ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปหานซั่วรู้ดีว่าเงิน 3,000 เหรียญทองมีค่าแค่ไหน เงินกองนี้เพียงพอสำหรับใช้ชีวิตตามใจชอบและสุขสบายมากเลยทีเดียว แม้จะตระหนักว่าตนเองต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องยุ่งยากเกินอธิบาย แต่ความเดือดดาลที่หานซั่วมีในตอนแรกก็จางหายไปทันทีที่ถูกล่อตาล่อใจด้วยเงินจำนวนมหาศาลถึง 3,000 เหรียญที่ฟีบี้เสนอให้
“อย่าเพิ่งด่วนดีใจไปเลยค่ะ สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ ท่านคงพอเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปโดยที่ข้าไม่จำเป็นต้องบอก เพราะคนที่จ้างวาน “ปีศาจเงา” ให้มาลอบสังหารข้า ก็คือท่านลุงโกรเวอร์ “ผู้เป็นที่รักยิ่ง” ของข้านั่นเอง”
ท่านลุงของข้าร่ำรวยมั่งคั่ง และคำพูดของเขาก็มีอิทธิพลยิ่งกว่าใคร ๆ รอบกายของเขาเต็มไปด้วยเหล่าผู้มีพรสวรรค์มากมายที่สามารถทำให้ท่านกลายเป็นศพได้ทันทีโดยไม่ทราบสาเหตุ อีกอย่าง…หลังจากเหตุการณ์วันนี้ ในฐานะที่ท่านสังหารนักฆ่าไปถึง 3 คน ท่านลุงจะต้องสั่งให้ “ปีศาจเงา” ออกไล่ล่าท่านเป็นรายต่อไป… “ปีศาจเงา” น่ะ เป็นองค์กรลับของพวกนักฆ่า ขึ้นชื่อเรื่องการไล่ล่าแก้แค้นแม้จะเป็นเหตุผลที่ไร้สาระที่สุด ข้าคิดว่าท่านคงต้องพบปัญหามากมายตามมาในวันข้างหน้าแน่ ๆ ค่ะ”
เมื่อเห็นว่าหานซั่วกำลังยิ้มอย่างปิติยินดี ฟีบี้ครุ่นคิดครู่หนึ่งและรู้สึกว่าเธอต้องบอกเขาตามตรง พร้อมกับย้ำเตือนถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
“ฮะ ๆ ๆ เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาหรอกครับ ทันทีที่ข้าออกไปจากสมาคมพ่อค้าตระกูลบูซท์แล้ว ข้าจะหลบซ่อนตัวอย่างดีเลย ไม่ว่าจะเป็นพวก “ปีศาจเงา” หรือแม้แต่ลุงของท่าน ก็ไม่มีวันหาข้าพบแน่ ถ้าคิดจะฆ่าข้าล่ะก็ คงไม่ง่ายนักหรอกครับ”
หานซั่วไตร่ตรองเรื่องนี้มาอย่างดีแล้วก่อนที่จะตกปากรับคำ เพราะหลังจากเขากลับออกไปจากสมาคม เขาก็จะเคลื่อนไหวโดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้ให้ติดตาม และหลังจากส่งเหรียญทองทั้งหมดให้แฟนนี่แล้ว เขาก็จะบอกเธอตรง ๆ ว่าขอหลบไปพัก แล้วใช้ มิติเวทมนตร์ ที่ซ่อนไว้ในแหวนมิติเพื่อเดินทางกลับไปยังสุสานแห่งความตายสักระยะหนึ่ง ซึ่งนั่นจะเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาของฟีบี้ได้เป็นอย่างดี
“เข้าใจแล้วค่ะ ข้าเองก็โล่งใจที่เห็นว่าท่านวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว ข้าผลักปัญหาทุกอย่างไปที่ท่านเพราะข้าไม่อยากเปิดเผยพลังของตัวเองเร็วเกินไป ถ้าไม่อย่างนั้น “ปีศาจเงา” ก็จะยิ่งส่งนักฆ่าที่แข็งแกร่งกว่านี้มาอีก แล้วข้าก็จะถูกกดดันให้ต้องรับมือกับพวกนั้นด้วยพลังที่มีในฐานะจอมดาบ”
หานซั่วยิ้มและพยักหน้าตอบรับ
“ข้าเข้าใจครับ ในเมื่อท่านจ่ายเหรียญทองให้ข้าในฐานะผู้รับเคราะห์แทนมาแล้ว ข้าก็คงพูดอะไรมากไม่ได้ และข้าก็ไม่ได้สนใจปัญหาภายในของสมาคมพ่อค้าตระกูลบูซท์ของท่านอยู่แล้วด้วย ถ้าไม่มีอะไรมากกว่านี้แล้ว ท่านประเมินราคาของทั้งหมดเลยได้มั้ยครับ ข้าจะได้รีบไปทันทีหลังจากที่รับเหรียญทองแล้ว”
“ตกลงค่ะ เฟเบียน เอาของในกระเป๋าทั้งหมดของเขาออกมาแล้วลองตรวจสอบดูสิ”
เฟเบี้ยนสงบจิตสงบใจลงได้พักหนึ่งแล้ว และเมื่อได้ยินที่ฟีบี้สั่ง เขาก็รีบตรงไปยังกระเป๋าทั้ง 13 ใบของหานซั่วทันที พร้อมตรวจสอบและนับจำนวนสิ่งของเหล่านั้นทีละชิ้น ๆ จนในที่สุด เขาก็รายงานฟีบี้ด้วยความนอบน้อม
“ท่านฟีบี้ ของทั้งหมดนี่ ประเมินราคาได้ประมาณ 4,000 เหรียญทองครับ”
“เพิ่มไปอีก 3,000 เหรียญทองที่ข้าสัญญาไว้ รวมเป็น 7,000 เหรียญทอง ไม่ทราบว่าท่านพอใจรึเปล่าคะ?”
ฟีบี้มองไปทางหานซั่วพร้อมกับถาม
“ไม่มีปัญหาครับ ข้าคิดว่า ยังไงพวกเราก็ยังมีโอกาสมากมายในอนาคตที่จะได้ร่วมงานกันอีก เว้นเสียแต่ว่า สมาคมพ่อค้าตระกูลบูซท์ดูจะไม่ค่อยปลอดภัยสักเท่าไหร่ เอาไว้ครั้งหน้า พวกเราเปลี่ยนสถานที่เจรจาธุรกิจกันดีมั้ยครับ?”
คิ้วคมเข้มของฟีบี้ขมวดเล็กน้อยอย่างพอใจเมื่อได้ยินที่หานซั่วพูด และเธอก็พยักหน้าตอบรับ
“คนของตาแก่นั่นจัดการเรื่องในสมาคมหมดทุกอย่าง ข้าเองก็คงไม่กล้าอยู่ที่นี่นานนักหรอกค่ะ ในเมื่อครั้งนี้ตาแก่นั่นริอาจทำอะไรบุ่มบ่ามแม้แต่ในสมาคม ก็แปลได้ว่า…เขาเริ่มจะเหิมเกริมและเชื่อว่ามีอิทธิพลที่แข็งแกร่งของตัวเองคอยหนุนหลัง แม้แต่การติดสินบนคนอื่น ๆ ในสมาคมก็คงไม่เว้นเหมือนกัน
เฟเบียน หาที่อยู่ใหม่ให้ข้าที เราจะย้ายออกไปกันวันนี้เลย ข้าอยู่ต่อในสมาคมไม่ได้แล้วล่ะ แล้วข้าจะรีบติดต่อสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมคนอื่น ๆ ให้เร็วที่สุด ตราบใดที่ข้าพิสูจน์ความสามารถในการทำธุรกิจและได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งคนอื่นด้วยแล้วล่ะก็ เราจะได้จัดการตาแก่นั่นไปให้พ้นทางเสียที”
“ไม่ต้องห่วงครับ นายหญิงน้อย ข้าคิดเรื่องพวกนี้มาหมดแล้ว และหาที่อยู่ใหม่ให้ท่านได้ก่อนที่ท่านจะกลับมาพอดี ที่นั่นอยู่ตรงถนนฝั่งเหนือ ติดกับวิทยาลัยเวทมนตร์และศาสตร์แห่งพลังบาบิโลนครับ แถบนั้นมีเหล่าขุนนางและชนชั้นสูงของจักรวรรดิอาศัยอยู่หลายตระกูล ข้าคิดว่า พวก “ปีศาจเงา” คงต้องคิดแล้วคิดอีก หากวางแผนจะทำเรื่องโหดร้ายป่าเถื่อนอะไรที่นั่นน่ะครับ”
“ดีมาก งั้นเราย้ายไปกันวันนี้เลย แล้วถ้าตาแก่นั่นถูกเขี่ยออกไปพ้นหูพ้นตาเมื่อไหร่ ข้าจะตอบแทนเจ้าอย่างดีเลยล่ะ”
“เป็นเกียรติที่ข้าได้รับใช้ครับ นายหญิงน้อย”
เฟเบียนถึงกับน้ำตารื้นด้วยความซาบซึ้งพร้อมกับโค้งคำนับ ก่อนจะหยิบกระดาษออกมาหนึ่งใบและยื่นให้หานซั่ว
“นี่เป็นที่อยู่ใหม่ของพวกเรา เจ้ามาหาข้าได้ถ้าวันข้างหน้ามีธุรกิจที่เราต้องเจรจากันอีก เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้สองครั้งแล้ว รับรองว่าข้าจะให้ราคาที่ยุติธรรมกับเจ้ามากที่สุดเลยล่ะ อืมม… เอาตราสารคริสตัลมาให้ข้าสิ ข้าจะเพิ่มจำนวนเงินอีก 7,000 เหรียญทองใส่ในตราสารคริสตัลของเจ้า”
เมื่อเฟเบียนสลักจำนวนเงินเพิ่มเข้าไปอีก 7,000 เหรียญทองในตราสารคริสตัลของหานซั่ว ซึ่งเขาตรวจสอบแล้วว่าทุกอย่างถูกต้อง หานซั่วก็พยักหน้าอย่างพอใจพร้อมกับยิ้ม
“ในเมื่อธุระของพวกเราจบด้วยดีแล้ว งั้นข้าก็จะไปตามทางของข้าล่ะครับ แล้วถ้าอนาคตมีเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มาให้คุยกันอีกล่ะก็ ข้ามั่นใจว่าจะหาพวกท่านเจอ… ท่านทั้งสอง ลาก่อนนะครับ”
“ระวังตัวดี ๆ และให้แน่ใจว่าไม่มีใครสะกดรอยตามท่านไปด้วยนะคะ!”
ฟีบี้ซึ่งแสดงท่าทางอย่างพอเป็นมารยาท แต่แล้วเธอก็รีบร้องเตือนอีกครั้งทันทีที่เห็นว่าหานซั่วกำลังจะออกไป
เมื่อหานซั่วออกไปจากห้องแล้ว ในที่สุด ฟีบี้ก็งอนค้อนและพูดด้วยเสียงแผ่วเบา
“เจ้าคนจองหอง… เขามาจากไหนกันนะ? เขาทั้งจับมือข้า ทั้งกอดข้า แต่ใจกลับคิดถึงแต่เรื่องเงิน แล้วก็ไม่ขอโทษข้าสักคำ บ้าที่สุดเลย!”
“เอ่อ… นายหญิงน้อย เห็นท่านไม่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ข้าก็นึกว่าท่านไม่ถือสาอะไรเสียอีกนะครับ”
เฟเบียนยิ้มอย่างเขินอาย เมื่อเห็นว่าสีหน้าของฟีบี้เปลี่ยนไปราวกับคนละคนตอนที่เธอเห็นว่าหานซั่วกำลังจะจากไป
“ฮึ่ม! ข้าเป็นกุลสตรีที่ได้รับการอบรมมารยาทและความสง่างามของชนชั้นสูงนะ เรื่องอะไรข้าจะเป็นฝ่ายพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนล่ะ? นอกจากเขาจะไม่คิดว่าตัวเองมีความผิดเลยสักนิดแล้ว เขายังคิดว่าข้าติดหนี้บุญคุณบางอย่างกับเขาอีก คนประหลาดแบบนี้น่ะ เหลือเชื่อเลยจริง ๆ”
ฟีบี้บ่นอย่างโกรธเคืองก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลางถามเฟเบียนทั้ง ๆ ที่ยังกัดฟันกรอด
“เอาเถอะ ว่าแต่ เจ้าคนพิลึกนี่มาจากไหนเหรอ?”
เฟเบียนส่ายหัวพร้อมกับทำสีหน้าผิดหวัง
“ข้าเองก็ไม่ทราบครับ ข้าแค่บังเอิญไปเจอเขาเข้าตอนอยู่ในป่าทมิฬ ข้าจ่ายเงิน 2,000 เหรียญทองเพื่อให้เขาช่วยข้าจากพวกโทรลล์ป่า แล้วก็ให้ที่อยู่สมาคมไปเผื่อว่าอยากติดต่อซื้อขายวัตถุดิบที่เขาได้มา นอกจากนี้แล้ว ข้าก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลยครับ”
“เข้าใจล่ะ อืมมม… บอกข้าด้วยล่ะ ถ้าเขามาติดต่อเรื่องธุรกิจกับเจ้าอีก ข้ามีธุระจะคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว”
ฟีบี้นิ่วหน้าเล็กน้อย พลางคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอขบฟันเบา ๆ และบอกเฟเบียนถึงสิ่งที่เธอต้องการ
“เข้าใจแล้วครับ นายหญิง”
เฟเบียนเห็นพ้องด้วยความสุจริตใจ
——————————–
หลังจากที่ออกมาจากห้องของฟีบี้แล้ว หานซั่วก็เตรียมตัวและพร้อมรับมือกับการแก้แค้นของโกรเวอร์ในทุกชั่วขณะ แต่การตายอย่างกะทันหันของ “ปีศาจเงา” ทั้งสามคน โกรเวอร์อาจจะยังไม่มีเวลาเตรียมแผนใหม่ และคงยังไม่เคลื่อนไหวเรื่องแผนการแก้แค้นนี้ในทันที แต่ทว่า… แม้แต่ทหารยามที่เขาเคยเห็นเดินลาดตระเวนไปมาก่อนหน้านี้กลับหายไปอย่างไร้วี่แวว
อย่างไรก็ตาม เมื่อหานซั่วเดินออกจากประตูด้านหน้าของสมาคมพ่อค้าตระกูลบูซท์ ทหารยาม 2 คนที่เขาเคยแขวะก่อนหน้านี้ดูเหมือนกำลังรอเขาอยู่ เมื่อหานซั่วปรากฏตัว ทหารทั้งสองคนก็ขวางประตูไว้ หนึ่งในนั้นมองหน้าหานซั่วอย่างเคียดแค้น
“ตอนที่เจ้าเดินเข้ามาตอนนั้น เจ้าเรียกพวกข้าว่าอะไรงั้นรึ?”
“ข้าแค่พูดว่าท่านเป็น “พวกปัญญาอ่อน มีตาหามีแววไม่” น่ะครับ ทำไมเหรอ?”
เขารู้ว่าสองคนนี้เป็นลูกน้องของโกรเวอร์ ถ้าเล่นงานเจ้าพวกนี้สักหน่อยคงไม่กระทบกระเทือนความสัมพันธ์ระหว่างเขา เฟเบียน และฟีบี้แน่ ๆ หานซั่วจึงตั้งใจด่าพวกเขาอย่างเป็นกันเอง โดยมั่นใจว่าตนเองมีผู้หนุนหลังที่แข็งแกร่งพอ
“ตายซะเถอะแก!”
ทหารทั้งสองคนตะโกนอย่างกราดเกรี้ยว ก่อนจะควงหมัดตรงเข้าใส่หานซั่ว
หานซั่วหัวเราะอย่างเย็นชา ร่างของเขาพุ่งไปอยู่ตรงหน้าทหารทั้งสองคนด้วยความเร็วสูงก่อนที่หมัดของพวกนั้นจะทันต่อยเขา และชั่วขณะนั้นเอง หานซั่วก็วางมือซ้ายและมือขวาทาบไปที่อกของทั้งสองคน และปลดปล่อยพลัง “เวทย์อัคคีเหมันต์” ทันที ขณะที่มวลอากาศมนต์วิเศษบาง ๆ สีม่วงและแดงที่วาบขึ้นตามลำดับและจมหายเข้าไปภายในอกของทหารทั้งคู่
หานซั่วหัวเราะอย่างต่อเนื่องพร้อมกับที่วิ่งจ้ำอ้าวจนห่างออกไปไกลก่อนที่ทหารทั้งสองคนจะทันได้ทำอะไร ทิ้งไว้เพียงผลจากเวทย์อัคคีเหมันต์ แม้มวลอากาศมนตราสีม่วงและแดงทั้งสองจะไม่คร่าชีวิต แต่ก็เพียงพอให้พวกนั้นทรมานไปได้อีกสักพัก
เมื่อออกจากสมาคมพ่อค้าตระกูลบูซท์แล้ว สัมผัสที่ดีเยี่ยมเป็นพิเศษของหานซั่วก็ทำให้เขารู้ว่ามีใครบางคนกำลังตามเขามา เขาเพิ่มขีดจำกัดการรับรู้จนสูงที่สุด และพุ่งเข้าสู่ถนนใหญ่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะลัดเลาะไปในตรอกซอกซอยต่าง ๆ และเปลี่ยนทิศทางไปเรื่อย ๆ ตามสถานที่ ๆ เต็มไปด้วยผู้คน
หลังจากที่เวลาผ่านไปพอสมควร เมื่อหานซั่วรู้สึกว่าไม่มีใครตามเขามาอีกแล้ว เขาก็สุ่มเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าและซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่มาจำนวนหนึ่ง และเรียกรถม้าเพื่อเดินทางกลับไปยังวิทยาลัย
ติดตามอัพเดทและอ่านตอนต่อไปทันที ที่นี่ >>> Facebook : Louktan Translate นิยายแปลไทย
(0 votes) 0/10