I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 129 – จูบ ที่ลึกซึ้ง

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ภายใต้สายตาของผู้คนนับไม่ถ้วน ‘ชูเฟิง’ ยังคงดันตัวไปด้านหน้าทีละก้าว ทีละก้าว ในที่สุดเขาก็ไม่ถึงตรงหน้า ‘ติง โฉ่ว’  ในขณะที่ดันโล่สีสองในมือด้านซ้ายออกไป และง้างดาบยาวในมือขวาขึ้นมา พร้อมกับ ชี้ไปที่หน้าของ ‘ติง โฉ่ว’ แล้วกล่าว

” นี่เป็นจุดจบของท่านแล้ว “

* เปรี้ยงงง *

หลังจากที่เขาพูดจบ  สายฟ้าก็เกิดประกายขึ้นใต้ฝ่าเท้าของเขา จากนั้นเขาก็หายตัวไปในพริบตา เมื่อโผล่กลับมา เขาก็มาอยู่ด้านหลัง ‘ติง โฉ่ว’

” อย่าดูถูกข้านัก “

ด้วยปฏิกิริยาที่รวดเร็วของเขา ทำให้หมุนตัวกลับไปพร้อมกับเหวี่ยงหมัดโจมตี ในช่วงเวลานั้นหมัดก็ลอยเข้าใส่ ‘ชูเฟิง’

” หืมมม. . . “

‘ชูเฟิง’ทำน่าเย็นชาและยกโล่สีทองในมือข้างซ้าย พร้อมกับดึงดาบยาวในมือขวา เอนตัวหลบหมัด ‘ติง โฉ่ว’ ไปด้านหลังเมื่อหลบได้แล้ว ‘ชูเฟิง’ ก็พุ่งเข้าใส่ ‘ติง โฉ่ว’ พร้อมกับใช้ดาบยาวในมือ แทงเข้าไปที่หน้าอกของเขา

” เฮือกกก ! “

ดาบยาว ที่แทงหน้าอกของ’ติง โฉ่ว’ ไม่ลึกมากนัก แต่หน้าเขากลายเป็นสีขาว  ไม่เพียง แต่เขาจะหยุดการเคลื่อนไหว เมื่อเขาเปิดปากเลือดนั้นก็พุ่งออกมา

” อ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ~ ~ ~ ~ ~ “

ทันใดนั้น เขาก็ตะโกนร้องขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับว่ากำลังปลดปล่อยความขมขื่นภายในจิตใจ หลังจากที่ตะโกนได้สักพัก เขาก็ล้มลงกับพื้น โดยหมดสิ้นพลังต่อกรใดๆ ดวงตาของเขาโรยเหมือนกับคนไร้สติ มันเป็นเพราะหมัด 7 สังหาร ที่เขาใช้มาขนาดนั้น มันย่อมทำให้ร่างกายของเขาได้รับผลกระทบ จนถึงขีดจำกัด

มองกลับมาที่ ‘ชูเฟิง’ สีหน้าของเขาซีดและเต็มไปด้วยหยดเหงื่อทั่วหน้า เสื้อผ้าของเขาเปียกไปหมด ลมหายใจหอบเพราะความเหนื่อย เขายังคงยืนอยู่บนเวทีฯ ขณะที่พื้นที่รอบๆเต็มไปด้วยความเงียบสะงัดสุดท้ายการเผชิญหน้าระหว่าง 2 อัจฉริยะก็สิ้นสุดลง

ผู้ชนะก็คือ ‘ชูเฟิง’ ที่ก้าวขึ้นจุดสูงสุดในรุ่นเยาว์ !!!ศิษย์จากสำนัก # 2 สามารถเอาชนะศิษย์จากสำนัก # 1 อัจฉริยะต้นๆของสำนักหลิง – หยุน และ เป็นผู้ได้รับชนะเลิศในงานประลองครั้งนี้

* ปรบมือ ~ ปรบมือ ~ *

ตอนนั้น ทั่วทั้งเมืองเต็มไปด้วยเสียงปรบมือ เสียงตะโกนให้กำลังใจ ‘ชูเฟิง’ เพราะเด็กหนุ่มที่อยู่ในระดับ 8 ห้วงวิญญาณสามารถเอาชนะ ชายอีกคนที่อยู่ในอาณาจักรกำเนิดวิญญาณระดับ 3 ได้ พวกเขาไม่สามารถหยุดความตื่นเต้นได้เลย ได้แต่ระบายออกด้วยการปรบมือและตะโกนเชียร์เด็กหนุ่ม

” ชู เฟิง เจ้าเก่งที่สุด !!!! “

นอกจากเสียงของผู้คนแล้ว จู่ๆก็มีแม่นางที่งดงามผู้หนึ่ง ตะโกนเข้ามากอด ‘ชูเฟิง’ บนเวทีฯเห็นฉากนั้นทุกคนได้แต่ต้องตกตะลึง เพราะแม่นางผู้นั้นไม่ใช่ใครนอกซะจาก ลูกสาวคนที่ 2 ของ ‘ซูเฮิน’ เจ้าเมืองวิหคเพลิง แม่นาง ‘ซูเหม่ย’

” นี่มันอะไรกัน นั้นมันท่านหญิงที่ 3 ของตะกูล ซู คุณหนูซูเหม่ย หนิ นางไม่ได้เป็นคู่หมั้นของ ซ่างกวน หย๋า หรอ แล้วทำไมถึงแนบชิดกันกับ ชูเฟิง ขนาดนั้น สองคนนั้นมีความสัมพันธ์อะไรกันแน่ ? “

ผู้คนจากเมืองวิหคเพลิง ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน หลังจากที่ทบทวนอยู่หลายตลบ พวกเขารู้เพียงว่า’ซูเหม่ย’เป็นคู่หมั้นของ’ซ่างกวน หย๋า’ และการแต่งงานของพวกเขาก็ถูกกำหนดไว้แล้วตั้งแต่นางกำเนิดอย่างไรก็ตาม การกระทำของ’ซูเหม่ย’ ในตอนนี้ ไม่รู้ว่าคืออะไร นางโอบกอด ‘ชูเฟิง’ ต่อหน้าผู้คนมากมาย เหมือนเป็นการตบหน้า ตะกูล ซ่างกวน และ ซ่างกวน หย๋า

” บัดซบบบ!!! “

‘ซ่างกวน หย๋า’ ที่ยืนอยู่ด้านนอกกำหมดของเขาไว้แน่น จิตสังหารถูกปล่อยออกมาภายในดวงตาของเขา เพราะ การกระทำของ’ซูเหม่ย’ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางมีความสัมพันธ์อะไรกับชายอื่นแทนที่จะเป็นเขา มันทำให้เขาเสียหน้าเป็นอย่างมาก

” รู่เอ๋อ นี่มัน . . . . . . “

‘ซูเฮิน’ สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากเพราะเขารู้ว่าสถานการณ์เริ่มไม่ปกติ

” ท่านพ่อ ท่านได้ให้สัญญากับข้าแล้วนะ ว่าตราบใดที่ ชูเฟิง เอาชนะ ติง โฉ่ว ท่านจะยกเลิกการแต่งงานระหว่างน้องเหม่ยกับซ่างกวน หย๋า และเนื่องจากการแต่งงานถูกยกเลิก ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องเกิดเรื่องเช่นนี้ ทำไมท่านยังได้กังวัลความคิดของคนอื่นๆด้วยล่ะ “

” ท่านก็เห็นความสามารถของชูเฟิงมากับตา ว่าเขาเก่งกาจแค่ไหนเขาอาจจะเก่งกว่าซ่างกวน หย๋า เลยด้วยซ้ำ มันจะดีกว่านะถ้ามอบน้องเหม่ยให้กับชูเฟิง “

รอยยิ้มที่มีเสน่ห์’ซูรู่’ เหมือนกับคาดการณ์ไว้แล้วว่ามันจะจบลงเช่นไร

” เรื่องมันไม่ง่ายอย่างที่เจ้าคิดนะสิ “

‘ซูเฮิน’ ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ตอนนี้เขากำลังตกที่นั่งลำบากและในตอนนั้นเอง ‘ซูเหม่ย’ก็ได้ทำเรื่องประหลาดใจต่อหน้าผู้คนทั้งเมือง ริมฝีปากสีแดงอ่อนๆของนาง จูบไปที่ปาก ‘ชูเฟิง’ โดยที่’ชูเฟิง’ไม่ได้หลบเลี่ยงแต่อย่างใด เห็นฉากนั้นมันยิ่งทำให้ทุกคนต่างตกตะลึง

” ไม่ไหวแล้ววว ข้าจะฆ่าไอ้เจ้าสารเลว ชูเฟิง !!! “

‘ซ่างกวน หย๋า’ ไม่มีทางที่จะยอมรับได้ เปลวไฟแห่งความพิโรธถาโถมเข้าใส่ดวงใจของเขา เขาก็ตะโกนออกมาพร้อมกับตั้งท่าจะเข้าไปโจมตี

* ปักก *

แต่ในตอนนั้น มีแขนแห้งๆที่ทรงพลังตบมาที่ไหล่ของ’ซ่างกวน หย๋า’ คลื่นพลังที่แข็งแกร่ง ทำให้เขาหมดทางที่จะขัดขืน

” ท่านปู่!!! “

หันหน้าขึ้นไปมอง ‘ซ่างกวน หย๋า’ ถึงกับพูดไม่ออก เพราะคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา คือ ผู้เฒ่าตาบอด ผมขาว หนวดขาว คนๆนั้นคือ ผู้นำ คนปัจจุบัน ของตะกูล ซ่างกวน ‘ซ่างกวน เยว่’

” เจ้ากำลังจะทำอะไร เจ้าคิดจะโจมตีเขาต่อหน้าของ ซูเฮิน งั้นหรอ อย่าลืมว่า ซูเฮิน คือ เจ้าเมืองวิหคเพลิงแห่งนี้ “

เสียงของ ‘ซ่างกวน เยว่’ ฟังดูเยือกเย็น

” แต่ว่า. . . . “

‘ซ่างกวน หย๋า’ ได้ตาเหวี่ยงสายตาไปที่ ‘ชูเฟิง’ พร้อมกัดฟันด้วยความโกรธ

” อย่าทำอะไรโง่ๆ มันยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้ข้ายังไม่อยากเป็นศัตรูกับตะกูล ซู “

ผู้เฒ่า ‘เยว่’ พูดด้วยเสียงต่ำ

” แล้วเราจะปล่อยมันไป โดยที่ไม่ทำอะไรงั้นหรอ “

‘กวน หย๋า’ แสนจะไม่พอใจ

” ไม่ !!! คนๆนั้นเราต้องกำจัดมันอย่างแน่นอน “

‘ซ่างกวน เยว่’ ส่ายหน้าและกล่าวอย่างเคร้งขรึมตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ที่กำลังจมลงไปในความสุขของชัยชนะและจูบที่ลึกซึ้งจาก’ซูเหม่ย’ หน้าแต่ทำหน้าประหลาด ในเวลานั้นพวกเขาดึงตัวเข้าหากัน เขาได้แต่โอบเอวของนางเอาไว้ขณะที่หัวเราะและกล่าว

” แม่นาง ท่านหลงเสน่ห์ในความหล่อของข้าแล้วสินะ ถึงได้ยอมมอบกายมอบใจให้กับข้า “

” ข้า . . . . . ข้าไปมอบกายให้กับเจ้าตอนไหน ไอ้บ้า !!! “

นางในตอนนั้นรู้สึกร้อนผ่าวขณะที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น นางคิดว่าที่นางทำก็เกินไปหน่อย ในขณะที่ถูก’ชูเฟิง’กอดเอวเอาไว้ ใบหน้าเรียวๆเล็กๆของ’ซูเหม่ย’กลายเป็นสีชมพูด้วยความเขิน นางจึงรีบผลัก ‘ชูเฟิง’ ออก

” อ๊ากกกกกก~ ~ ~ ~ ~ “

ในตอนนั้น ‘ติง โฉ่ว’ ที่กองอยู่บนพื้นก็เริ่มร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของเขานิ่งสนิท เหมือนกับสิ้นแรง ในตอนท้าย ผิวของเขาซีดเผือดเป็นสีขาวหนังตาปิด ฟองสีขาวๆปะปนกับเลือดไหลออกมาจากปากของเขา เหมือนกับว่าเขากำลังจะสิ้นใจ

” บัดซบบ!!! นี่เป็นการประลองหาผู้แพ้ – ชนะ แต่เจ้ากลับฆ่าติง โฉ่ว !!! มันถูกต้องแล้วหรอ “

เจ้าเมืองวายุเมฆา รีบวิ่งออกมา ชี้หน้า ‘ชูเฟิง’ ด้วยความโกรธพร้อมกับตำหนิ

” ฮ่าๆๆๆ อย่าพูดให้ขำหน่อยเลย การโจมตีของ ติง โฉ่ว หยาบช้า ยิ่งกว่า ชูเฟิง อีก หากไม่ใช่เพราะ ชูเฟิง เก่งกว่า เขาคงถูก ติง โฉ่ว ที่บ้าคลั่ง ฆ่าตายไปแล้ว “

” ตอนนี้เจ้ากลับมาตำหนิว่าชูเฟิงฆ่าเขา แล้วตอนนี้ ติง โฉ่ว ก็ใช่ว่าจะตายสักหน่อย ไม่เห็นหรอว่าเขานอนหมดสติ ทำไมท่านไม่รีบลากเขาไปรักษา . . . “

‘ซูเหม่ย’ ที่ยืนอยู่ข้างๆ’ชูเฟิง’ ทำตาขวางใส่

 ” . . . . . . . . . . . .  “

เจ้าเมืองวายุเมฆาถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกนางตำหนิ แท้จริงที่นางพูดมาก็ถูก เขาจึงอับอาย ที่ใส่ร้าย ‘ชูเฟิง’ ไม่สำเร็จ และ ยังคิดจะโจมตีเขา แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านหญิงที่ 3 ของตะกูล ซู เขาได้แต่ต้องเงียบเอาไว้

โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . . . . .

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments