานซั่วตอนนี้ และมันมากพอที่จะซื้ออิสรภาพของเขาได้เลยทีเดียว
“ข้าชื่อไบรอัน ยินดีที่ได้รู้จัก”
หานซั่วยิ้มอย่างสุภาพให้ลอว์เรนซ์ เทพบุตรแห่งความโชคดี และเก็บเหรียญทองใส่ในกระเป๋าเงินเก่า ๆ ของตัวเอง
“มากับข้าสิ แสดงให้ข้าเห็นด้วยล่ะว่าเจ้าคู่ควรกับเงิน 5 เหรียญทองนั่นจริง”
ลอว์เรนซ์เดินออกไปอย่างเด็ดเดี่ยว โดยมีหานซั่วเดินตามอยู่ข้างหลัง
สนามฝึกซ้อมของสาขาศาสตร์การต่อสู้ค่อนข้างคล้ายคลึงกันกับสนามของสาขาเวทมนตร์ แต่มุมสนามเต็มไปด้วยเครื่องกีดขวางมากมายแทนที่จะเป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ มีเพียงหานซั่วกับลอว์เรนซ์เท่านั้นในสนามฝึกซ้อมกว้างขวางแห่งนี้ พื้นผิวสนามปูด้วยก้อนหินที่ทั้งแข็งและขรุขระ
เมื่อเข้ามาแล้ว ลอว์เรนซ์ก็เปลี่ยนเป็นชุดยูนิฟอร์มสีขาวสำหรับฝึกซ้อม เขาถอดดาบวางไว้ข้าง ๆ ก่อนจะหันมาหาหานซั่วด้วยท่าทีสนใจ พร้อมกับยิ้ม
“เงิน 5 เหรียญทองนั่นไม่ได้หามาได้ง่าย ๆ นะ เจ้าพร้อมรึยัง?”
หานซั่วคิดว่า ความทรหดและความแข็งแกร่งของร่างกายของเขาในตอนนี้ เมื่อเทียบกับร่างกายเดิมของไบรอันแล้วต่างกันคนละโลก เพราะการบ่มเพาะแก่นมนตรา รวมทั้งปฏิกิริยาของแก่นมนตราที่สามารถลบล้างออร่าต่อสู้ได้ เขาจึงไม่ได้หวาดกลัวว่าออร่าต่อสู้ของลอว์เรนซ์ว่าจะสร้างความเสียหายทางร่างกายแก่เขาสักเท่าไหร่ เมื่อไม่มีอะไรให้ต้องเตรียมพร้อมมากนัก เขาจึงพยักหน้าให้ลอว์เรนซ์
“จำไว้นะ เจ้าคือคู่ฝึกซ้อม และทำได้แค่หลบหรือป้องกันเท่านั้น แต่โจมตีกลับไม่ได้”
ดูเหมือนลอว์เรนซ์จะมองออกว่าหานซั่วยังใหม่กับเรื่องนี้ จึงย้ำเตือนเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่ม เขาค่อย ๆ เดินเข้าไปหาหานซั่วช้า ๆ เมื่อพอใจที่หานซั่วเข้าใจแล้ว
เมื่อใกล้ถึงตัวหานซั่ว อยู่ดี ๆ ความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นราวสายฟ้า มือซ้ายเปล่า ๆ ของเขาคมกริบราวกับดาบที่ถูกชักออกจากฝัก นิ้วทั้งหมดเรียงชิดติดกัน และพุ่งเข้าใส่อกของหานซั่วอย่างรวดเร็ว
ในการฝึกฝนออร่าต่อสู้นั้น ความแข็งแกร่งและความเร็วของอัศวินจะเหนือกว่าคนธรรมดาที่ร่างกายกำยำอย่างสิ้นเชิง และความเร็วที่มือของลอว์เรนซ์พุ่งเข้ามาก็ทั้งเร็วและทรงพลังกว่าคล็อดนับสิบเท่า
สายตาของหานซั่วเสียสมาธิเมื่อเห็นว่ามือของลอว์เรนซ์ใกล้ถึงอกของเขาเต็มที หัวใจของเขาบีบเกร็งด้วยความกลัวขณะที่แก่นมนตราเริ่มหมุนวนอย่างรวดเร็ว หานซั่วรีบพลิกตัวและหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว
แคว่ก
ลอว์เรนซ์เฉือนเสื้อด้านหน้าของหานซั่วจนเกิดเสียงฉีกขาดที่ได้ยินชัดเจน หานซั่วรู้สึกถึงลมเย็นบริเวณอก และมองเห็นเศษเสื้อลอยปลิวอยู่ในอากาศ เขาโล่งใจที่สามารถหลบได้ทันเวลา
ทันใดนั้นเอง ขณะที่หานซั่วกำลังหลงดีใจ พลังมหาศาลก็พุ่งเข้าใส่บริเวณท้องน้อยของเขาทันที ร่างของเขาเซถอยหลังไปโดยไม่ทันตั้งตัวและทรุดลงนั่งกับพื้นหินแข็ง รู้สึกราวกับว่าเครื่องในภายในท้องถูกบดขยี้รวมกันและเจ็บอยู่ไม่น้อย
เขาเงยหน้าขึ้น และเห็นว่าเท้าของลอว์เรนซ์ยกสูงขึ้นในอากาศ พร้อมกับจ้องมองหานซั่วด้วยสายตาหยอกล้ออย่างเป็นมิตร
“ไบรอัน เมื่อกี้ข้ายั้งแรงไว้และยังไม่ได้โจมตีแบบต่อเนื่อง ต่อไปข้าเอาจริงล่ะนะ!”
ลูกเตะของลอว์เรนซ์เมื่อครู่ยังไม่มีผลของออร่าต่อสู้ อย่างไรก็ตาม ลอว์เรนซ์เพียงใช้ออร่าต่อสู้เพื่อเพิ่มความเร็วของร่างกายและความเร็วในการโจมตี และเก็บไว้ภายในร่างกายตนเองเท่านั้น ยังไม่ได้ตั้งใจใช้ออร่าต่อสู้กับร่างกายของหานซั่วเพื่อสร้างความเสียหาย
และอาจเป็นเพราะว่าแก่นมนตราในร่างกายของหานซั่วยังไม่เกิดปฏิกิริยาใด ๆ แม้ร่างกายที่ได้รับการปะทะเมื่อครู่จะมีความแข็งแกร่งอยู่ภายในแล้วก็ตาม แต่ร่างกายที่พัฒนาขึ้นแล้วนี้ก็ยังสามารถได้รับความเสียหายได้
หานซั่วพยักหน้ารับพร้อมกับคิ้วขมวดแน่น กัดฟันทนกับความเจ็บปวดที่ท้องและยันตัวเองให้ลุกขึ้นจากพื้น เขามองลอว์เรนซ์ด้วยสายตาเย็นชา
“ต่อไปข้าจะระวังให้มากขึ้น ขออีกที!”
อ่านตอนต่อไปทันที ที่นี่ >>>
(0 votes) 0/10