ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปGDK ตอนที่ 31 เจ้าเป็นอัจฉริยะด้านเวทมนตร์จริง ๆ!
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
หานซั่วยืนอยู่หน้าห้องของแฟนนี่ เขายื่นมือออกไปเคาะประตู
“ไบรอัน นั่นเจ้าใช่มั้ย? เข้ามาสิ”
เสียงอ่อนเพลียของแฟนนี่ดังมาจากในห้อง
เมื่อหานซั่วผลักประตูเปิดออก ภาพที่ปรากฏขึ้นมาทักทายก็คือ แฟนนี่กับผมสีม่วงอ่อนเปียกหมาดที่แนบติดอยู่รอบต้นคอ หยดน้ำใสยังคงไหลไปตามใบหน้างดงามของเธอเป็นทาง แฟนนี่คงจะเพิ่งเสร็จจากการอาบน้ำ เพราะเธออยู่ในชุดคลุมสีขาวอ่อนนุ่ม เผยให้เห็นผิวเนียนละเอียดสีขาวราวน้ำนมบริเวณเนินอก ขณะกำลังใช้มือเช็ดผมให้แห้ง
ห้องพักธรรมดานั้นมีละอองไอน้ำลอยออกมาจากประตูห้องน้ำด้านหลังที่เปิดอยู่ แฟนนี่นั่งอยู่ข้าง ๆ โต๊ะกลม ส่งสายตาขุ่นเคืองทั่วมาที่หานซั่วตั้งแต่หัวจรดเท้า
“อาจารย์แฟนนี่ ต้องการให้ข้าทำอะไรเหรอครับ?”
หานซั่วมองไปทั่วห้องพร้อมกับหัวใจพองโตที่ได้เห็นว่าแฟนนี่มีสเน่ห์เย้ายวนใจแค่ไหน แต่ยังคงทำทีเป็นซื่อบริสุทธิ์ จริงใจ และหวั่นกลัวออกมาทางสีหน้า
“อะไรดีล่ะ หืม? บนหลังม้าวันนี้น่ะ ข้าไม่เคยคิดฝันว่าเจ้าจะกล้าทำได้ถึงขนาดนั้น หลงคิดมาตลอดว่าเจ้าทั้งขี้ขลาดแล้วก็ขี้อาย แต่เจ้ากลับใช้เจ้านั่นของเจ้าทำเรื่องหื่นกามที่สุดกับข้า!”
แฟนนี่เลิกพิจารณาหานซั่ว เธอขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงดูถูก
เอาแล้วไง… หานซั่วคิดขณะพยายามแสดงท่าทีซื่อบริสุทธิ์ให้มากยิ่งขึ้น เขาเกาหัว และกลั้นหายใจเอาไว้จนหน้าแดง ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ และทำคอตก
“ข้าขอโทษครับ อาจารย์แฟนนี่ แต่เพราะท่านเป็นผู้หญิงที่สวยมากเหลือเกิน และอยู่ ๆ ท่านก็มาอยู่ใกล้ชิดกับข้าแบบไม่ทันตั้งตัว ข้าไม่รู้ว่าอะไรมันครอบงำจนข้าควบคุมตัวเองไม่ได้เลย ข้าผิดเอง อาจารย์แฟนนี่ โปรดลงโทษข้าด้วยเถอะ”
ปัง!
อยู่ดี ๆ แฟนนี่ก็ตบโต๊ะด้วยความโกรธ จนหานซั่วตกใจจนกระโดดถอยหลัง พร้อมกับมองแฟนนี่ด้วยความหวาดกลัว
“เจ้ากระทำชำเราข้า! รู้บ้างรึเปล่า?”
แฟนนี่จ้องมองหานซั่วอย่างดุร้าย พร้อมตะโกนจนเสียงแหบ
หานซั่วพยักหน้ารับรัว ๆ จากใจจริง ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
“ข้าผิดไปแล้วครับ อาจารย์แฟนนี่ ข้าจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง!”
“ฮ่า! เจ้าน่ะรึ รับผิดชอบ? อย่างเจ้าจะทำอะไรได้?”
เมื่อได้ยินหานซั่วพูด แฟนนี่หัวเราะทั้ง ๆ ที่กำลังรู้สึกโกรธ แต่ทว่าไร้รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเธอแม้แต่น้อย
“เอ๋… งั้นข้าจะทำทุกอย่างที่ท่านสั่ง แล้วแต่ท่านเลย!”
หานซั่วมั่นใจว่าแฟนนี่จะไม่ทำอะไรรุนแรงกับเขา เขาจึงถอนหายใจพร้อมกับสีหน้ายอมจำนน และตอบเธอไปด้วยใจจริง
แม้หานซั่วจะพูดแบบนั้น แฟนนี่ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับเขาอยู่ดี เพราะจริง ๆ แล้วเธอเข้าใจ ว่าหานซั่วไม่ได้ทำเพราะความตั้งใจจริง ๆ อีกอย่าง เธอเป็นคนเลือกจะไปกับเขาเอง ไม่ว่าจะยังไง ก็ไม่ได้ถือว่าหานซั่วก่ออาชญากรรมร้ายแรงอะไรถึงขั้นนั้น และเขาเองก็เป็นเพียงทาสรับใช้ที่น่าสงสาร คงเกินไปอยู่สักหน่อยหากจะมาพยายามคิดว่าควรลงโทษเขาอย่างไรดี
เมื่อเห็นแฟนนี่ขมวดคิ้วน้อย ๆ และดูมีทีท่าลำบากใจว่าจะทำอย่างไรกับเขาต่อ ความคิดหนึ่งก็แว่บเข้ามา
“อาจารย์แฟนนี่ อาจารย์บอกว่าข้าเป็นหัวข้อค้นคว้าของท่านใช่มั้ยครับ? คือ ข้ารู้สึกว่าพักหลังนี้มีอะไรบางอย่างแปลก ๆ เกิดขึ้นกับร่างกาย และในหัวของข้าก็ด้วย ไม่กี่วันก่อนที่ข้าได้ยินลิซ่าร่ายคาถาเวทย์ศรกระดูก ข้าเลยลองดูบ้าง แล้วข้าก็เสกมันสำเร็จครับ”
แฟนนี่กำลังจมอยู่ในห้วงความคิด แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่หานซั่วพูด เธอก็เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความประหลาดใจ และพูดอย่างตื่นเต้น
“จริงเหรอ? เจ้าพูดจริง ๆ นะ? งั้นลองเสกเวทย์ศรกระดูกให้ข้าดูหน่อยได้มั้ย?”
หานซั่วรู้ดีว่าแฟนนี่หลงใหลในเวทมนตร์ศาสตร์แห่งความตาย และกระหายใคร่รู้เกี่ยวกับสภาพร่างกายของเขาเอามาก ๆ และเขาก็รู้ดีว่าตัวเขาเองไม่ต้องการเป็นเพียงแค่ทาสรับใช้ของวิทยาลัยเวทมนตร์ตลอดไป นี่จึงเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุด ที่จะค่อย ๆ เปลี่ยนภาพลักษณ์ของตัวเขาในสายตาของแฟนนี่
และก็เป็นจริงตามนั้น ทันทีที่แฟนนี่ได้ยินเกี่ยวอาการประหลาดของร่างกายของหานซั่ว เธอก็ลืมความคิดที่จะลงโทษเขาไปจนหมด และพุ่งความสนใจมายังเรื่องนี้อย่างทันทีทันใด
“ได้แน่นอนครับ!”
หานซั่วยิ้มเจื่อน ๆ และยกมือทั้งสองข้างขึ้น และร่ายคาถาด้วยเสียงแผ่วเบา
“โอ ความมืดมิดอันเป็นนิรันดร์เอ๋ย จงแปรเปลี่ยนเป็นศรกระดูก และทำลายล้างตามประสงค์แห่งข้า… เวทย์ศรกระดูก!”
ศรกระดูกคมกริบก่อร่างขึ้นกลางอากาศตรงหน้าหานซั่วทันทีที่เขาร่ายเวทย์จบ ศรกระดูกพุ่งไปยังผนังไม้เบื้องหน้าตามท่าทางการสั่งของเขา แต่แล้วมันก็เริ่มกระตุกสั่นเมื่อไปได้เพียงครึ่งทาง และระเบิดแตกออกทันที
“ไม่ ๆ คาถาน่ะถูกแล้ว แต่หัตถ์มนตราที่เจ้าทำระหว่างร่ายยังไม่ถูก มือขวาจะต้องค่อย ๆ ยกขึ้น และมือซ้ายต้องไม่อยู่ในระดับเดียวกันกับมือขวา…”
แฟนนี่สอนเขาด้วยท่าทีปกติ แต่อยู่ดี ๆ ก็สะดุ้งเฮือกราวกับเพิ่งคิดได้ เธอมองหานซั่วด้วยสีหน้าตกตะลึงสุดขีด ร่างกายอ่อนช้อยของเธอเริ่มสั่นเทิ้มด้วยความตื่นเต้น เธอร้องออกมารัวเร็วจนไม่เว้นช่วงหายใจ
“โอ ตายแล้ว เจ้าทำได้ เจ้าเสกเวทมนตร์ศาสตร์แห่งความตายได้จริง ๆ ด้วย!”
“ช…ใช่ครับ ข้าทำได้ แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้ยังไงเหมือนกัน โอ้ จริงสิครับ อาจารย์แฟนนี่ ช่วยอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้หัตถ์มนตราระหว่างร่ายเวทย์ให้หน่อยได้มั้ยครับ?”
หานซั่วแอบหัวเราะในใจ และพูดกับแฟนนี่ด้วยสีหน้าสับสน
“ได้สิ ได้แน่นอน!”
แฟนนี่ตื่นเต้นจริง ๆ เธอโยนผ้าขนหนูในมือทิ้งไปด้านข้าง ขาเรียวยาวเดินตรงเข้ามาหาหานซั่วอย่างรวดเร็ว เธอมาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ เขาและเริ่มอธิบาย
“แบบนี้ แบบนี้ แล้วก็แบบนี้เหรอครับ”
“ยกแขนให้สูงขึ้นอีกจ้ะ แล้วก็รวบรวมสมาธิ ห้ามวอกแวกแม้แต่นิดเดียวนะ อย่างนั้นแหละ เจ้าทำหัตถ์มนตราถูกต้องแล้ว อืมม เคลื่อนไหวมือซ้ายให้ช้าลงหน่อย ลองเสกให้ข้าดูอีกครั้งซิ”
“โอ ความมืดมิดอันเป็นนิรันดร์เอ๋ย จงแปรเปลี่ยนเป็นศรกระดูก และทำลายล้างตามประสงค์แห่งข้า… เวทย์ศรกระดูก!”
เมื่อศรกระดูกปรากฏขึ้น มันพุ่งตรงไปยังทิศทางที่ถูกต้อง แต่ก็ระเบิดแตกออกอีกครั้งก่อนถึงผนังไม้อีกเพียงนิดเดียว
“ไบรอัน พลังจิตจ้ะ ควบคุมพลังจิตให้มั่น ห้ามคลายแม้เพียงวินาทีเดียว เจ้าจะคลายได้ก็ต่อเมื่อศรกระดูกโจมตีเป้าหมายสำเร็จแล้วเท่านั้น ไม่อย่างนั้นศรกระดูกจะระเบิดกลางทางอีก ลองอีกครั้งจ้ะ”
“โอ ความมืดมิดอันเป็นนิรันดร์เอ๋ย จงแปรเปลี่ยนเป็นศรกระดูก และทำลายล้างตามประสงค์แห่งข้า… เวทย์ศรกระดูก!”
เมื่อร่ายเวทย์เสร็จสิ้น ศรกระดูกพุ่งตัวไปข้างหน้าราวสายฟ้าโดยไม่เปลี่ยนทิศทางแต่อย่างใด จนกระทั่งเสียบทะลุผนังไม้และอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“โอ ตายแล้ว ไบรอัน เจ้าช่างอัจฉริยะ อัจฉริยะด้านเวทมนตร์ตัวจริงเสียงจริงเลยล่ะ ข้าให้คำแนะนำเจ้าแค่สองครั้ง แล้วเจ้าก็ร่ายเวทย์ศรกระดูกได้อย่างสมบูรณ์ ปกติแล้ว นักเรียนทั่วไปต้องใช้เวลาตั้งแต่หนึ่งถึงสามเดือนกว่าจะฝึกเวทย์นี้สำเร็จ เจ้านี่ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ”
แฟนนี่ตื่นเต้นและตกตะลึงกับหานซั่วจนกระโดดโลดเต้นไปรอบห้อง
“ให้ตายสิ ใครร่ายเวทย์สุ่มสี่สุ่มห้าจนเกือบมาโดนข้าแล้วเนี่ย เอ๋ ไบรอันกับอาจารย์แฟนนี่นี่นา? ไบรอัน เจ้าเข้ามาทำอะไรในห้องของอาจารย์แฟนนี่น่ะ?”
เสียงร้องอย่างตกใจของลิซ่าดังขึ้นจากห้องข้าง ๆ และตาข้างนึงของเธอก็มองลอดเข้ามาผ่านรูโหว่บนผนัง
“ไม่มีอะไรจ้า ข้าแค่ใช้ไบรอันมาทดลองเวทย์ศรกระดูกนิดหน่อย ลิซ่ารีบไปนอนเถอะ เราไม่รบกวนเจ้าแล้วล่ะ”
แฟนนี่รีบเดินไปที่รูบนกำแพงและตอบอย่างมีสเน่ห์ เธอหยิบผ้าขนหนูที่ทิ้งไปก่อนหน้านี้ขึ้นมาและอุดรูโหว่นั้นไว้ก่อนที่ลิซ่าจะทันตอบอะไร
และเธอก็หันมามองค้อนใส่หานซั่ว และเดินตรงรี่เข้าไปหาเขา
“ยืนนิ่ง ๆ นะ อย่าขยับ ให้ข้าดูหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเจ้าบ้าง”
“ดะ…ได้ครับ”
หานซั่วยิ้มตอบเจื่อน ๆ
รวม ๆ แล้วข้าใช้เวลาฝึกเวทย์ศรกระดูกแค่สิบวันเอง ถ้าเป็นอย่างที่อาจารย์แฟนนี่พูด แสดงว่าข้าอาจจะมีคุณสมบัติในการใช้เวทมนตร์จริง ๆ ก็ได้
“หืม? กลิ่นแปลก ๆ นี่อะไรน่ะ?”
แฟนนี่เดินเข้ามาใกล้ และกำลังจะเอื้อมมือเข้ามาตรวจร่างกายของหานซั่วอยู่แล้ว ก่อนที่เธอจะทำจมูกย่น และถามออกมาด้วยความสงสัย
หานซั่วชะงักและเข้าใจในทันที เขาก้มหน้าลงอย่างเขินอายและตอบด้วยสีหน้าลำบากใจว่า
“ห้องของข้าไม่มีห้องน้ำ ข้าเลยยังไม่ได้อาบน้ำน่ะครับ ก็เลย… ยังมีกลิ่นติดอยู่”
ใบหน้าสวยงามของแฟนนี่แดงเรื่อขึ้นทันที เธอจ้องมองหานซั่วอย่างดุร้าย และสาปแช่งเสียงแผ่วเบา
“น่ารังเกียจที่สุด!”
เธอชี้ไปที่ห้องน้ำที่ประตูเปิดอ้าอยู่ ขมวดคิ้วพร้อมเร่งเร้าให้เขาเข้าไป
“น้ำยังอุ่นดีอยู่ รีบไปล้างคราบสกปรกนั่นออกซะ!”
โดนว่า “น่ารังเกียจ” ก็สมควรอยู่หรอก ขนาดหานซั่วเองยังรู้สึกได้ถึงคราบเหนียวเหนอะบริเวณช่วงล่างของเขา ซึ่งแฟนนี่ก็พูดถูก การมีอะไรเหนียว ๆ ติดหนึบอยู่แบบนี้ก็ไม่ได้สบายตัวเอาเสียเลย เขาจึงเดินตรงไปยังห้องอาบน้ำที่แฟนนี่เพิ่งใช้เสร็จด้วยความร่าเริง
ภายในมีอ่างอาบน้ำรูปทรงธรรมดาตั้งอยู่ น้ำในอ่างยังคงมีไอน้ำลอยขึ้นมาจาง ๆ ชุดชั้นในสุดเซ็กซี่ของแฟนนี่พาดแขวนอยู่บนราวใกล้ ๆ มองเพียงปราดเดียวก็เห็นชุดชั้นในผ้าไหมตัวจิ๋วที่ดูเปราะบางราวกับปีกของแมลง จนไฟตัณหาในร่างกายท่อนล่างของหานซั่วพุ่งพล่านขึ้นอีกครั้ง
ขณะที่หานซั่วกำลังน้ำลายไหลจากการเพ่งมองชุดชั้นในของแฟนนี่ เธอก็เพิ่งนึกขึ้นได้และรีบพุ่งตัวเข้ามาในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว และรีบหยิบทุกอย่างที่แขวนไว้ด้วยความเขินอายสุดขีด เมื่อเธอหันมาเห็นสายตาร้อนรุ่มดั่งไฟของหานซั่ว เธอก็อุทานออกมาโดยไม่ตั้งใจ
“น่าเกลียดจริง ๆ”
และย่ำเท้าออกไปด้วยความตกใจ หลังจากที่หยิกเนื้อที่หลังของหานซั่วอย่างแรง
หานซั่วถอดเสื้อผ้าออก และจุ่มร่างกายลงในอ่าง อ้าปากสูดกลิ่นหอมเย้ายวนใจที่แฟนนี่ทิ้งไว้ พร้อมกับความปลาบปลื้มกับน้ำในอ่างที่แฟนนี่เพิ่งลงอาบไปเมื่อครู่ หานซั่วรู้สึกตื้นตันกับช่วงเวลาที่แสนสมบูรณ์แบบนี้จนไม่อยากออกไปไหนอีกเลย
หานซั่วใช้เวลาอาบน้ำนานพอควร และซักกางเกงชั้นในของตัวเองอย่างจริงจังเผื่อว่าแฟนนี่จะต้องตรวจร่างกายของเขาอีก ในที่สุด เขาก็เดินออกจากห้องน้ำพลางบิดกางเกงชั้นในให้แห้ง
“ดึกมากแล้ว คืนนี้ข้ายังไม่ตรวจร่างกายเจ้าแล้วล่ะ รีบออกไปเถอะ”
แฟนนี่พูดเรียบ ๆ พร้อมท่าทีราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากหานซั่วเดินออกมา
หานซั่วพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มจริงใจและเดินออกไปจากห้องอย่างมีความสุข แต่แฟนนี่ก็เรียกเขาไว้
“ไบรอัน!”
เขาหันกลับมามองและเกาศีรษะด้วยความสงสัย
“มีอะไรเหรอครับ?”
“ไม่มีอะไร แค่รู้สึกว่า เจ้าไม่ได้ดูเหมือนเป็นคนเสียสติเลยนี่”
แฟนนี่พูดด้วยความแปลกใจ
“คือ ตอนที่ข้าปวดหัว ข้าไม่รู้ตัวจริง ๆ ครับว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าไม่มีอาการอะไรกำเริบขึ้นล่ะก็ ทุกอย่างก็ปกติดีครับ”
หานซั่วใจเต้นไม่เป็นจังหวะ และรีบวิ่งจากไปด้วยความรู้สึกผิด
…………………………………
ติดตามอัพเดทและอ่านตอนต่อไปทันที ที่นี่ >>>
(0 votes) 0/10